เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว
ด้วยอารมณ์ที่เสียใจนิด ๆ เลยขอมาแบ่งปันและขอกำลังใจเล็กๆน้อยๆ อาจฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่บางทีก็ขำไม่ออก
ผมได้เคยรู้จักกับคนคนนึง ผ่านโซเชียลเนตเวิร์ค
และเราก็ได้คบกันช่วงนึง คบกันไม่นานครับ
แต่วันนึง เราต้องเลิกกัน ด้วยความงี่เง่าเอาแต่ใจของผม
อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ ด้วยตอนนั้นผมเรียนอยู่ ส่วนเค้าทำงานครับ จริงๆเค้าอายุน้อยกว่าผมแหละ
เลยไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไร
แต่ด้วยความเอาแต่ใจของผมเองมั้ง เลยอยากจะพบกันมากขึ้น
แล้ววันนึง เค้าก็บอกเลิกผม แต่เรายังติดต่อกันอยู่บ้างนานๆที
จนวันนึง เค้าเลิกติดต่อผมไป
เลยไม่ได้คุยกันสักพักนึง
แต่แล้ว... เมื่อผมเรียนจบ เค้าติดต่อผมมาอีกเรื่องให้ช่วยตัดเสียงริงโทนให้ เอาจริงๆตั้งแต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คบกับใครอีกเลยครับ
เรียกว่าลืมเค้าไม่ได้นั่นแหละ
แต่แล้ว ผมก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทำงานที่เดียวกับเค้า
งานที่นี่ไม่ต้องใช้ความสามารถครับ ใช้เงินและใจล้วนๆ
ถามว่าอยากทำงานนี้ไหมคงไม่ แต่เพราะอยากเจอเค้าอีก
สุดท้ายก็ได้ทำงานที่เดียวกัน ไม่ได้ตรงกับสายที่เรียนมานะครับ แต่แล้วเราก็ได้เจอกันได้คุยกันอีกรอบ
แต่เชื่อไหมครับ สิ่งที่คิดไว้ว่าจะดีขึ้นกลับแย่ลง
แรกๆดีอยู่หรอก แต่อยู่ไป ด้วยความที่นิสัยผมยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
และด้วยความที่เรารู้จักนิสัยกัน เลยทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ
สุดท้ายแล้ว เค้าก็เลิกทำงานนี้ไปครับ
ช่วงนั้นยอมรับว่าเคว้งมาก เพราะสาเหตุหลักที่เรามาทำงานที่นี่เพราะเค้าเลย
ในใจหวังว่าเค้าจะกลับมาทำงานที่นี่เหมือนเดิม
แต่ตอนนั้น งานที่ทำยังไม่ขยายอะไรมาก ตอนแรกกะว่า
จะเลิกทำดีไหม แล้วกลับไปทำงานตามสายที่เรียนมา
แต่แล้ว งานที่ผมทำมันกลับขยายอย่างรวดเร็วครับ
ทำให้ผมลุยอีกครั้งกับงาน แต่ในใจหวังไว้ลึกๆว่าเค้าจะกลับมา
ผมโดนด่าสาระพัด ครับ แต่ผมไม่เคยโกรธหรือเกลียดอะไรนะครับ
ที่โดนด่าเพราะผมคงทำไม่ดีไว้กับเค้าด้านความรู้สึกครับ
สุดท้ายเเล้ว ผมยังคงต้องทำงานที่นี่ต่อไปครับเนื่องจากองค์กรเริ่มขยายใหญ่ขึ้น และเราน้องเป็นคนดูแลครับ ทำให้เราอ่อนแอไม่ได้เลยต้องเข้มแข็งเสมอครับ
เค้าเป็นคนที่ทำงานค่อนข้างเก่งครับ เมื่อก่อนตอนมีเค้าอยู่ยังพอช่วยได้บ้าง แม้จะมีปัญหากันบ่อย
ทำงานไปเรื่อยๆพร้อมความหวังว่าเค้าจะกลับมา
