“คือเราไม่ได้ต่อต้าน ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่คุณพูดมันไม่ดี แต่คนที่อยู่กับลูกคือเรา ไม่ต้องยัดเยียดความเป็นอัจริยะให้ลูกเราหรอกค่ะ เพราะเราคิดว่าลูกเราปกติเหมือนเด็กทั่วไป”
นี่คือประโยคที่เราตอบผู้หวังดีคนนึงที่พยายามบอกว่าเรา ให้พาลูกเราไปตรวจ IQ เพราะเค้าคิดว่าลูกเราเป็นเด็กอัจริยะ (Gifted Child) ซึ่งมันบ้ามากๆ สำหรับเรา พอถามว่าทำไมคิดว่าลูกเราเป็น
คำตอบ คือ
ลูกเราพัฒนาการเร็วไปเมื่อเทียบกับลูกเค้า คือ อายุเท่ากัน แต่ลูกเราพูดคุยโต้ตอบกับผู้ใหญ่รู้เรื่องทุกอย่าง เล่าเรื่องราวที่เค้าเจอให้เราฟังได้ ยกตัวอย่างนะคะ ไปโรงเรียน แล้วครูดุพี่เลี้ยง เค้าก็เล่าให้เราฟังว่า คุณครูกับพี่ซัน(พี่เลี้ยง) ทะเลาะกัน อย่างเค้าโดนพี่แกล้ง เค้าก็จะบอกเราว่า หนูโดนพี่ซันตี ล่าสุดเมื่อคืน บอกเราว่า หนูดูหนัง มีลิงเยอะแยะเลย ลิง 2 ตัวทะเลาะกัน ลิงนิสัยไม่ดี (เจ๊เค้าดูพิภพวานรภาคแรกอยู่ เลยไปนั่งดูกับเจ๊)
ลูกเราจดจำอะไรได้ดี เราให้ดูรายการแอนิมอลสปีค ที่น้องคนดีเป็นพิธีกร ในรายการพูดว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ เค้าก็เอาไปพูดต่อได้ แต่เรามั่นใจว่าลูกเราไม่เข้าใจความหมาย และกว่าเค้าจะจำคำพูดนี้ได้ เค้าดูหลายรอบไม่ใช่รอบเดียว
หรือเค้าสามารถพูดบอกอารมณ์เค้า ณ ตอนนั้นได้ เช่น มีคนขัดใจหรือพูดอะไรไม่ถูกใจ เค้าจะบอกว่า น่าเบื่อมาก หรือ พูดอะไรไม่ถูกต้อง เค้าจะบอกว่า มั่วแล้ว
ลูกเรากินข้าวเอง ลูกเราแต่งตัวเอง เลือกเสื้อผ้าเอง แต่ ก็แล้วแต่อารมณ์อยากทำนะคะ
ลูกเราสามารถทำอะไรๆ ได้หลายอย่างที่ลูกเค้าทำไม่ได้ สรุปลูกเราเลยกลายเป็นอัจริยะในสายตาเค้า ที่พูดเหมือนคุณจะหวังดี แต่เรารู้สึกว่าลึกๆ อยากให้มองว่าลูกเรามีปัญหา เราต้องเครียด ต้องหาทางแก้
แต่จริงๆ เราอยากจะบอกคุณว่า กว่าลูกเราจะเป็นแบบนี้ได้ มันมีที่มาที่ไป เราเลี้ยงลูกแบบไหน คุณเลี้ยงลูกแบบไหนแล้วคุณกับเราเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน แล้วจะให้ลูกเรากับลูกคุณพัฒนาการเหมือนกันได้อย่างไร
เรื่องการพูด การเข้าใจ การตอบโต้ผู้ใหญ่ เพราะ เราให้ความสำคัญกับการพูดคุยกับลูก เราคุยกับลูกเราทุกอย่างตั้งแต่ลูกเรายังพูดไม่ได้ พูดช้าๆ ชัดๆ ให้เค้าฟัง ให้เข้าใจ แล้วที่สำคัญ เราฟังในสิ่งที่ลูกเราพูด เรากระตุ้นให้ลูกเราพูด ด้วยการถามและฟังสิ่งที่เค้าตอบ
เราเลี้ยงลูกด้วยการให้ดูการ์ตูน ให้ดูยูทูปก็จริง แต่เราดูกับลูก แล้วบอกเค้าว่าในทีวี ในการ์ตูน ในยูทูปคืออะไร เราต้องหัดร้องเพลงเด็ก เต้นเหมือนเด็ก ทำตัวเองกลับไปเป็นเด็กแล้วเรียนรุ้ทุกอย่างไปพร้อมกับลูก
เราเลี้ยงลูกแบบแม่ขี้เกียจ แบบแม่ที่คิดว่าไม่มีแม่ ลูก็ต้องอยู่ได้ เราให้ลูกเราหัดกินอาหารเองตอนที่ลูกเรานั่งได้ ตั้งแต่ 8 เดือน เอาอาหารใส่ถ้วย เอาช้อนวางไว้ให้ แม่ป้อนด้วย ลูกกินเองด้วย หกเลอะเทอะก็เก็บเช็ด ล้างเอา กินเสร็จอาบน้ำทุกรอบ
