การไม่ทำประชามติรัฐธรรมนูญ ร้ายหรือดี

“เสรี” ชี้รธน.ฉบับใหม่ไม่จำเป็นต้องลงประชามติ หวั่นขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 4ก.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญปี2550
โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ” ใจความตอนหนึ่งว่า
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะมีการร่างใหม่เกิดขึ้น มีประเด็นว่า สมควรส่งไปให้ประชาชนทำประชามติช่วงสุดท้ายก่อนประกาศใช้หรือไม่
ก็ต้องดูตามเหตุผลว่า สมควรให้มีการประชามติหรือไม่อย่างไร
ตัวอย่างร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี2550 มีประชาชนลงคะแนนส่วนใหญ่ว่าเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว

แต่หลังจากนำมาใช้แล้ว ปรากฏว่าฝ่ายที่เสียอำนาจจากการรัฐประหารและกลุ่ม นปช. ต่อต้านไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญปี50
อ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญไม่ประชาธิปไตยมาจากรัฐประหาร และเหตุผลอื่นสารพัดที่จะไม่เอารัฐธรรมนูญปี50
ทั้งที่มาจากการทำประชามติของประชาชนทั้งประเทศ จึงเป็นตัวอย่างเห็นได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นใหม่ไม่จำเป็นต้องนำไปประชามติ
เพราะจะร่างให้ดีเพียงใด คนที่จะหาเรื่องไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญก็หาเรื่องไม่เอาเช่นเดิม

ในที่สุดก็สร้างความขัดแย้งว่า จะไม่เอารัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ จะเป็นช่องทางทำให้ประชาชนทะเลาะแตกแยก
ยิ่งบรรยากาศปัจจุบันสงบเรียบร้อย หากนำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไปทำประชามติก็จะเกิดสถานการณ์คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
จะออกมาใช้โอกาสการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เป็นต่อต้านการรัฐประหาร และรวมกลุ่มเรียกร้อง รวมถึงการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายแตกแยกของประชาชนอีกรอบ และจะเสียเงินอีก 2,000 ล้านบาท มาทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนกลับมาแตกแยกเช่นเดิม ซึ่งไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไร ประเทศไทยก็ต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่อยู่แล้ว มาหาวิธีเขียนอย่างไรให้เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยและประชาชนจะดีกว่า

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05EUTNORFkxT1E9PQ==&subcatid=


คห. จขกท.

ถ้าไม่ทำประชามติ จะรู้ได้อย่างไรว่า เป็นประโยชน์กับประเทศไทยและประชาชน
โดยเฉพาะคำว่า เป็นประโยชน์กับประชาชน จะต้องมาจากเสียงของประชามติ เพราะประชามติ
จะบอกได้ว่า มีคนเท่าไรที่เห็นว่า รัฐธรรมนูญมีประโยชน์กับเขาจริงๆ

ประชามติ เป็นการเปิดโอกาศให้ทุกระดับชั้นของคน ทุกระดับความรู้อย่างกว้างขวาง แทบจะทุกมิติ
ของสังคม สาขาอาชีพ ทุกองค์ความรู้ ได้ใช้ความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์มาพิจารณารัฐธรรมนูญ
แล้วแสดงออกมาเป็นผลสรุปว่า ดีหรือไม่ดี ใช้ได้หรือใช้ไม่ได้

เข้าใจเหตุผลที่มีบางกลุ่มนำไปกล่าวอ้างนั้น ก็เพราะบทบัญญัติลักษณะนั้นไม่เอื้อกับบริบทมากกว่า
และเมื่อจะทำการแก้ไขก็ไม่ได้ จึงมีวาทะว่า รับๆไปก่อนค่อยแก้ทีหลัง ข้อที่หน้าสังเกตุก็คือ ฉบับที่แล้ว
ผ่านโดยสัดส่วนที่ไม่น่าจะใช้ในการปกครองได้ด้วยซ้ำไป เพราะเฉียดเสมอกัน การจะใช้รัฐธรรมนูญอย่างน้อยน่าจะ
ต้องกำหนดที่ 75% ขึ้นไปด้วยซ้ำ

การไม่มีประชามติ จะเกิดเป็นข้ออ้างให้แตกแยกกันมากกว่า เพราะสามารถอ้างได้ว่า ฉันไม่ได้เห็นชอบ แต่ทำอะไรไม่ได้
ฉบับนี้มัดมือชก ฉบับภาคบังคับ ฯลฯ หรือฉบับประชาชนไม่มีส่วนร่วม สามารถอ้างความไม่ยุติธรรมไม่ชอบธรรมขึ้นมา
ได้ง่ายกว่าประชามติ เพราะคำว่าประชามติ มีเหตุผลพอที่จะบอกว่า เสียงส่วนใหญ่ต้องการแบบนี้

เฮ่ออ ดีแต่รู้กฎหมายเอามาทำ......

ปล.คงไม่โดนมั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่