จากมติชนออนไลน์
ศาลสูงอินเดียสั่งระงับคำพิพากษาประหารชีวิตเป็นการชั่วคราวแก่ผู้ต้องหา 2 ใน 4 คน คดีข่มขืนนักศึกษาหญิง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2555 ออกไปก่อนหลังทนายความฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องขอศาลพิจารณาเพิ่ม
ศาลสูงอินเดียอินเดียได้ออกคำสั่งระงับคำพิพากษาโทษประหารชีวิตนายวิเนย์ ชาร์มา ครูสอนออกกำลังกาย และนายพาวัน กุปตา คนทำความสะอาดรถบัส คดีร่วมกันข่มขืนนักศึกษาสาวจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในกรุงนิวเดลี เมื่อปี 2555ออกไปก่อน เพื่อตรวจคำร้องอุทธรณ์ของทนายฝ่ายจำเลย
ทนายความฝ่ายจำเลยทั้ง 2 คน กล่าวว่า ตอนนี้ ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์พิเศษให้ศาลพิจารณาคำตัดสินเพิ่ม โดยต้องการให้มีผู้พิพากษาเต็มคณะพิจารณาคำอุทธรณ์ใหม่ เนื่องจากเห็นว่า ข้ออ้างต่อลูกความของเขามีความผิดพลาด และเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล และเชื่อว่า ช่วงเกิดเหตุ จำเลย 2 คน ไม่ได้อยู่ในกรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นเมืองที่เกิดเหตุ
หลังคำสั่งศาล แม่ของนักศึกษาสาวที่เสียชีวิต ซึ่งไม่ได้เปิดชื่อเนื่องด้วยเหตุผลด้านกฎหมาย กล่าวว่า คำสั่งระงับโทษประหารชีวิตดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล พร้อมถามกลับไปว่า หากไม่ต้องโทษประหารชีวิตในคดีอาชญากรรมเช่นนี้แล้ว คดีความประเภทใดควรจะได้รับโทษประหารชีวิต โดยแม่ของผู้ตายประกาศจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อความยุติธรรมต่อไป
ส่วนพ่อของเหยื่อ ระบุว่า คำอุทธรณ์เลื่อนโทษประหารชีวิตเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล และยิ่งจะทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่ง ตามกำหนดการ ศาลอินเดียจะกลับมาพิจารณาคดีของ 2 ผู้ต้องหาข่มขืนนักศึกษาหญิงอีกครั้งในเดือนสิงหาคม
ขณะที่ ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องอีก 2 คน ทั้ง นายมูเคช ซิงห์ และอัคเชย์ ธาคูร์ ได้ยื่นเรื่องอุทธณ์ต่อศาลเช่นกัน โดยจะทำให้ผู้ต้องหาคดีข่มขืนทั้งหมดยังต้องรอการพิจารณาของศาลอินเดียต่อไป
สำหรับคดีที่กลุ่มชาย 4 คน ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาสาวด้านกายภาพบำบัดวัย 23 ปีครั้งนี้เกิดขึ้นบนรถบัสในกรุงนิวเดลีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2555 ขณะเธอกำลังเดินทางกลับจากโรงหนังพร้อมกับเพื่อนชายอีกคน โดยเพื่อนของเหยื่อถูกกลุ่มคนร้ายตีได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถช่วยเธอไว้ได้
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ทิ้งทั้งคู่ ซึ่งมีสภาพเปลืองผ้า และตามตัวเต็มไปด้วยเลือดไว้บริเวณข้างถนน ต่อมา 13 วัน หญิงที่ถูกข่มขืนก็ได้เสียชีวิตลง หลังถูกส่งตัวไปรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ก่อนเสียชีวิต เธอได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในที่สุด ซึ่งคดีดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวอินเดียเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายคนออกมาเดินขบวนประท้วง พร้อมเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายคดีข่มขืนในอินเดียให้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คน ได้ถูกศาลอินเดียตัดสินโทษประหารชีวิตไปแล้ว แต่ผู้ต้องหามีการสู้คดี จนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ศาลสูงอินเดียตัดสินยืนตามคำพิพากษาเดิมให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาทั้ง 4 คนพร้อมเรียกคดีดังกล่าวว่าเป็นคดีที่โหดร้าย และจัดอยู่ในหมวดคดีที่หายากที่จะประหารชีวิตเช่นนี้
