หลังจากเมื่อวานที่ผมได้ลงแข่งขันปั่นจักรยานเสือหมอบทางไกล ระยะทาง 120 กม.
ในรายการปั่นให้หรอย ใจเกินร้อย เมืองคนดี ครั้งที่ 3 2557 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
ผลการแข่งขันในรุ่นผม A1 Open เข้าเส้นชัย ได้ลำดับที่ 13/20
อย่าตกใจว่าทำไมมีน้อยจังแค่ 20 คน คือผู้เข้าแข่งขันจะสมัครรุ่นอื่นๆกันเยอะกว่ามากครับ
อย่างที่บอกว่าเป็นการแข่งขันครั้งแรกในชีวิต ทำให้เกิดความผิดพลาดอะไรหลายๆอย่าง
เริ่มตั้งแต่ความผิดพลาดกันก่อนครับ
1. คืนก่อนก่อนแข่งขันนอนไม่ค่อยหลับเลยครับ เนื่องจากตื่นเต้นมาก หลับๆตื่นๆตลอดคืน
ทั้งๆที่เข้านอนประมาณ 5 ทุ่ม แต่ก็นอนพลิกตัวไปมาอยู่นั่นแหละ ได้หลับจริงๆประมาณเที่ยงคืน
ตั้งใจต้องตื่นตี 5 เพื่อมาเตรียมตัว กินข้าว อาบน้ำ และเดินทางไปยังสนามแข่ง
สรุปคือได้นอนจริงๆประมาณ 5 ชั่วโมง ไม่เกินนี้ ถามว่าเพลียไหม ก็ไม่เชิงครับ
แต่ถ้าถามว่าอยากนอนต่อไหม ตอบเลยว่ามากครับ
ความตื่นเต้นนี้ห้ามยังไง แก้ยังไงก็ไม่หายครับ อยู่ที่ว่าแต่ละคนเป็นมากเป็นน้อย
2. กินอะไรไม่ค่อยลง เพราะว่าตื่นเช้ามากๆกว่าปกติ กินแซนด์วิซแค่ชิ้นเดียว กับนมก่อนไปแข่ง
ทำให้เกิดปัญหา หม้อน้ำแตก ตะคริวแ_ก กลางเส้นทาง
3. ไม่ทราบว่าสามารถนำรถยนต์ไปจอดบริเวณใกล้ๆงานได้
เลยแวะจอดตรงปั๊มก่อนถึงงานห่างออกไปประมาณ 4 กม. ซึ่งดูไม่ไกลเท่าไรเลยใช่มั้ยครับ
แต่สำหรับตอนงานจบ แข่งเสร็จประมาณเที่ยง แดดร้อนสุดๆดูในไมล์แล้วประมาณ 36-38 องศา
แบบว่าโคตรร้อน เหนื่อยแบบสุดๆ นึกถึงความเมื่อยล้า
และตะคริวที่เป็นปัญหาต่อการถีบบันไดแต่ละทีนี้มันทำให้รู้สึกเหมือนระยะทางเพียง 4 กม.
ไกลขึ้นกว่าเดิมเป้นสิบโลเลยครับ ครั้งหน้าผมจะไปจอดใกล้ๆงานเลย
4. ตอนออกจากที่พักเพื่อขนจักรยานไปยังสนามแข่งก็ดันลืมเอาป้ายติดรถมาด้วยซะงั้น
คือกะว่าไม่ลืมอะไรแล้วก็ลืมจนได้ครับ ตอนแรกก็ลนลานไปหมด ทำไงดีวะ เขาจะให้แข่งมั้ยเนี่ย
เลยตั้งสติดีๆ เอาวะ อย่างน้อยป้ายหมายเลขที่ติดที่เสื้อก็ยังมี ไปขออันใหม่หน้างานเลยดีกว่า
สรุปว่าไม่มีปัญหาครับ แจ้งเจ้าหย้าที่ไปว่าลืมเอามา
5. อาหารทะเล ทำท้องเสียก่อนวันแข่ง
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ครับว่า จ.สุราษฎร์ธานี มีความขึ้นชื่อลือชาเรื่องอาหารทะเล
โดยเฉพาะ "หอยนางรม" ของเมืองหอยใหญ่ นี่แหละครับ ทำให้ก่อนวันแข่งที่ผมเดินทางมาถึงสุราษฎร์วันแรกก็จัดเต็มกับหอยนางรมสดๆ โดยหารู้ไม่ว่า โดนวางยาจั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งซะแล้ว
หลังจากนั้นผมก็ท้องเสีย แต่ไม่ถึงกับรุนแรงมากนะครับ แต่ก็ทำให้เสียเกลือแร่ไปพอสมควร
พี่ที่รู้จักกันอีกคนหนักกว่าผมอีกครับ กินหอยนางรมเข้าไป ปรากฎว่าอาหารเป็นพิษ