ระหว่างนั้นมีติดต่อกันบ้างครับ ทางไลน์ ทางโทรศัพท์
แต่แล้ว ด้วยความงี่เง่าของผม ผมเลยแอบเป็นสโตรกเกอร์ครับ
คือติดตามเค้าตลอดไม่ว่าเค้าจะไปไหน ทำอะไรกับใคร
มันเหมือนแบบวุ่นวายกับชีวิตเค้าครับ
เอาจริงๆคือเราลืมไม่ได้ และอีกอย่างงานที่ทำไม่มีโอกาสได้ไปเจอใครเลยครับ เลยไม่ได้ไปคบหรือหาคนคุยใหม่
หลังจากที่ผมวุ่นวายกับเค้ามากๆ เรื่มบล๊อกไลน์ จนกระทั่งห้ามโทรติดต่อ ให้ส่งข้อความมาอย่างเดียว
แต่แล้ววันนี้ที่ผมตัดสินใจ ที่จะออกจากชีวิตเค้าสักที
คือผมได้ใช้ความเป็นนักสืบพันทิพย์ สืบจนรู้ว่าเค้ากำลังคบกับใครอยู่ครับ
แม้เค้าจะบอกผมว่าเป็นแค่พี่ แต่ก็รู้นะครับว่าไม่มีสิทธิ์ครับ
ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับชีวิตส่วนตัวเค้า
จนวันนี้ผมยังต้องทำงานที่นี่อยู่ครับ
แต่มันเรื่องตลกตรงที่ว่า ผมทำงานที่นี่เค้ายังรับรายได้จากสอ่งที่ผมทำอยู่ครับ
พูดง่ายๆ คือเค้าใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ก็ได้เงินจากสิ่งที่ผมทำอยู่บ้างแม้ไม่เยอะมาก ซึ่งจะให้ผมหยุดทำตอนนี้ไม่ได้ครับ เพราะผมมีคนที่ต้องดูแลในการทำงานเยอะขึ้นทุกวันครับ
แต่ในใจลึกๆคิดว่า ผมทำแต่เค้าได้รับเงินจากสิ่งที่ผมทำ
ทำให้ในใจบางครั้งรู้สึกแย่มากๆ ที่มาโดนทิ้งแล้ว ทิ้งอีกแบบนี้ครับ
เหมือนเวรกรรม ของผมหรือะไรสักอย่าง เมื่องานที่ผมทำมันสามารถทำเงินให้เค้าได้ตลอดชีวิตครับ นึกแล้วเจ็บแปล๊บๆ บางทีก็แอบคิดครับ เค้ามีความสุข จากเงินที่ผมกับทีมงานทำ แม้จะไม่เยอะ แต่ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนไม่ได้ครับ
และมันจะไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ด้วยครับ
ยอมรับครับว่าที่ผ่านมา ติดตาม แอบสืบจนรู้ว่าเค้าไปไหนกับใครอะไรยังไง ?
มันหยุดคิดไม่ได้ครับ ได้แต่คิดว่า พรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่
อยากจะไม่ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันอีกครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าอยากให้เป็นแบบนั้นคือผมต้องเลิหทำงานที่นี่ ซึ่งตอนนี้ยังทำแบบนั้นไม่ได้ครับ เพราะต้องดูแลทีมงาน
ได้แต่ปล่อยวางครับ เหมือนเจ็บแล้วเจ็บอีก พอจะลืม ก็ต้องมีเหตุต้องติดต่อ หรือต้องเจอ บางครั้งชีวิตเราก็เล่นตลกนะครับ
ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำงานกับความรู้สึกแบบนี้ ได้แต่คิดว่าทำเพื่อตัวเอง ครอบครัว และเพื่อทีมงาน
แต่อีกใจก็เจ็บตลอดครับ ที่ตัดสินใจมาทำงานที่นี่เอง
แต่แล้วก็โดนทิ้ง หันหลังกลับไปไม่ได้ซะด้วย
ขอบคุณนิสับนักสืบ pantip ที่ทำให้ผมค้นพบความจริง ...
