สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 81
ของผมเองคบกันมาประมาณ 1 ปี ถึงได้ตัดสินใจบอกแม่ครับ เหตุที่ตัดสินใจบอกเพราะตอนนั้นญาติๆ ถามกันบ่อยว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน
แล้วแม่ผมเองก็ถาม ที่ผมบอกเพราะว่าผมไม่อยากโกหก คือที่ผ่านมาผมจะคุยกับแม่ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไร
(คิดหนักเหมือนกันครับ เพราะว่าปกติจะไม่มีใครรู้ เพราะผมไม่แสดงออกครับ)
แม่ - ที่ญาติๆ ถามกัน แม่ก็อยากรู้นะ ตกลงเรามีแฟนยัง
ผม - ก็...มีแล้วครับ แต่ว่ามีเรื่องจะบอกแม่ด้วยนะครับ (ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดีละครับ แล้วก็ร้องไห้เลย)
แม่ - (เข้ามากอด) มีอะไรลูก ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ
ผม - ผมตัดสินใจจะบอกแม่แล้วครับ คือผมมีแฟนแล้ว และเขาเป็น...บุรุษพยาบาลครับแม่
แม่ - (เงียบไปสักพัก)...บุรุษพยาบาล เอ่อ ผู้ชายกับผู้ชาย รักกันเนี่ยนะลูก
ผม - ใช่ครับ
แม่ - ไม่ต้องร้องนะ และไม่ต้องคิดมาก จำไว้ว่าสำหรับแม่ ความสุขของลูกต้องมาก่อน
ผมได้ยินอย่างนั้นยิ่งร้องใหญ่เลยครับ แม่ขอดูรูปแฟน ผมก็เอาให้ดู ยังมีแซวๆ เลยว่า รูปหล่อเนอะ แต่ผมรู้ว่าในใจแม่
ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไรด้วยสักนิด หลังจากนั้นแม่ก็บอกให้ลองห่างๆ ดูครับ(ลึกๆ ผมคิดไว้อยู่แล้วครับ) บอกผมตรงๆ ว่าเป็นห่วงผม
ถ้าวันหนึ่งแฟนผมเขาไปแต่งงาน มีครอบครัวแล้วผมจะอยู่ยังไง จะเสียใจหรือเปล่า (แฟนผมเคยคบผู้หญิงมาก่อนครับ)
เล่าให้แฟนฟัง เขาบอกว่าขอโอกาสให้เขาไปเจอแม่ได้ไหม ผมก็พาแฟนกลับบ้านด้วยครับ โชคดีที่แฟนผมเขาเป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว
อยู่บ้านเขาสามารถเล่นบอลกับหลานๆ ผม เล่นเกมกับน้องชายผม นั่งคุยกับตา ช่วยทำงานในไร่ กลมกลืนได้กับทุกคน แฟนผมบอกว่า
อยู่ที่บ้านผมแล้วมีความสุข อบอุ่นดี ทำให้แม่มั่นใจว่าเขาดูแลผมได้ ตอนนี้คบกันมา 7 ปีแล้วครับ แฟนผมกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้านไปแล้ว
มีญาติๆ เพื่อนบ้าน สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเรา แล้วเขาเกิดเผือก ไปถามแม่ผม แม่ตอบเขาไปว่า
"ลูกเราเลี้ยงได้แต่ตัว อะไรก็ตามที่ลูกตัดสินใจเลือกไปแล้ว นั่นคือเขาคิดดีแล้ว แม่ต้องยอมรับ ทุกวันนี้ลูกเรียนจบ ทำงาน ดูแลแม่
อย่างดี ส่งน้องเรียนมหาลัยเอง ไม่เคยมีสักเรื่องที่ทำให้ผิดหวัง....ถึงขนาดนี้แล้ว คนเป็นแม่ยังจะต้องการอะไรจากลูกอีกเหรอ"...