ทั้งท้องเสียก่อนแข่ง ระหว่างแข่งยังไม่วายอ้วกอีกครับ น่าเห็นใจจริงๆครับ
6. Power Gel อาหาร ให้พลังงานแบบเร่งด่วนระหว่างแข่ง ผมไม่เคยกินมาก่อน
ตอนแรกผมคิดว่าจะคล้ายๆกับเจเล่ไลท์อะไรทำนองนี้ น่าจะอร่อย ปรากฎว่าไม่เลยครับ
ดูดเข้าไปคำแรก โคตรหนืดคอเลยครับ ห่างไกลกับเจเล่ไลท์มากๆ
แต่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้ผลไหม เพราะผมก็ยังเป็นตะคริวอยู่ดี
7. ไม่ได้เช็คความเรียบร้อยของรถก่อนแข่ง
คือนึกภาพว่าขนเสือหมอบใส่รถเก๋งตรงเบาะหลังนะครับ แล้วก็ไม่ได้ยกออกมาเช็คอะไรเลย
ผมก็ประมาทไปด้วย ทำให้เกิดปัญหาเล็กน้อยช่วงเริ่มปั่นกิโลเมตรแรกๆ
คือเปลี่ยนเกียร์ของจานหน้าไม่ได้ครับ กดยังไงโซ่ก็ไม่เลื่อน
ต้องกดอยู่สักพักกว่าจะเลื่อนเปลี่ยนเป็นจานใหญ่ได้
พอเป็นดังนั้นผมเลยไม่กล้าเปลี่ยนเกียร์ของจานหน้าตลอดการแข่งเลยครับ
กลัวมันจะเปลี่ยนไม่ได้อีกรอบ
8. ไม่เผื่อแรงไว้ตอนท้ายๆ ทำให้แรงหมดก่อน
แรกๆนี้ยังตามดูนุ่มอยู่ครับ กะว่าดูดไปเรื่อยๆ ไม่ยิงตามคนอื่น
แต่พอหลัเห็นโดนยิงหนีเท่านั้นแหละ เลยคิดว่าเดี๋ยวจะโดนทิ้งห่าง
ไม่ได้ๆ ฟิตมากครับ ยืนโยก เห็นใครยิงก็ยิงตามไม่บันยะบันยัง
มาหมดแรงตอน 80 โลนี่แหละครับ ทำให้ความเร็วจาก AV 38 ลดลงเหลือ 32
คือปั่นช้าลงมากๆครับ คราวหน้าจะไม่เอาแล้วครับ เก็บแรงไว้ท้ายๆดีกว่ายังทัน
เริ่มต้นด้วยความผิดพลาดก่อนครับ จะได้นึกภาพออกว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง
มาต่อด้วยความสำเร็จบ้างครับ
1. ไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน
ข้อนี้ผมระวังตัวเองมากๆครับ กลัวเกี่ยวกับคันหน้าแล้วล้มตอนอยู่ในฝูงมากๆ
และก็ยังมองกระจกหลังถี่ๆ ด้วย เวลาจะเปลี่ยนเลนก็ไม่ทะเล่าทะล่าเปลี่ยนแต่จะให้สัญญาณมือก่อนครับ
2. รถไม่มีปัญหายางรั่ว ยางแตก หรือปัญหาอื่นๆที่ทำให้ไปต่อไม่ได้
ซึ่งยางฮาล์ฟถ้ารั่วหรือแตกระหว่างแข่งนี่โอกาสรอดน้อยครับ
3. ชนะใจตัวเอง ทำการแข่งขันจนจบ ไม่เลิกกลางคัน
เข้าเส้นชัยที่ 120 กม. ด้วยระยะเวลาทั้งสิ้น 3.48 ชม. ได้ลำดับที่ 13/20
ถือว่าผมพอใจแล้วครับกับการแข่งครั้งนี้ แต่ตั้งใจว่าครั้งต่อไปต้องดีกว่านี้ครับ
อย่างที่พี่ๆน้าๆ หลายท่านได้เตือนไว้เลยครับ ว่าช่วงกิโลเมตรท้ายๆ ช่วง 80-90 กม.
นั้นโหดมากๆครับ เริ่มปั่น 8 โมง พอสัก 10 โมงนี่แดดร้อนสุดๆครับ
ทำต่องกินน้ำกับเกลือแร่บ่อยกว่าที่คิด ประกอบกับตะคริวที่เริ่มเกิดตรงต้นขาทั้งสองข้างแบบไม่ปรานีมือใหม่เลยครับ
ใครมีประสบการณ์มาแชร์ได้นะครับ หรือมีคำแนะนำติชมได้นะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นครับ
เล่าประสบการณ์ผ่านความผิดพลาดและความสำเร็จใน การแข่งจักรยานทางไกลครั้งแรกในชีวิต 120 กม.
