ผมคบกับแฟนมา 7 ปีกว่าแล้วคับ ตั้งแต่เรียนมหาลัย ผมเป็นคนกรุงเทพ ส่วนแฟนผมคนต่างจังหวัดคับ(ไม่ไกลจากกรุงเทพมากไปกลับ 2 ชม) สมัยเรียนม.ก็คณะเดียวกัน แต่คนละภาควิชา แต่ก็เจอกันเกือบทุกวัน เขาจะรอกลับบ้านกับญาติที่มาพักในกรุงเทพทุกวัน ประมาณ 18.30 ก็ในเวลาช่วงเย็นๆ นั่งคุยนั่งเล่น กินข้าวกันบ้าง ในม. แต่บางวันเลิกเรียนเร็วทั้งคู่ ผมก็ชวนไปเดินเล่นตามห้างบ้าง กะเวลาว่าใกล้ๆก็ค่อยกลับม.มารอญาติได้ (ม.บางเขนคับ คงรู้จักกันดี) แต่คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่ไป" โดยให้เหตุผลประมาณว่า ร้อนบ้าง ขี้เกียจ งานเยอะ ไม่ชอบเดินบ้าง เป็นอย่างนี้ตลอดจนเรียนจบ (มีไปบ้างแต่น้อยครั้งมากทีสุด)
จนช่วงทำงานก็ต่างคนต่างทำงาน เขาทำงานใกล้บ้านเขาที่ต่างจังหวัด ทำงาน 8-17.00 ทุกวัน หยุดวันอาทิตย์ ส่วนผมทำงานเป็นกุ๊กคับ อาจจะเข้าออกงานไม่เป็นเวลา เข้าเช้าบ้าง เข้าบ่ายบ้าง หยุดก็วันธรรมดาซะส่วนใหญ่ ทำให้การเจอกันน้อยลงไปมาก (ขอบอกก่อนเลยว่า ผมติดแฟนผมมาก แต่แฟนผมเขาก็ดูเฉยๆไม่ได้ดูติดผมสักเท่าไร หรือคิดไปเองป่าวไม่รู้นะ)ช่วงปีแรกที่เริ่มทำงาน ผมไปทำงานต่างประเทศ 4 เดือนแล้วก็ลาออกกลับไทยคับช่วงเดือน พ.ย. หลังจากกลับมาก็ได้เจอกัน 1 ครั้ง แล้วผมก็ได้งานหลังปีใหม่ เป็นร้านอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าเสาร์ อาทิตย์จะยุ่งมาก โอกาสได้หยุดน้อยสุดๆ ทำให้การจะเจอกันยิ่งน้อยลงไปอีก ผมและเขาก็พยายามหาเวลามาเจอกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่มาจทกตจว.เพื่อมาหาผม เพราะตอนนั้นเขาบอกว่าไม่กล้าให้ผมไปเจอที่บ้านเขา ผมทำงานที่นี่ได้ประมาณครึ่งปี แล้วผมก็สอบติดสถาบันสอนทำอาหารของโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง จึงลาออกเพื่อไปเรียน แต่ในระหว่างที่ผมทำร้านอาหารนั้นครึ่งปี ผมเจอกับแฟนผมประมาณ3-4ครั้งเท่านั้น แล้วทุกครั้งก็คือมาบ้านผม นั่งคุยกัน แล้วก็ไปกินข้าวกับที่บ้านผม ประมาณ 4 โมงเย็นแฟนจะกลับบ้านละ เนื่องจากต้องกลับตจว. เดินทางกลางคืนมันอันตราย ผมก็เข้าใจ
หลังจากมาเรียน ก็ได้หยุดทุกวันอาทิตย์ละ บอกก่อนว่าที่ที่ผมเรียนนี้ต้องเรียน 6 วัน และหยุดวันอาทิตย์ ก็ได้เจอกันง่ายขึ้น แต่...