พอแม่มาเล่าให้ฟังแบบนี้ ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ แม่แล้วกอดแม่แน่นๆ (แถมหอมไปทีนึง) เพราะไม่รู้ว่าจะขอบคุณแม่ด้วยวิธีไหนแล้วครับ
แล้วแม่ผมเองก็ถาม ที่ผมบอกเพราะว่าผมไม่อยากโกหก คือที่ผ่านมาผมจะคุยกับแม่ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไร
(คิดหนักเหมือนกันครับ เพราะว่าปกติจะไม่มีใครรู้ เพราะผมไม่แสดงออกครับ)
แม่ - ที่ญาติๆ ถามกัน แม่ก็อยากรู้นะ ตกลงเรามีแฟนยัง
ผม - ก็...มีแล้วครับ แต่ว่ามีเรื่องจะบอกแม่ด้วยนะครับ (ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดีละครับ แล้วก็ร้องไห้เลย)
แม่ - (เข้ามากอด) มีอะไรลูก ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ
ผม - ผมตัดสินใจจะบอกแม่แล้วครับ คือผมมีแฟนแล้ว และเขาเป็น...บุรุษพยาบาลครับแม่
แม่ - (เงียบไปสักพัก)...บุรุษพยาบาล เอ่อ ผู้ชายกับผู้ชาย รักกันเนี่ยนะลูก
ผม - ใช่ครับ
แม่ - ไม่ต้องร้องนะ และไม่ต้องคิดมาก จำไว้ว่าสำหรับแม่ ความสุขของลูกต้องมาก่อน
ผมได้ยินอย่างนั้นยิ่งร้องใหญ่เลยครับ แม่ขอดูรูปแฟน ผมก็เอาให้ดู ยังมีแซวๆ เลยว่า รูปหล่อเนอะ แต่ผมรู้ว่าในใจแม่
ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไรด้วยสักนิด หลังจากนั้นแม่ก็บอกให้ลองห่างๆ ดูครับ(ลึกๆ ผมคิดไว้อยู่แล้วครับ) บอกผมตรงๆ ว่าเป็นห่วงผม
ถ้าวันหนึ่งแฟนผมเขาไปแต่งงาน มีครอบครัวแล้วผมจะอยู่ยังไง จะเสียใจหรือเปล่า (แฟนผมเคยคบผู้หญิงมาก่อนครับ)
เล่าให้แฟนฟัง เขาบอกว่าขอโอกาสให้เขาไปเจอแม่ได้ไหม ผมก็พาแฟนกลับบ้านด้วยครับ โชคดีที่แฟนผมเขาเป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว
อยู่บ้านเขาสามารถเล่นบอลกับหลานๆ ผม เล่นเกมกับน้องชายผม นั่งคุยกับตา ช่วยทำงานในไร่ กลมกลืนได้กับทุกคน แฟนผมบอกว่า
อยู่ที่บ้านผมแล้วมีความสุข อบอุ่นดี ทำให้แม่มั่นใจว่าเขาดูแลผมได้ ตอนนี้คบกันมา 7 ปีแล้วครับ แฟนผมกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้านไปแล้ว
มีญาติๆ เพื่อนบ้าน สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเรา แล้วเขาเกิดเผือก ไปถามแม่ผม แม่ตอบเขาไปว่า
"ลูกเราเลี้ยงได้แต่ตัว อะไรก็ตามที่ลูกตัดสินใจเลือกไปแล้ว นั่นคือเขาคิดดีแล้ว แม่ต้องยอมรับ ทุกวันนี้ลูกเรียนจบ ทำงาน ดูแลแม่
อย่างดี ส่งน้องเรียนมหาลัยเอง ไม่เคยมีสักเรื่องที่ทำให้ผิดหวัง....ถึงขนาดนี้แล้ว คนเป็นแม่ยังจะต้องการอะไรจากลูกอีกเหรอ"...
พอแม่มาเล่าให้ฟังแบบนี้ ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ แม่แล้วกอดแม่แน่นๆ (แถมหอมไปทีนึง) เพราะไม่รู้ว่าจะขอบคุณแม่ด้วยวิธีไหนแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 119
อยากบอกว่า .......... เราเข้าใจเจ้าของกระทู้ดี และขอแสดงความยินดีจากใจจริงๆที่ได้เปิดหีบเปิดไห ร่วมแรงร่วมใจจนผ่านปราการแห่งความรักจนมาถึงเวลานี้ ....... แอร่ย ซึ้ง ...........
สำหรับเรา เราเป็น เกย์ ตุ๊ด ผมยาว ไร้นม อารมณ์ออกสาว แต่ไม่แต่งหญิง ...อะไรก้อแล้วแต่จะเรียก ........... ผมยาว เดินสบัดสบิ่ง แต่เรียบร้อย ....... แม่เรารับได้ แม่สอนเสมอว่า อย่าพูดจีบปากจีบคอแบบในละคร ...... เพราะมันดู
คบไม่ได้ซึ่งเราก้อทำตาม และพ่อเรา( เราเรียกป๋า ....... ด้วยความที่ป๋าเราเป็นคนจีน มีลูกชายจากภรรยาอื่นมาก่อนหน้านี่เยอะหลายคน ทำให้เรา เป็นลูกชายคนเล็กที่ ป๋าไม่คาดหวังใดๆ มีอะไรรับได้หมด ... เพียงแต่ขอให้เอาตัวรอด เป็นคนดี ไม่โก่งกินมักร้ายต่อสังคม และไม่เบียดเบียนใครก้อพอ เราเป้นคนเรียนไม่เก่ง แต่เก่งอย่างเดียวคือ ศิลปะ เต้นรำ งานประดิตประดอย ออกแบบ ..... ซึ่งสมัยเมื่อปี 90 ผู้ปกครองมักแข่งกันอวดว่า ลูกเอง เรียนได้ที่เท่าไร ได้เกรด 4 ตัว ....... ซึ่ง ป๋าเราก้อไม่ได้ไปอวดอะไรมาก เพราะเราเรียนไม่เก่งมีแต่รางวัลแข่งศิลปะเท่านั่นแหละที่ป๋าเลี่ยมกรอบแปะฝาบ้านเอาไว้และมีประโยคหนึ่ง : ซึ่งหลายๆคนถามป๋าว่า
"ทำไมเอ๊งเลี่ยงลูกให้เป็นตุ๊ดว่ะ ......... ?
