ยูนีครันนิ่ง สุโขทัยมาราธอนกับสิ่งที่ผมพบเจอจากผู้จัดงาน

วันนี้ผมมีเรื่องงานวิ่งที่ไปมาล่าสุดมาเล่าให้เพื่อน ๆ อ่านกัน จะคิดเห็นอย่างไรก็แล้วแต่เพื่อน ๆ ชาวพันทิพย์ครับ
เรื่องมีอยู่ว่า
ตัวผมเองวิ่งมาประมาณ 1 ปี และได้มีโอกาสไปวิ่งมาราธอนครั้งแรกกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในกลุ่มวิ่งเดียวกันที่สุโขทัยมาราธอนซึ่งจัดโดยยูนีครันนิ่ง ตัวผมเองเมื่อปีที่แล้วได้ไปวิ่งกับงานที่อยุธยามาและรู้สึกว่าทางผู้จัดจัดงานได้โอเคจึงตัดสินใจไปลงมาราธอนแรกที่งานนี้ เนื่องจากพวกผมไปกันค่อนข้างกลุ่มใหญ่จึงสมัครแบบเป็นกลุ่มผ่านพี่คนหนึ่งในกลุ่มซึ่งในตอนนั้นทุกคนเข้าใจว่าเมื่อวิ่งจบจะได้รับเสื้อ Finisher ซึ่งสำหรับผมที่วิ่งเป็นมาราธอนแรกมันคือความภูมิใจมาก ๆ หรือง่าย ๆ ก็คืออยากอวดนั่นแหละครับ แต่มาทราบทีหลังว่าปีนี้ผู้จัดแจกเป็นผ้าขนหนู Finisher จึงเข้าไปดูในหน้าเพจของทางผู้จัดก็พบว่ามีนักวิ่งท่านหนึ่งได้โพสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้วว่า

"ไม่เห็นลงทุนเลย ไปตั้งไกลได้แค่ผ้าขนหนู อยากให้ไปถึง3งานถึงได้เสื้อ ไป1งานได้เสื้อ ครบ3งานแจกพิเศษหน่อยถึงน่าสนใจ"

พวกผมจึงรออ่านกันว่าทางผู้จัดจะมาตอบว่าอย่างไรก็ได้คำตอบมาว่า

ความพิเศษสำหรับคนที่วิ่งระยะมาราธอน 2 มาราธอนที่สุโขทัย และอยุธยา และลงฮาล์ฟที่เขาใหญ่ เราลงทุนทำเสื้อ Finisher แบบ Jackage Design สวย ซึ่งทุกคนที่เห็นก็ชมนะคะว่ามันสวย หากไม่สนใจก็ไม่เป็นไรคะ ผู้บริโภคมีสิทธิเลือกและตัดสินใจ เราแค่อยากให้เกิดความแตกต่าง และทำอะไรใหม่ ๆ บ้างคะ

เจอข้อความนี้พวกผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว จึงมีพี่ท่านนึงในกลุ่มเข้าไปโพสว่า

ทำให้เกิดความแตกต่างก็คงไม่ผิดนะครับ แต่มนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม คนที่วิ่งระยะมาราธอนหลายคนได้เสื้อมาก็จะภูมิใจและนำไปใส่โชว์ให้คนอื่นรู้ว่า เขาหรือเธอจบการวิ่งมาราธอนมา โดยเฉพาะนักวิ่งระยะมาราธอนหน้าใหม่ ซึ่งในแต่ละสนามจะมีจำนวนหนึ่ง

ซึ่งผ้าขนหนูมันไม่สามารถเอาไปวิ่งรอบสวนลุม หรือใส่เดินโชว์ใครได้นะครับ

ถ้าจะทำให้แตกต่างก็ขอเป็นสิ่งของที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันที่สามารถเอาไปดชว์คนอื่นได้นะครับ เช่น หมวก หรือกระเป๋าสีดำแบบที่กรุงเทพมาราธอนแจกมา (ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร)

อีกครั้งนะครับ ผมไม่บอกว่าผิด ผมแค่บอกในมุมมองของนักการตลาด และนักวิ่งครับ

แต่การที่บอกว่าผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือกนี่คืออะไรครับ มีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ลงงานนี้ หรือมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่รับผ้าขนหนู หรือว่ามีสิทธืที่จะเลือกรับผลิตภัณฑ์อย่างอื่นครับ ถ้าไม่ชี้แจงคนอาจจะเข้าใจผิดว่าทางทีมงานไม่ได้สนใจนักวิ่งซึ่งเป็นลูกค้าก็ได้นะครับ


ซึ่งหลังจากนั้นทางทีมงานเงียบไปไม่ตอบอะไร พวกผมจึงได้แต่เก็บความไม่พอใจเล็ก ๆ นี้ไว้ในใจมา

