สวัสดีค่ะ สาวๆห้องแป้งทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวอาหารเสริมที่เราทานและสกินแคร์ที่เราใช้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาค่ะ รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณที่ดีขึ้น อาจเพราะเราเริ่มดูแลผิวและสุขภาพอย่างจริงจังด้วยตัวเอง เราเลยอยากจะมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆห้องแป้งค่ะ
แนะนำตัวก่อนเลย เราชื่อเตยนะคะ เป็นเภสัชกรค่ะ จบมาได้ 2 ปีแล้ว ตอนนี้กำลังเรียนต่อระดับปริญญาโท ด้านวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม โดยเน้นวิจัยเกี่ยวกับเครื่องสำอางค่ะ เพื่อนๆบางคนอาจจะเคยเห็นกระทู้เรามาบ้างแต่ไม่บ่อย เพราะเราไม่ค่อยมีเวลามานั่งเขียนกระทู้เท่าไหร่ แต่ตั้งใจว่าหลังจากนี้จะเขียนกระทู้แบ่งปันให้มากขึ้นค่ะ
รูปมุมขวาล่างเป็นรูปตอนหน้าเปลือยของเราในปัจจุบันค่ะ
ออกตัวก่อนว่า เราเองไม่ใช่แพทย์ผิวหนัง อาจจะไม่สามารถจำแนกชนิดของโรคทางผิวหนังของทุกคนได้ทั้งหมด แต่การดูแลรักษาผิวพรรณและสุขภาพขั้นพื้นฐานนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนควรรู้ เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตและบุคลิกภาพที่ดีค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่เคยมีปัญหาผิว คือ ผิวแพ้สเตียรอยด์ จากครีมแบรนด์หนึ่งที่ การันตีว่า ขาวเด้งภายในหนึ่งคืน แรกๆก็เหมือนจะดี แต่หลังๆพังค่ะ หน้าเป็นผดผื่น ตุ่มน้ำเต็มหน้า สุดท้ายต้องไปหาคุณหมอผิวหนัง คุณหมอรักษาจนหาย ต้องขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ จากเรื่องนี้ได้เรียนรู้อีกอย่างนึงว่า การพบแพทย์ผิวหนังโดยตรง ที่ไม่เลี้ยงไข้ ดีจริงๆค่ะ พอปัญหาผิวหน้าเราหาย คุณหมอก็ไม่นัดเพิ่มแล้วค่ะ แต่แนะนำว่าให้ดูแลรักษาผิวพรรณอย่างไรมากกว่า
***ทำความเข้าใจกันก่อนว่า การจะมีผิวพรรณที่ดี และ รูปร่างที่สมสัดส่วน นั้นไม่สามารถทำได้ภายในไม่กี่วัน แต่ต้องใช้เวลาดูแลรักษาเป็นเดือนหรือเป็นปี "ความสวยไม่มีทางลัด" ฉะนั้นสาวๆหรือหนุ่มๆที่อยากดูดีต้องมีความอดทนค่ะ
***ที่สำคัญคือ คนแต่ละคนจะถูกกับผลิตภัณฑ์ที่ต่างกัน บางคนอาจจะแพ้ส่วนผสมของครีมตัวนี้ ในขณะที่อีกคนใช้แล้วให้ผลดีมากๆ ฉะนั้นต้องลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตัวเองดีๆนะคะ อย่าใช้ตามเพียงเพราะเห็นคนอื่นว่าดีเท่านั้น ไม่จำเป็นว่าของแพงต้องดีเสมอไป
***การโบกครีมมากมาย บนหน้าในครั้งเดียว อาจจะทำให้เกิดการอุดตัน ก่อให้เกิดสิว ตามมา มากกว่าที่จะทำให้สวยขึ้นค่ะ
มาเริ่มที่ขั้นตอนการล้างหน้ากันก่อนนะคะ
แต่งหน้ามาทั้งวันแล้ว การล้างหน้า และดูแลความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ ไม่ใช่ใช้ครีมราคาเป็นหมื่นๆ แต่ ไม่ล้างเครื่องสำอาง ล้างหน้าไม่สะอาด ก็จบ.. สิวอุดตัน ริ้วรอยมาแน่นอนค่ะ แม้แต่ทาแค่กันแดดกับแป้ง ก็ต้องล้างด้วย make up remover ซึ่งตอนนี้ก็มีมากมายหลายแบบ แล้วแต่ว่าเราจะถูกจริตกับแบบไหนค่ะ ^^ ปัญหาสิวอุดตันก็จะหายไปค่ะ
