ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า จขกท เป็นคนที่ไม่เคยจะโชคดีเลยกับความรัก
คนแรก รักเค้ามาก แต่เค้าลืมแฟนเก่าไม่ได้ ทะเลาะกัน เกลียดกัน เลิกกัน ไม่มองหน้ากัน
คนสอง มีลูก เมีย แล้วมาหลอกเรา เรายอมตัดใจเดินจากมาอย่างเจ็บปวด
คนสาม ...คนนี้แหละค่ะ ที่เจ้าของกระทู้ไม่เข้าใจว่าตัวเอง รัก ได้อย่างไร หรือ ไม่ได้รัก และเค้า รัก จขกท หรือเปล่า
แต่สุดท้ายคนที่สาม ก็เลิกกันนะค่ะ 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากนี้จะเล่าย้อนอดีตไปเมื่อต้นปี 2555
เราได้เจอกับ ผช คนนึง เรียกได้ว่า ปิ๊ง กันตั้งแรกเห็น มีโอกาสได้แลกพินบีบีกัน คุยกันไปมา
เธอชอบชั้น ชั้นชอบเธอ เคยโอเค Say YES คบกันหลังจากคุยกันได้ประมาณ 4 เดือน
แต่มีอย่างนึงที่น่าประหลาด คือ เมื่อเราถามถึงประวัติต่างๆของเค้า มักจะตอบทีเล่นทีจริง จนเราไม่รู้จะเชื่ออย่างไหน
แต่ด้วยหัวใจมันบอกว่า ชอบมากกก อ่ะนะ เลยมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างไป
เมื่อตกลงที่จะคบกัน เราเริ่มรู้อะไรเกี่ยวกับเค้ามากขึ้น หลังจากนี้ขอใช้นามสมมติของเค้าคนนี้ว่า "ณัฐ" นะค่ะ
ตอนนั้น ณัฐ อายุเพียง 23 ปี ส่วนเรา 29 ห่างกันมากเลยค่ะ
ณัฐ จัดได้ว่าเป็นคนน่าตาดี (ถ้าไม่ดีเราคงไม่ชอบหรอกเนอะ) เรียนจบ ป.6 พอขึ้น ม.1 ก็โดดเรียน แล้วก็เลิกเรียนตั้งแต่บัดนั้น
เท่าที่เรารู้ ณัฐ โลดโผนกันการใช้ชีวิตของเค้าพอควร อาชีพที่ณัฐเคยทำ คือ ขายซีดี และจับลิขสิทธิ์แผ่นซีดี และช่วยลุงขายข้าวแกง
ชีวิตณัฐ น่าสงสารนะค่ะ พ่อเค้าเป็นคนไต้หวัน แม่เป็นคนไทย ไม่เจอพ่อมาเป็น 20 ปีแล้ว ไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ ไปอยู่กับป้าคนนั้นที
อยู่กับป้าคนนี้ที อยู่กับแม่ไม่ได้ เพราะแม่มีแฟนใหม่ มีปัญหากับแฟนแม่....เราสงสารณัฐมาก ณ ตอนนั้น สงสารจริงๆค่ะ คิดว่าที่เค้าเรียนไม่จบ
เคยทำตัวเกเร คงเป็นเพราะขาดความรัก ขาดความอบอุ่น เราเลยทำทุกอย่างเพื่อให้ณัฐมีอย่างคนอื่นมี
ราวๆเดือน เม.ย. ปี 55 ณัฐก็ไปช่วยลุงขายข้าวแกง ด้วยค่าแรง 300 บาท แต่อยู่มาวันนึง ป้าสะใภ้ (แฟนลุง) ก็ไม่ให้ณัฐช่วยงานที่ร้านต่อ
และ....ไม่ให้อยู่ที่บ้านด้วย ให้ไปหาที่อื่นอยู่.....เราไม่รู้แน่ชัดว่าเพราะอะไร แต่ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียว คือ ต้องช่วยๆๆๆ
ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ญาติห่างๆของ ณัฐ เพิ่งสร้างอพาทเม้นท์ให้เช่า และชั้นล่างสามารถทำร้านค้าได้
