สืบเนื่องจากกระทู้
http://pantip.com/topic/32298774 >>> ตอน 1 หัวข้อ 1-9
http://pantip.com/topic/32301202 >>> ตอน 2 หัวข้อ 10-14
http://pantip.com/topic/32303355 >>> ตอน 3 หัวข้อ 15-19
*** เหมือนเดิม ชอบ กดโหวตเป็นกำลังใจผู้เขียนได้ครัช ^^
เรามาเริ่มตอนสุดท้ายกันเล้ยย
20.Shirakawago
หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ
ผมตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรสบัสโดยสาร เดินทางจากสถานที Takayama ไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
โดยรอบรถโดยสารจะแบ่งเป็นทั้งแบบที่ต้องจองล่วงหน้า (จองผ่านโทรศัพท์หรือจองที่ห้องขายตั๋วเลยก็ได้) กับแบบ Walk-in
ต้องเช็คให้ดีครับ เพราะบางช่วงเวลาที่คนเที่ยวเยอะๆ (เช่น ช่วงเทศกาล Light-up ที่ช่วงค่ำหมู่บ้านจะมีการเปิดไฟประดับประดาสวยงามอร่ามตาคับ) อาจประสบปัญหาที่นั่งเต็ม ต้องเลื่อนรอบ เสียเวลาเที่ยวได้
เมื่อไปถึง รสบัสจะจอดส่งเราไว้บริเวณท่าเทียบรถ ซึ่งทั้งรถบัสและรถส่วนตัวต้องมาจอดบริเวณนี้
และด้านข้างก็จะเป็น Tourist information ห้องขายตั๋ว ห้องน้ำ เป็นจุดเดียวกัน
ไว้สำหรับสอบถามข้อมูล ขอแผ่นที่ (มีแผนที่ภาษาไทยไว้บริการด้วย แต่...ผมว่าเลือกภาษาอังกฤษดีกว่า เพราะ เวอชั่นไทยเค้าแปลแบบภาษาคาราโอกะ ซึ่งการใช้งานจริงต้องไป decode อีกต่อ ใช้ english เวอชั่นดีกว่าครับ) ซื้อตั๋วกลับ รวมถึงฝากกระเป๋า เข้าห้องน้ำคับ
โดยบริเวณหน้าจุดชายตั๋วนี้ จะมีสวนปลูกด้วยไม้เล็กๆน่ารักไว้ให้นั่งรอเพื่อนได้ มีเก้าอี้ในร่ม
หน้าตา จุดขายตั๋ว
ถัดจากจัดขายตั๋ว บริเวณด้านหน้าก็จะเป็นทางเดินสะพานขนาดเล็กทอดยาว เพื่อเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน
ความพิเศษของหมู่บ้านมกดกโลกแห่งนี้ คือ หลังคาทรงสูงที่มีความชันมากถึง 60 องศากับพื้นดิน จนดูเหมือนคนพนมมือ
ภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่าเป็นรูปแบบกัสโช (Gassho-zukuri) ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ
ซึ่งหลังคาประเภทนี้ ช่วงหน้าหนาว หิมะ จะสามารถป้องกันหิมะกองบนหลังคาได้อย่างดี อีกทั้งยังเป็นฉนวนกันความหนาวและลมได้เป็นอย่างดี
ภูมิปัญญาชาวบ้านจริงๆ
ปล.ถ้าจำไม่ผิดเคยดูรายการทีวี เห็นว่าการเปลี่ยนหลังคาประเภทนี้ครั้งนึงต้องใช้เงินระดับ 10 ล้านเยน +_+
ชอบมุมนี้ครับ ^^
จากข้อมูลที่เคยหาๆมา หมู่บ้านนี้มีหลายหลังที่รับลูกค้าเป็นลักษณะ Home stay พักแบบญี่ปุ่น+อาหารเย็น ด้วยนะครับ