สำหรับเรา ใช้ Bioderma ขวดสีชมพู เพราะเคยใช้ตัวอื่นมาแล้วสิวอุดตันยังขึ้นอยู่ดี พอใช้ตัวนี้ไม่มีเลย เช็ดจนสำลีเป็นสีขาว เราเช็ดตามรูขุมขนค่ะ
ที่ตากับคิ้ว ก็จะใช้ Loreal ทาบนสำลีแล้วแปะไว้ 15-30 วินาที แล้วเช็ดออกเบาๆ ย้ำว่าเบามากๆ เดี๋ยวริ้วรอยจะขึ้นไวก่อนกำหนดนะคะ
ทุกๆ 2 สัปดาห์เราจะใช้สครับ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และมาส์กหน้าต่อ
หลังเช็ดหน้าด้วย Bioderma เราจะใช้ สครับของ Loccitane ตัวนี้ นวดวนๆ ที่ผิวเบาๆ แล้วใช้น้ำค่อยๆ นวดๆ จนหมด แล้วล้างออก
หน้านุ่มเนียนขึ้น ความกระจ่างใสก็โอเค สรุปคือชอบมากค่ะ
มาถึงเรื่องการเลือก skincare เราอาจต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เรามีผิวแบบไหน เราจะวิเคราะห์สองแง่ คือ
1. ประเภทของผิว นั่นคือ ผิวธรรมดา , ผิวมัน (ซึ่งโดยปกติจะมันเฉพาะ T-zone) , ผิวแห้ง และผิวบอบบางแพ้ง่าย
2. ปัญหาบนใบหน้าที่เราอยากจะแก้ไข เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเสี้ยน ฝ้า กระ ริ้วรอย
การเลือกใช้ skincare ก็ใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของผิวและปัญหาที่อยากแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีผิวมัน ก็ใช้เลือกใช้ skincare ที่มีส่วนผสมของน้ำมันไม่มาก หรือ พวก oil-free ค่ะ
ถึงจะหน้ามันหรือหน้าแห้ง moisturizer ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกๆ ผิว เพราะจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังไว้ หน้าแห้งก็ใช้สำหรับคนหน้าแห้ง หน้ามันก็ใช้ครีมบำรุงสำหรับคนหน้ามัน เข้าใจง่ายๆก็ประมาณนี้ค่ะ ไม่ต้องใช้ moisturizer หลายตัวนะคะ เลือกตัวเพียงพอกับความต้องการของผิว เพราะนอกจากจะเปลืองเงินแล้ว ยังทำให้อุดตัน และเกิดสิวขึ้นมาอีกต่างหาก สำหรับเราเป็นคนผิวผสม คือ มันช่วง T-zone และข้างแก้มค่อนข้างแห้งค่ะ
moisturizer เราใช้ ของ Dr. Joops (moisturiche supreme) สำหรับกลางคืนค่ะ เพื่อนแนะนำให้ใช้อีกที ใช้เป็นกระปุกที่สองแล้ว ส่วนตัวชอบเนื้อสัมผัสครีม และก็ทำให้ผิวชุ่มชื้นดี หน้านิ่มเลย สำหรับกลางวันเราใช้ La roche sensi white cream triple action intense whitening cream ทาก่อนกันแดดค่ะ ชุ่มชื้นไม่มาก แต่ไม่ทำให้หน้ามัน และไม่ทำให้แห้งระหว่างวัน
ปัญหาเรื่องผิวคล้ำเสีย กระ ฝ้า ไม่สดใส ก็มาจาก เจ้าเซลล์ melanocyte ที่สร้างเม็ดสีผิวขึ้นมามากเกินไป สาเหตุก็มาจากแสงแดด หรือใช้ครีมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เกิดการอักเสบบนผิว หรืออาจจะเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปก็ได้ค่ะ
รูปภาพของเจ้า melanocyte คร่าวๆ คนที่มีเชื้อชาติต่างกัน สีผิวก็จะต่างกันไป อย่าไปคิดเปลี่ยนสีมันเลยนะคะ อะไรที่มันผิดธรรมชาติมักจะมีอันตรายเสมอ ให้มันได้ทำหน้าที่ของมันไปตามที่มันควรจะเป็น ผลิตเม็ดสีไม่มากไม่น้อยเกินไปตามสภาวะของเรา น่าจะดีที่สุดค่ะ
