ตุลาการภิวัฒน์ สบายดีหรือ โดย ใบตองแห้ง
วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19:00:32 น.
ในขณะที่สังคมพุ่งความสนใจว่าธรรมนูญชั่วคราวจะกำหนดโควตา สนช. สภาปฏิรูป และคงอำนาจ คสช.ไว้อย่างไร อีกด้านที่ไม่ยักมีใครถามคือ ธรรมนูญชั่วคราวจะกำหนดบทบาทศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ อย่างไร
เดือนเศษๆ ที่ผ่านมาถือเป็นปรากฏการณ์พิสดารในวงการกฎหมาย น่าจะมีใครถามวิษณุ เครืองาม ว่าเมื่อ คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วยังคงศาลรัฐธรรมนูญไว้ทำไม เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีไว้ตีความรัฐธรรมนูญ เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญให้ตีความแล้วศาลท่านจะมีงานอะไรให้ทำ อย่าอ้างนะว่า คสช.ยังคงหมวด 2 ไว้ เพราะประเทศนี้ไม่มีใครบังอาจยื่นตีความหมวด 2 หรอก
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลก แม้ว่าโลกยุคปัจจุบันไม่ค่อยมีรัฐประหาร ขณะที่รัฐประหารยุคก่อนก็ไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ กระนั้นรัฐประหารทุกครั้งเมื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญก็ต้องยุบองค์กรที่มีอำนาจตี ความด้วย
อ้าว ไม่ยุบแล้วจะเหลืออะไรให้ตีความละครับ สมมติมีคนฟ้องศาลว่า คสช.ผิดมาตรา 68 ศาลซึ่งเคยตัดสินว่า 383 ส.ส. ส.ว.ผิดมาตรา 68 ก็ต้องบอกว่า คสช.ท่านยกเลิกรัฐธรรมนูญไปแล้ว มาตรา 68 เป็นโจ๊กไปแล้ว
เมื่อไม่มีอะไรให้ทำแต่ไม่ยุบ ก็โทษตุลาการ 9 ท่านไม่ได้ว่านั่งๆ นอนๆ กินเงินเดือนเงินประจำตำแหน่งไปท่านละแสนกว่าบาท แถมเงินเดือนที่ปรึกษา เลขาฯ ผู้เชี่ยวชาญ รปภ. คนขับรถ รวมกันอีกราวๆ 2 แสนบาทต่อท่าน โดยประธานเพิ่งลงนามวันที่ 22 พฤษภา บังเอิญเป๊ะ
ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเคยป๊อปปูล่าร์ เป็นข่าวพาดหัวไม่เว้นวัน เลื่อนเลือกตั้ง เลือกตั้งโมฆะ ถอดนายกฯ วันนี้เหลือแต่ยุงบินว่อน ถามวิษณุ เครืองาม หน่อยสิว่าธรรมนูญชั่วคราวจะให้อำนาจศาลตีความไหม ให้ได้ไงในเมื่อ คสช.ยังเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ถาวร เสนเนียม อ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสูงสุดเหนือทุกองค์กร งั้น คสช.กับศาลรัฐธรรมนูญใครมีอำนาจสูงกว่ากัน คสช.สิครับ คสช.ต้องมีอำนาจชี้ขาด แต่อย่างนั้นจะเอาศาลรัฐธรรมนูญไว้ตรงไหน
องค์กรอื่นๆ ไม่เป็นปัญหามากเท่าศาลรัฐธรรมนูญ เพราะยังทำหน้าที่ได้ แต่มีปัญหาย้อนแย้งลดหลั่นกันไป ตัวอย่างเช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก็ตรวจส่วนราชการไปไม่ต่างอะไรนักกับ 20 ปีก่อนที่ไม่ใช่องค์กรอิสระ กกต.ไม่ต้องตบยุงเพราะมีข้ออ้างเลือกตั้งท้องถิ่น แต่อันที่จริง กกต.จังหวัดจัดการได้ ไม่ต้องถึงมือสมชัย ศรีสุทธิยากร ป.ป.ช.ก็ทำหน้าที่ไล่ล่ารัฐบาลที่แล้ว แต่ไม่มีอำนาจตรวจสอบ คสช.
องค์กรที่ย้อนแย้งกว่าใครคือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพราะ คสช.จำเป็นต้องจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่ยักยุบกรรมการสิทธิฯ ป้าอมรา พงศาพิชญ์ ก็เลยได้แต่ "ตามหาบิลลี่" เช่นเดียวกับศาลปกครองซึ่งเพิ่งชี้ว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย้ายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาวันนี้ คสช.ย้ายข้าราชการนับไม่ถ้วนโดยศาลปกครองไม่มีอำนาจรับฟ้อง
พูดอย่างนี้ไม่ได้โทษใคร แต่จะชี้ว่าเป็นความ "ขัดกัน" ของ 2 ระบอบ เมื่อ คสช.รัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ใช้อำนาจแก้ปัญหาบ้านเมืองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ยังคงกลไกตรวจสอบตามระบอบรัฐธรรมนูญ 2550 ไว้ทั้งที่เลิกใช้รัฐธรรมนูญไปแล้ว มันก็ลักลั่น และเป็นคำถามต่อไปว่าธรรมนูญชั่วคราวจะคงกลไกเหล่านี้ไว้อย่างไร ภายใต้อำนาจ คสช.