: ซึ่งป๋าก้อพูดตอบไปว่า ...... " มันเป็นตุ๊ดก้อไม่เห็นเป็นอะไร ... มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ...... มันมีความสุขในชีวิตของมันก้อปล่อยมันไป ....... ดีกว่ามีลูกเป็นผู้ชายนักเลง เตะต๋อย ขายยาม้า ติดพนัน ปล้นช่มขืน ... แล้วไปนอนอยู่แต่ในคุก " ซึ่งไอ้คนที่ถามนะ ลูกเค้านอนอยู่คุกจริงๆ ติดยาม้า ขายยาม้า ... ก้อเลยตอกหน้างายไป .....
และที่ขำที่สุดและจำได้ประจำทุกๆปี คือ ถึตอน ม.ต้น .ยัน ม ปลาย .... เราเรียนโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัด ได้กรีฑาทัพเป็นตัวแม่เชียรลีดเดอร์ !! เต้นกริ่งกระเด้งริมสนามฟุตบอลทุกปี ไม่มีพลาด จัดแน่น จัดเต็มตลอด ....... และชุดระบำเชียร์แบบไหน ....... เชื่อมั่ยว่า ป๋าเรานี่แหละ ตัดชุดแหวกแนว แฟนซีให้ลูกชายใส่ จะผ่าหน้าผ่าหลัง ป๋าจัดให้ .........และจะแสดงออกอะไรก้อให้สุดๆไปเลยป๋าอยากให้ลูกมั่นใจและแสดงออกในทางที่ถูก ......... เพียงแต่ เมื่อออกจากจุดนั่น ต้องเรียบร้อย ไม่ใช้กรี๊ดกราดบ้าผู้ชาย เรียก ผัวๆ ผัว ๆ ริมตามถนน แบบนั่น ครอบครัวเรารับไม่ได้ ........... และทุกวันนี้ เดินเฉิด และอิ่มในออร่าแห่งการกล้าแสดงออก และมั่นใจ ก้อมาจากครอบครัวทั้งนั่น ........
และ สำหรับความรัก ...... ล้มบ้าง สดใสบ้าง โดนผู้ชายซ้อมบ้าง ล้วนสอนให้จำ .... แต่เราเจ็บแล้วจำ ..... ชกกูหรอ ....... กูกำหมัดมวยไทยชกตอบเอาสิ .......... และจบ เลิก !...... จะอยู่ทำไม ..... แม่ฉันยังไม่เคยทำร้ายฉันเลย เชิดใส่ .. ประหนึ่ง ฉันสวยเพื่อคนทั่วโลก ........... และเมื่อเวลาพบจุดสัมผัสซึ่งกันและกัน ....... ความรัก โชคชะตา ก้อประสานกันโดยไม่รู้ตัว .........ทุกวันนี้ จดทะเบียนแต่งงานกับหนุ่มฝรั่ง มาได้ 4 ปี กว่าแล้ว .......ทุกสิ่งเหมือนนิยาย และรู้สึกว่าเราโชคดี ...... ครอบครัวคือคุณแม่มีความสุข ยิ้มสดใส ..... และเพื่อนสาวคุณแม่ชอบแซวว่า เมื่อไรลูกชายจะแต่ง husband ..!..... จัดงานแต่งซักที เพราะ รอ..ๆๆๆๆๆ จนจะยานอยู่แล้วเล่นเอาขำกันทั้งโต๊ะ และครอบครัวสามีฝรั่งก้อรักเราโดยไม่คิดว่าเรานั่นคือของแปลกต่างแดน amazing banana ......... แต่กลับให้เกียรเราจริงๆ ....... เราอยากบอกว่า ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ถ้าเราได้รักใครแล้ว จงทำทุกสิ่งให้คุ้มกับชีวิตนี้ที่เกิดมาเพื่อจะได้รัก ...... และเพื่อที่จะได้รับรักเช่นกัน ....... เราเชื่อว่า ไม่มีคำว่าบาป ไม่มีคำว่ากรรม ไม่มีคำว่าผิด ..... สำหรับการเป็นมนุษย์ .... เพราะถ้าเกิดมาแบบนี้แล้วผิด .. เค้าจะมาปั้นเราให้เกิดมาทำไม .......... ทุกสิ่งมีเหตุมีผลของมันเสมอ ......และหลายๆครั้ง เพื่อนๆของแม่เราก้อ เอ่ยๆปากบอกว่า ..... แม่เราโชคดีมากที่มีลูกเป็นตุ๊ด ....... โชคดีจริงๆ ....... และทำให้แม่เราภูมิใจ .......... เมย่า ทเว่นตี้วัน Thailand !
