สวัสดีครับ ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ
ผมชื่อ ปั้มปิ้ง เรียนอยู่หอการค้า ปี 2 ครับ
ผมอยากจะมาบอกวิธีการลดน้ำหนักของผมแบบละเอียดเลย ที่ใครๆ ก็ทำได้
อันนี้คือรูปที่ เปรียบเทียบครับ อดีต /ปัจจุบัน จากนำหนัก 120 ไป 75 !! ในเวลา 6 เดือน
ขอเล่าก่อนเลยนะครับ ว่าตอนเด็กๆ ผมเป็นคนไม่อ้วนครับ แกต่ที่ผมอ้วนเพราะ พ่อแม่ผมชอบ ยัดเยียดให้กิน 55555 ( พ่อแม่ผมชอบทำอาหารทั้งคู่เลย ) และอาหารนี้หวานมาก เพราะบ้านผม กินอาหารหวานทุกคน ตั้งแค่ ตากับยาย กินหวานมากกก แบบไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ไหน ก็แบบกินน้ำตาลเกือบหมด ขวดดดดดดด โอพระเจ้า 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้คือรูปตอนเด็กๆ นะครับ
ตอนเด็กๆ บงบองได้ว่าโตขึ้นต้องกวนตรีนแน่ๆ 5555 ตอนเด็กๆ ยังไม่อ้วนนะครับ
พอโต มาอีกหน่อยเริ่มมาละ 5555555
5555 ผมจำได้ว่า ตอนเด็กๆ น้ำหนักขึ้นปีละ 10-15 กก . แต่ก็ไม่ได้ เครียดอะไรเพราะยังเป็นเด็ก กำลังสนุกกับความอร่อยเลย
สะสมไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เด็ก จนป.6
โอ้ววพระเจ้า หนัก 85 กก. นี้ลูกคนหรือลูกโดเรมอน หน้ากลมเชียว ถ้ามีกระเป๋าหน้าท้องคงแยกไม่ออกละ 5555555
ครับ หลังจาก จบ ป.6 แม่บอกไม่ไหวละ ถ้าอยู่บ้านคงอ้วนเป็น ลูกโดเรมอนแน่ ก็เลยตัดสิ้นใจให้ไปเรียน รร. ประจำ ที่ราชบุรีครับ รร. สารสิทธิ์พิทยาลัย
พอเรียนไปเค้า ควบคุมอาหารและก็การออกกำลังหายมากก แบบ ทุกเย็นต้องออกกำลังกายกับเพื่อนๆ ผมก็อยู่ได้สัก 3 ปีครับ ก็จบออกมา
อันนี้คือตอน จบม.3 นะครับ หนัก 72 แม่ก็แบบ เออไม่ผิดหวังที่ส่งไปเรียน รร.ประจำ
พอผมมา ต่อม.4 ที่ รร. ในหัวหิน ชื่อโรงเรียน หัวหินวิทยาลัย เป็นเคลือซาเลเซียนกับสารสิทธิ์พิทยาลัย ก็กลับมาอยู่บ้านเพราะ ตอนนั้นเบื่อ รร.ประจำมากก
