กระทู้ของผมอาจจะซ้ำกับกระทู้ของพี่คนนี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/34224791 อาจจะแนวๆเดียวกัน
ได้อ่านกระทู้ของน้องผู้หญิงคนนี้แล้ว บอกตรงๆว่าอ่านแล้วนึกถึงน้องสาวตัวเองมากครับ เพราะตอนนี้น้องสาวผมก็คงรุ่นๆเดียวกันกับ น้อง จขกท.
แต่ชีวิตข้องน้องสาวผมกับ จขกท. แตกต่างกันมาก
ตั้งแต่เด็กๆครอบครัวผมเป็นครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ครับ มีพ่อ แม่ ลูก2 (ชาย1 หญิง1) พ่อผมเป็นเสาหลักครอบครัวมาโดยตลอด
ส่วนแม่เป็นแม่บ้านครับ ทุกๆอย่างดำเนินมาอย่างปกติทั่วไป จนกระทั่งวันหนึ่ง ตอนนั้นผม 9 ขวบ น้องสาวผม 3-4 ขวบ
พ่อผู้เป็เสาหลักของครอบครัวได้เสียชีวิตไป ซึ่งแน่นอนว่า แม่ผมที่เป็นแม่บ้าน คงไม่สามารถเลี้ยงดู ผมและน้อง 2 คนไหวแน่ๆ จึงส่งผมกับน้องไปอยู่กับป้า
ถือว่าโชคดีครับที่ได้มาอยู่กับป้า เพราะไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตผมคงแย่แน่ๆ ตอนนั้นผมแค่ ป.4 ผมก็ลองสูบบุหรี่แล้ว ตอนพ่อเสียใหม่ๆ แม่ต้องทำงานหนักมาก
ไม่มีเวลามาเลี้ยงดู วันๆผมหมกตัวอยู่แต่ร้านเกม น้องสาวผมแม่ก็ต้องฝากไว้กับญาติๆ ผมเสเพล ติดเพื่อนมาก เพื่อนพาไปไหนก็ไป เพราะกลับบ้านไปก็ไม่เจอใครอยู่ดี ตอนนั้นชีวิตเสเพลครับ ลักขโมย สูบบุหรี่ กินเหล้า ลองมาทุกอย่าง แต่ดีหน่อยครับที่ไม่ได้ติดยา เพราะอาจจะยังเด็กเกินไป และไม่มีเงิน
ผมและน้องสาวได้มาอยู่กับป้าที่ กทม. (ช่วงนั้นผมอายุ 11 น้องสาว5ขวบ) ป้าผมเป็นคนค่อนข้างละเอียด เป็นคนจู้จี้จุกจิก ย้ำคิดย้ำทำ แต่ใจดี อาจจะปากร้ายแต่ใจดี อยู่กับป้า ป้าสอนผมทุกอย่าง งานบ้านผมกับน้องต้องทำเป็นทุกอย่าง แต่น้องผมเป็นเด็กหัวดื้อ คอยต่อต้านอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นเด็กเอาแต่ใจ และรุนแรง อยู่กับป้ามาได้ประมาณ 2 ปี ก็เกิดเรื่องอีก ป้ากับลุงทะเลาะกัน ลุงไล่ป้าออกจากบ้าน ซึ่งก็คือพวกผมก็ต้องออกจากบ้านไปด้วย ตอนนั้นชีวิตเคว้งคว้างอีกครั้ง ป้าผมทั้งชีวิตแกก็ไม่ได้ทำงานอะไรมากมาย ก็เลี้ยงดูผมและน้องไม่ไหว จึงส่งต่อผมและน้องให้ไปอยู่กับ น้องชายแม่(น้า) ที่ ตจว.
