ขอแนะนำตัวกันก่อนนะครับ
เกี่ยวกับ จขกท.
ผมชื่อ "ธูป" ครับ ชอบเดินทางและออกไปผจญโลกกว้างมาก ชอบหาวิถีการเดินทางแบบตะลอนเที่ยว ตะลุยไป ไม่ค่อยง้อทัวร์เท่าไรนัก ชอบหาข้อมูลเอง เท่าที่เดินทางมา ยังไม่ค่อยเจอทริปแย่ๆ นะครับ ส่วนใหญ่มักผ่านไปได้ด้วยดี มีพลาดพลั้งบ้างเป็นธรรมดาครับ หลายๆ ทริป มักเดินทางคนเดียว มีเพื่อนไปร่วมทริปบ้างเป็นบ้างครั้ง ตลอด 4-5 ปี ที่ผ่านมา (2009-2013) ได้เดินทางเกือบทุกเดือน เลยอยากนำหมุดหมายปลายทางมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันบ้างครับ
ทริปปีนภูเขาไฟฟูจิ
ผมตั้งใจว่าจะนำประสบการณ์การปีนภูเขาไฟฟูจิมาโพสต์ในช่วงนี้ครับ เพราะฤดูกาลปีนภูเขาไฟฟูจิ ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น จะเปิดให้ปีนเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค ถึงราวอาทิตย์แรกของเดือน ก.ย. เท่านั้นครับ บางปีก็ปลายๆ เดือน ส.ค. ก็หมดฤดูกาลแล้วครับ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าเอื้ออำนวยหรือไม่
ผมเชื่อว่ามีเพื่อนๆ ไม่น้อยใฝ่ฝัน หรือมีความปรารถนาว่าจะขอเดินขึ้นไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิให้ได้สักครั้งในชีวิต คำถามมากมายย่อมผุดขึ้นมาในใจและอาจเป็นตัวบั่นทอนให้ไม่ได้มีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ในการเดินขึ้นไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิสักที เหมือนที่ผมเองก็กลัวๆ กล้าๆ มาก่อน
ปีนยากไหม...
ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง...
ไม่เคยปีนเขามาก่อนเลย จะปีนได้ไหม...
ไปปีนคนเดียวได้หรือเปล่า...
ปลายเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปพิชิตยอดเขาไฟฟูจิมา กับเพื่อนนักปีนเขา 2 คนครับ ซึ่งทางเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจินั้น มี 4 เส้นทาง ที่เปิดให้เดินขึ้นได้ เราเลือกเส้นทางที่ยากที่สุด เพราะคิดว่าไหนๆ ไปแล้ว ก็จัดเต็มไปซะเลย...หลังจากพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิได้เรียบร้อย ก็ตั้งใจว่าจะต้องกลับมาเขียนเรื่องราวที่ได้ประสบมา เพื่อแบ่งปันให้คนอื่นๆ ได้อ่านกันครับ พร้อมอยากบอกให้หลายๆ คน ที่ไม่มั่นใจหรือกลัว หรือไม่เคยมีประสบการณ์ในการปีนเขามาก่อนว่าการปีนภูเขาไฟฟูจินั้น ซึ่งจริงๆ ผมว่าใช้คำว่า "เดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ" น่าจะเหมาะกว่า แถมไม่ได้ยากลำบากหรือเป็นเส้นทางที่หฤโหดเลยครับ ไม่ต้องปีนป่าย ไม่ต้องมีลูกหาบ เดินกันไปเรื่อยๆ ได้อย่างสบายตัว จะมีอุปสรรคก็แค่ความเหน็ดเหนื่อยจากระยะทางที่ต้องเดินไกลเท่านั้นเอง ขนาดเด็กๆ ญี่ปุ่นวัย 5-6 ขวบ ยังเดินกันเป็นว่าเล่นทีเดียว ผู้ใหญ่อย่างเราๆ รับรองว่าเดินกันได้ทุกคนอย่างสบายจริงๆ ครับ เชื่อผมได้
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนปีนนะครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการปีนเขา หรือใช้ชีวิตบนที่สูงมาก่อน คงต้องรู้ก่อนว่าการเดินไต่ระดับขึ้นไปที่ระดับความสูงที่มากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ร่างกายต้องพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะแตกต่าง จากจุดที่ออกเดินทางจนกว่าจะถึงยอดเขา ความหนาแน่นของอ๊อกซิโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ยิ่งสูง