แสงแดดเป็นตัวการที่สำคัญแบบสุดๆ ที่จะทำลายผิวพรรณของเรา ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน เส้นใยคอลลาเจนที่ผิวถูกทำลาย น่ากลัวใช่มั้ยหล่ะค่ะ ฉะนั้นการไม่ใช่กันแดด ถือเป็นการทำลายผิวอย่างมาก อย่าลืมใช้กันแดดกันนะคะ กันแดดที่เราใช้ เป็นของ Lancome UV EXPERT GN-SHIELD™ SPF 50 PA +++ เราชอบตัวนี้เพราะ เนื้อดี ทาง่ายไม่เหนียว ซึมเร็ว ไม่ทำให้รองพื้นเป็นคราบ ^^
แต่ยังไง ถ้าออกแดดจัดๆ อย่าลืมร่มนะคะ
พูดถึงเรื่องริ้วรอย ความแก่กันต่อ ง่ายๆคือนอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น แล้ว ยังเกิดจากเจ้า อนุมูลอิสระ โดยมีแสงแดดเป็นตัวการสำคัญอีกนั่นแหละค่ะ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ กินเหล้า ก็ทำให้แก่ไว เพราะมันไปทำให้เกิด อนุมูลอิสระขึ้น เจ้าตัวอนุมูลนี้ก็จะไปทำลายผิวเรา และยังทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดริ้วรอยในที่สุด การรักษาริ้วรอยมีหลายวิธีนะคะ แต่วิธีที่เราสามารถทำเองกันได้ คือ การใช้ skincare ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ หรือที่เรารู้จักกันดี ในนาม antioxidant ที่มาฮิตฮอตกันช่วงนี้ โดยจะเข้าไปกำจัด อนุมูลอิสระให้หมดไป หรือหยุดปฏิกิริยาบางอย่าง ^^ ช่วยชะลอความแก่ของผิวเราได้ค่ะ
ตัวที่เราใช้คือ SK-II facial treatment essence มีส่วนประกอบสำคัญของ pitera ที่ช่วยยับยั้งการอักเสบของผิว ชะลอความแก่ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง แต่กลิ่นค่อนข้างแรงไปหน่อยค่ะ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่...
Ref. Wong W, Hakozaki T, Yoshii T, Chen T, Pang J. Up-Regulation of tight junction-Related proteins and increase of human epidermal keratinocytes barrier function by Saccharomycosis Ferment Filtrate. J Cosmet Dermatol Sci Appl 2011; 1:15-24.
Tsai H, Chen Y, Lee W, Hu C, Hakozaki T, Yoshii T, Shen S. Inhibition of inflammatory nitric oxide production
and epidermis damages by Saccharomycopsis Ferment Filtrate. J Dermatol Sci 2006; 42: 249-57.
ก่อนลง skincare ทุกตัว เราชอบใช้ Toner ค่ะ เป็น step ที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมในการรับการบำรุงอย่างเต็มที่ จะใช้หรือไม่ใช่ ไม่มีปัญหานะคะ แต่สำหรับเรา ใช้แล้วดีกว่าค่ะ เลือก Toner ที่อ่อนโยน และไม่มีส่วนผสมของ alcohol เราใช้ La roche ค่ะ รุ่น Physiological soothing toner สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
ในกลุ่ม serum และ essence กันบ้าง เป็น skincare ที่มีความเข้มข้นของสาระสำคัญสูง เน้นตามปัญหาของผิวที่เราต้องการแก้ไข ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
1. สำหรับ eye cream เราใช้ SK-II facial treatment essence eye ใช้หลังลง น้ำป้าเจี๊ยบ แล้ว สำหรับเราก็ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ แต่คิดว่าใช้เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยที่รอบดวงตาก่อนวัยแล้วกัน แต่ไม่ได้ทำให้ตาสว่างขึ้นเท่าไหร่