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อท่านต้องการ "ปิดซ่อม" ปฏิรูปประเทศใหม่หมด ก็แปลว่าต้องเปิดกว้างให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและสภาปฏิรูป ช่วยกันร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่ยึดติดกลไกปี 2540 และ 2550 สามารถเพิ่มหรือลดองค์กร สามารถเปลี่ยนแปลงอำนาจและที่มา คิดสร้างสรรค์กันได้อย่างกว้างขวาง เปลี่ยนได้โดยสิ้นเชิง ใช่ไหมครับ ยกตัวอย่าง นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้าก็เสนอว่าไม่ต้องมีศาลรัฐธรรมนูญแบบประจำการ แต่ให้มีคณะตุลาการที่เลือกมาตามสัดส่วนพิจารณาแต่ละคดีความ
เอาล่ะ บางองค์กร เช่น ป.ป.ช.ต้องมีต่อไป แต่รัฐธรรมนูญใหม่อาจเปลี่ยนที่มา อาจเพิ่มการตรวจสอบตัวกรรมการ เพิ่มการคานอำนาจ โดยหลักรัฐธรรมนูญเมื่อแก้ไขที่มา กรรมการเดิมก็ต้องพ้นไป แม้อาจมีบทเฉพาะกาลให้อยู่ชั่วคราว
ถามว่าถ้าแก้ไขกันอย่างนี้พวกท่านยอมไหม เพราะอาจจะล้ม "อาณาจักร" ที่ขยายอำนาจกันมาใหญ่โต
ธรรมนูญชั่วคราวจึงต้องพูดให้ชัดเจนถึงการดำรงอยู่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ วางบทบาทให้มีและใช้อำนาจได้แต่ไม่สามารถขัดอำนาจ คสช. ขณะเดียวกันก็ต้องไม่สามารถเกี่ยวข้อง ขัดขวาง การปฏิรูปที่ควรจะเปิดกว้างกระทั่งเปลี่ยนแปลงสถานภาพองค์กรอิสระได้
ยังไง้ยังไงก็เชื่อมือวิษณุบริกรอยู่แล้วละครับ แต่อยากลองทักถามไว้ให้สังเกตกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404468836
ตุลาการภิวัฒน์ สบายดีหรือ โดย ใบตองแห้ง
วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19:00:32 น.
ในขณะที่สังคมพุ่งความสนใจว่าธรรมนูญชั่วคราวจะกำหนดโควตา สนช. สภาปฏิรูป และคงอำนาจ คสช.ไว้อย่างไร อีกด้านที่ไม่ยักมีใครถามคือ ธรรมนูญชั่วคราวจะกำหนดบทบาทศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ อย่างไร
เดือนเศษๆ ที่ผ่านมาถือเป็นปรากฏการณ์พิสดารในวงการกฎหมาย น่าจะมีใครถามวิษณุ เครืองาม ว่าเมื่อ คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วยังคงศาลรัฐธรรมนูญไว้ทำไม เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีไว้ตีความรัฐธรรมนูญ เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญให้ตีความแล้วศาลท่านจะมีงานอะไรให้ทำ อย่าอ้างนะว่า คสช.ยังคงหมวด 2 ไว้ เพราะประเทศนี้ไม่มีใครบังอาจยื่นตีความหมวด 2 หรอก
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลก แม้ว่าโลกยุคปัจจุบันไม่ค่อยมีรัฐประหาร ขณะที่รัฐประหารยุคก่อนก็ไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ กระนั้นรัฐประหารทุกครั้งเมื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญก็ต้องยุบองค์กรที่มีอำนาจตี ความด้วย
อ้าว ไม่ยุบแล้วจะเหลืออะไรให้ตีความละครับ สมมติมีคนฟ้องศาลว่า คสช.ผิดมาตรา 68 ศาลซึ่งเคยตัดสินว่า 383 ส.ส. ส.ว.ผิดมาตรา 68 ก็ต้องบอกว่า คสช.ท่านยกเลิกรัฐธรรมนูญไปแล้ว มาตรา 68 เป็นโจ๊กไปแล้ว
เมื่อไม่มีอะไรให้ทำแต่ไม่ยุบ ก็โทษตุลาการ 9 ท่านไม่ได้ว่านั่งๆ นอนๆ กินเงินเดือนเงินประจำตำแหน่งไปท่านละแสนกว่าบาท แถมเงินเดือนที่ปรึกษา เลขาฯ ผู้เชี่ยวชาญ รปภ. คนขับรถ รวมกันอีกราวๆ 2 แสนบาทต่อท่าน โดยประธานเพิ่งลงนามวันที่ 22 พฤษภา บังเอิญเป๊ะ
ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเคยป๊อปปูล่าร์ เป็นข่าวพาดหัวไม่เว้นวัน เลื่อนเลือกตั้ง เลือกตั้งโมฆะ ถอดนายกฯ วันนี้เหลือแต่ยุงบินว่อน ถามวิษณุ เครืองาม หน่อยสิว่าธรรมนูญชั่วคราวจะให้อำนาจศาลตีความไหม ให้ได้ไงในเมื่อ คสช.ยังเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ถาวร เสนเนียม อ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสูงสุดเหนือทุกองค์กร งั้น คสช.กับศาลรัฐธรรมนูญใครมีอำนาจสูงกว่ากัน คสช.สิครับ คสช.ต้องมีอำนาจชี้ขาด แต่อย่างนั้นจะเอาศาลรัฐธรรมนูญไว้ตรงไหน
องค์กรอื่นๆ ไม่เป็นปัญหามากเท่าศาลรัฐธรรมนูญ เพราะยังทำหน้าที่ได้ แต่มีปัญหาย้อนแย้งลดหลั่นกันไป ตัวอย่างเช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก็ตรวจส่วนราชการไปไม่ต่างอะไรนักกับ 20 ปีก่อนที่ไม่ใช่องค์กรอิสระ กกต.ไม่ต้องตบยุงเพราะมีข้ออ้างเลือกตั้งท้องถิ่น แต่อันที่จริง กกต.จังหวัดจัดการได้ ไม่ต้องถึงมือสมชัย ศรีสุทธิยากร ป.ป.ช.ก็ทำหน้าที่ไล่ล่ารัฐบาลที่แล้ว แต่ไม่มีอำนาจตรวจสอบ คสช.
องค์กรที่ย้อนแย้งกว่าใครคือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพราะ คสช.จำเป็นต้องจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่ยักยุบกรรมการสิทธิฯ ป้าอมรา พงศาพิชญ์ ก็เลยได้แต่ "ตามหาบิลลี่" เช่นเดียวกับศาลปกครองซึ่งเพิ่งชี้ว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย้ายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาวันนี้ คสช.ย้ายข้าราชการนับไม่ถ้วนโดยศาลปกครองไม่มีอำนาจรับฟ้อง
พูดอย่างนี้ไม่ได้โทษใคร แต่จะชี้ว่าเป็นความ "ขัดกัน" ของ 2 ระบอบ เมื่อ คสช.รัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ใช้อำนาจแก้ปัญหาบ้านเมืองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ยังคงกลไกตรวจสอบตามระบอบรัฐธรรมนูญ 2550 ไว้ทั้งที่เลิกใช้รัฐธรรมนูญไปแล้ว มันก็ลักลั่น และเป็นคำถามต่อไปว่าธรรมนูญชั่วคราวจะคงกลไกเหล่านี้ไว้อย่างไร ภายใต้อำนาจ คสช.
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อท่านต้องการ "ปิดซ่อม" ปฏิรูปประเทศใหม่หมด ก็แปลว่าต้องเปิดกว้างให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและสภาปฏิรูป ช่วยกันร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่ยึดติดกลไกปี 2540 และ 2550 สามารถเพิ่มหรือลดองค์กร สามารถเปลี่ยนแปลงอำนาจและที่มา คิดสร้างสรรค์กันได้อย่างกว้างขวาง เปลี่ยนได้โดยสิ้นเชิง ใช่ไหมครับ ยกตัวอย่าง นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้าก็เสนอว่าไม่ต้องมีศาลรัฐธรรมนูญแบบประจำการ แต่ให้มีคณะตุลาการที่เลือกมาตามสัดส่วนพิจารณาแต่ละคดีความ
เอาล่ะ บางองค์กร เช่น ป.ป.ช.ต้องมีต่อไป แต่รัฐธรรมนูญใหม่อาจเปลี่ยนที่มา อาจเพิ่มการตรวจสอบตัวกรรมการ เพิ่มการคานอำนาจ โดยหลักรัฐธรรมนูญเมื่อแก้ไขที่มา กรรมการเดิมก็ต้องพ้นไป แม้อาจมีบทเฉพาะกาลให้อยู่ชั่วคราว
ถามว่าถ้าแก้ไขกันอย่างนี้พวกท่านยอมไหม เพราะอาจจะล้ม "อาณาจักร" ที่ขยายอำนาจกันมาใหญ่โต
ธรรมนูญชั่วคราวจึงต้องพูดให้ชัดเจนถึงการดำรงอยู่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ วางบทบาทให้มีและใช้อำนาจได้แต่ไม่สามารถขัดอำนาจ คสช. ขณะเดียวกันก็ต้องไม่สามารถเกี่ยวข้อง ขัดขวาง การปฏิรูปที่ควรจะเปิดกว้างกระทั่งเปลี่ยนแปลงสถานภาพองค์กรอิสระได้
ยังไง้ยังไงก็เชื่อมือวิษณุบริกรอยู่แล้วละครับ แต่อยากลองทักถามไว้ให้สังเกตกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404468836