ยิ่งเดินไกล ยิ่งเหนื่อย หลายคนก็จะยิ่งหายใจเร็วขึ้น แต่อ๊อกซิเจนในอากาศมีน้อยมากกว่าพื้นราบอย่างที่เราๆ คุ้นเคยกันนะครับ เพราะฉะนั้น เมื่อรู้สึกตัวว่าเหนื่อยมาก หรือหายใจไม่ค่อยทัน ก็ต้องหยุดพักให้รู้สึกหายใจได้เป็นปกติก่อน แล้วค่อยออกเดินต่อ นี่ยังไม่นับสภาพภูมิอากาศที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่างการเดินด้วยนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้ว อากาศในช่วงบ่ายๆ จะค่อนข้างไม่แน่นอน และแตกต่างจากอากาศตอนเช้ามากทีเดียว อาจมีความเป็นไปได้ อาจได้เจอเมฆฝนหรือฟ้าร้อง หรือฝนตกระหว่างทาง จึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับรับมือ ที่หากต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป
เส้นทางการเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ มีสถานีทั้งหมด 10 สถานีด้วยกัน ซึ่งสามารถนั่งรถบัสมาได้ถึงสถานีที่ 5 (ครึ่งทางพอดี) จากนั้นทุกคนก็ต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วละครับ ต้องเดินขึ้นไปเองจนกว่าจะถึงสถานีที่ 10 ซึ่งอยู่บนยอดภูเขาไฟฟูจิ คนส่วนใหญ่จะเดินขึ้นแต่เช้า ราวๆ หกโมง หรือเจ็ดโมงเช้า เพื่อจะได้มีเวลาเดินกลับลงมาทันก่อนฟ้ามืด แต่หากต้องการสัมผัสบรรยากาศชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้านั้น ก็ต้องวางแผนที่จะจองที่พักที่สถานีที่ 8 เพื่อพักผ่อนนอนเอาแรง 1 คืน แล้วค่อยตื่นมาเดินต่อในเช้ามืดวันรุ่งวันประมาณตี 2 เพื่อเดินไปชมแสงแรกของวันบนยอดภูเขาไฟฟูจิครับ
การอยู่บนที่สูงในสภาพอากาศที่อ๊อกซิเจนเบาบาง อาจส่งผลให้บางคนมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ หรือที่รู้จักว่าเป็นโรคแพ้ความดันอากาศในที่สูงเฉียบพลัน AMS (Acute Mountain Sickness) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการป่วยของกลุ่ม High Altitude Sickness แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว หรือต้องวิตกกังวลมากนักนะครับ ถือเป็นเรื่องปกติของคนพื้นราบอย่างพวกเรา ที่ต้องขึ้นไปใช้ชีวิตบนที่สูงในชั่วระยะหนึ่งครับ
ปีนเมื่อไรดี
อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ครับ ว่า ภูเขาไฟฟูจิ เปิดให้ปีนเขาเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค. ถึงต้นเดือน ก.ย. เท่านั้น บางปีอาจถึงแค่ช่วงปลายเดือน ส.ค. เพราะหากสภาพอากาศไม่เป็นใจ หรือมีสภาพไม่พร้อม ก็จะไม่อนุญาตให้เดินขึ้นไป และช่วงเวลาควรหลีกเลี่ยงคือช่วงระหว่างวันที่ 13-17 ส.ค. ครับ เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น ช่วงนั้นจะมีคนญี่ปุ่นไปปีนภูเขาไฟฟูจิจำนวนมากจนถึงขั้นอาจเห็นเป็นแถวยาวเหยียด ซึ่งจะส่งผลให้การเดินขึ้นไปไม่สนุกและช้ากว่าปกติได้มากทีเดียว
เตรียมเสื้อผ้าแบบไหนดี
แม้ว่าในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. จะเป็นช่วงกลางฤดูร้อน แต่อุณหภูมิเฉลี่ยบนยอดเขาก็ยังอยู่ระหว่าง 5-8 องศาเซลเซียสนะครับ ซึ่งหากมีลม หรืออุณหภูมิลดลงอย่างฉับพลันในช่วงเย็นหรือค่ำ ก็จะยิ่งทวีความเย็น หรืออาจหนาวกว่าปกติได้ การเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศ พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น ถือเป็นการเตรียมความพร้อม ที่จะช่วยให้การปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิเป็นเรื่องที่ราบรื่นมากขึ้นได้มากครับ
