ประสบการณ์มีสามีสองคนพร้อมกัน.. เด็กในท้องฉันลูกใครนะ?

สวัสดีค่ะ ยืมลอคอินพี่สาวมานะคะ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวเราเอง
ไม่มโน ไม่แต่ง เอามาถ่ายทอดเพราะคิดว่าคงทำให้สาวๆที่เป็นแบบเราคิดได้
ชื่อคน ชื่อสถานที่ เป็นนามสมมตินะคะ เพื่อไม่ให้กระทบกับบุคคลที่จะกล่าวถึงในเรื่อง
.
.
ย้อนไปช่วงม.ปลาย ช่วงที่ชีวิตเราเหลวแหลกสุดๆ เราเป็นเด็กต่างจังหวัด พ่อแม่ค่อนข้างมีฐานะเลยส่งมาเรียนกรุงเทพ เช่าคอนโดอยู่คนเดียว ชีวิตแฮปปี้ วันไหนขี้เกียจไปเรียนก็นอนเล่นอยู่คอนโด พ่อแม่ก็ไม่รู้นะ เพราะผลการเรียนเราคงที่ตลอด ไม่ต่ำกว่า3.00 สักเทอม เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้แหละ จนมาเจอเพื่อนของเพื่อนเรา เค้าชื่อแมน เจอกันตอนไปเดินห้าง ก็ทำความรู้จัก แลกพินบีบี หลังจากนั้นเราไม่ได้เจอแมนอีกเลย แต่ก็ได้คุยทางบีบีตลอด พอได้เจออีกครั้ง แมนก็บอกว่าเค้าชอบเรานะ คบกันได้มั้ย ตอนนั้นเราก็ชอบเค้านะ คุยกันทั้งวันมันก็ต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดา ตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย มีความสุขมากๆ ยิ่งมารู้ทีหลังว่าบ้านแมนมีตังค์ เรายิ่งรู้สึกดีใจที่เลือกคบคนไม่ผิด แมนมีรถขับ มีเงินใช้อาทิตย์ละ5000 เราสองคนไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยมาก ที่ไหนว่าสวยไปมาหมดแล้วค่ะ ใช้ชีวิตแบบนี้มาปีนึง จนแม่แมนเริ่มทนไม่ไหว เพราะแมนจะมานอนคอนโดเรา ไม่ยอมกลับบ้าน แม่เค้าคงรู้ว่าลูกชายติดแฟน เลยมีความคิดที่จะจับแยก แล้วเค้าก็แยกเราสองคนจริงๆ ... แมนทะเลาะกับแม่แรงมาก แมนบอกว่า แมนขอกลับบ้านไปเคลียร์กับแม่สัก2-3วันนะ เดี๋ยวแมนกลับมา เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรง แต่เราคิดผิดค่ะ แมนบอกว่าแม่จะส่งไปอเมริกาหลังจากจบเทอมนี้ แม่เตรียมทุกอย่างให้หมดแล้ว ถ้าแมนไม่ไปไม่ต้องมาเรียกแม่ลูกกันอีก เราช็อคมาก ไม่คิดว่าแม่แมนจะทำถึงขนาดนี้ ตอนนั้นไม่คิดค้านอะไร จิตสำนึกความเป็นคนดีเริ่มกลับมา ...

เราก็บอกว่าแมนไปเถอะ ยังไงครอบครัวต้องมาก่อน เค้าก็บอกว่า งั้นเหลือเวลา2เดือนกว่า เค้าจะมาอยู่กับเราทุกวันเลยนะ เราก็โอเค ระหว่างนั้นเราก็อยู่กันสองคนที่คอนโดเหมือนเดิม ผลการเรียนเราก็ไม่ตกนะ พ่อแม่เราไม่มีระแคะระคายอะไร จนถึงวันที่แมนไป เราก็ไปส่งสนามบินปกติ แต่ไม่ค่อยกล้าสู้หน้าครอบครัวแมน เพราะสาเหตุที่แม่ส่งแมนไปคงเพราะเรานั่นแหละ ก็ร่ำลากันจนแมนเข้าเกตไป เราก็กลับคอนโด ชีวิตตอนนั้นไร้จุดหมายสุดๆ มันเหงา มันเคว้งคว้าง ในห้องมีแต่ภาพที่เราเคยอยู่ด้วยกัน ทำกับข้าว ดูหนัง ฟังเพลง นอนเล่นกัน ทำให้เราทรมานมาก เลยต้องแอคทีฟตัวเองหน่อย ออกไปพบปะเพื่อนฝูง ไปโรงเรียน กลับมารักเรียนเหมือนเดิม กับแมนเราก็คุยmsn คุยskypeกัน ไม่ได้คุยทุกวันแต่ก็วันเว้นวันเป็นอย่างต่ำ ผ่านครึ่งปี เราเริ่มอยู่ได้ แมนเองก็คงปรับตัวได้เช่นกัน คุยกันน้อยลง แมนบอกว่าเค้าอ่อนภาษา แม่เลยให้ไปทำงานที่ร้านอาหารของน้า จะได้ฝึกภาษาไปในตัว