แม้แต่เสื้อผ้า จะใส่อะไรเราก็ถามลูก ถามตั้งแต่ลูกยังตอบไม่ได้ เข้าใจไม่เข้าใจ ตอบได้ตอบไม่ได้เราก็ถาม เพื่อให้เค้ามีความมั่นใจในตัวเอง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวเค้า จนปัจจุบัน ถ้าเราหยิบเสื้อผ้ามาไม่ถูกใจ เค้าก็จะบอกว่าไม่เอาชุดนี้ เอาชุดใหม่ เลือกเอง
หรือแม้แต่การซื้อของให้ลูก ถ้าเค้าไปด้วย เราจะให้เค้าเลือกเอง ถ้าเลือกมาโอเค ก็ตามนั้น แต่ถ้ามันไม่ได้ไม่โอเค เราจะอธิบายเค้า ว่าทำไมไม่ได้ บางทีอธิบายนานมาก ก็ต้องอธิบายหาทางหลอกหล่อให้เค้าเข้าใจ
ก่อนนอน คุณเคยนอนคุยกับลูกไหม เคยเล่าเรื่องที่คุณเจอให้ลูกฟังไหม เคยถามเค้าไหมว่าเจออะไรมาบ้างวันนี้เล่าให้แม่ฟังหน่อยสิ
เราขอบคุณจริงๆ ที่หวังดี แต่เรามั่นใจว่าลูกเราปกติ เค้าแค่อาจจะเรียนรุ้เร็ว และจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้เร็ว ช่วยเหลือตัวเองได้ เท่านั้นเอง
เราไม่ได้บอกว่าวิธีการเลี้ยงลูกของเราถูก เราไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลาแบบคุณ เราต้องทำงาน เช้าส่งเนิร์ส เย็นรับกลับ เวลาอยู่กับลูกเราน้อยกว่าคุณด้วยซ้ำ แต่เรามั่นใจว่า เวลาที่เราอยู่กับลูกเราเต็มที่กับสิ่งที่เราทำให้เค้า
ถ้าคุณอยากให้ลูกคุณพัฒนาแบบลูกเรา ก็ลองเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูสิ จากที่คิดแทนลูก ทำให้ลูกทุกอย่าง ก็ลองเปลี่ยนมาให้เค้าได้ลองจัดการชีวิตตัวเองเรื่องง่ายๆ บ้าง เผื่อพัฒนาการเค้าจะดีขึ้น
ขอบคุณทุกคนที่รับฟัง และเข้าใจ เราแค่อยากระบาย
ปล. ลูกเราเป็นผู้หญิงอายุ 2 ขวบ 4 เดือน
คิดได้ยังไงว่าลูกเราเป็น Gifted child
นี่คือประโยคที่เราตอบผู้หวังดีคนนึงที่พยายามบอกว่าเรา ให้พาลูกเราไปตรวจ IQ เพราะเค้าคิดว่าลูกเราเป็นเด็กอัจริยะ (Gifted Child) ซึ่งมันบ้ามากๆ สำหรับเรา พอถามว่าทำไมคิดว่าลูกเราเป็น
คำตอบ คือ
ลูกเราพัฒนาการเร็วไปเมื่อเทียบกับลูกเค้า คือ อายุเท่ากัน แต่ลูกเราพูดคุยโต้ตอบกับผู้ใหญ่รู้เรื่องทุกอย่าง เล่าเรื่องราวที่เค้าเจอให้เราฟังได้ ยกตัวอย่างนะคะ ไปโรงเรียน แล้วครูดุพี่เลี้ยง เค้าก็เล่าให้เราฟังว่า คุณครูกับพี่ซัน(พี่เลี้ยง) ทะเลาะกัน อย่างเค้าโดนพี่แกล้ง เค้าก็จะบอกเราว่า หนูโดนพี่ซันตี ล่าสุดเมื่อคืน บอกเราว่า หนูดูหนัง มีลิงเยอะแยะเลย ลิง 2 ตัวทะเลาะกัน ลิงนิสัยไม่ดี (เจ๊เค้าดูพิภพวานรภาคแรกอยู่ เลยไปนั่งดูกับเจ๊)
ลูกเราจดจำอะไรได้ดี เราให้ดูรายการแอนิมอลสปีค ที่น้องคนดีเป็นพิธีกร ในรายการพูดว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ เค้าก็เอาไปพูดต่อได้ แต่เรามั่นใจว่าลูกเราไม่เข้าใจความหมาย และกว่าเค้าจะจำคำพูดนี้ได้ เค้าดูหลายรอบไม่ใช่รอบเดียว
หรือเค้าสามารถพูดบอกอารมณ์เค้า ณ ตอนนั้นได้ เช่น มีคนขัดใจหรือพูดอะไรไม่ถูกใจ เค้าจะบอกว่า น่าเบื่อมาก หรือ พูดอะไรไม่ถูกต้อง เค้าจะบอกว่า มั่วแล้ว
ลูกเรากินข้าวเอง ลูกเราแต่งตัวเอง เลือกเสื้อผ้าเอง แต่ ก็แล้วแต่อารมณ์อยากทำนะคะ