ด้วยอารมณ์ที่เสียใจนิด ๆ เลยขอมาแบ่งปันและขอกำลังใจเล็กๆน้อยๆ อาจฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่บางทีก็ขำไม่ออก
ผมได้เคยรู้จักกับคนคนนึง ผ่านโซเชียลเนตเวิร์ค
และเราก็ได้คบกันช่วงนึง คบกันไม่นานครับ
แต่วันนึง เราต้องเลิกกัน ด้วยความงี่เง่าเอาแต่ใจของผม
อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ ด้วยตอนนั้นผมเรียนอยู่ ส่วนเค้าทำงานครับ จริงๆเค้าอายุน้อยกว่าผมแหละ
เลยไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไร
แต่ด้วยความเอาแต่ใจของผมเองมั้ง เลยอยากจะพบกันมากขึ้น
แล้ววันนึง เค้าก็บอกเลิกผม แต่เรายังติดต่อกันอยู่บ้างนานๆที
จนวันนึง เค้าเลิกติดต่อผมไป
เลยไม่ได้คุยกันสักพักนึง
แต่แล้ว... เมื่อผมเรียนจบ เค้าติดต่อผมมาอีกเรื่องให้ช่วยตัดเสียงริงโทนให้ เอาจริงๆตั้งแต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คบกับใครอีกเลยครับ
เรียกว่าลืมเค้าไม่ได้นั่นแหละ
แต่แล้ว ผมก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทำงานที่เดียวกับเค้า
งานที่นี่ไม่ต้องใช้ความสามารถครับ ใช้เงินและใจล้วนๆ
ถามว่าอยากทำงานนี้ไหมคงไม่ แต่เพราะอยากเจอเค้าอีก
สุดท้ายก็ได้ทำงานที่เดียวกัน ไม่ได้ตรงกับสายที่เรียนมานะครับ แต่แล้วเราก็ได้เจอกันได้คุยกันอีกรอบ
แต่เชื่อไหมครับ สิ่งที่คิดไว้ว่าจะดีขึ้นกลับแย่ลง
แรกๆดีอยู่หรอก แต่อยู่ไป ด้วยความที่นิสัยผมยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
และด้วยความที่เรารู้จักนิสัยกัน เลยทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ
สุดท้ายแล้ว เค้าก็เลิกทำงานนี้ไปครับ
ช่วงนั้นยอมรับว่าเคว้งมาก เพราะสาเหตุหลักที่เรามาทำงานที่นี่เพราะเค้าเลย
ในใจหวังว่าเค้าจะกลับมาทำงานที่นี่เหมือนเดิม
แต่ตอนนั้น งานที่ทำยังไม่ขยายอะไรมาก ตอนแรกกะว่า
จะเลิกทำดีไหม แล้วกลับไปทำงานตามสายที่เรียนมา
แต่แล้ว งานที่ผมทำมันกลับขยายอย่างรวดเร็วครับ
ทำให้ผมลุยอีกครั้งกับงาน แต่ในใจหวังไว้ลึกๆว่าเค้าจะกลับมา
ผมโดนด่าสาระพัด ครับ แต่ผมไม่เคยโกรธหรือเกลียดอะไรนะครับ
ที่โดนด่าเพราะผมคงทำไม่ดีไว้กับเค้าด้านความรู้สึกครับ
สุดท้ายเเล้ว ผมยังคงต้องทำงานที่นี่ต่อไปครับเนื่องจากองค์กรเริ่มขยายใหญ่ขึ้น และเราน้องเป็นคนดูแลครับ ทำให้เราอ่อนแอไม่ได้เลยต้องเข้มแข็งเสมอครับ
เค้าเป็นคนที่ทำงานค่อนข้างเก่งครับ เมื่อก่อนตอนมีเค้าอยู่ยังพอช่วยได้บ้าง แม้จะมีปัญหากันบ่อย
ทำงานไปเรื่อยๆพร้อมความหวังว่าเค้าจะกลับมา