จนขึ้นม.6 ห้องเรามีนักเรียนใหม่เข้ามา เป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักดีค่ะ ตี๋ๆขาวๆ สาวกรี๊ดกันใหญ่ ขอเรียกเพื่อนคนนี้ว่าตี๋แล้วกัน เราเองก็มองว่าเค้าหล่อนะ แต่ไม่อะไร เฉยๆมาก ผ่านไปสักอาทิตย์กว่า เค้าก็มาคุยกับเรา ถามชื่อ ถามนู่นนี่ไปเรื่อย จนมาสะดุดกับคำถามนึงว่า มีแฟนยัง เราก็ตอบตามความจริงนะ ว่ามีแล้ว แต่แฟนเราไปเรียนอเมริกา เราเลยถามกลับ แล้วตี๋ล่ะ ตี๋บอกว่าตี๋ยังไม่มีแฟน เคยมีแต่เลิกไปแล้ว ก็ไม่อยากมีอีก กลัวเสียใจ เราก็เลยไม่ถามต่อ จนแลกพินบีบี (แลกอีกแล้ว ช่วงนั้นบีบีฮิตค่ะ คุยกับเพื่อนผ่านบีบีตลอด) ตี๋ก็ทักเรามาทุกวัน คุยกันทั้งวัน จนเราเริ่มรู้สึกดีๆกับตี๋ เพราะเจอทุกวัน คุยกันตลอด จนเรารู้สึกชอบตี๋จริงๆ และตี๋เองก็คิดเหมือนเรา วันนึงตี๋ทักมาบอกว่า เนี่ยเราว่าเราชอบเธอ เราก็อึ้งนะ แล้วก็ดีใจมากด้วย ตี๋ก็ถามว่า แล้วแฟนเราที่อเมริกาล่ะ ตอนนั้นเราโลภค่ะ เลยบอกตี๋ว่า เราเลิกกับแฟนแล้ว เพราะเรามั่นใจว่าถ้าเราบอกว่าเราเลิกกับแฟน ตี๋จะขอคบ ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่คิดเป๊ะเลย

เรากับตี๋คบกัน โดยที่เราก็ยังคบกับแมนเหมือนเดิม แต่อย่างที่บอกไป แมนไปทำงานร้านอาหารน้า เหนื่อย พอถึงบ้านก็อยากนอน จากที่คุยกันวันเว้นวัน กลายเป็น2-3วันคุยกันครั้งนึง หนักสุดก็อาทิตย์ละครั้ง แต่เราก็ไม่เรียกร้องอะไร ยังให้กำลังใจแมนในฐานะแฟนที่แสนดีคนนึง(?) เรากับตี๋ก็มีความสุขมาก คบกันแบบเปิดเผย (ส่วนเรื่องที่เราคบซ้อน จะมีเพื่อนสนิทเราคนเดียวที่รู้ค่ะ กับเพื่อนคนอื่นเราก็บอกว่าเลิกกับแมนแล้ว) เราคบกับตี๋ได้ปีนึง ความสัมพันธ์มันก็ล้ำลึก เราเองมีอะไรกับตี๋ตลอด ตอนเราคบกับแมนก็มีอะไรกับแมนตลอดเหมือนกัน *เราไม่ใช้ถุงยางตั้งแต่คบกับแมนค่ะ แต่กินยาคุมแบบรายเดือนตลอด* เราตอนนั้นเรียกว่าแฮปปี้สุดๆ รักเริ่ด เรื่องบนเตียงก็เข้ากันได้ดี ตี๋เองก็น่ารักมาก แต่ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ...

แมนโทรทางไกลมาหาเราค่ะ ซึ่งนานๆจะโทรที เพราะมันแพงมาก เราก็รับสาย แมนบอกว่า เนี่ยแมนจะได้กลับไทยแล้วนะ แม่เห็นว่าแมนโอเคขึ้นแล้ว ณ ตอนนั้น ดีใจมันก็ดีใจค่ะ แต่คำถามอื่นๆมากมายผุดขึ้นมาเยอะมาก แต่มีสิ่งเดียวที่เราคิดตอนนั้นค่ะ

แล้วเราจะสับรางยังไงให้รถไฟไม่ชนกัน ...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่