สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าออสเตรเลียทางโทรศัพท์ถึง 2 รอบให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. หลังจากไปยื่นวีซ่าแบบทุลักทุเลมาแล้วตามกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32266158 เราก็ได้แต่รอๆๆๆ ด้วยใจจดจ่อ แล้วก็เช็คสถานะในเน็ตทุกวัน ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ยังไม่เปลี่ยนแน่นอน แต่ขอให้ได้เช็คเถอะ ไม่งั้นทำงานไม่ได้ 5555
เราทำแบบนี้ทุกวันจนถึงวันที่ 7 ของการยื่น (10 ก.ค.) ไม่รวม ส-อ ตอนบ่ายโมงตรงเป๊ะนั้นเอง....โทรศัพท์เราก็มีเบอร์ 02-344-6300 โทรเข้ามา เราก็ได้แต่ฮัลโหลๆ แต่ก็ไมได้ยิน ก็เลยกดวางไป แต่ทางนั้นก็โทรมาอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ชัดเป๊ะเลยค่ะ ปลายสายแจ้งว่า จากสถานทูตออสเตรเลียนะครับ (เสียงหล่อเชียว) ที่คุณยื่นขอวีซ่ามา....เท่านั้นแหละ มือเกร็งขึ้นมาทันทีเลย แต่เราก็พยายามตั้งสติค่ะ คำถามที่เราเจอคือ
- คุณยื่นวีซ่าประเภทไหนมาครับ
- ไปทำอะไรครับ, ไปที่ไหนบ้าง คือเราไปดูแข่งว่ายน้ำ Pan Pacific Swimming Championship เค้าก็เลยซักเราเรื่องนี้ว่า เคยไปดูมาก่อนไหม รายการแข่งมีวันไหนบ้าง
- ไปกับใคร ไปกันกี่คน (เราตอบว่าไปกับเพื่อน เค้าก็เลยซักว่าเพื่อนนี่ เพื่อนยังไง รู้จักกันที่ไหน รู้จักกันได้ยังไง รู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว)
- พักที่ไหน
- สเตทเม้นท์ที่คุณยื่นมาเป็นของธนาคารอะไร สาขาไหน
จนดูเหมือนว่าเค้าหมดคำถามกับเรา....เราได้ทีเลยถามกลับไปบ้างว่า วีซ่าจะมีโอกาสผ่านไหมคะ? ติดปัญหาอะไรหรือเปล่า จนท.ตอบกลับมาเรียบๆ แค่ว่า...ผมขอเช็คก่อนนะครับ แล้วก็วางสายไป.....เง้อ...ณ จุดนั้นคือเราลุ้นมากค่ะ นี่เป็นการขอวีซ่าครั้งแรกของเรา พาสปอร์ตขาวจั๊ว เพิ่งเปลี่ยนงานมาได้ 5 เดือน เงินที่ยื่นสเตทเม้นท์ไปมีประมาณ 40K กับแพลนไปออส 8 วัน แถมพอยื่นวีซ่าเสร็จ วันรุ่งขึ้นไปถอนเงินออกมาจนเหลือติดบัญชีประมาณ 25 บาทอีก
พอวางสายจาก จนท.สถานทูตเสร็จ เรารีบโทรหาเพื่อนเลยค่ะ เรื่องนี้มันต้องได้รับการบอกต่อ เผื่อว่าเพื่อนเราจะโดนโทรไปถามบ้าง ก็เล่าให้เพื่อนฟังแบบที่พิมพ์ไปทั้งหมดนี่แหละค่ะ วางสายจากเพื่อนแป๊บนึง นั่งทำงานไปสักพัก เบอร์สถานทูตออสเตรเลียโทรมาอีกแว้วววว อะจ๊ากกกก นี่มันลางร้ายอะไรหรือเปล่าเนี่ย พอกดรับเราก็เจอกับคำถามอีกระลอกใหญ่เลยค่ะ
- บัญชีที่ยื่นมา 2 อัน เป็นของธนาคารอะไรนะครับ