ครับ พอกลับมาอยู่บ้านไม่ต้องสืบบเลย เรื่องการกิน ช่วงปิดเทอม น้ำหนักขึ้นอีก 5-6 โล ไปเป็น 76-79 นี้แหละ ช่วงนั้นแบบ หิวจัดดด กิน กระจายย
พอมาอยู่ ได้ 1 ปี ม.4 น้ำหนักก็ขึ้นเป็น 80 - 85 ทุกเย็นนี่กินกระจายย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากน้ำหนักขึ้น เพื่อนๆ แฮปปี้5555
พอ ม.5 น้ำหนักขึ้นอีกก โหวว ขึ้นไวกว่ว ราคาน้ำมันอีก จำได้ว่า ม.5 ก็หนัก 90 - 100 ละ 555555
พอ ม.6 โอ้วแม่เจ้าาา น้ำหนักขึ้นมา เป็น 111 กก. ตอนนั้นสนุกไงง น้ำหนัก เป็นเลขตองง 55555555
อันนี้คือช่วง ที่เรียนอยู่ ม.ปลายนะครับ
ครับผม และนี้คือรูป ในช่วงวัย เรียน ม. 4-5-6
ต่อไป ช่วงปิดเทอม ระหว่างรอเรียนมหาลัย
ผมก็อยู่บ้าน โอโอ้ทีนี้ไม่ต้องสืบบบบบบบบบบบบบบ กินกระจายยย กินแหลก กินนอนเลยทีนี้ น้ำหนัก ก็ขึ้นเป็น 115 กก. ครับ
***********พอเปิดเทอม มหาลัย ก็ไม่ต้องสืบบบบครับบบ เจอเพื่อน สนิทหนึ่งคู่หู่พากันกินเลยครับบ แบบเค้านี้ พากินทั่ว กทม. แบบเค้าขับรถมารับพาไปกินนู้นกินนี้ น้ำหนักขึ้นอีกครับบบบบ !!! ทีนี้เป็น 120 กก.เลยย
เพื่อนคนนี้บอกเลย ว่าพาผมไปเลี้ยงแหลกเลยครับ ผมก็เกรงใจแต่ก็กลัวกล้าบอกตรงๆ 5555
*****คนนี้พี่รหัสผมม เป็นหนึ่งในแรงบรรดาใจที่ทำให้ผม อยากลดน้ำหนักเพราะ พี่เค้าดูดีมากกกก
ซึ้งทำให้เพื่อนๆหลายๆ คน พูดว่า โห ดูพี่รหัสดิดูดีขนาดนี้ ทำไมไม่ทำตัวให้มันดูดีแบบพี่เค้าบ้าง
ซึ่งผม เก็บเอามาเป็นแรงบรรดาใจครับ
ครับผมม อันนี้วิธีการเพิ่มหนักของผมในเวลา 19 ปีกว่าครับ 55555
ต่อไปจะเป็นการลดน้ำหนักของผมแล้วนะครับ
สูตรลดน้ำหนักของผม มีเยอะมากกกกกกกกกก
ผมจะแบ่ง หัวข้อ ไว้ตามนี้เลยนะครับบ
1. การกิน / การควบคุมอาหาร
การควบคุมอาหารของผม ผมจะกินอาหาร ตามแคลลรี่เลย นะครับ !!!!!
คือผม หาข้อมูลมาเยอะมากกกกก กินตามแคลอรี่ ผมจะไม่กิน อาหารเกิน 120 แคลอรี่ / มื้อ
และ
ผมจะกิน 3 มื้อ แต่ไม่เกิน 500-600 แคลลารี่/วัน
ทำไมผมกินแค่ 500-600 แคล/วัน มีแรงออกกำลังกาย ?