ศาลสูงอินเดียระงับโทษประหารชีวิตชั่วคราวแก่ 2 ผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักศึกษาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ศาลสูงอินเดียสั่งระงับคำพิพากษาประหารชีวิตเป็นการชั่วคราวแก่ผู้ต้องหา 2 ใน 4 คน คดีข่มขืนนักศึกษาหญิง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2555 ออกไปก่อนหลังทนายความฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องขอศาลพิจารณาเพิ่ม
ศาลสูงอินเดียอินเดียได้ออกคำสั่งระงับคำพิพากษาโทษประหารชีวิตนายวิเนย์ ชาร์มา ครูสอนออกกำลังกาย และนายพาวัน กุปตา คนทำความสะอาดรถบัส คดีร่วมกันข่มขืนนักศึกษาสาวจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในกรุงนิวเดลี เมื่อปี 2555ออกไปก่อน เพื่อตรวจคำร้องอุทธรณ์ของทนายฝ่ายจำเลย
ทนายความฝ่ายจำเลยทั้ง 2 คน กล่าวว่า ตอนนี้ ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์พิเศษให้ศาลพิจารณาคำตัดสินเพิ่ม โดยต้องการให้มีผู้พิพากษาเต็มคณะพิจารณาคำอุทธรณ์ใหม่ เนื่องจากเห็นว่า ข้ออ้างต่อลูกความของเขามีความผิดพลาด และเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล และเชื่อว่า ช่วงเกิดเหตุ จำเลย 2 คน ไม่ได้อยู่ในกรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นเมืองที่เกิดเหตุ
หลังคำสั่งศาล แม่ของนักศึกษาสาวที่เสียชีวิต ซึ่งไม่ได้เปิดชื่อเนื่องด้วยเหตุผลด้านกฎหมาย กล่าวว่า คำสั่งระงับโทษประหารชีวิตดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล พร้อมถามกลับไปว่า หากไม่ต้องโทษประหารชีวิตในคดีอาชญากรรมเช่นนี้แล้ว คดีความประเภทใดควรจะได้รับโทษประหารชีวิต โดยแม่ของผู้ตายประกาศจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อความยุติธรรมต่อไป
ส่วนพ่อของเหยื่อ ระบุว่า คำอุทธรณ์เลื่อนโทษประหารชีวิตเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล และยิ่งจะทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่ง ตามกำหนดการ ศาลอินเดียจะกลับมาพิจารณาคดีของ 2 ผู้ต้องหาข่มขืนนักศึกษาหญิงอีกครั้งในเดือนสิงหาคม
ขณะที่ ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องอีก 2 คน ทั้ง นายมูเคช ซิงห์ และอัคเชย์ ธาคูร์ ได้ยื่นเรื่องอุทธณ์ต่อศาลเช่นกัน โดยจะทำให้ผู้ต้องหาคดีข่มขืนทั้งหมดยังต้องรอการพิจารณาของศาลอินเดียต่อไป
สำหรับคดีที่กลุ่มชาย 4 คน ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาสาวด้านกายภาพบำบัดวัย 23 ปีครั้งนี้เกิดขึ้นบนรถบัสในกรุงนิวเดลีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2555 ขณะเธอกำลังเดินทางกลับจากโรงหนังพร้อมกับเพื่อนชายอีกคน โดยเพื่อนของเหยื่อถูกกลุ่มคนร้ายตีได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถช่วยเธอไว้ได้
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ทิ้งทั้งคู่ ซึ่งมีสภาพเปลืองผ้า และตามตัวเต็มไปด้วยเลือดไว้บริเวณข้างถนน ต่อมา 13 วัน หญิงที่ถูกข่มขืนก็ได้เสียชีวิตลง หลังถูกส่งตัวไปรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ก่อนเสียชีวิต เธอได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในที่สุด ซึ่งคดีดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวอินเดียเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายคนออกมาเดินขบวนประท้วง พร้อมเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายคดีข่มขืนในอินเดียให้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คน ได้ถูกศาลอินเดียตัดสินโทษประหารชีวิตไปแล้ว แต่ผู้ต้องหามีการสู้คดี จนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ศาลสูงอินเดียตัดสินยืนตามคำพิพากษาเดิมให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาทั้ง 4 คนพร้อมเรียกคดีดังกล่าวว่าเป็นคดีที่โหดร้าย และจัดอยู่ในหมวดคดีที่หายากที่จะประหารชีวิตเช่นนี้