ช่วงนั้นผมกำลังขึ้น ม.1 น้องสาวผมน่าจะ ป.2 ช่วงเวลาที่อยู่กับน้า บอกเลยครับว่าคล้ายๆ จขกท. มาก แต่ผมไม่ใช่คนโดนครับ คนที่โดนคือน้องสาวผม
ซึ่งผมสงสารน้องมาก ด้วยความที่น้องยังเด็ก และค่อนข้างดื้อ เป็นคนต่อต้านด้วยครับ ทำให้น้าสะใภ้ยิ่งทุบ ตี ด่า ต่างๆนานา ด้วยความที่น้องผมเป็นคนหยาบครับ มักจะทำอะไรไม่เรียบร้อย พองานไม่เรียบร้อย ก็โดนทำโทษ รุนแรงที่สุดคือโดนตบครับ เห็นน้องร้องให้ กรี๊ดไปด้วยร้องไปด้วย ผมนี่ใจแทบขาด แต่ช่วยอะไรไม่ได้ บางครั้งผมก็ทำงานแทนน้อง ไม่อยากให้น้องโดนลงโทษ พอน้าจับได้ กลายเป็นว่ายิ่งโดนหนักกว่าเก่า แถมยังทำให้น้องผมเกลียดผมไปด้วย กลายเป็นว่าผมเป็นต้นเหตุให้โดนลงโทษอีก
คือผมกับน้องค่อนข้างแตกต่างกันมาก ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อย งานบ้านทุกอย่างทำได้หมด การเรียนไม่เคยต่ำกว่า 3.5 ส่วนน้องผม ค่อนข้างรั้น อันไหนไม่เอาก็อคติ หัวดื้อและรุนแรง แต่ก็เรียนค่อนข้างดี เหตุการณ์แย่ๆแบบนี้เกิดมาเรื่อยๆจนกระทั่งผม ม.6 น้องผมกำลังขึ้น ม.1 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องใช้เงินมาก
ป้าผมที่เคยเลี้ยงผมและน้องก็ได้ติดต่อมาและส่งเงินให้ใช้บ้าง แต่ป้าผมและน้าสะใภ้ก็ไม่ถูกกันอย่างรุนแรง เพราะป้ารู้ทุกอย่างว่าน้าสะใภ้ทำอะไรกับน้องบ้าง เพราะป้าผมรักน้องสาวมาก ตามใจทุกอย่าง พอเรื่องเริ่มรุนแรง ป้ากับน้าทะเลาะกัน และความกดดันก็มาตกที่ผมและน้อง
ผมและน้องต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอยู่กับใคร ใจผมก็อยากออกไปจากน้าเพราะสงสารน้อง แต่อีกใจก็รู้สึกอกตัญญู น้าเค้าก็เลี้ยงผมและน้องมาหลายปี
ในที่สุดผมก็เลือกเดินออกมา ผมและน้องไปอาศัยอยู่กับยาย(แม่ของลุง เพราะตอนนั้นป้าผมอยู่ กทม. ผมและน้องอยู่ ตจว.)ในบ้านหลังใหม่ โดยมีกันแค่ 3 คน ผม น้องสาว และยาย ป้าผมจะส่งเงินมาให้ใช้ตลอด ผมจึงต้องรับหน้าที่ดูแลน้องไปโดยปริยาย ซึ่งบอกตามตรงว่า ผมและน้องเป็นเด็กมีปัญหา ครอบครัวแตกแยก ซึ่งผมคิดได้ แยกแยะได้ แต่น้องผม ไม่ใช่เลย เธอยังเด็ก และถูกกดดัน ถูกลงโทษตลอดมา ทำให้เธอต่อต้านสังคม ซึ่งแม้กระทั่งผมเอง ก็ไม่สามารถดูแลและควบคุมเธอได้ ด้วยอาจจะเป็นที่ว่า เราต่างเพศกัน เลยจะมาไกล้ชิด และรู้ทุกอย่างในความเปนไปของน้องไม่ได้
พอน้องสาวผมสอบเข้า ม.1 ใน ร.ร. ชื่อดังในตัวเมืองได้ หลายๆอย่างจึงเปลี่ยนไป ผมไม่เห็นความเป็นไปของน้องสาวผมได้ เพราะเรียนกันคนละที่ เจอกันแค่ตอนเย็นหลังเลิกเรียน เช้าก็แยกกันไป กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็สายเกินแก้ไปแล้ว น้องผมทุกเช้าที่ไปเรียน เธอไม่ได้ไปเรียน เธอโดดไปเที่ยวกับเพื่อน เสเพล จนติด 0 ต้องไปซ่อม ไปแก้ และทุกคำที่เธอพูด เชื่อถือไม่ได้สักคำ โกหกเป็นเรื่องเป็นราว ผมกับป้าเคยต้องหาตามหาน้องสาวซึ่งเธอหายไป 1 วันเต็มๆ ไม่สามารถติดต่อได้จำได้ว่าวันรุ่งขึ้นตำรวจโทรมาว่าพบศพหญิงสาวซึ่งแต่งตัวคล้ายๆน้องสาวผมตอนนั้นต้องไปดูศพป้าแทบจะเป็นลม
ภาวนาตลอดทางขอให้ไม่ใช่ ก็ถือว่าโชคยังดีที่ไม่ใช่ ปรากฏว่าเย็นนั้นไปตามเจอ เธอไปอยู่บ้านเพื่อน ไม่ยอมกลับบ้าน และก็มีเหตุการณ์อีกหลายๆเหตุการณ์
ตอนนี้น้องสาวผม เรียนไม่จบ ม.3 และมีลูกแล้ว 1 คน อายุน่าจะพอๆกับ จขกท. และเธอก็เริ่มคิดได้แล้ว ผมก็ดีใจนะที่อย่างน้อย ความเป็นแม่ของเธอก็ช่วยทำให้เธอคิดได้ ทำให้เธออดทนได้เจอกับความเป็นจริงว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่เธอก็เลือกที่จะเผชิญกับมันไม่ได้ทิ้งปัญหา
หรือทำแทงค์ หรือสร้างปัญหาให้กับสังคม
ที่จริงมันมีเรื่องราวอีกมากมายเลยที่ผมอยากจะเล่า แต่ผมเล่าไม่เก่งเรียบเรียงไม่สวยงาม แต่อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ จขกท. หรือทุกๆคนได้อ่านนะครับ ว่าเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ ถ้าเราเลือกทางเดินที่ผิด มันไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้ บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถทำให้มันเป็นไปตามความต้องการของเราทุกอย่างได้ ทำได้เพียงอดทน เราก็ต้องยอมอดทนครับ ตอนนี้ผมเชื่อว่าถ้าน้องสาวผมย้อนเวลากลับไปได้ เธอคงไม่เลือกทางเดินแบบนี้
แต่ผมก็ภูมิใจนะ ที่เธอสามารถยืนด้วยลำแข้งของเธอได้ แม้เส้นทางที่เธอเลือกมันจะผิดก็ตาม
ขอให้ สู้ๆนะครับ อดทน มันจะต้องดีขึ้นสักวันครับ
ขอโทษที่อาจจะพิมพ์ยาวไป ไม่น่าอ่านเท่าไร แต่อยากแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
เป็นกำลังใจให้ จขกท. "ไม่อยากอยู่บ้าน เกลียดแม่"
ได้อ่านกระทู้ของน้องผู้หญิงคนนี้แล้ว บอกตรงๆว่าอ่านแล้วนึกถึงน้องสาวตัวเองมากครับ เพราะตอนนี้น้องสาวผมก็คงรุ่นๆเดียวกันกับ น้อง จขกท.
แต่ชีวิตข้องน้องสาวผมกับ จขกท. แตกต่างกันมาก
ตั้งแต่เด็กๆครอบครัวผมเป็นครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ครับ มีพ่อ แม่ ลูก2 (ชาย1 หญิง1) พ่อผมเป็นเสาหลักครอบครัวมาโดยตลอด
ส่วนแม่เป็นแม่บ้านครับ ทุกๆอย่างดำเนินมาอย่างปกติทั่วไป จนกระทั่งวันหนึ่ง ตอนนั้นผม 9 ขวบ น้องสาวผม 3-4 ขวบ
พ่อผู้เป็เสาหลักของครอบครัวได้เสียชีวิตไป ซึ่งแน่นอนว่า แม่ผมที่เป็นแม่บ้าน คงไม่สามารถเลี้ยงดู ผมและน้อง 2 คนไหวแน่ๆ จึงส่งผมกับน้องไปอยู่กับป้า
ถือว่าโชคดีครับที่ได้มาอยู่กับป้า เพราะไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตผมคงแย่แน่ๆ ตอนนั้นผมแค่ ป.4 ผมก็ลองสูบบุหรี่แล้ว ตอนพ่อเสียใหม่ๆ แม่ต้องทำงานหนักมาก
