ตอนนี้ผมอายุ 27 ปี ไม่ทราบว่าจะมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจไมครับ ตอนนี้กังวล + เครียดกับเรื่องนี้มาก (เพราะพ่อพึ่งเสียไปด้วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อายุ 58 ปี )
สาเหตุที่เครียดเรื่องพวกนี้ ก็เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน ผมไปปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเช้า กลับมาถึงที่บ้านก็รีบไปอาบน้ำ เพราะวันนั้นอาการค่อนข้างร้อน (ปกติผมปั่นจักรยานออกกำลังกายบ่อยเหมือนกัน ทุกทีจะไม่รีบอาบน้ำขนาดนี้ แต่วันนั้นรู้สึกพลาดครั้งใหญ่) หลังจากอาบน้ำเสร็จสักพักก็มานั่งทำหน้าที่หน้าคอมตามปกติ หลังจากนั้นสัก 5-10 นาที เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก หายใจไม่สุด อ่อนแรงเหมือนจะเป็นลม จับชีพจรดูเหมือนชีพจรจะเต้นเบา จากนั้นเรื่องต่างๆ ความฟุ้งซ่านก็เข้ามาในหัวหมด กลัวตาย กลัวเป็นโรคหัวใจเหมือนพ่อ เลยตั้งสติตะโกนเรียก แม่ ให้มาช่วย เพราะตอนเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ผมพยายามหายใจทางปาก เพราะหายใจทางจมูกมันเหมือนหายใจไม่สุด จากนั้นคนที่บ้านก็ขับรถมาส่งที่โรงพยาบาล(แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่) หมอก็บอกว่าอาการนี้เกิดจาก เส้นเลือดหดตัวเฉียบพลัน เนื่องจากไปออกกำลังกายมาเหนื่อยๆเส้นเลือดมันขยายตัว แล้วพอไปอาบน้ำ โดนน้ำเย็นๆ มันก็เลยหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดไหลเวียนไปสู่สมองได้ไม่เต็มที่ + กับความเครียดด้วย จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าวมา จากนั้นหมอก็ให้ยาคลายเครียด ยาขยายหลอดเลือด กลับมากิน หลังจากนั้นสัก 2-3 อาทิตย์ ผมก็เข้าโรงพยาบาลอีกรอบ(โรงพยาบาล ราม จ.เชียงใหม่) เพราะมีอาการเจ็บที่หน้าอกด้านซ้าย เนื่องจากตอนนั้นผมยกของหนักแล้วรู้สึกเจ็บบริเวณนั้น ก็เลยไปให้หมอตรวจที่โรงบาล (เหมือนเดิมครับ เครียด + วิตกกังวลว่าจะเป็นโรคหัวใจ) หมอสรุปว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ เนื่องจากการที่เรายกของหนัก ทำให้กล้ามเนื้อมันกระชาก บีบรัดกันเน่น อะไรประมาณนี้ หมอก็บอกว่า ไม่เป็นโรคหัวใจหรอก เพราะอาการของคนเป็นโรคหัวใจมันไม่ใช่แบบนี้ ถ้าเป็นหัวใจมันจะเต้นผิดจังหวะ ให้ลองจับชีพจรดู มีอาการเจ็บที่หน้าอกข้างในเหมือนมีคนมายืนหยีบบนหน้าอก อะไรประมาณนี้ หมอก็บอกให้ลดพวกคลอเลสเตอรอลลง (เพราะที่เข้าโรงบาลรอบแรก ผลเลือดบอกว่าผมมีคลอเรสเตอรอล สูง 290) ออกกำลังกาย ทำใจให้สงบ ไม่ต้องคิดมาก เพราะไม่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจแน่นอน จากนั้นก็ได้ ยาคล้ายกล้ามเนื้อ ยาคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่(ผมปวดบริเวณคอ เหมือนตอนเป็นเส้นเหลือดหดตัว) แล้วก็ยาคลายเครียด กลับมากินที่บ้าน จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติมาสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ก็เริ่มเครียดๆกับเรื่องพวกนี้ขึ้นมาอีก แล้วอยู่ๆไม่กี่วันที่ผ่านมาผมไปทำงานที่ลำปาง แล้วรู้สึกเหมือนจะเจ็บหน้าอกจี๊ดๆ (เจ็บประมาณไม่ถึงนาที)เอาละครับตอนนั้นเหมือนจะสติแตกแล้ว เริ่มคิดมาก หน้าเริ่มซีด เหงื่อออก มึนๆหัว เริ่มคิดมาก คิดถึงเรื่องที่หมอคนล่าสุดเค้าพูดไว้ ตอนนั้นยอมรับเลยว่ากลัวมากครับ พอเสร็จงานก็ต้องขับรถกลับเชียงใหม่ พยายามตั้งสติให้อยู่กับตัว พยายามไม่เครียด ไม่คิดฟุ้งซ่าน สุดท้ายก็ขับมาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นมาก็เริ่มคิดมากกับอาการล่าสุดที่เกิดขึ้นครับ ถึงตอนนี้ยังฟุ้งซ่านไม่หาย วิตกกังวลไม่หาย แบบนี้ผมมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมั้ยครับ .... ขออภัยนะครับถ้ามีอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับการโพส เพราะพึ่งโพสกระทู้ครั้งแรก ...ขอบคุณครับ