ก็ไม่บ่อย2-3เดือน เจอกันครั้ง ทุกครั้งก็จะเดิมๆคือมาบ้านผม กินข้าวแล้วก็กลับ บางครั้งผมก็ชวนไปเที่ยวที่อื่นบ้างเช่นเดินตามห้าง เดินดูของ ช้อปปิ้งบ้าง หรือไปเที่ยวตจวกันบ้าง คำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิมคือคำว่า "ไม่" เหตุผลก็เดิมๆ แต่อย่างชวนไปเที่ยวตจวเขาไม่ไปกับผมแน่ใจ เพราะด้วยความที่แฟนผมค่อยข้างหัวโบราณ และกลัวว่าผมจะทำอะไร ซึ่งตอนนั้นผมและก็เขาก็อายุ 24จะ25 แล้ว ทำให้ความคิดจะได้เที่ยวด้วยกันของผมต้อง"จบ"ลง ผมรู้สึกน้อยใจว่าทำไมเราไม่ค่อยได้เจอกันเลย ทั้งๆที่ก็หยุดวันเดียว ไม่ได้ไกลกันมาก อย่างน้อยก็สักเดือนละครั้งก็ยังดี ไปไหนมาไหนบ้างก็ยังดี พอคุยกับแฟนเรื่องนี้เขาก็เหมือนจะงอนผม ว่าจะเจอกันบ่อยทำไม ก็โทรคุยกันทุกวันอยู่แล้ว
จนผมเรียนจบ ผมได้ไปทำงานต่างประเทศอีกครี้ง(ซึ่งก็คืองานที่ทำอยู่ทุกวันนี้) แต่ครั้งนี้ไปแบบไม่มีกำหนดกลับ แต่ไม่ไกลจากไทยเลย แค่ฮ่องกง มาเก๊าเท่านั้นเอง ที่นี่โอกาสเจอกันนี่ไม่ต้องถามเลยคับ แถบไม่เหลือเลย เจอกันแค่วันที่ผมลาพักร้อนกลับไทยเท่านั้น ซึ่งแค่2-3ครั้ง/ปี และทุกครั้งที่กลับไทยก็ได้เจอกันแค่ครั้งละวันเท่านั้น รูปแบบก็เดิมๆ จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่ ที่นี้ผมก็คิดแล้วว่าเราก็คบกันมานาน แล้วก็ไม่ใช่เด็กอายุ18-19แล้ว ผมก็ชวนเขาว่า ไปเที่ยวตจวกันบ้างมั้ย เวลาที่เรากลับไทย คำตอบที่ได้ก็คำตอบเดิมคือ "ไม่" ผมเลยเปลี่ยนมาว่างั้นมาเที่ยวต่างประเทศมั้ย เราจะออกค่าใช้จ่ายให้หมด ก็ยังได้คำตอบว่า 'ไม่' อีกตามเคย ซึ่งเหตุผลก็คือ ไม่ไปเที่ยวข้างคืนที่ไหนกับผม2ต่อ2 แน่นอน เขากลัวพ่อแม่เสียใจ เขาบอกว่าจะไปได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานแล้ว ผมก็เข้าใจเหตุผลนะว่ามันอาจจะดูเสียหายสำหรับเขา แต่สำหรับความรู้สึกผมละ ผมเสียใจมากนะ แรกๆที่คบกันก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเด็กไป แต่ตอนนี้อายุก็เริ่มเยอะแล้ว คบมานานมากแล้ว แค่จะไปเที่ยวไหนกันบ้างตามประสาคนรักกัน มันผิดใช่มั้ยอะ
ตลอดเวลาที่คบกันผมก็อยากใช้ชีวิตตามประสาคนรักกันบ้าง ไปกินข้าว ไปเที่ยวไหนกันบ้าง แต่ทุกวันนี้ ผมกลับรู้สึกเหมือนผมอยู่ตัวคนเดียว กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว ทำอะไรคนเดียวมาตลอดทั้งๆที่ผมก็มี "แฟน" ไม่รู้ทำไม
ผมพยายามคิด หาเหตุผลต่างๆ เพื่อมาปรอบใจตัวเองทุกครั้ง ผมมีความคิดว่าจะทำงานต่างประเทศไม่นาน(ทุกวันนี้ก็เกือบ2ปีละ อายุก็จะ27ละ) เก็บเงิน เก็บความรู้ แล้วลาออกกลับไปอยู่ไทย เปิดร้านอาหารของตนเองแล้วก็จะแต่งงานกับเขานะ แต่...ทุกครั้งที่เขาปฏิเสธผมมันทำให้ผมไม่มั่นใจว่า ถ้าวันนึงผมกับเขาอยู่ด้วยกันจิงๆแล้ว เขาจะยังเป็นอย่างนี้อยู่มั้ย เกิดผมชวนไปไหนหรือทำอะไรแล้วยัง "ปฏิเสธ" ผมอยู่ ด้วยอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่อยากเที่ยว เหนื่อย ร้อน บลา บลา บลาก็ตามแต่ ถึงเวลานั้นก็ผมก็คงไม่ต่างจากทุกวันนี้ใช่มั้ย ที่ผมชวนไม่ใช่แค่อยากเที่ยวอย่างเดียว แต่ผมอยากสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
