จาก "ริบไม้เรียว" ถึง "ดรามาเทควันโด้" เรากำลังให้เด็กไทย "สบายจนอ่อนแอ" หรือเปล่า?

[บทความพิเศษ] จาก "ริบไม้เรียว" ถึง "ดรามาเทควันโด้" เรากำลังให้เด็กไทย "สบายจนอ่อนแอ" หรือเปล่า?

By : TonyMao_NK51
E - Mail : tonymao_nk51@hotmail.com
Facebook : TonyMao Nk



เห็นกระแสน้อง ก. ( บวกด้วยพ่อแม่รังแกฉัน ) กับโค้ชสุดเขี้ยวจากเกาหลี

ทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่ได้ยินมาบ้าง เจอกับตัวบ้าง เกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กที่เปลี่ยนไป หลังยุคที่ ศธ. ห้ามครูตีนักเรียน ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

หลายปีมานี้ ฟังจากครูเก่าๆ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผ่านทั้ง 2 ยุคมา มักจะพูดตรงกันว่า..เด็กยุคห้ามตี 1.ความอดทนต่ำ 2.สัมมาคารวะไม่มี

พอลงโทษแบบอื่นๆ ที่ทำได้ เช่น หักคะแนน ให้ 0 ร มส ไปจนถึงไล่ออก แทนที่จะสำนึก กลับกลายเป็นวีรกรรมโห่ฮา ไปโอ้อวดในกลุ่มเพื่อนๆ ได้อีก

พ่อแม่บางคน เห็นลูกถูกลงโทษแบบนี้ ไม่เข้าใจ ก็มาโวยวาย ร.ร. บอกว่าสอนยังไง ทำไมลูกชั้นอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ติด 0 ฯลฯ แล้วก็โทษครู

ใครจะว่าไงผมไม่รู้ ผมนึกถึงสมัยตัวเองยังเป็นเด็ก จำได้ว่าก่อนไปเรียน 1.ตารางเรียนต้องจัดให้เรียบร้อย หนังสือต้องครบทุกวิชาในวันนั้น 2.การบ้านต้องทำให้เสร็จ 3.บทเรียนต้องทบทวนเสมอ เช่นเขียนให้ถูก ท่องศัพท์ให้ได้

ไม่ใช่ว่าผมคิดดีทำดีแต่เกิดหรอกครับ ( ความจริงผมเป็นพวกต่อต้านสังคมนะ หลายท่านคงทราบ ) แต่เพราะสั้นๆ "ผมกลัวโดนตี" และเชื่อว่าหลายคน ตอนเป็นเด็กคงคิดแบบนี้ แต่โตมาก็เข้าใจ

ไม่ใช่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ บวกลบคูณหารเลขทั่วๆ ไปไม่เป็น แบบทุกวันนี้ ที่ไม่ว่าจะปล่อยขึ้นชั้นไประดับสูงกว่า หรือไล่ออกจากระบบ ร.ร. ก็เป็นปัญหาสังคมอยู่ดี

ตอนนั้นอึดอัดนะครับ ไม่อยากเป็นเด็กเลย เห็นผู้ใหญ่สบายจัง แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่เห็นถูกกฏระเบียบอะไรควบคุม จนโตมาเป็นผู้ใหญ่นี่แหละ เข้าใจคำที่เขาว่า "โลกของผู้ใหญ่มันโหดร้าย" จริงๆ เลย

โลกของเด็ก ทำผิดอาจจะแค่โดนไม้เรียว ( ไม่นับพวกซาดิสต์ วิปริต เอาไม้หน้าสาม โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ หวด ) แต่สักพักก็จะมีคนมาปลอบ หลายๆ ครั้งก็เป็นครู หรือพ่อแม่ที่ตีเด็กเองนั่นแหละ ทายาให้ ปลอบไปสอนไปว่าทำผิดอะไรถึงต้องถูกตี

ถ้าเป็นโลกของผู้ใหญ่ จะหาใครปลอบ? มีแต่คนจะซ้ำเติมเสียมากกว่า คุณเรียนไม่ดี ความรู้ไม่แน่น คุณไปสมัครงาน เขาก็ไม่รับ หรือถึงรับ ด้วยการแข่งขัน หรือความหมั่นไส้กันเองในองค์กร ( การเมืองในองค์กร ) ถ้าคุณทำผิดแม้เล็กน้อย นอกจากเขาจะไม่ปลอบคุณแล้ว ยังอาจใส่ไฟขยายความเพื่อบีบคุณออกด้วย