หลังจากเมื่อวานที่ผมได้ลงแข่งขันปั่นจักรยานเสือหมอบทางไกล ระยะทาง 120 กม.
ในรายการปั่นให้หรอย ใจเกินร้อย เมืองคนดี ครั้งที่ 3 2557 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
ผลการแข่งขันในรุ่นผม A1 Open เข้าเส้นชัย ได้ลำดับที่ 13/20
อย่าตกใจว่าทำไมมีน้อยจังแค่ 20 คน คือผู้เข้าแข่งขันจะสมัครรุ่นอื่นๆกันเยอะกว่ามากครับ
อย่างที่บอกว่าเป็นการแข่งขันครั้งแรกในชีวิต ทำให้เกิดความผิดพลาดอะไรหลายๆอย่าง
เริ่มตั้งแต่ความผิดพลาดกันก่อนครับ
1. คืนก่อนก่อนแข่งขันนอนไม่ค่อยหลับเลยครับ เนื่องจากตื่นเต้นมาก หลับๆตื่นๆตลอดคืน
ทั้งๆที่เข้านอนประมาณ 5 ทุ่ม แต่ก็นอนพลิกตัวไปมาอยู่นั่นแหละ ได้หลับจริงๆประมาณเที่ยงคืน
ตั้งใจต้องตื่นตี 5 เพื่อมาเตรียมตัว กินข้าว อาบน้ำ และเดินทางไปยังสนามแข่ง
สรุปคือได้นอนจริงๆประมาณ 5 ชั่วโมง ไม่เกินนี้ ถามว่าเพลียไหม ก็ไม่เชิงครับ
แต่ถ้าถามว่าอยากนอนต่อไหม ตอบเลยว่ามากครับ
ความตื่นเต้นนี้ห้ามยังไง แก้ยังไงก็ไม่หายครับ อยู่ที่ว่าแต่ละคนเป็นมากเป็นน้อย
2. กินอะไรไม่ค่อยลง เพราะว่าตื่นเช้ามากๆกว่าปกติ กินแซนด์วิซแค่ชิ้นเดียว กับนมก่อนไปแข่ง
ทำให้เกิดปัญหา หม้อน้ำแตก ตะคริวแ_ก กลางเส้นทาง
3. ไม่ทราบว่าสามารถนำรถยนต์ไปจอดบริเวณใกล้ๆงานได้
เลยแวะจอดตรงปั๊มก่อนถึงงานห่างออกไปประมาณ 4 กม. ซึ่งดูไม่ไกลเท่าไรเลยใช่มั้ยครับ
แต่สำหรับตอนงานจบ แข่งเสร็จประมาณเที่ยง แดดร้อนสุดๆดูในไมล์แล้วประมาณ 36-38 องศา
แบบว่าโคตรร้อน เหนื่อยแบบสุดๆ นึกถึงความเมื่อยล้า
และตะคริวที่เป็นปัญหาต่อการถีบบันไดแต่ละทีนี้มันทำให้รู้สึกเหมือนระยะทางเพียง 4 กม.
ไกลขึ้นกว่าเดิมเป้นสิบโลเลยครับ ครั้งหน้าผมจะไปจอดใกล้ๆงานเลย
4. ตอนออกจากที่พักเพื่อขนจักรยานไปยังสนามแข่งก็ดันลืมเอาป้ายติดรถมาด้วยซะงั้น
คือกะว่าไม่ลืมอะไรแล้วก็ลืมจนได้ครับ ตอนแรกก็ลนลานไปหมด ทำไงดีวะ เขาจะให้แข่งมั้ยเนี่ย
เลยตั้งสติดีๆ เอาวะ อย่างน้อยป้ายหมายเลขที่ติดที่เสื้อก็ยังมี ไปขออันใหม่หน้างานเลยดีกว่า
สรุปว่าไม่มีปัญหาครับ แจ้งเจ้าหย้าที่ไปว่าลืมเอามา
5. อาหารทะเล ทำท้องเสียก่อนวันแข่ง
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ครับว่า จ.สุราษฎร์ธานี มีความขึ้นชื่อลือชาเรื่องอาหารทะเล
โดยเฉพาะ "หอยนางรม" ของเมืองหอยใหญ่ นี่แหละครับ ทำให้ก่อนวันแข่งที่ผมเดินทางมาถึงสุราษฎร์วันแรกก็จัดเต็มกับหอยนางรมสดๆ โดยหารู้ไม่ว่า โดนวางยาจั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งซะแล้ว
หลังจากนั้นผมก็ท้องเสีย แต่ไม่ถึงกับรุนแรงมากนะครับ แต่ก็ทำให้เสียเกลือแร่ไปพอสมควร