มันทำให้ผมกลัว ไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ อะไรเลย ผมควรทำอย่างไรต่อไป
สุดท้ายผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ
คบกับแฟน7ปี ไม่เคยเที่ยวไหนกันเลยยย เศร้า
จนช่วงทำงานก็ต่างคนต่างทำงาน เขาทำงานใกล้บ้านเขาที่ต่างจังหวัด ทำงาน 8-17.00 ทุกวัน หยุดวันอาทิตย์ ส่วนผมทำงานเป็นกุ๊กคับ อาจจะเข้าออกงานไม่เป็นเวลา เข้าเช้าบ้าง เข้าบ่ายบ้าง หยุดก็วันธรรมดาซะส่วนใหญ่ ทำให้การเจอกันน้อยลงไปมาก (ขอบอกก่อนเลยว่า ผมติดแฟนผมมาก แต่แฟนผมเขาก็ดูเฉยๆไม่ได้ดูติดผมสักเท่าไร หรือคิดไปเองป่าวไม่รู้นะ)ช่วงปีแรกที่เริ่มทำงาน ผมไปทำงานต่างประเทศ 4 เดือนแล้วก็ลาออกกลับไทยคับช่วงเดือน พ.ย. หลังจากกลับมาก็ได้เจอกัน 1 ครั้ง แล้วผมก็ได้งานหลังปีใหม่ เป็นร้านอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าเสาร์ อาทิตย์จะยุ่งมาก โอกาสได้หยุดน้อยสุดๆ ทำให้การจะเจอกันยิ่งน้อยลงไปอีก ผมและเขาก็พยายามหาเวลามาเจอกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่มาจทกตจว.เพื่อมาหาผม เพราะตอนนั้นเขาบอกว่าไม่กล้าให้ผมไปเจอที่บ้านเขา ผมทำงานที่นี่ได้ประมาณครึ่งปี แล้วผมก็สอบติดสถาบันสอนทำอาหารของโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง จึงลาออกเพื่อไปเรียน แต่ในระหว่างที่ผมทำร้านอาหารนั้นครึ่งปี ผมเจอกับแฟนผมประมาณ3-4ครั้งเท่านั้น แล้วทุกครั้งก็คือมาบ้านผม นั่งคุยกัน แล้วก็ไปกินข้าวกับที่บ้านผม ประมาณ 4 โมงเย็นแฟนจะกลับบ้านละ เนื่องจากต้องกลับตจว. เดินทางกลางคืนมันอันตราย ผมก็เข้าใจ
หลังจากมาเรียน ก็ได้หยุดทุกวันอาทิตย์ละ บอกก่อนว่าที่ที่ผมเรียนนี้ต้องเรียน 6 วัน และหยุดวันอาทิตย์ ก็ได้เจอกันง่ายขึ้น แต่...ก็ไม่บ่อย2-3เดือน เจอกันครั้ง ทุกครั้งก็จะเดิมๆคือมาบ้านผม กินข้าวแล้วก็กลับ บางครั้งผมก็ชวนไปเที่ยวที่อื่นบ้างเช่นเดินตามห้าง เดินดูของ ช้อปปิ้งบ้าง หรือไปเที่ยวตจวกันบ้าง คำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิมคือคำว่า "ไม่" เหตุผลก็เดิมๆ แต่อย่างชวนไปเที่ยวตจวเขาไม่ไปกับผมแน่ใจ เพราะด้วยความที่แฟนผมค่อยข้างหัวโบราณ และกลัวว่าผมจะทำอะไร ซึ่งตอนนั้นผมและก็เขาก็อายุ 24จะ25 แล้ว ทำให้ความคิดจะได้เที่ยวด้วยกันของผมต้อง"จบ"ลง ผมรู้สึกน้อยใจว่าทำไมเราไม่ค่อยได้เจอกันเลย ทั้งๆที่ก็หยุดวันเดียว ไม่ได้ไกลกันมาก อย่างน้อยก็สักเดือนละครั้งก็ยังดี ไปไหนมาไหนบ้างก็ยังดี พอคุยกับแฟนเรื่องนี้เขาก็เหมือนจะงอนผม ว่าจะเจอกันบ่อยทำไม ก็โทรคุยกันทุกวันอยู่แล้ว