- ตอนยื่นสเตทเม้นท์มายอดเงินเท่าไหร่ครับ
- ทำไมต้องใช้ 2 บัญชีครับ
- คุณจะไปกี่วันนะ, รายการแข่งมีวันไหนบ้างนะครับ
- ผมสงสัยว่าคุณจะเอาเงินที่ไหนซัพพอร์ตตัวเอง (ข้อนี้เราเลยร่ายยาวเลยค่ะ ว่ายอดเงิน 40Kทียื่นไปเนี่ย เป็นเงินสำหรับค่ากินอย่างเดียว เพราะเรายอมรับความเสี่ยงกับพวกค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าตั๋วแข่ง โดยการซื้อไปหมดแล้ว itinerary ที่ยื่นไปไม่ใช่เป็นการจองหลอกๆ แต่เป็นการจองที่เราจ่ายเงินไปแล้วจริงๆ เพราะเราเจอตั๋วโปรตั้งแต่ปีที่แล้ว เลยคิดว่าเงินจำนวนนี้ที่ยื่นไป น่าจะเพียงพอกับการไปออส 8 วัน
เค้าก็เลยดูจะเข้าใจมากขึ้น....ก็เลยวางสายไป แต่เราอะ น้ำตาคลอ มือสั่นเลยค่ะ กลัววีซ่าไม่ผ่าน ยิ่งเค้ามาถามจี้เรื่องเงินกับเรา ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นจุดอ่อนของเราอยู่แล้ว เราเลยยิ่งเครียด บ่ายนั้นทำงานไม่รู้เรื่องเลย ทริปนี้ไปกัน 4 คน สาวล้วน ถ้าใครไม่ไปซะคนคงเซ็งน่าดู เพราะแพลนกันมาล่วงหน้าเป็นปี
หลังจากนั้น เราก็เครียดแบบคอนทินิว 3 วันติด เนื่องจากวันหยุดเข้าพรรษา 11-13 ก.ค. พอมาทำงานวันที่ 14 เราก็เช็คสถานะเหมือนเดิมค่ะตอนเช้า 1 รอบ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอตอนบ่ายโมงนิดๆ เช็คอีกรอบ บิงโก!!!
สถานะเปลี่ยนแจ้งว่าผลมาถึงที่ vfs แล้ว เราเลยให้พี่ที่ไปด้วยกัน ไปรับผลเลยค่ะ แล้วก็มานั่งลุ้นเปิดซองด้วยกัน สรุปคือ ได้วีซ่าออสเตรเลียมาครอบครองแบบระทึกๆ
ที่อยากจะแชร์กับเพื่อนๆ คือ หลังจากยื่นเอกสารไปแล้ว ควรทบทวนเรื่องแผนการเดินทาง โปรแกรมต่างๆ ที่จะไป จดจำชื่อโรงแรมหรือสถานที่ที่จะไปเอาไว้ด้วย เวลาสถานทูตโทรมาถาม จะได้ตอบด้วยความมั่นใจ และตรงกับเอกสารที่ยื่นไปค่ะ เพราะจริงๆ จนท. เค้าคงมีข้อมูลเราอยู่ในมืออยู่แล้วล่ะ แค่อยากรีเช็คกับเราเท่านั้นเอง (รุ่นพี่เราอีก 2 คน บอกว่า ถ้าเค้าโดนโทรถาม อาจไม่ได้ไปยกแก๊งค์ เพราะพี่เค้าไม่ถนัดเรื่องจองตั๋วที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วแข่ง เลยจำรายละเอียดพวกนี้ไม่ได้)
ทั้งนี้ ทั้งนั้น คนที่โดนโทรถามก็อาจเจอคำถามที่แตกต่างกันไปนะคะ อย่างพี่ที่ไปด้วยกันอีกคนก็โดนถามเรื่องงานเป็นหลักค่ะว่าทำตำแหน่งอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ ส่วนอีกสองคนไม่โดนถามเลย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
แชร์ประสบการณ์ (ระทึกนิดๆ)...พาสปอร์ตขาวจั๊ว แต่ก็ได้วีซ่าออสเตรเลียมาครอบครอง....
วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าออสเตรเลียทางโทรศัพท์ถึง 2 รอบให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. หลังจากไปยื่นวีซ่าแบบทุลักทุเลมาแล้วตามกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/32266158 เราก็ได้แต่รอๆๆๆ ด้วยใจจดจ่อ แล้วก็เช็คสถานะในเน็ตทุกวัน ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ยังไม่เปลี่ยนแน่นอน แต่ขอให้ได้เช็คเถอะ ไม่งั้นทำงานไม่ได้ 5555
เราทำแบบนี้ทุกวันจนถึงวันที่ 7 ของการยื่น (10 ก.ค.) ไม่รวม ส-อ ตอนบ่ายโมงตรงเป๊ะนั้นเอง....โทรศัพท์เราก็มีเบอร์ 02-344-6300 โทรเข้ามา เราก็ได้แต่ฮัลโหลๆ แต่ก็ไมได้ยิน ก็เลยกดวางไป แต่ทางนั้นก็โทรมาอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ชัดเป๊ะเลยค่ะ ปลายสายแจ้งว่า จากสถานทูตออสเตรเลียนะครับ (เสียงหล่อเชียว) ที่คุณยื่นขอวีซ่ามา....เท่านั้นแหละ มือเกร็งขึ้นมาทันทีเลย แต่เราก็พยายามตั้งสติค่ะ คำถามที่เราเจอคือ
- คุณยื่นวีซ่าประเภทไหนมาครับ
- ไปทำอะไรครับ, ไปที่ไหนบ้าง คือเราไปดูแข่งว่ายน้ำ Pan Pacific Swimming Championship เค้าก็เลยซักเราเรื่องนี้ว่า เคยไปดูมาก่อนไหม รายการแข่งมีวันไหนบ้าง
- ไปกับใคร ไปกันกี่คน (เราตอบว่าไปกับเพื่อน เค้าก็เลยซักว่าเพื่อนนี่ เพื่อนยังไง รู้จักกันที่ไหน รู้จักกันได้ยังไง รู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว)
- พักที่ไหน
- สเตทเม้นท์ที่คุณยื่นมาเป็นของธนาคารอะไร สาขาไหน
จนดูเหมือนว่าเค้าหมดคำถามกับเรา....เราได้ทีเลยถามกลับไปบ้างว่า วีซ่าจะมีโอกาสผ่านไหมคะ? ติดปัญหาอะไรหรือเปล่า จนท.ตอบกลับมาเรียบๆ แค่ว่า...ผมขอเช็คก่อนนะครับ แล้วก็วางสายไป.....เง้อ...ณ จุดนั้นคือเราลุ้นมากค่ะ นี่เป็นการขอวีซ่าครั้งแรกของเรา พาสปอร์ตขาวจั๊ว เพิ่งเปลี่ยนงานมาได้ 5 เดือน เงินที่ยื่นสเตทเม้นท์ไปมีประมาณ 40K กับแพลนไปออส 8 วัน แถมพอยื่นวีซ่าเสร็จ วันรุ่งขึ้นไปถอนเงินออกมาจนเหลือติดบัญชีประมาณ 25 บาทอีก
พอวางสายจาก จนท.สถานทูตเสร็จ เรารีบโทรหาเพื่อนเลยค่ะ เรื่องนี้มันต้องได้รับการบอกต่อ เผื่อว่าเพื่อนเราจะโดนโทรไปถามบ้าง ก็เล่าให้เพื่อนฟังแบบที่พิมพ์ไปทั้งหมดนี่แหละค่ะ วางสายจากเพื่อนแป๊บนึง นั่งทำงานไปสักพัก เบอร์สถานทูตออสเตรเลียโทรมาอีกแว้วววว อะจ๊ากกกก นี่มันลางร้ายอะไรหรือเปล่าเนี่ย พอกดรับเราก็เจอกับคำถามอีกระลอกใหญ่เลยค่ะ