แต่ราคาแอบสูงอยู่เหมือนกัน ใครเคยไปพัก รบกวนแชร์ประสบการณ์ด้วยครัช ^^
น่าจะได้ อารมณ์ฝุดๆไปเลย
หลังจากเดินลัดเลาะอยู่ประมาณชม.กว่าๆ ผมก็ได้เปลี่ยนไปชมหมู่บ้านในจุด View point ซึ่งต้องนั่งรถบัสขึ้นเขาไปประมาณ 10 นาที (หรือเดินก็ได้นะคับ
มีทางเท้าเดินได้ประมาณ 30 นาที แต่ผมแนะนำนั่งรถไปดีกว่าคับ ระหว่างทางไม่ได้มีอะไรมากนัก) โดยต้องไปขึ้นที่จัดรับส่ง ซึ่งมีอยู่ในแผนที่
ภาพจากจุดชมวิว
สวยงามทีเดียวครับ บริเวณจุดชมวิว จะมีช่างภาพมาบริการถ่ายภาพให้ด้วย (เสียเงินนะครับ)
และมีของกินนิดๆหน่อยๆให้พอรองท้องได้
กลับลงมาผมเดินเล่นต่ออีกซักพัก ก็ใกล้จะถึงเวลารถออกเพื่อที่จะเดินทางต่อ
เดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง มีคุณลุงนั่งเครียดอยู่หน้าร้าน เหมือนแกจะเป็นเจ้าของร้านนะคับ
มันสอดรับกับรูปปั้นพอดี เลยมาแชร์คับ 55
สุดท้ายนี้
สำหรับ ชิราคาวาโกะ ส่วนตัวผมวางแผนใช้เวลาที่นี่ประมาณ 2 - 2 ชม ครึ่ง แต่
ผมกลับมองว่าน้อยไปหน่อย เพราะแอบเร่งหาของกิน ไม่ได้ละเมียดละไมเท่าไร
ส่วนตัวอยากแนะนำซัก 3-4 ชม เป็นอย่างน้อยสำหรับที่นี่คับผม ^^
[CR] ••• 23 หัวข้อ บันทึกการเดินทางของผม Osaka/Kaga Onsen/Kanazawa/Takayama/Shirakawago ••• ตอน 4 (จบ)
http://pantip.com/topic/32298774 >>> ตอน 1 หัวข้อ 1-9
http://pantip.com/topic/32301202 >>> ตอน 2 หัวข้อ 10-14
http://pantip.com/topic/32303355 >>> ตอน 3 หัวข้อ 15-19
*** เหมือนเดิม ชอบ กดโหวตเป็นกำลังใจผู้เขียนได้ครัช ^^
เรามาเริ่มตอนสุดท้ายกันเล้ยย
20.Shirakawago
หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ
ผมตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรสบัสโดยสาร เดินทางจากสถานที Takayama ไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
โดยรอบรถโดยสารจะแบ่งเป็นทั้งแบบที่ต้องจองล่วงหน้า (จองผ่านโทรศัพท์หรือจองที่ห้องขายตั๋วเลยก็ได้) กับแบบ Walk-in
ต้องเช็คให้ดีครับ เพราะบางช่วงเวลาที่คนเที่ยวเยอะๆ (เช่น ช่วงเทศกาล Light-up ที่ช่วงค่ำหมู่บ้านจะมีการเปิดไฟประดับประดาสวยงามอร่ามตาคับ) อาจประสบปัญหาที่นั่งเต็ม ต้องเลื่อนรอบ เสียเวลาเที่ยวได้
เมื่อไปถึง รสบัสจะจอดส่งเราไว้บริเวณท่าเทียบรถ ซึ่งทั้งรถบัสและรถส่วนตัวต้องมาจอดบริเวณนี้
และด้านข้างก็จะเป็น Tourist information ห้องขายตั๋ว ห้องน้ำ เป็นจุดเดียวกัน