อุปกรณ์ที่จำเป็น
-รองเท้าเดินป่า ที่มีน้ำหนักเบาและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
-เสื้อกันฝนที่สวมใส่ได้ง่าย และมีฮูดสำหรับคลุมหัวด้วย
-เสื้อผ้ากันหนาว หรืออากาศเย็น
-ชุดชั้นใน ที่บางและแห้งง่าย หรือมีสำรองไว้สำหรับเปลี่ยน
-ไฟฉายมือ หรือ ไฟฉายคาดหัว
-น้ำดื่มติดตัวประมาณ 2 ลิตร
-ขนมขบเคี้ยว รสหวาน
-ถุงขยะสำหรับใส่ขยะ เพื่อนำกลับลงมาทิ้งด้านล่างครับ
-เงินพอประมาณครับ สำหรับซื้อขนม ซื้อน้ำ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดครับ
-ยาสามัญทั่วไป และยาสำหรับโรคประจำตัว
-หมวก ไม้เท้าค้ำเดิน และแผนที่
เส้นทางในการปีน
จากข้อมูลที่ผมหามา ขอนำมาสรุปให้ดังนี้นะครับ
เส้นทางในการปีนภูเขาไฟฟูจินั้น มีทั้งหมด 4 เส้นทางด้วยกันครับ ซึ่งทุกเส้นทางล้วนมีรถบัสขึ้นมาส่งได้ถึง Station ที่ 5 ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ที่สามารถแวะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้อุ่นขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเย็น หยุดพักทานอาหารเพื่อเพิ่มพลังก่อนออกลุย ไปจนถึงซื้ออุปกรณ์ที่ขาดตกหรือเตรียมมาไม่ครบ โดยเฉพาะ Trekking Poles หรือไม้ค้ำเดิน ซึ่งที่นี่จะมีแบบที่เป็นไม้พลองหกเหลี่ยม สำหรับไว้ประทับตราตามจุดพักของ Station ต่างๆ เพื่อเป็นการการันตีว่าได้มาถึงและพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
เส้นทางการเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิทั้ง 4 เส้นทางนั้น ประกอบด้วย
Yoshida Trail
เริ่มต้นการเดินที่ Station ที่ 5 ที่สถานี Fuji-Subaru โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้น จะเป็นการเดินจากทางด้านทิศเหนือของภูเขาฟูจิในของจังหวัดยามานา
เส้นทางนี้จะค่อนข้างลาด ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างจากเส้นทางอื่นๆ
ตลอดเส้นทาง จะมีกระท่อมบนภูเขาค่อนข้างมาก
แต่จะไม่มีที่พักในส่วนที่เป็นทางลาด ระหว่างทางเดิน
คนส่วนใหญ่ที่ปีนภูเขาไฟฟูจิจะนิยมใช้เส้นทางนี้
จึงถือได้ว่า Yoshida Trail เป็นเส้นทางยอดนิยมเลยก็ว่าได้
Subashiri Trail
เริ่มต้นการเดินที่ Station ที่ 5 ที่สถานี Subashiri โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้นจะเป็นการเดินจากด้านตะวันออกของภูเขาฟูจิใน Shizuoka Prefecture เมือง Oyama
เส้นทางนี้จะมีผืนป่าให้ได้เห็นในระดับสูงด้วย ซึ่งต่างจากเส้นทางอื่นๆ
เมื่อก้าวพ้นจากเขตป่า ในช่วงเช้าจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
และภาพเงาของภูเขาฟูจิ ที่ทาบลงบนเมฆ
เส้นทางนี้จะแตกต่างจากเส้นทางอื่นๆ โดยเฉพาะ ในช่วงระหว่าง Station ที่ 8
ที่เชื่อมต่อในการเดินไปยังเส้น Yoshida Trail ได้
เพราะมีพื้นที่ที่เป็นเขตป่า ซึ่งไม่สามาถมองเห็นทางได้ชัดในช่วงกลางคืน
หรือช่วงที่มีหมอกหนา จึงควรหลีกเลี่ยงการออกเดินในช่วงนั้น
Gotemba Trail
เริ่มต้นการเดินที่ New Station ที่ 5 ที่สถานี Gotemba Trail โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้นจะเป็นการเดินจากด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาฟูจิใน Shizuoka Prefecture เมืองGotemba