สำหรับเรา เราเป็น เกย์ ตุ๊ด ผมยาว ไร้นม อารมณ์ออกสาว แต่ไม่แต่งหญิง ...อะไรก้อแล้วแต่จะเรียก ........... ผมยาว เดินสบัดสบิ่ง แต่เรียบร้อย ....... แม่เรารับได้ แม่สอนเสมอว่า อย่าพูดจีบปากจีบคอแบบในละคร ...... เพราะมันดู

"ทำไมเอ๊งเลี่ยงลูกให้เป็นตุ๊ดว่ะ ......... ?
: ซึ่งป๋าก้อพูดตอบไปว่า ...... " มันเป็นตุ๊ดก้อไม่เห็นเป็นอะไร ... มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ...... มันมีความสุขในชีวิตของมันก้อปล่อยมันไป ....... ดีกว่ามีลูกเป็นผู้ชายนักเลง เตะต๋อย ขายยาม้า ติดพนัน ปล้นช่มขืน ... แล้วไปนอนอยู่แต่ในคุก " ซึ่งไอ้คนที่ถามนะ ลูกเค้านอนอยู่คุกจริงๆ ติดยาม้า ขายยาม้า ... ก้อเลยตอกหน้างายไป .....
และที่ขำที่สุดและจำได้ประจำทุกๆปี คือ ถึตอน ม.ต้น .ยัน ม ปลาย .... เราเรียนโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัด ได้กรีฑาทัพเป็นตัวแม่เชียรลีดเดอร์ !! เต้นกริ่งกระเด้งริมสนามฟุตบอลทุกปี ไม่มีพลาด จัดแน่น จัดเต็มตลอด ....... และชุดระบำเชียร์แบบไหน ....... เชื่อมั่ยว่า ป๋าเรานี่แหละ ตัดชุดแหวกแนว แฟนซีให้ลูกชายใส่ จะผ่าหน้าผ่าหลัง ป๋าจัดให้ .........และจะแสดงออกอะไรก้อให้สุดๆไปเลยป๋าอยากให้ลูกมั่นใจและแสดงออกในทางที่ถูก ......... เพียงแต่ เมื่อออกจากจุดนั่น ต้องเรียบร้อย ไม่ใช้กรี๊ดกราดบ้าผู้ชาย เรียก ผัวๆ ผัว ๆ ริมตามถนน แบบนั่น ครอบครัวเรารับไม่ได้ ........... และทุกวันนี้ เดินเฉิด และอิ่มในออร่าแห่งการกล้าแสดงออก และมั่นใจ ก้อมาจากครอบครัวทั้งนั่น ........
และ สำหรับความรัก ...... ล้มบ้าง สดใสบ้าง โดนผู้ชายซ้อมบ้าง ล้วนสอนให้จำ .... แต่เราเจ็บแล้วจำ ..... ชกกูหรอ ....... กูกำหมัดมวยไทยชกตอบเอาสิ .......... และจบ เลิก !...... จะอยู่ทำไม ..... แม่ฉันยังไม่เคยทำร้ายฉันเลย เชิดใส่ .. ประหนึ่ง ฉันสวยเพื่อคนทั่วโลก ........... และเมื่อเวลาพบจุดสัมผัสซึ่งกันและกัน ....... ความรัก โชคชะตา ก้อประสานกันโดยไม่รู้ตัว .........ทุกวันนี้ จดทะเบียนแต่งงานกับหนุ่มฝรั่ง มาได้ 4 ปี กว่าแล้ว .......ทุกสิ่งเหมือนนิยาย และรู้สึกว่าเราโชคดี ...... ครอบครัวคือคุณแม่มีความสุข ยิ้มสดใส ..... และเพื่อนสาวคุณแม่ชอบแซวว่า เมื่อไรลูกชายจะแต่ง husband ..!..... จัดงานแต่งซักที เพราะ รอ..ๆๆๆๆๆ จนจะยานอยู่แล้วเล่นเอาขำกันทั้งโต๊ะ และครอบครัวสามีฝรั่งก้อรักเราโดยไม่คิดว่าเรานั่นคือของแปลกต่างแดน amazing banana ......... แต่กลับให้เกียรเราจริงๆ ....... เราอยากบอกว่า ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ถ้าเราได้รักใครแล้ว จงทำทุกสิ่งให้คุ้มกับชีวิตนี้ที่เกิดมาเพื่อจะได้รัก ...... และเพื่อที่จะได้รับรักเช่นกัน ....... เราเชื่อว่า ไม่มีคำว่าบาป ไม่มีคำว่ากรรม ไม่มีคำว่าผิด ..... สำหรับการเป็นมนุษย์ .... เพราะถ้าเกิดมาแบบนี้แล้วผิด .. เค้าจะมาปั้นเราให้เกิดมาทำไม .......... ทุกสิ่งมีเหตุมีผลของมันเสมอ ......และหลายๆครั้ง เพื่อนๆของแม่เราก้อ เอ่ยๆปากบอกว่า ..... แม่เราโชคดีมากที่มีลูกเป็นตุ๊ด ....... โชคดีจริงๆ ....... และทำให้แม่เราภูมิใจ .......... เมย่า ทเว่นตี้วัน Thailand !