2. Dr.Joops serum จากที่ดูส่วนประกอบ เป็นกลุ่ม antioxidant ส่วนใหญ่ น่าจะช่วยเรื่อง antiaging ส่วนตัวชอบเนื้อสัมผัสของ serum ตัวนี้มาก เพราะทาแล้วหน้านุ่ม และดูเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้นด้วย แต่ราคาค่อนข้างสูง ผลลัพธ์ที่ได้ ยอมค่ะ ^^ ใช้แค่วันเว้นวันเท่านั้นค่ะ
3. Laneige water bank essence ใช้หลังจากลงน้ำป้าเจี๊ยบแล้ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สำหรับเราชอบตัวนี้มาก ถ้าไม่ทารู้เลยว่า ผิวจะไม่ชุ่มชื้นเท่ากับตอนที่ทา แล้วให้ผลดีทั้งวัน หมดเร็วมาก แต่เราชอบมากๆเลยค่ะ
ลำดับของการลง skincare ง่ายๆ วิธีของเราคือ เลือก ตามความหนืดของเนื้อครีม ถ้าหนืดน้อยหรือเป็นน้ำก็ลงก่อน หนืดมากลงทีหลัง ง่ายๆค่ะ
ไม่ยากใช่มั้ยคะ สำหรับการเลือกสกินแคร์ง่ายๆ ในแบบของเรา เลือกตามประเภทและปัญหาของผิว ที่สำคัญคือห้ามลืมทากันแดดค่ะ ต่อให้บำรุงมาแทบตาย ให้ครีมราคาเป็นพันเป็นหมื่นแต่ลืมลงกันแดด ก็พังแล้วค่ะ อิอิ การทากันแดดสำคัญมากนะคะ
วันนี้ขอจบเรื่องสกินแคร์ไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ในสัปดาห์หน้าเราจะมาพูดถึงเรื่องอาหารเสริมกันต่อ เราก็ได้เคล็ดลับการดูแลผิวมาจากห้องแป้งหลายๆอย่าง ต้องขอบคุณมากนะคะ
สุดท้ายอยากฝากรูป before-after ของเรา เมื่อ 7 ปีที่แล้วกับตอนนี้ ไว้เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังดูแลตัวเองทุกคนนะคะ
แค่รู้จักเริ่มทากันแดด และดูแลผิว ผิวก็ดีขึ้นมาตามลำดับ อาจจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ผลลัพธ์ก็คุ้มค่าที่ได้ดูแลตัวเองนะคะ
ปล. สำหรับใครที่มีข้อสงสัย หรืออยากจะแนะนำ หรือซักถาม ได้เลยนะคะ เรายินดีค่ะ
[CR] [Review][CR] รีวิวสกินแคร์ที่ใช้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และแนะนำวิธีเลือกใช้สกินแคร์แบบง่ายๆ สำหรับทุกคนค่ะ
แนะนำตัวก่อนเลย เราชื่อเตยนะคะ เป็นเภสัชกรค่ะ จบมาได้ 2 ปีแล้ว ตอนนี้กำลังเรียนต่อระดับปริญญาโท ด้านวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม โดยเน้นวิจัยเกี่ยวกับเครื่องสำอางค่ะ เพื่อนๆบางคนอาจจะเคยเห็นกระทู้เรามาบ้างแต่ไม่บ่อย เพราะเราไม่ค่อยมีเวลามานั่งเขียนกระทู้เท่าไหร่ แต่ตั้งใจว่าหลังจากนี้จะเขียนกระทู้แบ่งปันให้มากขึ้นค่ะ
รูปมุมขวาล่างเป็นรูปตอนหน้าเปลือยของเราในปัจจุบันค่ะ
ออกตัวก่อนว่า เราเองไม่ใช่แพทย์ผิวหนัง อาจจะไม่สามารถจำแนกชนิดของโรคทางผิวหนังของทุกคนได้ทั้งหมด แต่การดูแลรักษาผิวพรรณและสุขภาพขั้นพื้นฐานนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนควรรู้ เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตและบุคลิกภาพที่ดีค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่เคยมีปัญหาผิว คือ ผิวแพ้สเตียรอยด์ จากครีมแบรนด์หนึ่งที่ การันตีว่า ขาวเด้งภายในหนึ่งคืน แรกๆก็เหมือนจะดี แต่หลังๆพังค่ะ หน้าเป็นผดผื่น ตุ่มน้ำเต็มหน้า สุดท้ายต้องไปหาคุณหมอผิวหนัง คุณหมอรักษาจนหาย ต้องขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ จากเรื่องนี้ได้เรียนรู้อีกอย่างนึงว่า การพบแพทย์ผิวหนังโดยตรง ที่ไม่เลี้ยงไข้ ดีจริงๆค่ะ พอปัญหาผิวหน้าเราหาย คุณหมอก็ไม่นัดเพิ่มแล้วค่ะ แต่แนะนำว่าให้ดูแลรักษาผิวพรรณอย่างไรมากกว่า