จุดเริ่มต้นอยู่ในระดับความสูงที่ค่อนข้างต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของเส้นทางอื่นๆ
ทางเดินมีความลาดชันมากพอสมควร แต่พื้นเรียบเดินไม่ยากเท่าไรนัก
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่ค่อนข้างมีทักษะในการเดินไต่ระดับขึ้นที่สูง
เพราะบางช่วงทางมีความลาดชันมากพอสมควร
มีกระท่อมหรือที่พักน้อยกว่าเส้นทางอื่นๆ และห้องน้ำก็มีไม่มากเท่าไรนัก
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลำบากกว่าเส้นทางอื่น
ข้อดีจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการปีนเขาได้อย่างเงียบๆ ตลอดเส้นทาง
เพราะเมื่อเทียบกับเส้นทางอื่นๆ แล้ว เส้นทางนี้คนน้อยที่สุด
ในช่วงเช้าจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และภาพเงาของภูเขาฟูจิที่ทาบลงบนเมฆอย่างสวยงาม
Fujinomiya Trail
เริ่มต้นการเดินทางที่ Station ที่ 5 ที่สถานี Fujinomiya โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้นจะเป็นการเดินจากทางด้านทิศใต้ของภูเขาฟูจิใน Shizuoka Prefecture เมือง Fujinomiya
ระยะทางในการเดินในเส้นทางนี้ ถือว่าสั้นที่สุด เพราะจุดเริ่มต้นที่ Station ที่ 5 นั้น อยู่สูงกว่าเส้นทางอื่นๆ
คนที่ไม่อยากเดินไกล จึงนิยมเลือกใช้เส้นทางนี้กันเป็นส่วนมาก
จึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะต้องเจอเพื่อนร่วมทางที่เยอะมากทีเดียว
ไม่ต่างกับเส้น Yoshida Trail เลยแม้แต่น้อย
ตลอดเส้นทางการเดินจะเป็นทางลาด สูงชัน และกรวดหิน
ด้วยเพราะเส้นทางนี้สั้นและทางเดินสบาย
จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเดินแล้วหลงออกนอกเส้นทางไป
ไปปีนภูเขาไฟฟูจิกันครับ : เที่ยวแบบธูป
เกี่ยวกับ จขกท.
ผมชื่อ "ธูป" ครับ ชอบเดินทางและออกไปผจญโลกกว้างมาก ชอบหาวิถีการเดินทางแบบตะลอนเที่ยว ตะลุยไป ไม่ค่อยง้อทัวร์เท่าไรนัก ชอบหาข้อมูลเอง เท่าที่เดินทางมา ยังไม่ค่อยเจอทริปแย่ๆ นะครับ ส่วนใหญ่มักผ่านไปได้ด้วยดี มีพลาดพลั้งบ้างเป็นธรรมดาครับ หลายๆ ทริป มักเดินทางคนเดียว มีเพื่อนไปร่วมทริปบ้างเป็นบ้างครั้ง ตลอด 4-5 ปี ที่ผ่านมา (2009-2013) ได้เดินทางเกือบทุกเดือน เลยอยากนำหมุดหมายปลายทางมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันบ้างครับ
ทริปปีนภูเขาไฟฟูจิ
ผมตั้งใจว่าจะนำประสบการณ์การปีนภูเขาไฟฟูจิมาโพสต์ในช่วงนี้ครับ เพราะฤดูกาลปีนภูเขาไฟฟูจิ ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น จะเปิดให้ปีนเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค ถึงราวอาทิตย์แรกของเดือน ก.ย. เท่านั้นครับ บางปีก็ปลายๆ เดือน ส.ค. ก็หมดฤดูกาลแล้วครับ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าเอื้ออำนวยหรือไม่
ผมเชื่อว่ามีเพื่อนๆ ไม่น้อยใฝ่ฝัน หรือมีความปรารถนาว่าจะขอเดินขึ้นไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิให้ได้สักครั้งในชีวิต คำถามมากมายย่อมผุดขึ้นมาในใจและอาจเป็นตัวบั่นทอนให้ไม่ได้มีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ในการเดินขึ้นไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิสักที เหมือนที่ผมเองก็กลัวๆ กล้าๆ มาก่อน
ปีนยากไหม...
ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง...
ไม่เคยปีนเขามาก่อนเลย จะปีนได้ไหม...