ที่ผมกินแค่ 500/600 แคล เพราะว่า ผมมี ไขมันสระสมเยอะมากกกก ผมจึงกินอาหารที่มีแคลอรี่น้อยๆ เพื่อจะได้ เอาของเก่าออกมาด้วย
และ ผมเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 3 มื้อ 5 หมู่/ วัน และพักผ่อนเพียงพอ ผมจึงมีแรง ออกำลัง ^^
เรื่อง การกินน้ำ
ในช่วงเวลาที่เรากำลังลดน้ำหนักอยู่นั้น เราจะรู้สึกกระหายน้ำ รู้สึกหิวตลอดเวลา เพราะร่างกายจะมีการสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมากกว่าปกติ เพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมัน หากเราดื่มน้ำน้อยก็จะลดความอ้วนได้ผลช้าและอาจมีปัญหาน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้เพราะฉะนั้นเราควร ดื่มน้ำให้มากๆ แต่ไม่ควรดื่มทีเดียว ควรจะจิบๆน้ำเวลาว่างๆ หรือ พกขวดใสน้ำติดต่ัวเลยเดียวมันจะชินเอง
สำหรับคนที่ งง เรื่องแคลลอรี่นะครับ
แคลอรี่ คือ เป็นหน่วยวัดพลังงานของ อาหารและมั้ง
สมมุตนะครับ ลองเปรียบเทียบดู มื้ออาหาร เช่น
วันนั้นตอนเช้ากิน ข้าว 1 ทัพพี แกงจืดวุ้นเส้น 1 ถ้วย ( เราก็ไปเปิดในเน็ตดูว่า ข้าว กับ แกงจืด กี่ แคลลอรี่ ซึ่งผมทำอยู่ )
ข้าวสาย 1 ทัพพี = 60-70 แคลลอรี่
แกงจืดวุ้นเส้น 1 ถวย = 90 กิโลแคลอรี่
= มื้อนี้เรากินไป 150-160 แคลอรี่
แต่ถ้าเรากิน ข้าวผัดหมูใส่ไข่ 1 จาน
ข้าวผัดหมูใส่ไข่ = 550 แคลอรี่
เห็นไหมครับ ต่างกันตั้ง 390-400 แคลอรี่
ซึ้ง 390-400 แคลอรี่ เราต้อง เดิน เป็น 2 ชมกว่าๆ กว่าจะเผาผลาญหมดด !!!
ลืมบอกครับ ร่างกายคนเราจะเผาผลาญ แคลอรี่ไม่เท่ากัน ผู้ชายจะเผาผลาญได้เยอะกว่าผู้หญิง
ผู้ชาย แต่ละคนจะเผาผลาญ ประมาณ 1700-1900 / วัน (สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย)
ผู้หญิง แต่ละคนจะเผาผลาญ ประมาณ 1600-1800 / วัน (สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย)
แต่ถ้าเราออกกำลังกายทุกวันร่างกายเรา จะเผาผลาญมากขึ้นประมาณ 100-200
ใน 1 กิโลกรัม เท่ากับ 7700 แคลอรี่ ถ้าเรา กินอาหารวันหนึ่งไม่เกิน 1000 แคลอรี่น้ำหนักก็ จะลดอย่างเห็นได้ชัด
แต่เราไม่ควรอด อาหารนะ เพราะ ว่ามันเป็น การทำรายหลายๆ อย่าง เวลาเราอดอ่ะมันจะแบบ เห้ย หงุดงิดวะ
และแบบ มันจะทำให้ระบบการเผาผลาญเราพังตามไปด้วย
ยาวเลย 555555555555555
******** หลายคนคงคิดว่าการลดน้ำหนักนี้ต้องอด อาหารเย็นใช่ไหม !!!! ตอบเลยว่าใช่ เราอดอาหารเย็น แต่ เลือกที่จะกินผลไม้แทนน !!!! 555555555
ผมบอกไปแล้วใช่ป่ะ ถ้าเราอดอาหารมันจะทำให้ ระบบเผาผลาญพัง เพราะฉะนั้นผมเลย กินผมไม้แทนน
ตอนเย็นผม กินพวก แตงโม แอปเปิ้ล แทนข้าวเย็นอ่ะ
แต่ผมไปอ่านเจอในเน็ตมา อยากแนะนำ ผมไม้ ลดน้ำหนัก !!!!!!!!!
