ความรันทดของโด้เทียบกับฮีโร่จอมกัดซัวเรส
http://bit.ly/1myBVrJ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมโลกบัลลงดอร์ปีล่าสุด เดินทางกลับบ้านไปแล้ว หลังจากที่ทีมชาติโปรตุเกสตกรอบแรก
แต่ภาพที่เขาทิ้งไว้ในใจแฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืมคือ การกัดฟันฝ่าอาการบาดเจ็บเข่าทั้งที่ยังคงต้องประคบน้ำแข็งในวันซ้อมทุกครั้ง แบกความกดดันและความคาดหวังของคนทั้งชาติไว้บนบ่า ลงสนามครบทั้ง 3 นัด
เราได้เห็นความพยายามอย่างสุดหัวใจ
เราได้เห็นเขาอ้าแขนต้อนรับและให้อภัยเด็กชายวัยรุ่นที่บุกฝ้าเพดานทะลุเข้ามาถึงห้องพักของเขาในโรงแรม
เราได้เห็นเขาหยอกล้อสวมกอดเด็กๆ มาสคอต ก่อนนำทีมฝอยทองลงสนามพบกับกานา ในนัดชี้ชะตา ในวันนั้น เขาทำ 1 ประตู และทีมก็ชนะ 2-1 แต่ยังไม่ดีพอกับพื้นที่ยืนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โรนัลโด้กับสหายทีมฝอยทองเลยต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน
สิ่งที่รอคอยโรนัลโด้ที่สนามบินเมื่อเขาเดินทางกลับถึงกรุงลิสบอนคือแฟนบอลหยิบมือหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศจ๋อยสงัด
ไม่มีแม้กระทั่งใครมารับ และโรนัลโด้ต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้านเอง
ช่างแตกต่างจากโขยงแฟนบอลอุรุกวัยที่แห่แซ่ซ้องเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกซูเปอร์สตาร์ของทีม เดินทางกลับถึงบ้าน เพราะว่าโดนโทษห้ามแข่งเนื่องจากไปกัดไหล่คู่ต่อสู้เสียเหลือเกิน
ที่สนามบิน เขาได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ แม้กระทั่งประธานาธิบดี โจเซ่ มูจิก้า ยังมาเอง (แต่คลาดกัน เพราะเครื่องบินของซัวเรซดีเลย์)
เมื่อกลับถึงบ้าน ซัวเรซอุ้มลูกชายลูกสาวปรากฏตัวบนระเบียงบ้าน โบกไม้โบกมือให้กับมวลหมู่แฟนบอลที่รายล้อมอยู่หน้าบ้าน
โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรม!
ความรันทดของโด้เทียบกับฮีโร่จอมกัดซัวเรส
http://bit.ly/1myBVrJ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมโลกบัลลงดอร์ปีล่าสุด เดินทางกลับบ้านไปแล้ว หลังจากที่ทีมชาติโปรตุเกสตกรอบแรก
แต่ภาพที่เขาทิ้งไว้ในใจแฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืมคือ การกัดฟันฝ่าอาการบาดเจ็บเข่าทั้งที่ยังคงต้องประคบน้ำแข็งในวันซ้อมทุกครั้ง แบกความกดดันและความคาดหวังของคนทั้งชาติไว้บนบ่า ลงสนามครบทั้ง 3 นัด
เราได้เห็นความพยายามอย่างสุดหัวใจ
เราได้เห็นเขาอ้าแขนต้อนรับและให้อภัยเด็กชายวัยรุ่นที่บุกฝ้าเพดานทะลุเข้ามาถึงห้องพักของเขาในโรงแรม
เราได้เห็นเขาหยอกล้อสวมกอดเด็กๆ มาสคอต ก่อนนำทีมฝอยทองลงสนามพบกับกานา ในนัดชี้ชะตา ในวันนั้น เขาทำ 1 ประตู และทีมก็ชนะ 2-1 แต่ยังไม่ดีพอกับพื้นที่ยืนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โรนัลโด้กับสหายทีมฝอยทองเลยต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน
สิ่งที่รอคอยโรนัลโด้ที่สนามบินเมื่อเขาเดินทางกลับถึงกรุงลิสบอนคือแฟนบอลหยิบมือหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศจ๋อยสงัด
ไม่มีแม้กระทั่งใครมารับ และโรนัลโด้ต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้านเอง
ช่างแตกต่างจากโขยงแฟนบอลอุรุกวัยที่แห่แซ่ซ้องเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกซูเปอร์สตาร์ของทีม เดินทางกลับถึงบ้าน เพราะว่าโดนโทษห้ามแข่งเนื่องจากไปกัดไหล่คู่ต่อสู้เสียเหลือเกิน
ที่สนามบิน เขาได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ แม้กระทั่งประธานาธิบดี โจเซ่ มูจิก้า ยังมาเอง (แต่คลาดกัน เพราะเครื่องบินของซัวเรซดีเลย์)
เมื่อกลับถึงบ้าน ซัวเรซอุ้มลูกชายลูกสาวปรากฏตัวบนระเบียงบ้าน โบกไม้โบกมือให้กับมวลหมู่แฟนบอลที่รายล้อมอยู่หน้าบ้าน
โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรม!