“ป้ายโฆษณาหนังเขียนมือ” ศิลปะย้อนยุคของภูเก็ตที่กำลังจะสูญหาย


บทความนี้นำมาจากเว็บ phuketindex.com ซึ่งขออนุญาตเจ้าของเว็บมาเผยแพร่แล้วครับ ยิ้ม


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ป้ายโฆษณาหนังเขียนมือ” ศิลปะย้อนยุคของภูเก็ตที่กำลังจะสูญหาย  เขียนโดย Siripong

ผู้เขียนเป็นนักดูหนังตัวยง ที่ชื่นชอบความบันเทิงบนแผ่นฟิล์ม ตอนสมัยเด็กๆ ก่อนที่โรงหนังยุคมัลติเพล็กซ์ จะเกิดขึ้นในภูเก็ต โรงหนังเพิร์ล, โรงหนังพาราไดส์ และโรงหนังเริงจิต คือสถานที่สุดโปรดที่สร้างความสุข และความทรงจำที่ดีเสมอมา ก่อนที่อินเตอร์เน็ต และแผ่นผี จะเปลี่ยนพฤติกรรมการดูหนังของผู้คน ในยุคหนึ่งเมื่อมีหนังเรื่องดังเข้าฉาย เป็นธรรมดาที่จะเห็นภาพคนต่อคิวซื้อตั๋วกันยาวเหยียด เรียกได้ว่าเป็นความทรงจำดีๆ ที่น่าจดจำ และก็น่าใจหายในคราวเดียวกัน เมื่อเห็นว่าโรงหนังในภูเก็ตตอนนี้ซบเซาและไม่เป็นที่นิยมดังเช่นอดีต…

แม้หลายสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไป แต่มีอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ และก็ยังคงเหมือนเดิม คือ “ป้ายโฆษณาหนังเขียนมือ” (Cut-out) ติดตั้งบนรถยนต์กระบะแห่รอบเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นวิธีเรียกลูกค้าตั้งแต่ก่อนยุคอนาล็อกด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมีให้เห็นกันในยุคดิจิตอลแบบนี้ ที่คนสามารถรับข้อมูลหนัง และจองตั๋วผ่านสมาร์ทโฟน


สำหรับเด็กยุคใหม่ที่เกิดไม่ทัน หรือคนต่างถิ่นซึ่งเดินทางมาทำงานที่ภูเก็ต อาจจะมองว่าป้ายหนังแบบนี้ มันดูย้อนยุคเกินไปรึเปล่า? หรือสงสัยว่าทำไมไม่พิมพ์อิงค์เจ็ทบนไวนิลจะได้ดูภาพสมจริง ไม่ต้องมาขีดเขียนให้ยุ่งยาก ผู้เขียนบอกได้เลยว่านี่คือเอกลักษณ์แห่งวันวานของภูเก็ต ที่ดูน่ารัก มีเสน่ห์ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องให้เครดิตกับ บริษัท โคลีเซี่ยมฟิล์ม อินเตอร์กรุ๊ป (เจ้าของสายหนังและโรงหนังในเขตภาคใต้) ที่ยังคงยืนหยัดการผลิตสื่อโฆษณาชนิดนี้เรื่อยมา ทำให้ชาวภูเก็ต และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ยังคงมีโอกาสได้ทัศนาป้ายโฆษณาหนังแบบเขียนมือ ด้วยความชื่นชม


ขอบคุณภาพโรงหนังเริงจิต ในปี 2536 โดยคุณ kosanchai สมาชิกชมรม Phuket Neo Photo

โดยส่วนตัวของผู้เขียน จึงเกิดความอยากรู้จักกับผู้ที่ผลิตผลงานเหล่านั้น จึงได้ติดต่อไปหาผู้จัดการโรงภาพยนตร์โคลิเซี่ยม พาราไดส์ ภูเก็ต และได้ที่อยู่ของสถานที่ซึ่งใช้ผลิตงานศิลปะชนิดนี้ โดยปัจจุบันงานทั้งหมดถูกเขียนขึ้นที่ตึกแถว บริเวณหมู่บ้านนิมิตร ติดกับวงเวียนม้าน้ำ ในตัวเมืองภูเก็ต โดยศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังป้ายโฆษณาหนังจำนวนมาก คือ ลุงอี๊ด และลุงป๋อง ผู้เขียนไม่รอช้าเริ่มตั้งคำถามพูดคุยกับคุณลุงทั้งสองอย่างออกรสออกชาติ ท่าทางของแกดูงงๆ นิดหน่อย เพราะไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าจะมีใครสนใจสิ่งที่แกทำ แต่สำหรับผู้เขียนคุณลุงที่อยู่เบื้องหน้า คือ ศิลปินคนโปรด


(ซ้าย) คุณลุงป๋อง สมบูรณ์ ขวัญเมือง (ขวา) คุณลุงอี๊ด อำพัน ไชยพิทักษ์ ศิลปินนักวาดป้ายโฆษณาหนัง
ทั้งคู่วาดมาแล้วหลายพันเรื่อง ตั้งแต่ยุคหนัง Cowboy, หนังไทย ยุคพระเอกมิตร ชัยบัญชา – สรพงษ์ ชาตรี, หนังจีนกำลังภายใน ยุคชอร์ บราเธอร์ส, Star Wars, Jurassic Park, Indiana Jones มาจนถึงยุคหนังซุเปอร์ฮีโร่อย่าง Spider-Man, Iron Man, The Avengers ทั้งหมดนี้เขาทั้งสองวาดมาหมดแล้ว น่าทึ่งมั้ยหล่ะ!
  


    ลุงป๋อง บอกว่า “ตอนนี้ก็เหลือเท่านี้แหละครับ อยู่กันแค่ 2 คน กับรถแห่อีก 2 คัน เพราะเดี๋ยวนี้คนดูหนังน้อยลงเยอะ เค้าก็ต้องลดงานเขียนลง ผมเขียนงานมาเกิน 50 ปีแล้วหล่ะ เริ่มต้นตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยกมาช่วยงานที่โรงหนัง เป็นเด็กเดินตั๋วบ้าง ขายขนมบ้าง พอเห็นเค้าวาดรูปหนัง เราก็สนใจอยากทำดู เรียนก็ไม่ได้เรียนหรอกครับศิลปะ แต่อาศัยครูพักลักจำเอา จนวาดได้เค้าก็มอบหมายให้วาดจนถึงตอนนี้ ไม่ได้ไปทำงานอย่างอื่นเลย เพราะงานนี้มันเป็นชีวิตของผมไปแล้ว”

    ส่วน ลุงอี๊ด เล่าว่า “คุณลองมองเสื้อผ้าผมสิ คุณก็จะรู้ว่างานนี้ไม่ได้ทำรายได้อะไรให้มากมายหรอก ลำบากด้วยซ้ำ แต่คุณรู้มั้ย หากผมย้อนเวลาไปได้ ผมก็จะเลือกทำงานนี้เพราะผมคิดว่ามันอิสระนะ มันมีความสุข อาจมีน่าเบื่อบ้างเพราะงานมันเดิมๆ แต่บางทีเครียดๆ ได้มาวาดมันก็เพลินนะ ลืมเรื่องอื่นไปเลย พอไม่ได้ทำหลายวัน ก็คิดถึงต้องรีบกลับมาจับแปรงลงสี แม้ว่าใครจะไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำ แต่ผมก็ภูมิใจนะ”



สำหรับป้ายโฆษณาหนังวาดมือ ในอดีตจะมีขนาดใหญ่มากเท่าแผ่นโฆษณาบิลบอร์ด แต่ในปัจจุบันเหลือแค่ป้ายขนาดเดียว คือไซส์ติดรถกระบะแห่ โดยงานชนิดนี้จะใช้แผ่นไม้กระดาน นำสีขาวมาทาทับเป็นสีพื้น แล้วจึงใช้ปากกาหมึกดำร่างแบบ โดยอิงจากโปสเตอร์หนังที่บริษัทส่งมาให้ แล้วใช้สีอะคริลิค (ในอดีตใช้สีน้ำมัน ซึ่งจะสวย มันวาว แต่ต้องเปลี่ยนเพราะราคาสูงกว่า) ต่อจากนั้นก็ลงสี



โดยจุดเด่นของศิลปะชนิดนี้ คือผู้เขียนจะทำการจัดองค์ประกอบ และตีความหมายเพิ่มเติม เช่น การดึงตัวละคร หรือจุดสนใจต่างๆ มารวมกันเพื่อให้เหมาะกับไซส์ของแผ่นกระดาน และเพื่อสื่อสารไปยังคนที่ดู จะได้เข้าใจว่าหนังเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับอะไร และสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล จึงต้องเน้นโคลสอัพที่ตัวละครและหน้าคนเป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถในการวาดภาพเหมือน (Portrait) ผสมผสานกับการวาดแบบนามธรรม (Abstract)



คุณลุงบอกกับผู้เขียนว่า เขาทั้งสองคือรุ่นสุดท้ายแล้ว ที่จะวาดป้ายโฆษณาหนังในภูเก็ต (ปัจจุบันอายุ 60 กว่าๆ ทั้งคู่) เพราะเด็กสมัยใหม่ร่ำเรียนศิลปะมา ก็จะเลือกไปวาดภาพเหมือน หรือทำงานตามแกลลอรี่ ส่วนพวกมือใหม่พอคุณลุงสอนไปก็ไม่สนใจอย่างจริงจัง เพราะเป็นงานที่ยาก ต้องทำด้วยใจรัก อีกเหตุผลสำคัญที่อาจจะไม่มีผู้สืบทอดศิลปะแขนงนี้ต่อไป เพราะรายได้ที่น้อยมาก และปัญหานี้ไม่ใช่เฉพาะที่ภูเก็ต แต่เป็นทั้งภาคใต้ ที่มีนักเขียนวัย 60 กว่าๆ และไร้ซึ่งนักวาดรุ่นใหม่ บางทีอีกสักสิบหรือยี่สิบปีจากนี้ เราอาจจะไม่ได้เห็นรถแห่ป้ายโฆษณาหนังที่วาดด้วยศิลปินรุ่นเก๋าเหล่านี้อีกแล้ว

คงน่าใจหายไม่น้อยสำหรับผู้เขียน เพราะแม้ว่างานชนิดนี้จะดูเชยในสายตาของใคร และบางทีหน้าตาของตัวละครอาจดูไม่สมจริงเหมือนในโปสเตอร์ แต่ผู้เขียนก็รู้สึกปลื้มใจที่ครั้งหนึ่งเคยได้พูดคุยกับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ และได้มีส่วนในการเผยแพร่เรื่องราวไปถึงผู้อ่านผ่านบทความฉบับนี้



สำหรับผู้ที่สนใจ และต้องการสนับสนุน ลุงอี๊ดและลุงป๋อง ทั้งสองยินดีรับงานวาดภาพเหมือนหรือภาพแนวใดก็ได้ ในสไตล์แบบป้ายโฆษณาหนัง หรืองานแนวเรโทร ติดต่อได้ที่ 099-497 6719 และ 084-249 6898
---------------------------------------------------------------------------------------------
ลุงเขาอยู่ที่ถนนนิมิตร ซอย 2 ใกล้ๆกับเอ็กซ์โป กับวงเวียนม้าน้ำ ในเมืองภูเก็ต ใครผ่านไปเข้าไปให้กำลังใจลุงกันได้นะครับ หัวเราะ
ชมภาพเพิ่มเติมจากเว็บนี้ครับ http://live.phuketindex.com/th/phuket-retro-movies-art-6781.html

ถ้าเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์ รบกวนช่วยโหวตด้วยนะครับ เยี่ยม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่