เรา และ ณัฐ จึงไปดูทำเลกัน และคิดต่างๆนานา ว่าจะค้าขายอะไรดี ุสุดท้ายเราแนะนำว่าทำ internet รายเดือนสิ เก็บกินได้ระยะยาวได้
ซึ่งความคิดเราตอนนั้นเราอยากลงทุนร่วมกันกับณัฐนะ เราอาจจะออกทุนเยอะหน่อย แต่ณัฐดูแล แล้วแบ่งผลกำไรกัน
แต่สุดท้ายณัฐไม่ยอมค่ะ ทะเลาะกัน ณัฐบอกว่า เราไม่ได้อยู่ดูแลตลอดจะมาแบ่งผลกำไรได้อย่างไร หึหึ....สุดท้ายเรายอมค่ะ
โอเค....ชั้ินตกลงให้เธอยืมเงินชั้นไปลงทุนนะ แล้วค่อยๆใช้คืน
จริงๆเราไม่ได้แม่พระนะค่ะ แต่ ณ จุดนั้น รักก็รัก สงสารก็สงสาร สิ่งที่ทำลงไป ที่บ้านไม่มีใครรับรู้ เพราะถ้ารู้เค้าไม่ยอมให้เราให้ณัฐยืมเงินแน่ๆ
ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ช่วงระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะเช่า หรือไม่เช่า ตอนนั้นทะเลาะกันค่ะ เหมือนจะเรื่องเงินอีกแล้ว
เราไม่ได้ติดต่อณัฐไม่กี่วัน พอใจเย็นลง เลยโทรไปคุยด้วย กลายเป็นว่า ณัฐ และแม่ณัฐ ได้ยืมเงินลุงของเค้ามาทำสัญญาเช่าเป็นที่เรียบร้อย
พร้อมกับลงไอติม กะว่าจะเปิดร้านไอติมแหละค่ะ ส่วน Internet หอ งบประมาณไม่พอแล้ว เงินที่ลุงให้มาหมดไปกับ ค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน
ค่าโต๊ะ เก้าอี้ ถ้วย ชาม ตู้ไอติม ฯลฯ.....
แบบนี้เรียกว่า "รัก" ได้หรือ???
คนแรก รักเค้ามาก แต่เค้าลืมแฟนเก่าไม่ได้ ทะเลาะกัน เกลียดกัน เลิกกัน ไม่มองหน้ากัน
คนสอง มีลูก เมีย แล้วมาหลอกเรา เรายอมตัดใจเดินจากมาอย่างเจ็บปวด
คนสาม ...คนนี้แหละค่ะ ที่เจ้าของกระทู้ไม่เข้าใจว่าตัวเอง รัก ได้อย่างไร หรือ ไม่ได้รัก และเค้า รัก จขกท หรือเปล่า
แต่สุดท้ายคนที่สาม ก็เลิกกันนะค่ะ 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากนี้จะเล่าย้อนอดีตไปเมื่อต้นปี 2555
เราได้เจอกับ ผช คนนึง เรียกได้ว่า ปิ๊ง กันตั้งแรกเห็น มีโอกาสได้แลกพินบีบีกัน คุยกันไปมา
เธอชอบชั้น ชั้นชอบเธอ เคยโอเค Say YES คบกันหลังจากคุยกันได้ประมาณ 4 เดือน
แต่มีอย่างนึงที่น่าประหลาด คือ เมื่อเราถามถึงประวัติต่างๆของเค้า มักจะตอบทีเล่นทีจริง จนเราไม่รู้จะเชื่ออย่างไหน
แต่ด้วยหัวใจมันบอกว่า ชอบมากกก อ่ะนะ เลยมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างไป
เมื่อตกลงที่จะคบกัน เราเริ่มรู้อะไรเกี่ยวกับเค้ามากขึ้น หลังจากนี้ขอใช้นามสมมติของเค้าคนนี้ว่า "ณัฐ" นะค่ะ
ตอนนั้น ณัฐ อายุเพียง 23 ปี ส่วนเรา 29 ห่างกันมากเลยค่ะ