พี่ที่รู้จักกันอีกคนหนักกว่าผมอีกครับ กินหอยนางรมเข้าไป ปรากฎว่าอาหารเป็นพิษ
ทั้งท้องเสียก่อนแข่ง ระหว่างแข่งยังไม่วายอ้วกอีกครับ น่าเห็นใจจริงๆครับ
6. Power Gel อาหาร ให้พลังงานแบบเร่งด่วนระหว่างแข่ง ผมไม่เคยกินมาก่อน
ตอนแรกผมคิดว่าจะคล้ายๆกับเจเล่ไลท์อะไรทำนองนี้ น่าจะอร่อย ปรากฎว่าไม่เลยครับ
ดูดเข้าไปคำแรก โคตรหนืดคอเลยครับ ห่างไกลกับเจเล่ไลท์มากๆ
แต่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้ผลไหม เพราะผมก็ยังเป็นตะคริวอยู่ดี
7. ไม่ได้เช็คความเรียบร้อยของรถก่อนแข่ง
คือนึกภาพว่าขนเสือหมอบใส่รถเก๋งตรงเบาะหลังนะครับ แล้วก็ไม่ได้ยกออกมาเช็คอะไรเลย
ผมก็ประมาทไปด้วย ทำให้เกิดปัญหาเล็กน้อยช่วงเริ่มปั่นกิโลเมตรแรกๆ
คือเปลี่ยนเกียร์ของจานหน้าไม่ได้ครับ กดยังไงโซ่ก็ไม่เลื่อน
ต้องกดอยู่สักพักกว่าจะเลื่อนเปลี่ยนเป็นจานใหญ่ได้
พอเป็นดังนั้นผมเลยไม่กล้าเปลี่ยนเกียร์ของจานหน้าตลอดการแข่งเลยครับ
กลัวมันจะเปลี่ยนไม่ได้อีกรอบ
8. ไม่เผื่อแรงไว้ตอนท้ายๆ ทำให้แรงหมดก่อน
แรกๆนี้ยังตามดูนุ่มอยู่ครับ กะว่าดูดไปเรื่อยๆ ไม่ยิงตามคนอื่น
แต่พอหลัเห็นโดนยิงหนีเท่านั้นแหละ เลยคิดว่าเดี๋ยวจะโดนทิ้งห่าง
ไม่ได้ๆ ฟิตมากครับ ยืนโยก เห็นใครยิงก็ยิงตามไม่บันยะบันยัง
มาหมดแรงตอน 80 โลนี่แหละครับ ทำให้ความเร็วจาก AV 38 ลดลงเหลือ 32
คือปั่นช้าลงมากๆครับ คราวหน้าจะไม่เอาแล้วครับ เก็บแรงไว้ท้ายๆดีกว่ายังทัน
เริ่มต้นด้วยความผิดพลาดก่อนครับ จะได้นึกภาพออกว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง
มาต่อด้วยความสำเร็จบ้างครับ
1. ไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน
ข้อนี้ผมระวังตัวเองมากๆครับ กลัวเกี่ยวกับคันหน้าแล้วล้มตอนอยู่ในฝูงมากๆ
และก็ยังมองกระจกหลังถี่ๆ ด้วย เวลาจะเปลี่ยนเลนก็ไม่ทะเล่าทะล่าเปลี่ยนแต่จะให้สัญญาณมือก่อนครับ
2. รถไม่มีปัญหายางรั่ว ยางแตก หรือปัญหาอื่นๆที่ทำให้ไปต่อไม่ได้
ซึ่งยางฮาล์ฟถ้ารั่วหรือแตกระหว่างแข่งนี่โอกาสรอดน้อยครับ
3. ชนะใจตัวเอง ทำการแข่งขันจนจบ ไม่เลิกกลางคัน
เข้าเส้นชัยที่ 120 กม. ด้วยระยะเวลาทั้งสิ้น 3.48 ชม. ได้ลำดับที่ 13/20
ถือว่าผมพอใจแล้วครับกับการแข่งครั้งนี้ แต่ตั้งใจว่าครั้งต่อไปต้องดีกว่านี้ครับ
อย่างที่พี่ๆน้าๆ หลายท่านได้เตือนไว้เลยครับ ว่าช่วงกิโลเมตรท้ายๆ ช่วง 80-90 กม.
นั้นโหดมากๆครับ เริ่มปั่น 8 โมง พอสัก 10 โมงนี่แดดร้อนสุดๆครับ
ทำต่องกินน้ำกับเกลือแร่บ่อยกว่าที่คิด ประกอบกับตะคริวที่เริ่มเกิดตรงต้นขาทั้งสองข้างแบบไม่ปรานีมือใหม่เลยครับ
ใครมีประสบการณ์มาแชร์ได้นะครับ หรือมีคำแนะนำติชมได้นะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นครับ