ความคิดเห็นที่ 88
มาแล้วครับ......กลับมาเปิดดูตกใจเลย ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะครับ
เรื่องทางบ้านของแฟนผมตอนนี้เค้าก็น่าเริ่มรู้แล้ว เพราะไปบ้านเค้าบ่อยๆ แต่แฟนผมเค้ายังไม่พร้อมที่จะบอกอย่างเป็นทางการ เพราะยังไม่พร้อมกับอะไรหลายๆอย่าง เราสองคนได้ปรึกษากันแล้วว่า ให้เค้าทำงานก่อนมีเงินเดือนก่อน เพราะเค้าเพิ่งเรียนจบ ต้องรอให้อะไรลงตัว แต่มีอยู่ครั้งนึงผมได้ไปช่วยงานที่บ้านเค้า แล้วพวกเพื่อนๆแม่เค้าก็อยู่ดันเยอะ พวกเค้าน่าจะถามแม่ว่านี่ใครหรอไม่เคยเห็นหน้า แม่เค้าก็ตอบซะดังเลย "ลูกสะใภ้ของลูก !!!" ไม่รู้ว่าแกล้งพูดหรือพูดจริง ผมนี่เขินเลย 555+ แต่ว่าเวลาผมไปที่บ้านเค้า แม่เค้าก็จะซื้อข้าวซื้อขนมมากให้กินตลอด แถมคนที่บ้านเค้าชอบแซวแฟนผมเวลาผมไม่ได้ไปหาเค้าว่า "ไงวันนี้แฟนไม่มาหรอ แฟนไปไหน จะมาอีกเมื่อไร" เพราะเราดูสนิทกันเกินคำว่าเพื่อน ที่บ้านเค้าคงคิดแล้วแหละครับ ว่าทำไมนะ เรียนที่เดียวกันก็ไม่ใช่ บ้านใกล้กันก็ไม่ใช่ (บ้านผมกับแฟนห่างกันประมาณ 80 กิโล) แต่กลับมาช่วยงานที่บ้านบ่อยๆ ตอนนี้ทางบ้านเค้าคงรอ รอให้แฟนผม พูดออกไปจากปากของเค้าเองว่าเรา "เป็นแฟนกัน"
และล่าสุดเพิ่งผ่านวันเกิดแฟนผม ผมก็เลยอยากจะเซอร์ไพรส์ซะหน่อย แบบว่าเงินไม่ค่อยมี ยังหาเงินเองไม่ได้ เพราะผมยังเรียนอยู่แต่จะจบแล้ว เลยเอาตังที่เก็บไว้ซื้อเค๊กไป 200 กว่าบาท ให้เค้าเขียนหน้าเค๊กว่า "สุขสันต์วันเกิด ที่รัก..." แล้วจัดแจงออกเดินทางไปบ้านแฟนที่บ้าน หลังจากเดินทางอย่างหลังขดหลังแข็ง พอไปถึงก็แอบเดินไปหลังห้องแฟนแล้วเปิดหน้าต่าง ส่งเค๊กให้แล้วบอก สุขสันต์วันเกิด... แฟนผมทำหน้างงๆ แล้วจากนั้นเค้าก็จัดแจงเขย่าเลยเพราะอยากรู้อะไรอยู่ข้างในกล่อง ดีนะห้ามไว้ทันไม่งั้นเละแน่เค๊กของผม 5555+
ปล. แฟนบ่นว่า ทำไมต้องเค๊กด้วย กำลังไว้หุ่นเลย = ='
เรื่องทางบ้านของแฟนผมตอนนี้เค้าก็น่าเริ่มรู้แล้ว เพราะไปบ้านเค้าบ่อยๆ แต่แฟนผมเค้ายังไม่พร้อมที่จะบอกอย่างเป็นทางการ เพราะยังไม่พร้อมกับอะไรหลายๆอย่าง เราสองคนได้ปรึกษากันแล้วว่า ให้เค้าทำงานก่อนมีเงินเดือนก่อน เพราะเค้าเพิ่งเรียนจบ ต้องรอให้อะไรลงตัว แต่มีอยู่ครั้งนึงผมได้ไปช่วยงานที่บ้านเค้า แล้วพวกเพื่อนๆแม่เค้าก็อยู่ดันเยอะ พวกเค้าน่าจะถามแม่ว่านี่ใครหรอไม่เคยเห็นหน้า แม่เค้าก็ตอบซะดังเลย "ลูกสะใภ้ของลูก !!!" ไม่รู้ว่าแกล้งพูดหรือพูดจริง ผมนี่เขินเลย 555+ แต่ว่าเวลาผมไปที่บ้านเค้า