หรือถ้าไปทำผิด กม. บ้านเมือง อาจจะติดคุกติดตะราง ไม่ได้มีคนมาโอ๋แบบตอนเด็กๆ เลย

-----------------

อีกเรื่องหนึ่ง มีคนวิจารณ์ว่าโค้ชโหดมาก พอน้อง ก. จะตอบ ก็โดนตบ โดนเตะ จนหมดแรงกองกับพื้น

ทำให้นึกถึงการฝึกทหารก็ดี รด. ก็ดี ที่เอะอะๆ ก็ซ่อม ( คนที่ผ่านหลักสูตรพวกนี้มาคงนึกออก ประเภทเช้ามาเจอหน้าครูฝึก บอกขอวิดพื้น 20 ก่อน พอครูฝึกถามว่ารู้ไหมเพราะอะไร ผู้เรียนบอกไม่รู้ โดนอีก วิดพื้น 10 หรือจะปล่อยกลับบ้านแล้ว หน้าค่ายเอาซะหน่อย วิดพื้น 30 ฯลฯ ) หรือบางคนโดนครูฝึกเตะ ตบ แล้วให้วิดพื้นบ้าง ม้วนหน้าม้วนหลังบ้าง แล้วคนนอกที่ดูก็ไม่เข้าใจ หาว่าป่าเถื่อน โหดร้าย

ผมเคยถามคนที่ผ่านระบบพวกนี้มา เขาบอกว่า ที่ต้องทำเช่นนี้ "เพื่อให้กำลังพลทนความกดดันได้ทุกรูปแบบ" บางคนร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี แต่พอเจอสภาวะถูกกดดัน ปั่นประสาท สงครามจิตวิทยาเข้าหน่อย สติแตก ไปไม่เป็น คนแบบนี้นอกจากจะเอาตัวไม่รอดในสนามรบแล้ว ยังจะพาเพื่อนร่วมหน่วยตายหมู่ด้วย

ซึ่งจะว่าไป สังคมของผู้ใหญ่ มันก็สนามรบกลายๆ นี่แหละ ถึงจะไม่ได้เอาปืนมายิงกันตรงๆ แต่สภาวะกดดัน คุมเชิง ระแวงระวัง และการถูกกระทำโดยไร้เหตุผล มีอยู่ทุกอณูในโลกของผู้ใหญ่

เคยไหม? เจอเจ้านายบ่นโดยที่ตัวเองไม่ผิด , เคยไหม? ทำผิดเล็กๆ น้อยๆ แต่ถูกเพื่อนร่วมงานใส่ไฟเสียใหญ่โต , เคยไหม? เพิ่งทำงานใหม่ๆ ยังไม่คล่อง แต่ถูกรุ่นพี่ดุด่าราวกับไปทำชั่วร้ายแรง , เคยไหม? ค้าขายเองแล้วเจอลูกค้าแย่ๆ แต่ถ้าโวยวายมันก็เอาไปใส่ร้ายป้ายสี

ใช่! เราอาจไม่ผิด แต่บางครั้งการหักเอาซึ่งๆ หน้า ตัวเรานี่แหละจะตายก่อน บางคนบอกกลัวอะไร ถ้าที่นี่ไม่ดี ก็ออกไปทำที่อื่นสิ! ต้องบอกเลยว่า สังคมการทำงานจริงของผู้ใหญ่เป็นแบบนี้ทุกที่ "ยิ้มซ่อนมีด" เป็นเรื่องธรรมดา

ถ้านิดๆ หน่อยๆ ท้อ น้อยใจ ก็ลาออก หรือเปลี่ยนกิจการที่จะค้าขาย แล้วเมื่อไรมันจะก้าวหน้า หรืออย่างน้อยที่สุดคือยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง

อย่าลืมว่าอายุมากขึ้น สังขารมีแต่จะทรุดโทรมลง บางคนกว่าจะรู้ตัว ก็แก่ชราเสียแล้ง

--------------

บางคนอาจจะถามว่า เด็กเกเรก็มีทุกรุ่น การตีเด็กไม่เห็นช่วยให้หายเกเร

ตรงนี้เชื่อว่าผู้ใหญ่หลายคนที่เคยเกเรมาก่อน น่าจะเห็นอย่างที่ผมเห็น คือเมื่อจบไปแล้ว กลายเป็นบรรดา "เด็กหลังห้อง" นี่แหละ ที่มักกลับมาเยี่ยมครูที่เคยดุด่าและตีพวกเขา แล้วก็บอกว่าถ้าไม่โดนเคี่ยวเข็ญ คงไม่มีวันนี้ ( เด็กหลังห้องใช่ว่าจะต้องล้มเหลวทุกคน บางคนประสบความสำเร็จมากกว่าเด็กหน้าห้องก็มี )