***ทำความเข้าใจกันก่อนว่า การจะมีผิวพรรณที่ดี และ รูปร่างที่สมสัดส่วน นั้นไม่สามารถทำได้ภายในไม่กี่วัน แต่ต้องใช้เวลาดูแลรักษาเป็นเดือนหรือเป็นปี "ความสวยไม่มีทางลัด" ฉะนั้นสาวๆหรือหนุ่มๆที่อยากดูดีต้องมีความอดทนค่ะ
***ที่สำคัญคือ คนแต่ละคนจะถูกกับผลิตภัณฑ์ที่ต่างกัน บางคนอาจจะแพ้ส่วนผสมของครีมตัวนี้ ในขณะที่อีกคนใช้แล้วให้ผลดีมากๆ ฉะนั้นต้องลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตัวเองดีๆนะคะ อย่าใช้ตามเพียงเพราะเห็นคนอื่นว่าดีเท่านั้น ไม่จำเป็นว่าของแพงต้องดีเสมอไป
***การโบกครีมมากมาย บนหน้าในครั้งเดียว อาจจะทำให้เกิดการอุดตัน ก่อให้เกิดสิว ตามมา มากกว่าที่จะทำให้สวยขึ้นค่ะ
มาเริ่มที่ขั้นตอนการล้างหน้ากันก่อนนะคะ
แต่งหน้ามาทั้งวันแล้ว การล้างหน้า และดูแลความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ ไม่ใช่ใช้ครีมราคาเป็นหมื่นๆ แต่ ไม่ล้างเครื่องสำอาง ล้างหน้าไม่สะอาด ก็จบ.. สิวอุดตัน ริ้วรอยมาแน่นอนค่ะ แม้แต่ทาแค่กันแดดกับแป้ง ก็ต้องล้างด้วย make up remover ซึ่งตอนนี้ก็มีมากมายหลายแบบ แล้วแต่ว่าเราจะถูกจริตกับแบบไหนค่ะ ^^ ปัญหาสิวอุดตันก็จะหายไปค่ะ
สำหรับเรา ใช้ Bioderma ขวดสีชมพู เพราะเคยใช้ตัวอื่นมาแล้วสิวอุดตันยังขึ้นอยู่ดี พอใช้ตัวนี้ไม่มีเลย เช็ดจนสำลีเป็นสีขาว เราเช็ดตามรูขุมขนค่ะ
ที่ตากับคิ้ว ก็จะใช้ Loreal ทาบนสำลีแล้วแปะไว้ 15-30 วินาที แล้วเช็ดออกเบาๆ ย้ำว่าเบามากๆ เดี๋ยวริ้วรอยจะขึ้นไวก่อนกำหนดนะคะ
ทุกๆ 2 สัปดาห์เราจะใช้สครับ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และมาส์กหน้าต่อ
หลังเช็ดหน้าด้วย Bioderma เราจะใช้ สครับของ Loccitane ตัวนี้ นวดวนๆ ที่ผิวเบาๆ แล้วใช้น้ำค่อยๆ นวดๆ จนหมด แล้วล้างออก
หน้านุ่มเนียนขึ้น ความกระจ่างใสก็โอเค สรุปคือชอบมากค่ะ
มาถึงเรื่องการเลือก skincare เราอาจต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เรามีผิวแบบไหน เราจะวิเคราะห์สองแง่ คือ
1. ประเภทของผิว นั่นคือ ผิวธรรมดา , ผิวมัน (ซึ่งโดยปกติจะมันเฉพาะ T-zone) , ผิวแห้ง และผิวบอบบางแพ้ง่าย
2. ปัญหาบนใบหน้าที่เราอยากจะแก้ไข เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเสี้ยน ฝ้า กระ ริ้วรอย
การเลือกใช้ skincare ก็ใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของผิวและปัญหาที่อยากแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีผิวมัน ก็ใช้เลือกใช้ skincare ที่มีส่วนผสมของน้ำมันไม่มาก หรือ พวก oil-free ค่ะ