แม่เค้าก็จะซื้อข้าวซื้อขนมมากให้กินตลอด แถมคนที่บ้านเค้าชอบแซวแฟนผมเวลาผมไม่ได้ไปหาเค้าว่า "ไงวันนี้แฟนไม่มาหรอ แฟนไปไหน จะมาอีกเมื่อไร" เพราะเราดูสนิทกันเกินคำว่าเพื่อน ที่บ้านเค้าคงคิดแล้วแหละครับ ว่าทำไมนะ เรียนที่เดียวกันก็ไม่ใช่ บ้านใกล้กันก็ไม่ใช่ (บ้านผมกับแฟนห่างกันประมาณ 80 กิโล) แต่กลับมาช่วยงานที่บ้านบ่อยๆ ตอนนี้ทางบ้านเค้าคงรอ รอให้แฟนผม พูดออกไปจากปากของเค้าเองว่าเรา "เป็นแฟนกัน"
และล่าสุดเพิ่งผ่านวันเกิดแฟนผม ผมก็เลยอยากจะเซอร์ไพรส์ซะหน่อย แบบว่าเงินไม่ค่อยมี ยังหาเงินเองไม่ได้ เพราะผมยังเรียนอยู่แต่จะจบแล้ว เลยเอาตังที่เก็บไว้ซื้อเค๊กไป 200 กว่าบาท ให้เค้าเขียนหน้าเค๊กว่า "สุขสันต์วันเกิด ที่รัก..." แล้วจัดแจงออกเดินทางไปบ้านแฟนที่บ้าน หลังจากเดินทางอย่างหลังขดหลังแข็ง พอไปถึงก็แอบเดินไปหลังห้องแฟนแล้วเปิดหน้าต่าง ส่งเค๊กให้แล้วบอก สุขสันต์วันเกิด... แฟนผมทำหน้างงๆ แล้วจากนั้นเค้าก็จัดแจงเขย่าเลยเพราะอยากรู้อะไรอยู่ข้างในกล่อง ดีนะห้ามไว้ทันไม่งั้นเละแน่เค๊กของผม 5555+
ปล. แฟนบ่นว่า ทำไมต้องเค๊กด้วย กำลังไว้หุ่นเลย = ='
ความคิดเห็นที่ 142
ทำไมไม่เหมือนแม่ผมอะ
ผม: แม่ผมอยากมีเมีย
แม่: เมียเอ็งนี้ผู้หญิงผู้ชาย
ผม: ผู้หญิงซิแม่
แม่: หญิงแท้หรือหญิงแปลงเพศ
ผม: หญิงแท้ๆซิแม่ เหมือนแม่อะ มีลูกได้อะ
แม่: อย่าฝืนธรรมชาติ ถ้าเมียเก่าๆเอ็งไม่แต่งหญิงมา ไม่สวยๆนมใหญ่ๆมาเหมือนอี,,,(แฟนเก่าแปลงแล้ว) กูกะว่าเอ็งนั้นแหละจะแต่งหญิงเอง อย่าฝืนธรรมชาติเลยลูก
ผมได้แต่

ผม: แม่ผมอยากมีเมีย
แม่: เมียเอ็งนี้ผู้หญิงผู้ชาย
ผม: ผู้หญิงซิแม่
แม่: หญิงแท้หรือหญิงแปลงเพศ
ผม: หญิงแท้ๆซิแม่ เหมือนแม่อะ มีลูกได้อะ
แม่: อย่าฝืนธรรมชาติ ถ้าเมียเก่าๆเอ็งไม่แต่งหญิงมา ไม่สวยๆนมใหญ่ๆมาเหมือนอี,,,(แฟนเก่าแปลงแล้ว) กูกะว่าเอ็งนั้นแหละจะแต่งหญิงเอง อย่าฝืนธรรมชาติเลยลูก
ผมได้แต่



แสดงความคิดเห็น
แม่ครับ...แฟนผมเป็นผู้ชาย !?
ผมก็เคยคิดแบบใครหลายๆคนนะครับ มองว่าตัวเองมันแปลกประหลาด เกิดเป็นชายทั้งที กลับชอบชายด้วยกัน คิดแล้วก็น่าหดหู่ เรานี่มันน่าทุเรศจริงๆ คิดได้แค่ว่า ชีวิตนี้ ความรักหรอ ครอบครัวหรอ ชีวิตคู่หรอ มันเป็นเรื่องไร้สาระ และมันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่เกิดมาเป็นแบบนี้คนอย่างผม และแน่นอนครับ ผมเป็นเกย์แต่ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งคนในครอบครัวเพราะผมไม่แสดงออก...