ไม่มีเวลามาเลี้ยงดู วันๆผมหมกตัวอยู่แต่ร้านเกม น้องสาวผมแม่ก็ต้องฝากไว้กับญาติๆ ผมเสเพล ติดเพื่อนมาก เพื่อนพาไปไหนก็ไป เพราะกลับบ้านไปก็ไม่เจอใครอยู่ดี ตอนนั้นชีวิตเสเพลครับ ลักขโมย สูบบุหรี่ กินเหล้า ลองมาทุกอย่าง แต่ดีหน่อยครับที่ไม่ได้ติดยา เพราะอาจจะยังเด็กเกินไป และไม่มีเงิน
ผมและน้องสาวได้มาอยู่กับป้าที่ กทม. (ช่วงนั้นผมอายุ 11 น้องสาว5ขวบ) ป้าผมเป็นคนค่อนข้างละเอียด เป็นคนจู้จี้จุกจิก ย้ำคิดย้ำทำ แต่ใจดี อาจจะปากร้ายแต่ใจดี อยู่กับป้า ป้าสอนผมทุกอย่าง งานบ้านผมกับน้องต้องทำเป็นทุกอย่าง แต่น้องผมเป็นเด็กหัวดื้อ คอยต่อต้านอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นเด็กเอาแต่ใจ และรุนแรง อยู่กับป้ามาได้ประมาณ 2 ปี ก็เกิดเรื่องอีก ป้ากับลุงทะเลาะกัน ลุงไล่ป้าออกจากบ้าน ซึ่งก็คือพวกผมก็ต้องออกจากบ้านไปด้วย ตอนนั้นชีวิตเคว้งคว้างอีกครั้ง ป้าผมทั้งชีวิตแกก็ไม่ได้ทำงานอะไรมากมาย ก็เลี้ยงดูผมและน้องไม่ไหว จึงส่งต่อผมและน้องให้ไปอยู่กับ น้องชายแม่(น้า) ที่ ตจว.
ช่วงนั้นผมกำลังขึ้น ม.1 น้องสาวผมน่าจะ ป.2 ช่วงเวลาที่อยู่กับน้า บอกเลยครับว่าคล้ายๆ จขกท. มาก แต่ผมไม่ใช่คนโดนครับ คนที่โดนคือน้องสาวผม
ซึ่งผมสงสารน้องมาก ด้วยความที่น้องยังเด็ก และค่อนข้างดื้อ เป็นคนต่อต้านด้วยครับ ทำให้น้าสะใภ้ยิ่งทุบ ตี ด่า ต่างๆนานา ด้วยความที่น้องผมเป็นคนหยาบครับ มักจะทำอะไรไม่เรียบร้อย พองานไม่เรียบร้อย ก็โดนทำโทษ รุนแรงที่สุดคือโดนตบครับ เห็นน้องร้องให้ กรี๊ดไปด้วยร้องไปด้วย ผมนี่ใจแทบขาด แต่ช่วยอะไรไม่ได้ บางครั้งผมก็ทำงานแทนน้อง ไม่อยากให้น้องโดนลงโทษ พอน้าจับได้ กลายเป็นว่ายิ่งโดนหนักกว่าเก่า แถมยังทำให้น้องผมเกลียดผมไปด้วย กลายเป็นว่าผมเป็นต้นเหตุให้โดนลงโทษอีก
คือผมกับน้องค่อนข้างแตกต่างกันมาก ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อย งานบ้านทุกอย่างทำได้หมด การเรียนไม่เคยต่ำกว่า 3.5 ส่วนน้องผม ค่อนข้างรั้น อันไหนไม่เอาก็อคติ หัวดื้อและรุนแรง แต่ก็เรียนค่อนข้างดี เหตุการณ์แย่ๆแบบนี้เกิดมาเรื่อยๆจนกระทั่งผม ม.6 น้องผมกำลังขึ้น ม.1 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องใช้เงินมาก
ป้าผมที่เคยเลี้ยงผมและน้องก็ได้ติดต่อมาและส่งเงินให้ใช้บ้าง แต่ป้าผมและน้าสะใภ้ก็ไม่ถูกกันอย่างรุนแรง เพราะป้ารู้ทุกอย่างว่าน้าสะใภ้ทำอะไรกับน้องบ้าง เพราะป้าผมรักน้องสาวมาก ตามใจทุกอย่าง พอเรื่องเริ่มรุนแรง ป้ากับน้าทะเลาะกัน และความกดดันก็มาตกที่ผมและน้อง
ผมและน้องต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอยู่กับใคร ใจผมก็อยากออกไปจากน้าเพราะสงสารน้อง แต่อีกใจก็รู้สึกอกตัญญู น้าเค้าก็เลี้ยงผมและน้องมาหลายปี