ไปปีนคนเดียวได้หรือเปล่า...
ปลายเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปพิชิตยอดเขาไฟฟูจิมา กับเพื่อนนักปีนเขา 2 คนครับ ซึ่งทางเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจินั้น มี 4 เส้นทาง ที่เปิดให้เดินขึ้นได้ เราเลือกเส้นทางที่ยากที่สุด เพราะคิดว่าไหนๆ ไปแล้ว ก็จัดเต็มไปซะเลย...หลังจากพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิได้เรียบร้อย ก็ตั้งใจว่าจะต้องกลับมาเขียนเรื่องราวที่ได้ประสบมา เพื่อแบ่งปันให้คนอื่นๆ ได้อ่านกันครับ พร้อมอยากบอกให้หลายๆ คน ที่ไม่มั่นใจหรือกลัว หรือไม่เคยมีประสบการณ์ในการปีนเขามาก่อนว่าการปีนภูเขาไฟฟูจินั้น ซึ่งจริงๆ ผมว่าใช้คำว่า "เดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ" น่าจะเหมาะกว่า แถมไม่ได้ยากลำบากหรือเป็นเส้นทางที่หฤโหดเลยครับ ไม่ต้องปีนป่าย ไม่ต้องมีลูกหาบ เดินกันไปเรื่อยๆ ได้อย่างสบายตัว จะมีอุปสรรคก็แค่ความเหน็ดเหนื่อยจากระยะทางที่ต้องเดินไกลเท่านั้นเอง ขนาดเด็กๆ ญี่ปุ่นวัย 5-6 ขวบ ยังเดินกันเป็นว่าเล่นทีเดียว ผู้ใหญ่อย่างเราๆ รับรองว่าเดินกันได้ทุกคนอย่างสบายจริงๆ ครับ เชื่อผมได้
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนปีนนะครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการปีนเขา หรือใช้ชีวิตบนที่สูงมาก่อน คงต้องรู้ก่อนว่าการเดินไต่ระดับขึ้นไปที่ระดับความสูงที่มากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ร่างกายต้องพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะแตกต่าง จากจุดที่ออกเดินทางจนกว่าจะถึงยอดเขา ความหนาแน่นของอ๊อกซิโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ยิ่งสูง ยิ่งเดินไกล ยิ่งเหนื่อย หลายคนก็จะยิ่งหายใจเร็วขึ้น แต่อ๊อกซิเจนในอากาศมีน้อยมากกว่าพื้นราบอย่างที่เราๆ คุ้นเคยกันนะครับ เพราะฉะนั้น เมื่อรู้สึกตัวว่าเหนื่อยมาก หรือหายใจไม่ค่อยทัน ก็ต้องหยุดพักให้รู้สึกหายใจได้เป็นปกติก่อน แล้วค่อยออกเดินต่อ นี่ยังไม่นับสภาพภูมิอากาศที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่างการเดินด้วยนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้ว อากาศในช่วงบ่ายๆ จะค่อนข้างไม่แน่นอน และแตกต่างจากอากาศตอนเช้ามากทีเดียว อาจมีความเป็นไปได้ อาจได้เจอเมฆฝนหรือฟ้าร้อง หรือฝนตกระหว่างทาง จึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับรับมือ ที่หากต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป
เส้นทางการเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ มีสถานีทั้งหมด 10 สถานีด้วยกัน ซึ่งสามารถนั่งรถบัสมาได้ถึงสถานีที่ 5 (ครึ่งทางพอดี) จากนั้นทุกคนก็ต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วละครับ ต้องเดินขึ้นไปเองจนกว่าจะถึงสถานีที่ 10 ซึ่งอยู่บนยอดภูเขาไฟฟูจิ คนส่วนใหญ่จะเดินขึ้นแต่เช้า ราวๆ หกโมง หรือเจ็ดโมงเช้า เพื่อจะได้มีเวลาเดินกลับลงมาทันก่อนฟ้ามืด แต่หากต้องการสัมผัสบรรยากาศชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้านั้น ก็ต้องวางแผนที่จะจองที่พักที่สถานีที่ 8 เพื่อพักผ่อนนอนเอาแรง 1 คืน แล้วค่อยตื่นมาเดินต่อในเช้ามืดวันรุ่งวันประมาณตี 2 เพื่อเดินไปชมแสงแรกของวันบนยอดภูเขาไฟฟูจิครับ