แต่แล้ววันนึง ผมก็เจอกับคนๆนึงที่ และเราได้คุยกันทาง facebook เราต่างเหมือนกัน เรียนคล้ายๆกันผมเองเรียนวิศวะ เค้าเรียนช่าง เราชอบอะไรเหมือนๆกัน แรกเริ่มเราไปเที่ยวกันด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ สุดท้ายเราก็คบกัน แต่ไม่ได้เปิดเผย จนเวลาผ่านไป ผ่านไป ทุกสิ่งที่ผมเคยคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ก็เกิดขึ้น ผมคิดถามตัวเองว่า "เราเกิดมาทั้งที เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว จะคบกับใคร จะรักใคร ต้องปิดๆบังๆ ทำเหมือนเราไม่ได้เป็นคน คนอื่นที่เค้ามีความสุขได้ รักกันได้ เค้าก็คน เราก็คนทำไมจะมีความรัก ความสุขบ้างไม่ได้" คิดได้อย่างนั้นก็ตัดสินใจว่าจะบอกแม่ไป คิดซ้ำๆอยู่นานมาก จนตัดสินใจได้ แล้วรวมความกล้าเอาวะเป็นไงเป็นกัน....
ผม : แม่ครับผมมีแฟนแล้วนะ
แม่ : จริงหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย พามาให้แม่รู้จักหน่อย (แม่ดีใจมาก)
ผม : เอ่อ....จะดีหรอแม่ ?
แม่ : ดีสิ แฟนของลูก มีแม่ที่ไหนไม่อยากรู้จัก
ผม : เอ่อ.....จะให้พาไปรู้จักจริงหรอแม่...เอาจริงหรอ
แม่ : เอ้า.....ก็จริงนะสิ
ผม : คือ...มีอะไรจอบอกครับแม่
แม่ : อะไรหรอ....?
ผม : คือ.... จะให้บอกจริงๆหรอแม่ ผมกลัวแม่จะเสียใจ
แม่ : จะเสียใจเรื่องอะไร ลูกได้กันแล้วหรอ
ผม : เอ่อ....คือ...... (ผมกลัวไม่กล้าพูด)
แม่ : เค้าท้องหรอ.....?
ผม : ถ้าผมบอกแม่แล้ว แม่อย่าโกรธนะ (รวมความกล้าไหนๆก็ขนาดนี่แล้ว ถอยไม่ได้)
แม่ : อ่า......ไหนว่ามาสิ
ผม : คือ......แฟนผม....เป็นผู้ชายครับ
แม่ : ...........................ว่าไงนะ เอาดีๆ มีเรื่องไรกันแน่ อย่ามัวแต่พูดเล่นสิ
ผม : จริงๆครับแม่ แฟนผม เป็นผู้ชาย
แม่ : ............................(เงียบ)
แม่ร้องไห้.....ผมก็เริ่มใจไม่ดี ถามตัวเอง เราทำอะไรลงไป ผ่านไปหลายนาทีผมก็พูดกับแม่ว่า
ผม : ผมขอโทษนะครับแม่ ที่ทำให้แม่ผิดหวัง ที่ทำให้แม่เสียใจ (ผมร้องไห้)
แม่ : แม่ขอได้ไหม เปลี่ยนได้ไหมลูก (แม่พูดด้วยเสียงที่สั่นเพราะร้องไห้)
แม่ผมถามประโยคนี้ซ้ำๆทั้งน้ำตา ในใจของผมคิด ผมอยากจะตอบแม่ ให้แม่ของผมหายเสียใจว่า "ได้ครับ ผมจะเปลี่ยน" แต่กลับพูดไม่ได้ เพราะผมเองรู้อยู่แก่ใจ ว่าเราทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมรู้ว่าผมเป็นอะไร ชอบอะไร ผมตอบแม่ว่า "แม่ครับ ผมเคยลองแล้ว ผมไม่ได้ชอบผู้หญิง"
แม่ : คบกันมานานหรือยัง
ผม : 5 เดือนครับแม่
แม่ : เลิกได้ไหม แม่ขอ ห่างออกมาได้ไหม (แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจของแม่)
ผม : แม่กำลังจะบอก ให้เราเลิกกันหรอครับ
แม่ : ป่าว แม่แค่อยากให้ลูก ค่อยๆห่างเค้าออกมา
ผม : ถ้าทำอย่างนั้น สุดท้ายก็คือเลิกกันนั้นแหละครับแม่....
แม่ : เลิกไม่ได้จริงๆหรอ รักเค้าขนาดนั้นเเลยหรอ
ผม : ครับ ผมรักเค้ามาก
แม่ : ถ้าอย่างนั้น แม่คงบังคับอะไรไม่ได้ ตัวของลูกเอง อนาคตของลูกเอง (แม่เลิกร้องไห้ แต่เสียงยังบ่งบอกว่าเสียใจ)
ผม : ผม...ขอโทษนะครับ ที่ทำให้แม่ผิดหวัง ที่ทำให้แม่ต้องมาร้องไห้เสียใจ ขอโทษครับ.........(ผมร้องไห้หนักกว่าเก่า)
แม่ : ไม่เป็นไรๆ....... (แม่เสียงอ่อนลง)
ผม : คือ......แม่ครับ แม่รู้อย่างนี้แล้ว แม่ยังอยากเจอเค้าอยู่ไหม
แม่ : ก็พามาสิ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ผม : ครับแม่
วันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกเสียใจมากๆและสงสารแม่มาก ที่ทำให้แม่ต้องมาร้องไห้ และผิดหวัง อีกทั้งยังทำตามที่แม่ขอร้องไม่ได้แม้แม่ของผมจะขอร้องทั้งน้ำตาตาม ผมรู้สึก....(มันอธิบายไม่ถูก ทั้งเสียใจ เครียด หดหู่)
หลายวันผ่านไป...
