หนุ่มชอบของเก่ากับสาวขี้เหงา

กระทู้สนทนา
ผมเข้าใจ คำว่า เหงา ท่ามกลางคนหมู่มากได้ดี เย็นวานผมไปแวะตลาดของเก่า กะเดินดูข้าวของมาตกแต่งบ้าน หรือได้หนังสือมือสองมานอนอ่านเล่นสักเล่มสองเล่ม หรือถ้าไมได่อะไรติดไม้ติดมือ เพราะไม่โดนใจที่กำลังล้าเต็มทีอยู่ตอนนี้ ผมก็ยังได้ฝากท้องมื้อเย็นกับร้านผัดไทยเจ้าประจำที่คุ้นเคย

วันนี้อากาศครึ้มเมฆฝน คนค้าขายคงหวั่นใจอยู่ลึกๆ แต่ก็เห็นตั้งร้านจัดข้าวของกันปกติ น้องนักศึกษาที่มาเล่นดนตรีเปิดหมวก ก็นั่งตั้งเสียงกีต้าร์รอท่าอยู่แล้ว อีกไม่นานเสียงแหลมๆ ของหนุ่มน้อยหัวฟู คงจะขับกล่อมถนนเส้นนี้ให้รื่นรมย์เหมือนทุกอาทิตย์

ผมเจอสาวนางหนึง อายุเพิ่งเริ่มวัยทำงานมาเดินเหม่อๆ บนถนน หน้าตาสะสวยของเธอน่าจะสดใสในวัยที่งดงามหากความหม่นหมองไม่สำแดงชัดอย่างนี้ เรายืนดูของเก่าใกล้กัน และสนใจของเก่าชิ้นหนึ่งด้วยกัน ผมแสหันไปมองและถามราคาชิ้นอื่น...ในใจคิดเออออไปเองว่าชิ้นนี้มันอาจจะมีอดีตของเธอผูกพันอยู่ก็เป็นได้ ผมดีใจที่เธอได้มันใส่ถุงเดินจากไปอย่างเหงาๆ

น้องนักดนตรีเริ่มร้องเพลงแสงจันทร์ของมาลีฮวนน่า จันทร์นวลตาลอยแขวนอยู่บนฟ้าที่เมฆฝนคลี่คลายไปแล้ว แสงนวลเย็นสะท้อนแสงนั้นบนผืนน้ำกว้าง อะไรไม่รู้ ทำให้ผมเดินตามเธอออกจากแผงนั้นและหยุด เมื่อเห็นเธอยืนมองทะเลยามเย็นจวนค่ำเพียงลำพัง กระดาษชิ้นเล็กขนาดบิลเงินสดหลุดจากมือลงมา เมื่อเธอกำลังจะก้าวเท้าเดินจากไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว มันเหมือนฉากในหนังโรแมนติกสักเรื่องที่ผมเคยดู

ผมถลาเข้าไปเก็บกระดาษแผ่นนั้น หวังจะยื่นคืนให้ แต่เธอก็หายไปกับฝูงชนมากมายไปแล้ว

คลื่นถาโถมดังก้องอยู่ในมโนทัศน์ของผมทั้งคืน ข้อความในกระดาษใบนั้นมีข้อความสั้น ๆว่า " นึกแล้วว่าต้องอ่าน... คริ คริ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่