1.ส้มโอ
ช่วยลดระดับอินซูลิน เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ
2.แอปเปิล
ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว แถม ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย ( ในเน็ตบอกมา ผมชอบแบบเปิดอ่านพวกนั้อ่ะ 5555 )
3.ฝรั่ง
สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถม ฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย
พอแนะนำคือนี้พอ เดียวยาวววววววววว 5555
*****************เอ้ออรูปลืมบอก อาหารที่ผมกินอ่ะ ผมจะกิน พวก ผัก ปลา
เอาเป็นว่า จบและเรื่องการ คุมอาหาร มาดูรุปต่อ 55555
อันนี้คือรูปที่ ผมลดเหลือ 90 - 110 แล้วแหละ ผมจำไม่ได้ว่ารูปนไหนหนักเท่าไหร่
ครับผมมม มาต่อกัน ผมจะย่อๆ แล้วนะครับ เพราะ เดียวมันยาวเกินละจะเบื่อกันก่อนนน
ต่อมาเป็นเรื่อง ของ
********การออกกำลังกายครับ
ครับแน่นอนอยู่แล้วว่า ถ้าเราจะลด น้ำหนัก ก็ต้องออกกำลังกาบควบคู่ไปด้วยยย
* การออกกำลังกาย ของผม ตอนแรกบอกเลยครับว่า ออกกำลังกาย หนักมากกกก คือ ตารางการออกกำลังกายของผม
ตื่นเช้ามา ก็ตื่นมากินน้ำเปล่า 1 แก้ว > ทำท่าเหวี่ยงแขนรดพุง 200 ครั้ง (ที่ออกโฆณา แม่ยักกับลูกยักจับคนแล้วจะกินคนอ่ะครับแล้วแม่นักบอกว่า ยังกินไม่ได้ มนุกอ้วนเกิน โรคเยอะ !! ) > ก็อาบน้ำเสร็จ ไปเรียน** กินข้าวเช้าที่ มหาลัย > พอเรียนเสรจ > ก็กินข้าวเที่ยง > ก็ไปเรียน วันไหนไม่มีเรียนก็ไปเล่นเกมส์ที่ร้าน > ตกเย็น 3-4 โมงผมก็ไปหา ผลไม้กิน ผมชอบกินแตงโมมาก > พอกินเสดเปลี่ยนชุด > ไปฟิตเนตที่ มหาลัยบอกเลย ถูกมากก แค่ 20 บาทเอง มีเครื่องเล่นหลายอันมากก ถ้าไปช้าอาจจะต้องไปรอหน่อย เพราะมีคนมา ใช้บริการเยอะมากก พอผมฟิตเนต วิ่งออกกำลังกาย เสด > กลับห้องมา ทำงานทำนู้นทำนี้ อาบน้ำนอนน ตารางจะเป็บแบบนึครับ ( อันนี้คือช่วงตอนเปิดเทอม )
บอกเลย อยู่ มหาลัย ผมกิน สุกี้ไก่ เกือบทุกมื้อ เพราะมัน ง่ายดี 55555
****** ส่วนปิดเทอมมม ตารางจะเป็นแบบนี้ครับ
ตื่นมากินน้ำอุ่น > วิ่งบนเครื่องวิ่ง 45 นาที > แล้วก็นอนเล่นโทรศัพ > กินข้าวว > สายๆหน่อยก็ นั้งเล่นไปเรื่อยๆ > จนเที่ยง ผมกินข้าว > บ่ายๆ ก็ โดดเชือก เล่นเวท เล่นนู้นเล่นนี้บ้างง > เย็นๆ หาผมไม้กิน > ค่ำๆ ก็ วิ่งเครื่องวิ่งง > ดึกๆ ก็อาบ้ำนอน
*** เอ้อ ผมมีเคล็ดลับบบบ การออกกำลังกายยย
คือ ไม่ว่าเราจะ ออกกำลังกาย อ่ะ เราควรเว้นจาก การกินไว้ 1 ชม เช่น เราเพิ่งกินข้าวตอน 10.00 เราควนออกกำลังกาย 11.10-11.20 กำลังดี และ ออกกำลังกายเสร็จ 11.20 โมง เราควร พักก่อนกินหรือห้ามกินอะไรเลย 1 ชม เรากินได้อีกทีก็ 12.40 หรือ 12.50
เพื่อไม่ให้ร่างกาย เอาของที่เรากิน ไปเผาผลาญ
ประสบการณ์และวิธิการลดน้ำหนักของผม ในช่วงเวลา 6 เดือน กับ 45 กก. (สูตรทั้งหมดของผม) จากเด็กอ้วนดำ........