การอยู่บนที่สูงในสภาพอากาศที่อ๊อกซิเจนเบาบาง อาจส่งผลให้บางคนมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ หรือที่รู้จักว่าเป็นโรคแพ้ความดันอากาศในที่สูงเฉียบพลัน AMS (Acute Mountain Sickness) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการป่วยของกลุ่ม High Altitude Sickness แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว หรือต้องวิตกกังวลมากนักนะครับ ถือเป็นเรื่องปกติของคนพื้นราบอย่างพวกเรา ที่ต้องขึ้นไปใช้ชีวิตบนที่สูงในชั่วระยะหนึ่งครับ
ปีนเมื่อไรดี
อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ครับ ว่า ภูเขาไฟฟูจิ เปิดให้ปีนเขาเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค. ถึงต้นเดือน ก.ย. เท่านั้น บางปีอาจถึงแค่ช่วงปลายเดือน ส.ค. เพราะหากสภาพอากาศไม่เป็นใจ หรือมีสภาพไม่พร้อม ก็จะไม่อนุญาตให้เดินขึ้นไป และช่วงเวลาควรหลีกเลี่ยงคือช่วงระหว่างวันที่ 13-17 ส.ค. ครับ เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น ช่วงนั้นจะมีคนญี่ปุ่นไปปีนภูเขาไฟฟูจิจำนวนมากจนถึงขั้นอาจเห็นเป็นแถวยาวเหยียด ซึ่งจะส่งผลให้การเดินขึ้นไปไม่สนุกและช้ากว่าปกติได้มากทีเดียว
เตรียมเสื้อผ้าแบบไหนดี
แม้ว่าในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. จะเป็นช่วงกลางฤดูร้อน แต่อุณหภูมิเฉลี่ยบนยอดเขาก็ยังอยู่ระหว่าง 5-8 องศาเซลเซียสนะครับ ซึ่งหากมีลม หรืออุณหภูมิลดลงอย่างฉับพลันในช่วงเย็นหรือค่ำ ก็จะยิ่งทวีความเย็น หรืออาจหนาวกว่าปกติได้ การเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศ พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น ถือเป็นการเตรียมความพร้อม ที่จะช่วยให้การปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิเป็นเรื่องที่ราบรื่นมากขึ้นได้มากครับ
อุปกรณ์ที่จำเป็น
-รองเท้าเดินป่า ที่มีน้ำหนักเบาและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
-เสื้อกันฝนที่สวมใส่ได้ง่าย และมีฮูดสำหรับคลุมหัวด้วย
-เสื้อผ้ากันหนาว หรืออากาศเย็น
-ชุดชั้นใน ที่บางและแห้งง่าย หรือมีสำรองไว้สำหรับเปลี่ยน
-ไฟฉายมือ หรือ ไฟฉายคาดหัว
-น้ำดื่มติดตัวประมาณ 2 ลิตร
-ขนมขบเคี้ยว รสหวาน
-ถุงขยะสำหรับใส่ขยะ เพื่อนำกลับลงมาทิ้งด้านล่างครับ
-เงินพอประมาณครับ สำหรับซื้อขนม ซื้อน้ำ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดครับ
-ยาสามัญทั่วไป และยาสำหรับโรคประจำตัว
-หมวก ไม้เท้าค้ำเดิน และแผนที่
เส้นทางในการปีน
จากข้อมูลที่ผมหามา ขอนำมาสรุปให้ดังนี้นะครับ
เส้นทางในการปีนภูเขาไฟฟูจินั้น มีทั้งหมด 4 เส้นทางด้วยกันครับ ซึ่งทุกเส้นทางล้วนมีรถบัสขึ้นมาส่งได้ถึง Station ที่ 5 ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ที่สามารถแวะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้อุ่นขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเย็น หยุดพักทานอาหารเพื่อเพิ่มพลังก่อนออกลุย ไปจนถึงซื้ออุปกรณ์ที่ขาดตกหรือเตรียมมาไม่ครบ โดยเฉพาะ Trekking Poles หรือไม้ค้ำเดิน ซึ่งที่นี่จะมีแบบที่เป็นไม้พลองหกเหลี่ยม สำหรับไว้ประทับตราตามจุดพักของ Station ต่างๆ เพื่อเป็นการการันตีว่าได้มาถึงและพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
เส้นทางการเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิทั้ง 4 เส้นทางนั้น ประกอบด้วย