ผมก็พาแฟนของผม ไปหาแม่ที่บ้าน ตอนแรกๆผมเกร็งมาก....ทั้งผม ทั้งแฟน พอไปถึงบ้าน แม่ก็ไม่พูดอะไร เงียบ ผมเดาว่าคงทำตัวไม่ถูก เพราะไม่เคยเจออะไรที่แปลกแบบนี้ มีลูกชาย แต่กลับได้ลูกสใภ้เป็นผู้ชาย ><
ผมก็แนะนำแฟนผมให้แม่รู้จัก แม่นี่แฟนผมนะ เค้าชื่อ ... บ้านอยู่ ... บลาๆๆๆ แม่ผมก็เออออตาม ทั้งสองคนต่างไม่พูดกัน จนผมขอตัวไปอาบน้ำ แต่ก่อนจะอาบผมแอบเดินไปดู ว่าเค้าจะคุยกันหรือเปล่า สุดท้ายแม่ก็เป็นฝ่ายถาม ไหน...ชื่ออะไรนะ แล้วแม่เค้าก็ถามอะไรต่างๆนาๆ จนมาถึงคำถามนึง ที่ผมจดจำมาถึงทุกวันนี้คือ "รักลูกของแม่จริงๆใช่ไหม" แฟนของผมตอบ "รักจริงๆครับ" แม่ก็ถามคำถามนี่ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมาก
แล้วแม่ก็พูดต่อว่า "ถ้ารักกันจริงๆ แม่ก็ไม่ห้าม เพราะความสุขของลูกก็คือความสุขของแม่ ถ้ารักกันก็ดูแลกัน ทำงานเก็บเงิน สร้างครอบครัวกัน มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันนะ" ผมได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมาก.......ที่แม่กับแฟนของผม เริ่มเข้ากันได้ ><
หลังจากนั้นจนถึงวันนี้เกือบปีแล้ว เวลาที่ผมบ้านมีงาน อย่างกินเลี้ยง วันเกิด ฯลฯ แม่ก็จะชวนแฟนผมให้มาด้วยกัน เวลาผมกลับหอ แม่ก็จะกอดผม แล้วก็กอดแฟนผมด้วย บางครั้งแม่ก็แซวเล่นขำๆ "วันนี้คุยกับที่รักหรือยัง" "ตกลงแม่จะได้สใภ้หรือลูกเขยกันแน่เนี้ย"
ทุกวันนี้ เราทั้งสองคนก็คบกัน แบบเปิดเผย รักกันแบบไม่ต้องปิดบัง ในเมื่อที่บ้านเรารับได้ แม่รับได้ ผมเองก็มีความสุขมาก คว่ำกระดานความคิดตัวเอง ว่าเกิดมาเป็นแบบนี้ จะมีความรัก มีครอบครัว มีความสุขไม่ได้ เพราะในเมื่อเราเกิดมาเราเลือกไม่ได้ ว่าจะเกิดมาเป็นแบบไหน สุดท้ายเราต้องทำชีวิตเราให้มีค่า เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ทำทุกอย่างให้มีความหมาย และเลือกเดินในทางที่เราคิดว่ามันมีความสุขสำหรับเรา และคนในครอบครัว
"ถึงใครจะว่าจะดูถูกจะมองยังไงหรือจะแปลกสักแค่ไหนชีวิตเป็นของเราครับ ทำชีวิตให้มีความหมาย ทำความรักให้มันมีค่า สร้างครอบครัวของเรา เอาให้มันคุ้มค่าที่เราได้เกิดมาทั้งที"
หวังว่าเรื่องราวชีวิตของผม น่าจะพอเป็นแนวทางหรือข้อคิดอะไรได้บ้างนะครับ ^_^
ปล. แม่ถามแล้วด้วย ว่าจะแต่งงานกันเมื่อไร (ดีใจสุดๆเลย)
ปล 2. มางานแต่งผมด้วยนะครับ อิอิอิ
ฝากทิ้งท้ายไว้นะครับ สำหรับบางคนที่คิดว่า เกิดมาเป็นแบบนี้ สุดท้ายก็คือเหงา เป็นแบบนี้จะมีครอบครัวมีความรักได้ยังไงกัน ผมบอกเลยคุณกำลังคิดผิด เกิดมาทั้งทีนะครับ คนเราเกิดครั้งเดียวตายหนเดียว มันต้องทำทุกอย่างให้มีความหมาย ทำความรักให้มีค่า สุดท้ายคุณจะมีความสุขเองกับ"ครอบครัว"ของคุณ