ในที่สุดผมก็เลือกเดินออกมา ผมและน้องไปอาศัยอยู่กับยาย(แม่ของลุง เพราะตอนนั้นป้าผมอยู่ กทม. ผมและน้องอยู่ ตจว.)ในบ้านหลังใหม่ โดยมีกันแค่ 3 คน ผม น้องสาว และยาย ป้าผมจะส่งเงินมาให้ใช้ตลอด ผมจึงต้องรับหน้าที่ดูแลน้องไปโดยปริยาย ซึ่งบอกตามตรงว่า ผมและน้องเป็นเด็กมีปัญหา ครอบครัวแตกแยก ซึ่งผมคิดได้ แยกแยะได้ แต่น้องผม ไม่ใช่เลย เธอยังเด็ก และถูกกดดัน ถูกลงโทษตลอดมา ทำให้เธอต่อต้านสังคม ซึ่งแม้กระทั่งผมเอง ก็ไม่สามารถดูแลและควบคุมเธอได้ ด้วยอาจจะเป็นที่ว่า เราต่างเพศกัน เลยจะมาไกล้ชิด และรู้ทุกอย่างในความเปนไปของน้องไม่ได้
พอน้องสาวผมสอบเข้า ม.1 ใน ร.ร. ชื่อดังในตัวเมืองได้ หลายๆอย่างจึงเปลี่ยนไป ผมไม่เห็นความเป็นไปของน้องสาวผมได้ เพราะเรียนกันคนละที่ เจอกันแค่ตอนเย็นหลังเลิกเรียน เช้าก็แยกกันไป กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็สายเกินแก้ไปแล้ว น้องผมทุกเช้าที่ไปเรียน เธอไม่ได้ไปเรียน เธอโดดไปเที่ยวกับเพื่อน เสเพล จนติด 0 ต้องไปซ่อม ไปแก้ และทุกคำที่เธอพูด เชื่อถือไม่ได้สักคำ โกหกเป็นเรื่องเป็นราว ผมกับป้าเคยต้องหาตามหาน้องสาวซึ่งเธอหายไป 1 วันเต็มๆ ไม่สามารถติดต่อได้จำได้ว่าวันรุ่งขึ้นตำรวจโทรมาว่าพบศพหญิงสาวซึ่งแต่งตัวคล้ายๆน้องสาวผมตอนนั้นต้องไปดูศพป้าแทบจะเป็นลม
ภาวนาตลอดทางขอให้ไม่ใช่ ก็ถือว่าโชคยังดีที่ไม่ใช่ ปรากฏว่าเย็นนั้นไปตามเจอ เธอไปอยู่บ้านเพื่อน ไม่ยอมกลับบ้าน และก็มีเหตุการณ์อีกหลายๆเหตุการณ์
ตอนนี้น้องสาวผม เรียนไม่จบ ม.3 และมีลูกแล้ว 1 คน อายุน่าจะพอๆกับ จขกท. และเธอก็เริ่มคิดได้แล้ว ผมก็ดีใจนะที่อย่างน้อย ความเป็นแม่ของเธอก็ช่วยทำให้เธอคิดได้ ทำให้เธออดทนได้เจอกับความเป็นจริงว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่เธอก็เลือกที่จะเผชิญกับมันไม่ได้ทิ้งปัญหา
หรือทำแทงค์ หรือสร้างปัญหาให้กับสังคม
ที่จริงมันมีเรื่องราวอีกมากมายเลยที่ผมอยากจะเล่า แต่ผมเล่าไม่เก่งเรียบเรียงไม่สวยงาม แต่อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ จขกท. หรือทุกๆคนได้อ่านนะครับ ว่าเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ ถ้าเราเลือกทางเดินที่ผิด มันไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้ บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถทำให้มันเป็นไปตามความต้องการของเราทุกอย่างได้ ทำได้เพียงอดทน เราก็ต้องยอมอดทนครับ ตอนนี้ผมเชื่อว่าถ้าน้องสาวผมย้อนเวลากลับไปได้ เธอคงไม่เลือกทางเดินแบบนี้
แต่ผมก็ภูมิใจนะ ที่เธอสามารถยืนด้วยลำแข้งของเธอได้ แม้เส้นทางที่เธอเลือกมันจะผิดก็ตาม
ขอให้ สู้ๆนะครับ อดทน มันจะต้องดีขึ้นสักวันครับ
ขอโทษที่อาจจะพิมพ์ยาวไป ไม่น่าอ่านเท่าไร แต่อยากแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