Yoshida Trail
เริ่มต้นการเดินที่ Station ที่ 5 ที่สถานี Fuji-Subaru โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้น จะเป็นการเดินจากทางด้านทิศเหนือของภูเขาฟูจิในของจังหวัดยามานา
เส้นทางนี้จะค่อนข้างลาด ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างจากเส้นทางอื่นๆ
ตลอดเส้นทาง จะมีกระท่อมบนภูเขาค่อนข้างมาก
แต่จะไม่มีที่พักในส่วนที่เป็นทางลาด ระหว่างทางเดิน
คนส่วนใหญ่ที่ปีนภูเขาไฟฟูจิจะนิยมใช้เส้นทางนี้
จึงถือได้ว่า Yoshida Trail เป็นเส้นทางยอดนิยมเลยก็ว่าได้
Subashiri Trail
เริ่มต้นการเดินที่ Station ที่ 5 ที่สถานี Subashiri โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้นจะเป็นการเดินจากด้านตะวันออกของภูเขาฟูจิใน Shizuoka Prefecture เมือง Oyama
เส้นทางนี้จะมีผืนป่าให้ได้เห็นในระดับสูงด้วย ซึ่งต่างจากเส้นทางอื่นๆ
เมื่อก้าวพ้นจากเขตป่า ในช่วงเช้าจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
และภาพเงาของภูเขาฟูจิ ที่ทาบลงบนเมฆ
เส้นทางนี้จะแตกต่างจากเส้นทางอื่นๆ โดยเฉพาะ ในช่วงระหว่าง Station ที่ 8
ที่เชื่อมต่อในการเดินไปยังเส้น Yoshida Trail ได้
เพราะมีพื้นที่ที่เป็นเขตป่า ซึ่งไม่สามาถมองเห็นทางได้ชัดในช่วงกลางคืน
หรือช่วงที่มีหมอกหนา จึงควรหลีกเลี่ยงการออกเดินในช่วงนั้น
Gotemba Trail
เริ่มต้นการเดินที่ New Station ที่ 5 ที่สถานี Gotemba Trail โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้นจะเป็นการเดินจากด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาฟูจิใน Shizuoka Prefecture เมืองGotemba
จุดเริ่มต้นอยู่ในระดับความสูงที่ค่อนข้างต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของเส้นทางอื่นๆ
ทางเดินมีความลาดชันมากพอสมควร แต่พื้นเรียบเดินไม่ยากเท่าไรนัก
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่ค่อนข้างมีทักษะในการเดินไต่ระดับขึ้นที่สูง
เพราะบางช่วงทางมีความลาดชันมากพอสมควร
มีกระท่อมหรือที่พักน้อยกว่าเส้นทางอื่นๆ และห้องน้ำก็มีไม่มากเท่าไรนัก
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลำบากกว่าเส้นทางอื่น
ข้อดีจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการปีนเขาได้อย่างเงียบๆ ตลอดเส้นทาง
เพราะเมื่อเทียบกับเส้นทางอื่นๆ แล้ว เส้นทางนี้คนน้อยที่สุด
ในช่วงเช้าจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และภาพเงาของภูเขาฟูจิที่ทาบลงบนเมฆอย่างสวยงาม
Fujinomiya Trail
เริ่มต้นการเดินทางที่ Station ที่ 5 ที่สถานี Fujinomiya โดยเส้นทางการเดินสู่ยอดเขานั้นจะเป็นการเดินจากทางด้านทิศใต้ของภูเขาฟูจิใน Shizuoka Prefecture เมือง Fujinomiya
ระยะทางในการเดินในเส้นทางนี้ ถือว่าสั้นที่สุด เพราะจุดเริ่มต้นที่ Station ที่ 5 นั้น อยู่สูงกว่าเส้นทางอื่นๆ
คนที่ไม่อยากเดินไกล จึงนิยมเลือกใช้เส้นทางนี้กันเป็นส่วนมาก
จึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะต้องเจอเพื่อนร่วมทางที่เยอะมากทีเดียว
ไม่ต่างกับเส้น Yoshida Trail เลยแม้แต่น้อย
ตลอดเส้นทางการเดินจะเป็นทางลาด สูงชัน และกรวดหิน
ด้วยเพราะเส้นทางนี้สั้นและทางเดินสบาย
จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเดินแล้วหลงออกนอกเส้นทางไป