ถึงจะหน้ามันหรือหน้าแห้ง moisturizer ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกๆ ผิว เพราะจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังไว้ หน้าแห้งก็ใช้สำหรับคนหน้าแห้ง หน้ามันก็ใช้ครีมบำรุงสำหรับคนหน้ามัน เข้าใจง่ายๆก็ประมาณนี้ค่ะ ไม่ต้องใช้ moisturizer หลายตัวนะคะ เลือกตัวเพียงพอกับความต้องการของผิว เพราะนอกจากจะเปลืองเงินแล้ว ยังทำให้อุดตัน และเกิดสิวขึ้นมาอีกต่างหาก สำหรับเราเป็นคนผิวผสม คือ มันช่วง T-zone และข้างแก้มค่อนข้างแห้งค่ะ
moisturizer เราใช้ ของ Dr. Joops (moisturiche supreme) สำหรับกลางคืนค่ะ เพื่อนแนะนำให้ใช้อีกที ใช้เป็นกระปุกที่สองแล้ว ส่วนตัวชอบเนื้อสัมผัสครีม และก็ทำให้ผิวชุ่มชื้นดี หน้านิ่มเลย สำหรับกลางวันเราใช้ La roche sensi white cream triple action intense whitening cream ทาก่อนกันแดดค่ะ ชุ่มชื้นไม่มาก แต่ไม่ทำให้หน้ามัน และไม่ทำให้แห้งระหว่างวัน
ปัญหาเรื่องผิวคล้ำเสีย กระ ฝ้า ไม่สดใส ก็มาจาก เจ้าเซลล์ melanocyte ที่สร้างเม็ดสีผิวขึ้นมามากเกินไป สาเหตุก็มาจากแสงแดด หรือใช้ครีมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เกิดการอักเสบบนผิว หรืออาจจะเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปก็ได้ค่ะ
รูปภาพของเจ้า melanocyte คร่าวๆ คนที่มีเชื้อชาติต่างกัน สีผิวก็จะต่างกันไป อย่าไปคิดเปลี่ยนสีมันเลยนะคะ อะไรที่มันผิดธรรมชาติมักจะมีอันตรายเสมอ ให้มันได้ทำหน้าที่ของมันไปตามที่มันควรจะเป็น ผลิตเม็ดสีไม่มากไม่น้อยเกินไปตามสภาวะของเรา น่าจะดีที่สุดค่ะ
แสงแดดเป็นตัวการที่สำคัญแบบสุดๆ ที่จะทำลายผิวพรรณของเรา ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน เส้นใยคอลลาเจนที่ผิวถูกทำลาย น่ากลัวใช่มั้ยหล่ะค่ะ ฉะนั้นการไม่ใช่กันแดด ถือเป็นการทำลายผิวอย่างมาก อย่าลืมใช้กันแดดกันนะคะ กันแดดที่เราใช้ เป็นของ Lancome UV EXPERT GN-SHIELD™ SPF 50 PA +++ เราชอบตัวนี้เพราะ เนื้อดี ทาง่ายไม่เหนียว ซึมเร็ว ไม่ทำให้รองพื้นเป็นคราบ ^^
แต่ยังไง ถ้าออกแดดจัดๆ อย่าลืมร่มนะคะ
พูดถึงเรื่องริ้วรอย ความแก่กันต่อ ง่ายๆคือนอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น แล้ว ยังเกิดจากเจ้า อนุมูลอิสระ โดยมีแสงแดดเป็นตัวการสำคัญอีกนั่นแหละค่ะ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ กินเหล้า ก็ทำให้แก่ไว เพราะมันไปทำให้เกิด อนุมูลอิสระขึ้น เจ้าตัวอนุมูลนี้ก็จะไปทำลายผิวเรา และยังทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดริ้วรอยในที่สุด การรักษาริ้วรอยมีหลายวิธีนะคะ แต่วิธีที่เราสามารถทำเองกันได้ คือ การใช้ skincare ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ หรือที่เรารู้จักกันดี ในนาม antioxidant ที่มาฮิตฮอตกันช่วงนี้ โดยจะเข้าไปกำจัด อนุมูลอิสระให้หมดไป หรือหยุดปฏิกิริยาบางอย่าง ^^ ช่วยชะลอความแก่ของผิวเราได้ค่ะ
ตัวที่เราใช้คือ SK-II facial treatment essence มีส่วนประกอบสำคัญของ pitera ที่ช่วยยับยั้งการอักเสบของผิว ชะลอความแก่ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง แต่กลิ่นค่อนข้างแรงไปหน่อยค่ะ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่...