อายุ 27 ปี มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจไมครับ
สาเหตุที่เครียดเรื่องพวกนี้ ก็เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน ผมไปปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเช้า กลับมาถึงที่บ้านก็รีบไปอาบน้ำ เพราะวันนั้นอาการค่อนข้างร้อน (ปกติผมปั่นจักรยานออกกำลังกายบ่อยเหมือนกัน ทุกทีจะไม่รีบอาบน้ำขนาดนี้ แต่วันนั้นรู้สึกพลาดครั้งใหญ่) หลังจากอาบน้ำเสร็จสักพักก็มานั่งทำหน้าที่หน้าคอมตามปกติ หลังจากนั้นสัก 5-10 นาที เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก หายใจไม่สุด อ่อนแรงเหมือนจะเป็นลม จับชีพจรดูเหมือนชีพจรจะเต้นเบา จากนั้นเรื่องต่างๆ ความฟุ้งซ่านก็เข้ามาในหัวหมด กลัวตาย กลัวเป็นโรคหัวใจเหมือนพ่อ เลยตั้งสติตะโกนเรียก แม่ ให้มาช่วย เพราะตอนเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ผมพยายามหายใจทางปาก เพราะหายใจทางจมูกมันเหมือนหายใจไม่สุด จากนั้นคนที่บ้านก็ขับรถมาส่งที่โรงพยาบาล(แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่) หมอก็บอกว่าอาการนี้เกิดจาก เส้นเลือดหดตัวเฉียบพลัน เนื่องจากไปออกกำลังกายมาเหนื่อยๆเส้นเลือดมันขยายตัว แล้วพอไปอาบน้ำ โดนน้ำเย็นๆ มันก็เลยหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดไหลเวียนไปสู่สมองได้ไม่เต็มที่ + กับความเครียดด้วย จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าวมา จากนั้นหมอก็ให้ยาคลายเครียด ยาขยายหลอดเลือด กลับมากิน หลังจากนั้นสัก 2-3 อาทิตย์ ผมก็เข้าโรงพยาบาลอีกรอบ(โรงพยาบาล ราม จ.เชียงใหม่) เพราะมีอาการเจ็บที่หน้าอกด้านซ้าย เนื่องจากตอนนั้นผมยกของหนักแล้วรู้สึกเจ็บบริเวณนั้น ก็เลยไปให้หมอตรวจที่โรงบาล (เหมือนเดิมครับ เครียด + วิตกกังวลว่าจะเป็นโรคหัวใจ) หมอสรุปว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ เนื่องจากการที่เรายกของหนัก ทำให้กล้ามเนื้อมันกระชาก บีบรัดกันเน่น อะไรประมาณนี้ หมอก็บอกว่า ไม่เป็นโรคหัวใจหรอก เพราะอาการของคนเป็นโรคหัวใจมันไม่ใช่แบบนี้ ถ้าเป็นหัวใจมันจะเต้นผิดจังหวะ ให้ลองจับชีพจรดู มีอาการเจ็บที่หน้าอกข้างในเหมือนมีคนมายืนหยีบบนหน้าอก อะไรประมาณนี้ หมอก็บอกให้ลดพวกคลอเลสเตอรอลลง (เพราะที่เข้าโรงบาลรอบแรก ผลเลือดบอกว่าผมมีคลอเรสเตอรอล สูง 290) ออกกำลังกาย ทำใจให้สงบ ไม่ต้องคิดมาก เพราะไม่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจแน่นอน จากนั้นก็ได้ ยาคล้ายกล้ามเนื้อ ยาคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่(ผมปวดบริเวณคอ เหมือนตอนเป็นเส้นเหลือดหดตัว) แล้วก็ยาคลายเครียด กลับมากินที่บ้าน จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติมาสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ก็เริ่มเครียดๆกับเรื่องพวกนี้ขึ้นมาอีก แล้วอยู่ๆไม่กี่วันที่ผ่านมาผมไปทำงานที่ลำปาง แล้วรู้สึกเหมือนจะเจ็บหน้าอกจี๊ดๆ (เจ็บประมาณไม่ถึงนาที)เอาละครับตอนนั้นเหมือนจะสติแตกแล้ว เริ่มคิดมาก หน้าเริ่มซีด เหงื่อออก มึนๆหัว เริ่มคิดมาก คิดถึงเรื่องที่หมอคนล่าสุดเค้าพูดไว้ ตอนนั้นยอมรับเลยว่ากลัวมากครับ พอเสร็จงานก็ต้องขับรถกลับเชียงใหม่ พยายามตั้งสติให้อยู่กับตัว พยายามไม่เครียด ไม่คิดฟุ้งซ่าน สุดท้ายก็ขับมาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นมาก็เริ่มคิดมากกับอาการล่าสุดที่เกิดขึ้นครับ ถึงตอนนี้ยังฟุ้งซ่านไม่หาย วิตกกังวลไม่หาย แบบนี้ผมมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมั้ยครับ .... ขออภัยนะครับถ้ามีอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับการโพส เพราะพึ่งโพสกระทู้ครั้งแรก ...ขอบคุณครับ