มาถึงวันรับ BIB เพื่อนที่ไปรับ BIB มาให้เพราะเดินทางมาก่อนบอกว่าทางผู้จัดไม่ได้เตรียม BIB ไว้ก่อนแต่เป็นการมาเขียนสดและบันทึกข้อมูลชิพที่หน้างานเลย ซึ่งก่อให้เกิดความล่าช้าในการรับ BIB
เมื่อมาถึงวันวิ่งจริงขอแยกเป็นประเด็นต่าง ๆ นะครับ
1. เรื่องเกลือแร่ ทางผู้จัดได้จัดจุดให้น้ำเอาไว้มากเพียงพอแต่อยากจะขอติเรื่องของเกลือแร่ที่ค่อนข้างจะมีอยู่น้อยจุดที่มีและความเข้มข้นเจือจางเอามาก ๆ (หรือมันจางเพราะน้ำแข็งละลายอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ )
2. การกั้นรถในแยกใหญ่มาก ๆ ซึ่งมีเกาะกลางคั่นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ยืนโบกรถให้ความปลอดภัยกับนักวิ่งอยู่เพียงฝั่งเดียว
3. เรื่องห้องน้ำ เรื่องนี้ผมเข้าใจว่าเป็นปัญหาของงานวิ่งหลาย ๆ งานแต่รบกวนผู้จัดคิดหาทางออกด้วยครับ ผมเองเป็นผู้ชายยังไม่ค่อยมีปัญหาแต่นักวิ่งสาว ๆ อาจจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าผมมากนะครับ เพราะตลอดระยะ 42.195 กม. มีห้องน้ำให้เข้าได้แค่ 2 จุด คือที่ปั๊มน้ำมัน กม.ที่ 12 กับวัดช่วงท้าย ๆ แล้ว
4. เรื่องชิพเช็คพอยท์ กลางทางมาราธอนเป็นการแจกหนังยางผูกริบบิ้นเป็นจุดเช็คแล้วมามีการเช็คด้วยชิพเอาระยะที่ 30 กว่าไปแล้วซึ่งผมว่ามันค่อนข้างแปลก ๆ นะในเมื่ออุตส่าห์มีชิพมาแล้ว
5. อันนี้เป็นข้อเสนอแนะนะครับ จากที่ผมได้ไปวิ่งมาในบางงานจะมีฟองน้ำชุบน้ำเย็นให้ด้วยในจุดให้น้ำระยะท้าย ๆ แล้วยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนจึงอยากให้ทางผู้จัดเตรียมไว้บ้างไม่ต้องทุกจุดก็ได้ครับ
6. เรื่องอาหารที่เส้นชัย ตัวผมเองเข้าเส้นก่อนเวลาคัทออฟ 5 นาที แต่อาหารหมด เจ้าหน้าที่ทยอยเก็บบูทต่าง ๆ แล้ว ผมวิ่งมาเกือบ 7 ชม. เต็ม ๆ หิวแค่ไหนเพื่อน ๆ นักวิ่งคงทราบดี อยากให้เผื่อเวลาเก็บบูทและอาหารไว้ให้นักวิ่งที่เข้าช้าบ้างครับ

ทีนี้กลับมาที่เมื่อพวกผมเข้าเส้นชัยนะครับ ผมกับกลุ่มที่วิ่งเพสเดียวกันเกาะกลุ่มเข้าเรียง ๆ กันมา 3 คน ห่างกันคนละราว 100 - 200 เมตร ผู้จัดคงคิดว่าพวกผมไม่ได้มาด้วยกันและจำเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่ไปโพสเรื่องผ้าขนหนูได้เพื่อนที่เข้าคนสุดท้ายจึงได้ยินข้อความมาจากเจ้าหน้าที่หญิงท่านหนึ่งที่คล้องผ้าขนหนูให้นักวิ่งที่เส้นชัยว่า
"ไหนบอกว่าไม่อยากได้ผ้าขนหนู แต่พอได้ก็เห็นยิ้มดีใจกันใหญ่"
ซึ่งบอกเลยว่าทำให้พวกผมเสียความรู้สึกมาก พวกผมดีใจกับการเข้าเส้นชัยมาราธอนแรกของตัวเอง ยิ้มดีใจกับความสำเร็จของเพื่อน ๆ ผมไม่ได้ดีใจเลยกับการได้ผ้าขนหนู ในตอนนั้นจะได้ผ้าเช็ดหน้า เสื้อ กางเกง อะไรผมก็ไม่สนใจเท่าไหร่หรอกครับ ความดีใจของการถึงเส้นชัยมันมีมากกว่า ผมอึ้งมากที่ประโยคนี้ออกมาจากปากของพนักงานผู้จัดงาน แต่ที่ไม่มีการโวยวายในตอนนั้นเพราะเพื่อนคนที่ได้ยินไม่รู้ว่าเราเคยพูดถึงประเด็นผ้าขนหนูกันมาก่อน และมาเล่าให้เราฟังทีหลัง
เท่านี้ละครับที่ผมอยากมาระบาย

ปล. เรื่องชิพรวนทำให้นักวิ่งที่ได้อันดับไม่ได้รับถ้วยที่งานทางผู้จัดคงออกมาชี้แจงเองจะไม่ขอกล่าวถึงนะครับ
ปล. 2 เรื่องนักวิ่งที่ไม่พอใจผู้จัดงานจนเอาผ้าขนหนูไปเช็ด-ีนเป็นพี่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ การกระทำของพี่เขาผมยอมรับว่าอาจดูเลยเถิดไปในสายตาคนอื่น แต่เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่อ่านกระทู้ของผมแล้วคงเข้าใจขึ้นบ้างว่าเป็นเพราะอะไร
ปล. 3 ผมยืมไอดีเพื่อนมาตั้งกระทู้เพราะไอดีผมเพิ่งสมัครยังอยู่ระหว่างยืนยัน ผมชื่อกร หลังไอดียืนยันจะมาโพสยืนยันตัวตนอีกครั้งครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่