Ref. Wong W, Hakozaki T, Yoshii T, Chen T, Pang J. Up-Regulation of tight junction-Related proteins and increase of human epidermal keratinocytes barrier function by Saccharomycosis Ferment Filtrate. J Cosmet Dermatol Sci Appl 2011; 1:15-24.
Tsai H, Chen Y, Lee W, Hu C, Hakozaki T, Yoshii T, Shen S. Inhibition of inflammatory nitric oxide production
and epidermis damages by Saccharomycopsis Ferment Filtrate. J Dermatol Sci 2006; 42: 249-57.
ก่อนลง skincare ทุกตัว เราชอบใช้ Toner ค่ะ เป็น step ที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมในการรับการบำรุงอย่างเต็มที่ จะใช้หรือไม่ใช่ ไม่มีปัญหานะคะ แต่สำหรับเรา ใช้แล้วดีกว่าค่ะ เลือก Toner ที่อ่อนโยน และไม่มีส่วนผสมของ alcohol เราใช้ La roche ค่ะ รุ่น Physiological soothing toner สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
ในกลุ่ม serum และ essence กันบ้าง เป็น skincare ที่มีความเข้มข้นของสาระสำคัญสูง เน้นตามปัญหาของผิวที่เราต้องการแก้ไข ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
1. สำหรับ eye cream เราใช้ SK-II facial treatment essence eye ใช้หลังลง น้ำป้าเจี๊ยบ แล้ว สำหรับเราก็ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ แต่คิดว่าใช้เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยที่รอบดวงตาก่อนวัยแล้วกัน แต่ไม่ได้ทำให้ตาสว่างขึ้นเท่าไหร่
2. Dr.Joops serum จากที่ดูส่วนประกอบ เป็นกลุ่ม antioxidant ส่วนใหญ่ น่าจะช่วยเรื่อง antiaging ส่วนตัวชอบเนื้อสัมผัสของ serum ตัวนี้มาก เพราะทาแล้วหน้านุ่ม และดูเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้นด้วย แต่ราคาค่อนข้างสูง ผลลัพธ์ที่ได้ ยอมค่ะ ^^ ใช้แค่วันเว้นวันเท่านั้นค่ะ
3. Laneige water bank essence ใช้หลังจากลงน้ำป้าเจี๊ยบแล้ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สำหรับเราชอบตัวนี้มาก ถ้าไม่ทารู้เลยว่า ผิวจะไม่ชุ่มชื้นเท่ากับตอนที่ทา แล้วให้ผลดีทั้งวัน หมดเร็วมาก แต่เราชอบมากๆเลยค่ะ
ลำดับของการลง skincare ง่ายๆ วิธีของเราคือ เลือก ตามความหนืดของเนื้อครีม ถ้าหนืดน้อยหรือเป็นน้ำก็ลงก่อน หนืดมากลงทีหลัง ง่ายๆค่ะ
ไม่ยากใช่มั้ยคะ สำหรับการเลือกสกินแคร์ง่ายๆ ในแบบของเรา เลือกตามประเภทและปัญหาของผิว ที่สำคัญคือห้ามลืมทากันแดดค่ะ ต่อให้บำรุงมาแทบตาย ให้ครีมราคาเป็นพันเป็นหมื่นแต่ลืมลงกันแดด ก็พังแล้วค่ะ อิอิ การทากันแดดสำคัญมากนะคะ
วันนี้ขอจบเรื่องสกินแคร์ไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ในสัปดาห์หน้าเราจะมาพูดถึงเรื่องอาหารเสริมกันต่อ เราก็ได้เคล็ดลับการดูแลผิวมาจากห้องแป้งหลายๆอย่าง ต้องขอบคุณมากนะคะ
สุดท้ายอยากฝากรูป before-after ของเรา เมื่อ 7 ปีที่แล้วกับตอนนี้ ไว้เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังดูแลตัวเองทุกคนนะคะ
แค่รู้จักเริ่มทากันแดด และดูแลผิว ผิวก็ดีขึ้นมาตามลำดับ อาจจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ผลลัพธ์ก็คุ้มค่าที่ได้ดูแลตัวเองนะคะ
ปล. สำหรับใครที่มีข้อสงสัย หรืออยากจะแนะนำ หรือซักถาม ได้เลยนะคะ เรายินดีค่ะ