- บัญชีที่ยื่นมา 2 อัน เป็นของธนาคารอะไรนะครับ
- ตอนยื่นสเตทเม้นท์มายอดเงินเท่าไหร่ครับ
- ทำไมต้องใช้ 2 บัญชีครับ
- คุณจะไปกี่วันนะ, รายการแข่งมีวันไหนบ้างนะครับ
- ผมสงสัยว่าคุณจะเอาเงินที่ไหนซัพพอร์ตตัวเอง (ข้อนี้เราเลยร่ายยาวเลยค่ะ ว่ายอดเงิน 40Kทียื่นไปเนี่ย เป็นเงินสำหรับค่ากินอย่างเดียว เพราะเรายอมรับความเสี่ยงกับพวกค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าตั๋วแข่ง โดยการซื้อไปหมดแล้ว itinerary ที่ยื่นไปไม่ใช่เป็นการจองหลอกๆ แต่เป็นการจองที่เราจ่ายเงินไปแล้วจริงๆ เพราะเราเจอตั๋วโปรตั้งแต่ปีที่แล้ว เลยคิดว่าเงินจำนวนนี้ที่ยื่นไป น่าจะเพียงพอกับการไปออส 8 วัน
เค้าก็เลยดูจะเข้าใจมากขึ้น....ก็เลยวางสายไป แต่เราอะ น้ำตาคลอ มือสั่นเลยค่ะ กลัววีซ่าไม่ผ่าน ยิ่งเค้ามาถามจี้เรื่องเงินกับเรา ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นจุดอ่อนของเราอยู่แล้ว เราเลยยิ่งเครียด บ่ายนั้นทำงานไม่รู้เรื่องเลย ทริปนี้ไปกัน 4 คน สาวล้วน ถ้าใครไม่ไปซะคนคงเซ็งน่าดู เพราะแพลนกันมาล่วงหน้าเป็นปี
หลังจากนั้น เราก็เครียดแบบคอนทินิว 3 วันติด เนื่องจากวันหยุดเข้าพรรษา 11-13 ก.ค. พอมาทำงานวันที่ 14 เราก็เช็คสถานะเหมือนเดิมค่ะตอนเช้า 1 รอบ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอตอนบ่ายโมงนิดๆ เช็คอีกรอบ บิงโก!!!
สถานะเปลี่ยนแจ้งว่าผลมาถึงที่ vfs แล้ว เราเลยให้พี่ที่ไปด้วยกัน ไปรับผลเลยค่ะ แล้วก็มานั่งลุ้นเปิดซองด้วยกัน สรุปคือ ได้วีซ่าออสเตรเลียมาครอบครองแบบระทึกๆ
ที่อยากจะแชร์กับเพื่อนๆ คือ หลังจากยื่นเอกสารไปแล้ว ควรทบทวนเรื่องแผนการเดินทาง โปรแกรมต่างๆ ที่จะไป จดจำชื่อโรงแรมหรือสถานที่ที่จะไปเอาไว้ด้วย เวลาสถานทูตโทรมาถาม จะได้ตอบด้วยความมั่นใจ และตรงกับเอกสารที่ยื่นไปค่ะ เพราะจริงๆ จนท. เค้าคงมีข้อมูลเราอยู่ในมืออยู่แล้วล่ะ แค่อยากรีเช็คกับเราเท่านั้นเอง (รุ่นพี่เราอีก 2 คน บอกว่า ถ้าเค้าโดนโทรถาม อาจไม่ได้ไปยกแก๊งค์ เพราะพี่เค้าไม่ถนัดเรื่องจองตั๋วที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วแข่ง เลยจำรายละเอียดพวกนี้ไม่ได้)
ทั้งนี้ ทั้งนั้น คนที่โดนโทรถามก็อาจเจอคำถามที่แตกต่างกันไปนะคะ อย่างพี่ที่ไปด้วยกันอีกคนก็โดนถามเรื่องงานเป็นหลักค่ะว่าทำตำแหน่งอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ ส่วนอีกสองคนไม่โดนถามเลย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