ณัฐ จัดได้ว่าเป็นคนน่าตาดี (ถ้าไม่ดีเราคงไม่ชอบหรอกเนอะ) เรียนจบ ป.6 พอขึ้น ม.1 ก็โดดเรียน แล้วก็เลิกเรียนตั้งแต่บัดนั้น
เท่าที่เรารู้ ณัฐ โลดโผนกันการใช้ชีวิตของเค้าพอควร อาชีพที่ณัฐเคยทำ คือ ขายซีดี และจับลิขสิทธิ์แผ่นซีดี และช่วยลุงขายข้าวแกง
ชีวิตณัฐ น่าสงสารนะค่ะ พ่อเค้าเป็นคนไต้หวัน แม่เป็นคนไทย ไม่เจอพ่อมาเป็น 20 ปีแล้ว ไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ ไปอยู่กับป้าคนนั้นที
อยู่กับป้าคนนี้ที อยู่กับแม่ไม่ได้ เพราะแม่มีแฟนใหม่ มีปัญหากับแฟนแม่....เราสงสารณัฐมาก ณ ตอนนั้น สงสารจริงๆค่ะ คิดว่าที่เค้าเรียนไม่จบ
เคยทำตัวเกเร คงเป็นเพราะขาดความรัก ขาดความอบอุ่น เราเลยทำทุกอย่างเพื่อให้ณัฐมีอย่างคนอื่นมี
ราวๆเดือน เม.ย. ปี 55 ณัฐก็ไปช่วยลุงขายข้าวแกง ด้วยค่าแรง 300 บาท แต่อยู่มาวันนึง ป้าสะใภ้ (แฟนลุง) ก็ไม่ให้ณัฐช่วยงานที่ร้านต่อ
และ....ไม่ให้อยู่ที่บ้านด้วย ให้ไปหาที่อื่นอยู่.....เราไม่รู้แน่ชัดว่าเพราะอะไร แต่ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียว คือ ต้องช่วยๆๆๆ
ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ญาติห่างๆของ ณัฐ เพิ่งสร้างอพาทเม้นท์ให้เช่า และชั้นล่างสามารถทำร้านค้าได้
เรา และ ณัฐ จึงไปดูทำเลกัน และคิดต่างๆนานา ว่าจะค้าขายอะไรดี ุสุดท้ายเราแนะนำว่าทำ internet รายเดือนสิ เก็บกินได้ระยะยาวได้
ซึ่งความคิดเราตอนนั้นเราอยากลงทุนร่วมกันกับณัฐนะ เราอาจจะออกทุนเยอะหน่อย แต่ณัฐดูแล แล้วแบ่งผลกำไรกัน
แต่สุดท้ายณัฐไม่ยอมค่ะ ทะเลาะกัน ณัฐบอกว่า เราไม่ได้อยู่ดูแลตลอดจะมาแบ่งผลกำไรได้อย่างไร หึหึ....สุดท้ายเรายอมค่ะ
โอเค....ชั้ินตกลงให้เธอยืมเงินชั้นไปลงทุนนะ แล้วค่อยๆใช้คืน
จริงๆเราไม่ได้แม่พระนะค่ะ แต่ ณ จุดนั้น รักก็รัก สงสารก็สงสาร สิ่งที่ทำลงไป ที่บ้านไม่มีใครรับรู้ เพราะถ้ารู้เค้าไม่ยอมให้เราให้ณัฐยืมเงินแน่ๆ
ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ช่วงระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะเช่า หรือไม่เช่า ตอนนั้นทะเลาะกันค่ะ เหมือนจะเรื่องเงินอีกแล้ว
เราไม่ได้ติดต่อณัฐไม่กี่วัน พอใจเย็นลง เลยโทรไปคุยด้วย กลายเป็นว่า ณัฐ และแม่ณัฐ ได้ยืมเงินลุงของเค้ามาทำสัญญาเช่าเป็นที่เรียบร้อย
พร้อมกับลงไอติม กะว่าจะเปิดร้านไอติมแหละค่ะ ส่วน Internet หอ งบประมาณไม่พอแล้ว เงินที่ลุงให้มาหมดไปกับ ค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน
ค่าโต๊ะ เก้าอี้ ถ้วย ชาม ตู้ไอติม ฯลฯ.....