จนผมเรียนจบ ผมได้ไปทำงานต่างประเทศอีกครี้ง(ซึ่งก็คืองานที่ทำอยู่ทุกวันนี้) แต่ครั้งนี้ไปแบบไม่มีกำหนดกลับ แต่ไม่ไกลจากไทยเลย แค่ฮ่องกง มาเก๊าเท่านั้นเอง ที่นี่โอกาสเจอกันนี่ไม่ต้องถามเลยคับ แถบไม่เหลือเลย เจอกันแค่วันที่ผมลาพักร้อนกลับไทยเท่านั้น ซึ่งแค่2-3ครั้ง/ปี และทุกครั้งที่กลับไทยก็ได้เจอกันแค่ครั้งละวันเท่านั้น รูปแบบก็เดิมๆ จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่ ที่นี้ผมก็คิดแล้วว่าเราก็คบกันมานาน แล้วก็ไม่ใช่เด็กอายุ18-19แล้ว ผมก็ชวนเขาว่า ไปเที่ยวตจวกันบ้างมั้ย เวลาที่เรากลับไทย คำตอบที่ได้ก็คำตอบเดิมคือ "ไม่" ผมเลยเปลี่ยนมาว่างั้นมาเที่ยวต่างประเทศมั้ย เราจะออกค่าใช้จ่ายให้หมด ก็ยังได้คำตอบว่า 'ไม่' อีกตามเคย ซึ่งเหตุผลก็คือ ไม่ไปเที่ยวข้างคืนที่ไหนกับผม2ต่อ2 แน่นอน เขากลัวพ่อแม่เสียใจ เขาบอกว่าจะไปได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานแล้ว ผมก็เข้าใจเหตุผลนะว่ามันอาจจะดูเสียหายสำหรับเขา แต่สำหรับความรู้สึกผมละ ผมเสียใจมากนะ แรกๆที่คบกันก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเด็กไป แต่ตอนนี้อายุก็เริ่มเยอะแล้ว คบมานานมากแล้ว แค่จะไปเที่ยวไหนกันบ้างตามประสาคนรักกัน มันผิดใช่มั้ยอะ
ตลอดเวลาที่คบกันผมก็อยากใช้ชีวิตตามประสาคนรักกันบ้าง ไปกินข้าว ไปเที่ยวไหนกันบ้าง แต่ทุกวันนี้ ผมกลับรู้สึกเหมือนผมอยู่ตัวคนเดียว กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว ทำอะไรคนเดียวมาตลอดทั้งๆที่ผมก็มี "แฟน" ไม่รู้ทำไม
ผมพยายามคิด หาเหตุผลต่างๆ เพื่อมาปรอบใจตัวเองทุกครั้ง ผมมีความคิดว่าจะทำงานต่างประเทศไม่นาน(ทุกวันนี้ก็เกือบ2ปีละ อายุก็จะ27ละ) เก็บเงิน เก็บความรู้ แล้วลาออกกลับไปอยู่ไทย เปิดร้านอาหารของตนเองแล้วก็จะแต่งงานกับเขานะ แต่...ทุกครั้งที่เขาปฏิเสธผมมันทำให้ผมไม่มั่นใจว่า ถ้าวันนึงผมกับเขาอยู่ด้วยกันจิงๆแล้ว เขาจะยังเป็นอย่างนี้อยู่มั้ย เกิดผมชวนไปไหนหรือทำอะไรแล้วยัง "ปฏิเสธ" ผมอยู่ ด้วยอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่อยากเที่ยว เหนื่อย ร้อน บลา บลา บลาก็ตามแต่ ถึงเวลานั้นก็ผมก็คงไม่ต่างจากทุกวันนี้ใช่มั้ย ที่ผมชวนไม่ใช่แค่อยากเที่ยวอย่างเดียว แต่ผมอยากสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
มันทำให้ผมกลัว ไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ อะไรเลย ผมควรทำอย่างไรต่อไป
สุดท้ายผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