ทั้งๆ ที่ตอนเรียน ก็เด็กหลังห้องนี่แหละ ลับหลังแอบนินทา ตั้งฉายา ล้อเลียนครูที่ชอบดุด่าและถือไม้เรียวไล่หวดพวกเขา

---------------

ทั้งหมดที่เขียนมานี้ ไม่ได้เน้นไปที่กรณีที่เป็นข่าว แต่หมายความรวมถึงหลายๆ กรณีที่ผ่านๆ มา

- เรารังเกียจการสั่งสอนเด็กด้วยความรุนแรง ถามว่าตลอดชีวิต เด็กจะไม่เจอกับความรุนแรงเลยหรือเปล่า?

- เรารังเกียจการกดดัน ปั่นประสาท ข่มขู่เด็ก ถามว่าตลอดชีวิต เด็กจะไม่ถูกกดดัน กลั่นแกล้งเลยหรือเปล่า?

- เรารังเกียจการท่องจำ ถามว่าถ้าไม่จำหลักพื้นฐาน ( Knowing Pattern ) ให้แน่น คนๆ นั้นจะมีทรัพยากรพอที่จะนำมาฝึกฝนในขั้น "ความเข้าใจ" ( Understanding ) เพื่อไปถึงขั้น "ใช้เป็น" ( Applied ) ได้หรือเปล่า?

-------------

แทนที่จะหวาดกลัวความรุนแรง ก็น่าจะให้ฝึกฝนให้คุ้นเคยกับความรุนแรง ( ในระดับที่คุมได้ ) จะดีกว่าไหม?

เพราะโลกแห่งความเป็นจริง มันมีแต่ความโหดร้ายครับ

------------

~เขียนบน S4 Zoom~
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ผมต่อต้านการใช้ความรุนแรงครับ
ความรุนแรงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ มันมีวิธีที่จะสอนคนได้อีก มากมายหลายวิธีครับ
ลืมทำการบ้าน ทำโทษด้วยการตี ดีกว่า ทำโทษด้วยการปั่นจิ้งหรีด มากแค่ไหนครับ

กรณีเทควันโด้นี้ก็เหมือนกัน เอาตรงๆนะครับ การทำให้เด็กเจ็บ มันช่วยให้เด็กมีวินัยมากขึ้นเหรอ ไม่ใช่เข้าข้างน้องเขานะครับ
ถ้าขาดซึ่งวินัยจริงๆก็ไม่สมควรติดทีม แล้วด้วยซ่ำ ถ้าวันนั้นโค้ชเห็นว่า ไม่พร้อมก็ไม่ต้องแข่ง ง่ายๆ
พอใช้ความรุนแรง มันมีทั้งคนรับได้ และรับไม่ได้ พอรับไม่ได้ ก็ออกมาเป็นดั่งข่าว
ส่วนคนที่รับได้กับความรุนแรง ก็เป็นสิทธิ์ของเขาเองที่จะยอมรับความรุนแรงเหล่านั้น
แต่ผมเชื่อว่า คนจะเก่งได้ ไม่ได้แปรผันใดๆ กับ ความรุนแรง
คนเป็นแชมป์ ไม่ใช่ว่าเจอความรุนแรงมากกว่าคน รองแชมป์
บางทีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายๆกรณี อาจเป็นเพียงวิธีระบายความโกรธต่อคู่กรณี ได้ง่ายที่สุด

อีกอย่างพูดตรงๆนะครับ ผู้ใหญ่สมัยนี้ ดีกว่า เด็กสมัยนี้ เหรอครับ
ห้ามเด็กสูบบุหรี่ หาร้านที่ขายบุหรี หาง่ายกว่าร้านขายหนังสือรวมกับขายอุปกรณ์กีฬาไม่ร็กี่เท่าตัว
ห้ามเด็กกินเหล้า แต่กับกับ ร้านที่ผู้ใหญ่ที่กินเหล้า เผลอๆเคล้านารีด้วยนั้น มีกลาดเกลือนไป
ปล.ไอที่พูดอะผมทำทั้งหมดแหละ
อายุผม 30 กว่าๆอาจเรียกได้ว่าคนสองยุค เห็นทั้งด้านดี ทั้งยุคไม้เรียว ทั้งยุคห้ามไม้เรียว
ผมว่าไม่ต่างกันหรอก อยู่ที่จิตสำนึกรายบุคคลมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่