ระหว่างนั้นมีติดต่อกันบ้างครับ ทางไลน์ ทางโทรศัพท์
แต่แล้ว ด้วยความงี่เง่าของผม ผมเลยแอบเป็นสโตรกเกอร์ครับ
คือติดตามเค้าตลอดไม่ว่าเค้าจะไปไหน ทำอะไรกับใคร
มันเหมือนแบบวุ่นวายกับชีวิตเค้าครับ
เอาจริงๆคือเราลืมไม่ได้ และอีกอย่างงานที่ทำไม่มีโอกาสได้ไปเจอใครเลยครับ เลยไม่ได้ไปคบหรือหาคนคุยใหม่
หลังจากที่ผมวุ่นวายกับเค้ามากๆ เรื่มบล๊อกไลน์ จนกระทั่งห้ามโทรติดต่อ ให้ส่งข้อความมาอย่างเดียว
แต่แล้ววันนี้ที่ผมตัดสินใจ ที่จะออกจากชีวิตเค้าสักที
คือผมได้ใช้ความเป็นนักสืบพันทิพย์ สืบจนรู้ว่าเค้ากำลังคบกับใครอยู่ครับ
แม้เค้าจะบอกผมว่าเป็นแค่พี่ แต่ก็รู้นะครับว่าไม่มีสิทธิ์ครับ
ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับชีวิตส่วนตัวเค้า
จนวันนี้ผมยังต้องทำงานที่นี่อยู่ครับ
แต่มันเรื่องตลกตรงที่ว่า ผมทำงานที่นี่เค้ายังรับรายได้จากสอ่งที่ผมทำอยู่ครับ
พูดง่ายๆ คือเค้าใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ก็ได้เงินจากสิ่งที่ผมทำอยู่บ้างแม้ไม่เยอะมาก ซึ่งจะให้ผมหยุดทำตอนนี้ไม่ได้ครับ เพราะผมมีคนที่ต้องดูแลในการทำงานเยอะขึ้นทุกวันครับ
แต่ในใจลึกๆคิดว่า ผมทำแต่เค้าได้รับเงินจากสิ่งที่ผมทำ
ทำให้ในใจบางครั้งรู้สึกแย่มากๆ ที่มาโดนทิ้งแล้ว ทิ้งอีกแบบนี้ครับ
เหมือนเวรกรรม ของผมหรือะไรสักอย่าง เมื่องานที่ผมทำมันสามารถทำเงินให้เค้าได้ตลอดชีวิตครับ นึกแล้วเจ็บแปล๊บๆ บางทีก็แอบคิดครับ เค้ามีความสุข จากเงินที่ผมกับทีมงานทำ แม้จะไม่เยอะ แต่ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนไม่ได้ครับ
และมันจะไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ด้วยครับ
ยอมรับครับว่าที่ผ่านมา ติดตาม แอบสืบจนรู้ว่าเค้าไปไหนกับใครอะไรยังไง ?
มันหยุดคิดไม่ได้ครับ ได้แต่คิดว่า พรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่
อยากจะไม่ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันอีกครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าอยากให้เป็นแบบนั้นคือผมต้องเลิหทำงานที่นี่ ซึ่งตอนนี้ยังทำแบบนั้นไม่ได้ครับ เพราะต้องดูแลทีมงาน
ได้แต่ปล่อยวางครับ เหมือนเจ็บแล้วเจ็บอีก พอจะลืม ก็ต้องมีเหตุต้องติดต่อ หรือต้องเจอ บางครั้งชีวิตเราก็เล่นตลกนะครับ
ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำงานกับความรู้สึกแบบนี้ ได้แต่คิดว่าทำเพื่อตัวเอง ครอบครัว และเพื่อทีมงาน
แต่อีกใจก็เจ็บตลอดครับ ที่ตัดสินใจมาทำงานที่นี่เอง
แต่แล้วก็โดนทิ้ง หันหลังกลับไปไม่ได้ซะด้วย