ลูกเราสามารถทำอะไรๆ ได้หลายอย่างที่ลูกเค้าทำไม่ได้ สรุปลูกเราเลยกลายเป็นอัจริยะในสายตาเค้า ที่พูดเหมือนคุณจะหวังดี แต่เรารู้สึกว่าลึกๆ อยากให้มองว่าลูกเรามีปัญหา เราต้องเครียด ต้องหาทางแก้
แต่จริงๆ เราอยากจะบอกคุณว่า กว่าลูกเราจะเป็นแบบนี้ได้ มันมีที่มาที่ไป เราเลี้ยงลูกแบบไหน คุณเลี้ยงลูกแบบไหนแล้วคุณกับเราเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน แล้วจะให้ลูกเรากับลูกคุณพัฒนาการเหมือนกันได้อย่างไร
เรื่องการพูด การเข้าใจ การตอบโต้ผู้ใหญ่ เพราะ เราให้ความสำคัญกับการพูดคุยกับลูก เราคุยกับลูกเราทุกอย่างตั้งแต่ลูกเรายังพูดไม่ได้ พูดช้าๆ ชัดๆ ให้เค้าฟัง ให้เข้าใจ แล้วที่สำคัญ เราฟังในสิ่งที่ลูกเราพูด เรากระตุ้นให้ลูกเราพูด ด้วยการถามและฟังสิ่งที่เค้าตอบ
เราเลี้ยงลูกด้วยการให้ดูการ์ตูน ให้ดูยูทูปก็จริง แต่เราดูกับลูก แล้วบอกเค้าว่าในทีวี ในการ์ตูน ในยูทูปคืออะไร เราต้องหัดร้องเพลงเด็ก เต้นเหมือนเด็ก ทำตัวเองกลับไปเป็นเด็กแล้วเรียนรุ้ทุกอย่างไปพร้อมกับลูก
เราเลี้ยงลูกแบบแม่ขี้เกียจ แบบแม่ที่คิดว่าไม่มีแม่ ลูก็ต้องอยู่ได้ เราให้ลูกเราหัดกินอาหารเองตอนที่ลูกเรานั่งได้ ตั้งแต่ 8 เดือน เอาอาหารใส่ถ้วย เอาช้อนวางไว้ให้ แม่ป้อนด้วย ลูกกินเองด้วย หกเลอะเทอะก็เก็บเช็ด ล้างเอา กินเสร็จอาบน้ำทุกรอบ
แม้แต่เสื้อผ้า จะใส่อะไรเราก็ถามลูก ถามตั้งแต่ลูกยังตอบไม่ได้ เข้าใจไม่เข้าใจ ตอบได้ตอบไม่ได้เราก็ถาม เพื่อให้เค้ามีความมั่นใจในตัวเอง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวเค้า จนปัจจุบัน ถ้าเราหยิบเสื้อผ้ามาไม่ถูกใจ เค้าก็จะบอกว่าไม่เอาชุดนี้ เอาชุดใหม่ เลือกเอง
หรือแม้แต่การซื้อของให้ลูก ถ้าเค้าไปด้วย เราจะให้เค้าเลือกเอง ถ้าเลือกมาโอเค ก็ตามนั้น แต่ถ้ามันไม่ได้ไม่โอเค เราจะอธิบายเค้า ว่าทำไมไม่ได้ บางทีอธิบายนานมาก ก็ต้องอธิบายหาทางหลอกหล่อให้เค้าเข้าใจ
ก่อนนอน คุณเคยนอนคุยกับลูกไหม เคยเล่าเรื่องที่คุณเจอให้ลูกฟังไหม เคยถามเค้าไหมว่าเจออะไรมาบ้างวันนี้เล่าให้แม่ฟังหน่อยสิ
เราขอบคุณจริงๆ ที่หวังดี แต่เรามั่นใจว่าลูกเราปกติ เค้าแค่อาจจะเรียนรุ้เร็ว และจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้เร็ว ช่วยเหลือตัวเองได้ เท่านั้นเอง
เราไม่ได้บอกว่าวิธีการเลี้ยงลูกของเราถูก เราไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลาแบบคุณ เราต้องทำงาน เช้าส่งเนิร์ส เย็นรับกลับ เวลาอยู่กับลูกเราน้อยกว่าคุณด้วยซ้ำ แต่เรามั่นใจว่า เวลาที่เราอยู่กับลูกเราเต็มที่กับสิ่งที่เราทำให้เค้า
ถ้าคุณอยากให้ลูกคุณพัฒนาแบบลูกเรา ก็ลองเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูสิ จากที่คิดแทนลูก ทำให้ลูกทุกอย่าง ก็ลองเปลี่ยนมาให้เค้าได้ลองจัดการชีวิตตัวเองเรื่องง่ายๆ บ้าง เผื่อพัฒนาการเค้าจะดีขึ้น
ขอบคุณทุกคนที่รับฟัง และเข้าใจ เราแค่อยากระบาย
ปล. ลูกเราเป็นผู้หญิงอายุ 2 ขวบ 4 เดือน