ไว้สำหรับสอบถามข้อมูล ขอแผ่นที่ (มีแผนที่ภาษาไทยไว้บริการด้วย แต่...ผมว่าเลือกภาษาอังกฤษดีกว่า เพราะ เวอชั่นไทยเค้าแปลแบบภาษาคาราโอกะ ซึ่งการใช้งานจริงต้องไป decode อีกต่อ ใช้ english เวอชั่นดีกว่าครับ) ซื้อตั๋วกลับ รวมถึงฝากกระเป๋า เข้าห้องน้ำคับ
โดยบริเวณหน้าจุดชายตั๋วนี้ จะมีสวนปลูกด้วยไม้เล็กๆน่ารักไว้ให้นั่งรอเพื่อนได้ มีเก้าอี้ในร่ม
หน้าตา จุดขายตั๋ว
ถัดจากจัดขายตั๋ว บริเวณด้านหน้าก็จะเป็นทางเดินสะพานขนาดเล็กทอดยาว เพื่อเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน
ความพิเศษของหมู่บ้านมกดกโลกแห่งนี้ คือ หลังคาทรงสูงที่มีความชันมากถึง 60 องศากับพื้นดิน จนดูเหมือนคนพนมมือ
ภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่าเป็นรูปแบบกัสโช (Gassho-zukuri) ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ
ซึ่งหลังคาประเภทนี้ ช่วงหน้าหนาว หิมะ จะสามารถป้องกันหิมะกองบนหลังคาได้อย่างดี อีกทั้งยังเป็นฉนวนกันความหนาวและลมได้เป็นอย่างดี
ภูมิปัญญาชาวบ้านจริงๆ
ปล.ถ้าจำไม่ผิดเคยดูรายการทีวี เห็นว่าการเปลี่ยนหลังคาประเภทนี้ครั้งนึงต้องใช้เงินระดับ 10 ล้านเยน +_+
ชอบมุมนี้ครับ ^^
จากข้อมูลที่เคยหาๆมา หมู่บ้านนี้มีหลายหลังที่รับลูกค้าเป็นลักษณะ Home stay พักแบบญี่ปุ่น+อาหารเย็น ด้วยนะครับ
แต่ราคาแอบสูงอยู่เหมือนกัน ใครเคยไปพัก รบกวนแชร์ประสบการณ์ด้วยครัช ^^
น่าจะได้ อารมณ์ฝุดๆไปเลย
หลังจากเดินลัดเลาะอยู่ประมาณชม.กว่าๆ ผมก็ได้เปลี่ยนไปชมหมู่บ้านในจุด View point ซึ่งต้องนั่งรถบัสขึ้นเขาไปประมาณ 10 นาที (หรือเดินก็ได้นะคับ
มีทางเท้าเดินได้ประมาณ 30 นาที แต่ผมแนะนำนั่งรถไปดีกว่าคับ ระหว่างทางไม่ได้มีอะไรมากนัก) โดยต้องไปขึ้นที่จัดรับส่ง ซึ่งมีอยู่ในแผนที่
ภาพจากจุดชมวิว
สวยงามทีเดียวครับ บริเวณจุดชมวิว จะมีช่างภาพมาบริการถ่ายภาพให้ด้วย (เสียเงินนะครับ)
และมีของกินนิดๆหน่อยๆให้พอรองท้องได้
กลับลงมาผมเดินเล่นต่ออีกซักพัก ก็ใกล้จะถึงเวลารถออกเพื่อที่จะเดินทางต่อ
เดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง มีคุณลุงนั่งเครียดอยู่หน้าร้าน เหมือนแกจะเป็นเจ้าของร้านนะคับ
มันสอดรับกับรูปปั้นพอดี เลยมาแชร์คับ 55
สุดท้ายนี้
สำหรับ ชิราคาวาโกะ ส่วนตัวผมวางแผนใช้เวลาที่นี่ประมาณ 2 - 2 ชม ครึ่ง แต่
ผมกลับมองว่าน้อยไปหน่อย เพราะแอบเร่งหาของกิน ไม่ได้ละเมียดละไมเท่าไร
ส่วนตัวอยากแนะนำซัก 3-4 ชม เป็นอย่างน้อยสำหรับที่นี่คับผม ^^