เพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังโฆษณาของ Dtac เรื่องนี้ค่ะ
ดูเผินๆ ก็น่าจะซึ้งดีอยู่ The power of love เทคโนโลยีไม่อาจแทนที่ความรัก
แต่ในฐานะแม่ลูกอ่อน (ที่เลี้ยงลูกเองมาจนลูก 3 ขวบ) เราไม่ซึ้ง! เพราะอะไรนะหรือคะ? ดังนี้ค่ะ (เป็นข้อๆ จากการดูแค่ครั้งเดียว ก็ไม่สามารถดูซ้ำได้อีก)
หนึ่ง อีพ่อทำท่าเหมือนเพิ่งเคยอุ้มลูกครั้งแรก ทั้งๆ ที่ดูจากลูกแล้วไม่น่าจะใช่ว่าขวบเดือนแรกด้วยซ้ำ ทำไมเพิ่งเคยอุ้ม...นี่น่าตำหนิมากกว่าน่าซาบซึ้งนะ
สอง อีแม่...แว้บแรกที่พ่อโทรบอกว่าลูกร้อง อีแม่บอกว่าลูกน่าจะหิว...ให้เปิดการ์ตูนให้ลูกดู!!! อร๊ายยยย ลูกเล็กขนาดนี้เราไม่เลี้ยงด้วยการ์ตูนนะคะ เราเลี้ยงด้วยเสียงของพ่อหรือของแม่ เราร้องเพลงกล่อมลูก กอดลูก เล่านิทานให้เค้าฟัง เค้าจะคุ้นกลับกลิ่น เสียงและสัมผัสจากพ่อและแม่ค่ะ ไม่ใช่จากเสียงการ์ตูน
สาม อีแม่...ออกไปซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำไมไม่เตรียมนมไว้ให้ลูกคะ? แม่ๆ ต้องรู้ดีว่าลูกเล็กจะหิวทุก 2-3 ชั่วโมง ถ้าเป็นเด็กนมแม่ก็ปั๊มสต็อคไว้และให้พ่อเอามาอุ่นหยอดด้วยสลิ๊งค์หรือใส่ขวดให้ลูกดื่มได้ สัญชาติญาณของแม่ลูกอ่อนจะไม่ไปไหนโดยไม่เตรียมนมให้ลูกเด็ดขาด พูดได้พันเปอร์เซ็นต์เลย
เอาแค่ 3 ข้อนี้ก่อนพอละ ดูแบบไม่ละเอียดมากรู้สึกแว้บแรกเพียงเท่านี้
ครีเอทีฟต้องทำการบ้านมากกว่านี้ถ้าจะจับประเด็นอันอ่อนไหวนี้ เข้าใจล่ะว่าอยากสอดแทรกเรื่องการใช้เทคโนโลยีเข้ามาไว้ในการเลี้ยงลูกตามธีมของเรื่อง แต่มันไม่สมจริงเลย มันอาจจะทำให้คนที่ไม่เคยเลี้ยงลูกเล็กหรือเด็กเล็กอินได้ แต่แม่ลูกอ่อนทั้งหลายน่าจะรู้สึกไม่ต่างจากอีแม่คนนี้ ฟันธง!!
หมายเหตุ : เจ้าของกระทู้ชอบเรียกแทนตัวเองว่า "อีแม่" คิดว่าไม่น่าจะใช่คำหยาบเนอะ
Dtac:The Power of non-sense
ดูเผินๆ ก็น่าจะซึ้งดีอยู่ The power of love เทคโนโลยีไม่อาจแทนที่ความรัก
แต่ในฐานะแม่ลูกอ่อน (ที่เลี้ยงลูกเองมาจนลูก 3 ขวบ) เราไม่ซึ้ง! เพราะอะไรนะหรือคะ? ดังนี้ค่ะ (เป็นข้อๆ จากการดูแค่ครั้งเดียว ก็ไม่สามารถดูซ้ำได้อีก)
หนึ่ง อีพ่อทำท่าเหมือนเพิ่งเคยอุ้มลูกครั้งแรก ทั้งๆ ที่ดูจากลูกแล้วไม่น่าจะใช่ว่าขวบเดือนแรกด้วยซ้ำ ทำไมเพิ่งเคยอุ้ม...นี่น่าตำหนิมากกว่าน่าซาบซึ้งนะ
สอง อีแม่...แว้บแรกที่พ่อโทรบอกว่าลูกร้อง อีแม่บอกว่าลูกน่าจะหิว...ให้เปิดการ์ตูนให้ลูกดู!!! อร๊ายยยย ลูกเล็กขนาดนี้เราไม่เลี้ยงด้วยการ์ตูนนะคะ เราเลี้ยงด้วยเสียงของพ่อหรือของแม่ เราร้องเพลงกล่อมลูก กอดลูก เล่านิทานให้เค้าฟัง เค้าจะคุ้นกลับกลิ่น เสียงและสัมผัสจากพ่อและแม่ค่ะ ไม่ใช่จากเสียงการ์ตูน
สาม อีแม่...ออกไปซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำไมไม่เตรียมนมไว้ให้ลูกคะ? แม่ๆ ต้องรู้ดีว่าลูกเล็กจะหิวทุก 2-3 ชั่วโมง ถ้าเป็นเด็กนมแม่ก็ปั๊มสต็อคไว้และให้พ่อเอามาอุ่นหยอดด้วยสลิ๊งค์หรือใส่ขวดให้ลูกดื่มได้ สัญชาติญาณของแม่ลูกอ่อนจะไม่ไปไหนโดยไม่เตรียมนมให้ลูกเด็ดขาด พูดได้พันเปอร์เซ็นต์เลย
เอาแค่ 3 ข้อนี้ก่อนพอละ ดูแบบไม่ละเอียดมากรู้สึกแว้บแรกเพียงเท่านี้
ครีเอทีฟต้องทำการบ้านมากกว่านี้ถ้าจะจับประเด็นอันอ่อนไหวนี้ เข้าใจล่ะว่าอยากสอดแทรกเรื่องการใช้เทคโนโลยีเข้ามาไว้ในการเลี้ยงลูกตามธีมของเรื่อง แต่มันไม่สมจริงเลย มันอาจจะทำให้คนที่ไม่เคยเลี้ยงลูกเล็กหรือเด็กเล็กอินได้ แต่แม่ลูกอ่อนทั้งหลายน่าจะรู้สึกไม่ต่างจากอีแม่คนนี้ ฟันธง!!
หมายเหตุ : เจ้าของกระทู้ชอบเรียกแทนตัวเองว่า "อีแม่" คิดว่าไม่น่าจะใช่คำหยาบเนอะ