[CR] จากออกสู่ตก ตามรอยอนันดา ฉบับ Backpacker

เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อแขร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบลุยๆ ไปเรื่อยๆ แบบหงุมหงิม ฉบับ Backpacker เราออกท่องเที่ยวทริปนี้ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ถึง 29 มิถุนายน 2557 เป็นเวลา 1 อาทิตย์ เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี และดูพระอาทิตย์ตกที่ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนร่วมเดินทางครั้งนี้ พี่ดั้ม เพื่อนบอล เพื่อนโบ๊ท น้องกิ่งไผ่ และผมเบิร์ดครับ เริ่มทริปด้วย โขงเจียม แม่น้ำสองสี น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกแสงจันทร์หรือน้ำตกรู น้ำตกทุ่งนาเมือง วัดถ้ำอมรวิสุทธาราม เสาเฉลียง ผาแต้ม เขื่อนสิรินธร ขังขละบุรี สะพานมอญ และวัดเก่า
เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีชุมทางบางซื่อ(สายอีสาน) เวลา 20.50 น.


ถึงสถานีอุบลราขธานี หรือสถานีวารินชำราบ เวลา 06.30 น.

สิ่งแรกที่ได้เห็นและประทับใจ เท็กซี่ที่ อุบล

จากนั้นนั่งรถจากสถานีอุบลไปยังโขงเจียม

ปัญหาแรกของทริปนี้คือเราต้องลงรถตู้ที่นิคมสองเท่านั้นเพราะรถตู้ไม่เข้าไปโขงเจียม สิ่งที่เราต้องทำคือ การโบกรถ จากนิคมสองไปยังโขงเจียมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร


ถึงโขงเจียมเวลาบ่ายๆเรานั่งชมวิวริมแม่น้ำโขง และเข้าพักที่ บ้านริมโขง ราคา 1300 บาท นอนได้5-6คน



เช้าวันแรกของทริปเริ่มด้วยร่องเรือแม่น้ำโขง ราคาเรือ 350 บาท


หลังจากนั้นเราเดินไปที่ตลาดเพื่อเหมารถขึ้นไปนอนที่ผาแต้ม และเราได้เหมาของ ลุงเชษฐ์(ศิษย์ฟามหมูนักมวยเก่า) เป็นกันเองมาก ติดเมานิดๆ สุบบุหรี่ในรถได้ และยังใจดีอีกด้วย ด้วยราคา 1100 บาท ถ้าใครมาเที่ยวโขงเจียมต้องการการเดินทางแบบลุ้นๆ มันๆ กันเองสุดๆ แนะนำเลยครับลุงเชษฐ์ เบอร์ 0906031522


น้ำตกแสงจันทร์หรือน้ำตกรู


น้ำตกสร้อยสวรรค์


น้ำตกทุ่งนาเมือง

วัดถ้ำอมรวิสุทธาราม

เสาเฉลียง

เช้าวันที่สอง ผาแต้ม จุดชมแสงแรกที่ได้เห็นก่อนใครๆในสยาม เวลา 05.30 น.




เดินชมจิตรกรรมผาผนังโบราณ ระยะทาง 4 กิโลเมตร


ได้เวลาเดินทางกลับระหว่างทางเราได้แวะเที่ยวเขื่อนสิรินธร


หลังจากนั้นเราเดินทางกลับด้วยรถตู้จากนิคสอง เราแยกย้ายกันที่สถานีขนส่ง อุบล ส่วนเพื่อนบอลและน้องกิ่งไผ่ก็เดินทางกลับเชียงใหม่ ส่วนผมและพี่ดั้มและเพื่อนโบ๊ทเรานั่งรถไฟกลับกรุงเทพในระหว่างการนั่งรถไฟกลับนั้น พี่ดั้มสายโหดของทริปนี้ก็ชวนไปดูพระอาทิตย์ตกที่สังขละบุรีกันต่อ   ผมและเพื่อนโบ๊ทก็ตอบตกลง คิดในใจตอนนั้นคือไหนก็ไหนๆละ เมื่อเห็นแสงแรกก่อนใครๆ ก็ต้องเห็นแสงสุดท้ายที่หลังใครเหมือนกัน
เราก็ได้ติดต่อสอบถามกับการรถไฟแห่งประเทศไทย คือเราต้องขึ้นรถไฟฟรีที่สถานีธนบุรีไปยังสถานีสุดท้ายที่สถานีน้ำตก กาญจนบุรี รถไฟฟรีจะมี2รอบตต่อวันคือ เช้าเวลาประมาณ 8.00 น. กับตอนบ่าย เรากลัวไม่ทันรถไฟฟรีเราเลยไปดักขึ้นกันที่สถานีตะลิ่งชัน รถไฟมาเวลาประมาณ 8.40 น.

สถานีรถไฟตะลิ่งชัน เวลา 08.00


สายมรณะวิวสวยมากๆ บรรยากาศตลอดทางเขียวชุ่มไปด้วยป่าสีเขียวธรรมชาติสุดๆ


สิ้นสุดที่สถานีน้ำตก


จากนั้นเราขึ้นเมล์หวานเย็น จากน้ำตกไทรโยคน้อย เพื่อไปลงที่ ทองผาภูมิ ราคารถโดยสาร ราคา 55 บาทต่อคน

รถหวานเย็นจะถึงแค่ทองผาภูมิ คือต้องตู้รถตู้จาก ทองผาภูมิไปยังสังขละบุรี ราคารถตู้ คนละ80บาท

และเราก็ไปทันแสงสุดท้ายที่สวยงามมากที่สังขละบุรีและเข้าพักที่ ชื่นใจ รีสอรท์ ราคาบ้านหลังละ 450 บาท นอนได้ 3-4 คน

สะพานไทยมอญ


ชื่นใจรีสอรท์

นั่งเรือชม วัดเก่า ราคาเรือ 250 บาท



การเดินทางในครั้งนี้ของพวกเราทั้ง5คน ในฉบับ Backpacker ของพวกเรา ขอขอบคุณมิตรภาพระหว่างการเดินทาง ทั้งรอยยิ้ม ความช่วยเหลือ ของคนแปลกหน้า ที่เรียกว่ามิตรภาพระหว่างการเดินทาง ผมขอเรียกการเดินทางนี้ว่า จากตะวันออกสู่ตะวันตกแบบผู้ชายหงุมหงิมแบบพวกเรา ที่เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของเดินทาง ได้สัมผัสธรรมชาติ กลิ่นของอากาศที่สดชื่น และภาพสวยๆจากความรู้สึก ภาพถ่ายที่บรรทึกจะอยู่ในความทรงจำเราไปอีกนานเลยครับ

ดั้งคำกล่าวที่ว่าของพี่ เช็ค สิทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ
ไม่ว่าเราจะออกเดินทางด้วยเหตุอะไรก็ตาม
ก็จะมีบางสิ่งบางอย่างรอเราอยู่ข้างหน้าเสมอ
ส่วนใครจะค้นพบอะไรระหว่างการเดินทางเดินนั้น
ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าโลกจัดวางอะไร ไว้รอเราเท่านั้น
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราหันด้านไหนของจิตใจไปสัมผัส ที่โลกจัดวางไว้ให้ต่างหาก
ติดตามพวกเราต่อได้ในทริปต่อไป
ปล. ภาพถ่ายทุกภาพของเราในทริปนี้ถ่ายด้วยกล้อง โทรศัพท์มมือถือ ipone และกล้อง ipad

ชื่อสินค้า:   การท่องเที่ยวแบบลุยกับผู้ชายหงุมหงิม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่