ผมชื่อ ปั้มปิ้ง เรียนอยู่หอการค้า ปี 2 ครับ
ผมอยากจะมาบอกวิธีการลดน้ำหนักของผมแบบละเอียดเลย ที่ใครๆ ก็ทำได้
ขอเล่าก่อนเลยนะครับ ว่าตอนเด็กๆ ผมเป็นคนไม่อ้วนครับ แกต่ที่ผมอ้วนเพราะ พ่อแม่ผมชอบ ยัดเยียดให้กิน 55555 ( พ่อแม่ผมชอบทำอาหารทั้งคู่เลย ) และอาหารนี้หวานมาก เพราะบ้านผม กินอาหารหวานทุกคน ตั้งแค่ ตากับยาย กินหวานมากกก แบบไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ไหน ก็แบบกินน้ำตาลเกือบหมด ขวดดดดดดด โอพระเจ้า 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือผม หาข้อมูลมาเยอะมากกกกก กินตามแคลอรี่ ผมจะไม่กิน อาหารเกิน 120 แคลอรี่ / มื้อ
และผมจะกิน 3 มื้อ แต่ไม่เกิน 500-600 แคลลารี่/วัน
และ ผมเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 3 มื้อ 5 หมู่/ วัน และพักผ่อนเพียงพอ ผมจึงมีแรง ออกำลัง ^^
สำหรับคนที่ งง เรื่องแคลลอรี่นะครับ แคลอรี่ คือ เป็นหน่วยวัดพลังงานของ อาหารและมั้ง
สมมุตนะครับ ลองเปรียบเทียบดู มื้ออาหาร เช่น
วันนั้นตอนเช้ากิน ข้าว 1 ทัพพี แกงจืดวุ้นเส้น 1 ถ้วย ( เราก็ไปเปิดในเน็ตดูว่า ข้าว กับ แกงจืด กี่ แคลลอรี่ ซึ่งผมทำอยู่ )
ข้าวสาย 1 ทัพพี = 60-70 แคลลอรี่
แกงจืดวุ้นเส้น 1 ถวย = 90 กิโลแคลอรี่
= มื้อนี้เรากินไป 150-160 แคลอรี่
แต่ถ้าเรากิน ข้าวผัดหมูใส่ไข่ 1 จาน
ข้าวผัดหมูใส่ไข่ = 550 แคลอรี่
เห็นไหมครับ ต่างกันตั้ง 390-400 แคลอรี่
ซึ้ง 390-400 แคลอรี่ เราต้อง เดิน เป็น 2 ชมกว่าๆ กว่าจะเผาผลาญหมดด !!!
ผู้ชาย แต่ละคนจะเผาผลาญ ประมาณ 1700-1900 / วัน (สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย)
ผู้หญิง แต่ละคนจะเผาผลาญ ประมาณ 1600-1800 / วัน (สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย)
แต่ถ้าเราออกกำลังกายทุกวันร่างกายเรา จะเผาผลาญมากขึ้นประมาณ 100-200
ใน 1 กิโลกรัม เท่ากับ 7700 แคลอรี่ ถ้าเรา กินอาหารวันหนึ่งไม่เกิน 1000 แคลอรี่น้ำหนักก็ จะลดอย่างเห็นได้ชัด
และแบบ มันจะทำให้ระบบการเผาผลาญเราพังตามไปด้วย
ยาวเลย 555555555555555
ผมบอกไปแล้วใช่ป่ะ ถ้าเราอดอาหารมันจะทำให้ ระบบเผาผลาญพัง เพราะฉะนั้นผมเลย กินผมไม้แทนน
ตอนเย็นผม กินพวก แตงโม แอปเปิ้ล แทนข้าวเย็นอ่ะ
1.ส้มโอ
ช่วยลดระดับอินซูลิน เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ
2.แอปเปิล
ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว แถม ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย ( ในเน็ตบอกมา ผมชอบแบบเปิดอ่านพวกนั้อ่ะ 5555 )
3.ฝรั่ง
สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถม ฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย
พอแนะนำคือนี้พอ เดียวยาวววววววววว 5555
เอาเป็นว่า จบและเรื่องการ คุมอาหาร มาดูรุปต่อ 55555
อันนี้คือรูปที่ ผมลดเหลือ 90 - 110 แล้วแหละ ผมจำไม่ได้ว่ารูปนไหนหนักเท่าไหร่
ครับผมมม มาต่อกัน ผมจะย่อๆ แล้วนะครับ เพราะ เดียวมันยาวเกินละจะเบื่อกันก่อนนน
ต่อมาเป็นเรื่อง ของ
********การออกกำลังกายครับ
ครับแน่นอนอยู่แล้วว่า ถ้าเราจะลด น้ำหนัก ก็ต้องออกกำลังกาบควบคู่ไปด้วยยย
* การออกกำลังกาย ของผม ตอนแรกบอกเลยครับว่า ออกกำลังกาย หนักมากกกก คือ ตารางการออกกำลังกายของผม
ตื่นเช้ามา ก็ตื่นมากินน้ำเปล่า 1 แก้ว > ทำท่าเหวี่ยงแขนรดพุง 200 ครั้ง (ที่ออกโฆณา แม่ยักกับลูกยักจับคนแล้วจะกินคนอ่ะครับแล้วแม่นักบอกว่า ยังกินไม่ได้ มนุกอ้วนเกิน โรคเยอะ !! ) > ก็อาบน้ำเสร็จ ไปเรียน** กินข้าวเช้าที่ มหาลัย > พอเรียนเสรจ > ก็กินข้าวเที่ยง > ก็ไปเรียน วันไหนไม่มีเรียนก็ไปเล่นเกมส์ที่ร้าน > ตกเย็น 3-4 โมงผมก็ไปหา ผลไม้กิน ผมชอบกินแตงโมมาก > พอกินเสดเปลี่ยนชุด > ไปฟิตเนตที่ มหาลัยบอกเลย ถูกมากก แค่ 20 บาทเอง มีเครื่องเล่นหลายอันมากก ถ้าไปช้าอาจจะต้องไปรอหน่อย เพราะมีคนมา ใช้บริการเยอะมากก พอผมฟิตเนต วิ่งออกกำลังกาย เสด > กลับห้องมา ทำงานทำนู้นทำนี้ อาบน้ำนอนน ตารางจะเป็บแบบนึครับ ( อันนี้คือช่วงตอนเปิดเทอม )
บอกเลย อยู่ มหาลัย ผมกิน สุกี้ไก่ เกือบทุกมื้อ เพราะมัน ง่ายดี 55555
****** ส่วนปิดเทอมมม ตารางจะเป็นแบบนี้ครับ
ตื่นมากินน้ำอุ่น > วิ่งบนเครื่องวิ่ง 45 นาที > แล้วก็นอนเล่นโทรศัพ > กินข้าวว > สายๆหน่อยก็ นั้งเล่นไปเรื่อยๆ > จนเที่ยง ผมกินข้าว > บ่ายๆ ก็ โดดเชือก เล่นเวท เล่นนู้นเล่นนี้บ้างง > เย็นๆ หาผมไม้กิน > ค่ำๆ ก็ วิ่งเครื่องวิ่งง > ดึกๆ ก็อาบ้ำนอน
*** เอ้อ ผมมีเคล็ดลับบบบ การออกกำลังกายยย
คือ ไม่ว่าเราจะ ออกกำลังกาย อ่ะ เราควรเว้นจาก การกินไว้ 1 ชม เช่น เราเพิ่งกินข้าวตอน 10.00 เราควนออกกำลังกาย 11.10-11.20 กำลังดี และ ออกกำลังกายเสร็จ 11.20 โมง เราควร พักก่อนกินหรือห้ามกินอะไรเลย 1 ชม เรากินได้อีกทีก็ 12.40 หรือ 12.50
เพื่อไม่ให้ร่างกาย เอาของที่เรากิน ไปเผาผลาญ
https://www.facebook.com/pumpingz