สวัสดีค่ะ เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกเลย หลังจากแอบอ่านในนี้มานาน ถ้าผิดพลาดตรงไหนช่วยแจ้งด้วยนะคะ อยากรบกวนขอคำแนะนำจากท่านที่มีความรู้ด้านกฎหมายค่ะ เดี๋ยวขอเล่าเรื่องละเอียด เรื่องจะยาวหน่อยนะคะ
แม่เรามีปัญหากับเจ้าของที่นาติดกันค่ะ สมมติว่าชื่อ นาง ร อันที่จริงเมื่อก่อน แม่กับนาง ร เป็นเพื่อนกันมาก่อนนะคะ แต่ปีที่แล้ว นาง ร ได้ลงสมัครเป็น อบต แต่คนที่ได้เป็นญาติทางแม่ของเราค่ะ มีศักดิ์เป็นน้าเราเอง นาง ร ก็โกรธแค้นพ่อของเรา หาว่าพ่อเราไปบอกให้น้ามาสมัคร ทำให้ตัวเองไม่ได้รับเลือก เรื่องนี้เราถามพ่อแล้ว พ่อไม่ได้เป็นคนบอกเลยค่ะ ไม่รู้ว่า นาง ร ไปฟังมาจากที่ไหน แต่นาง ร โกรธครอบครัวเรามาก เที่ยวไปบอกใครต่อใครไปทั่วว่า บ้านเราไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ นินทาใส่ร้ายบ้าง จะหาทางทำให้บ้านเราเดือดร้อน เอาให้อยู่ไม่สุขบ้าง บ้านเราได้ฟังก็โกรธเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีการโต้ตอบกลับนะคะ แม่เราก้เคยพยายามอธิบายให้ฟังนะคะ ว่า พ่อเราไม่เกี่ยว แต่นางไม่ฟังเลย จริงๆ แล้ว เราไม่ค่อยชอบ นาง ร นะคะ เพราะเป็นคนปากจัด ชอบนินทา ไม่มีความเกรงใจ แถมไม่ฟังคนอื่นพูดเลย สมัยที่เป็นเพื่อนกับแม่ ยังเคยเดินเข้าบ้านมา หาของกินในตู้กับข้าวเราเฉยเลย พ่อเราก็ไม่ค่อยชอบค่ะ
ถ้าเรื่องมันจบแค่การให้ร้ายนินทาก็คงไม่มีอะไร แต่ช่วงประมาณต้นปี 2557 (จำเดือนไม่ได้ค่ะ) นาง ร ให้รถแทรกเตอร์มาขุดถนนที่ติดกับที่นาเรา คือที่นาเราเนี่ยติดกับนาง ร ซึ่งอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้านค่ะ โดยที่ดินเรา อยู่ทางซ้ายมือ และด้านหลังของนาง ร ส่วนด้านขวาเป็นที่ดินนาย ก (เดี๋ยวหาทางทำเป็นรูปให้ดูนะคะ อาจจะอ่านแล้วงงๆ) สรุปก็คือ นาง ร ตักถนนที่ติดกับที่ดิน โดยตักออกแค่บริเวณที่ติดกับแม่เท่านั้น ไม่ได้ตักออกทั้งหมด เหมือนจะกลั่นแกล้ง ไม่อยากให้แม่ใช้เส้นทางนั้นได้ แม่รู้เรื่องก็โกรธค่ะ เพราะถนนเส้นนั้นถือว่าเป็นที่สาธารณะ แม่ใช้มาตลอดตั้งแต่จำความได้ ปู่ย่าตายายเราก็ใช้ถนนเส้นมาตลอด แม่ไปขอให้หยุด นาง ร บอกว่า ให้ไปเรียกพ่อเรามาพูด จะอัดคลิปตอนเถียงกันไว้ แล้วจะทำเรื่องให้ พ่อเราออกจากราชการ (พ่อเราเป็นครูค่ะ) แต่แม่บอกว่า พ่อไม่มาเถียงด้วยหรอก อีกอย่างที่ตรงนี้เป็นชื่อแม่ แม่ก็ต้องจัดการเอง นาง ร บอกว่าถนนเส้นนั้นเป็นของตน แม่จึงไปแจ้งความให้หยุดดำเนินการขุดก่อน เพราะที่ดินตรงนั้นติดกับที่ของยาย ส ค่ะ โดยยาย ส เองก็เป็นญาติแม่เหมือนกัน แม่เข้าใจว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของยาย ส ทางที่ดินแจ้งมาว่า ต้องให้ยาย ส เป็นคนไปแจ้งที่ดินให้มารังวัดใหม่ แม่เราโทรไปขอให้ยาย ส ขึ้นมาทำเรื่องรังวัดให้ โดยจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ตอนเกิดเรื่องแกลงไปอยู่กับลูกที่กรุงเทพ จะกลับหลังจากสงกรานต์ค่ะ แม่เราก็รอ
หลังจากสงกรานต์ ยาย ส ก็มาดำเนินการ พอคนจากที่ดินมารังวัด ก็กลายเป็นที่ของนาง ร ค่ะ เพราะประมาณปี 2540 กว่า (มั้ง) เค้ารังวัดที่ดินกันใหม่ โดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม ทำให้มันคลาดเคลื่อนไป แม่เราก็โอเคงั้นไม่ใช้เส้นทางนั้น เลยขอใช้เส้นทางผ่านบ้านของยาย ส แทน จากนั้นแม่เราก็ก่อกำแพงอิฐกั้นที่ดินเราที่ติดกับนาง ร เพราะนาง ร ประกาศไว้ว่า ถ้ามีแม้แต่ดินก้อนนึงจากที่เราตกลงไปในที่ดินของนาง ร นางจะแจ้งความจับ โดยตอนที่แม่สร้างกำแพง แม่ให้ที่ดินมารังวัดที่ใหม่ รวมทั้งสอบถามทางตำรวจกับที่ดินแล้วว่าทำได้ ก็ดำเนินการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านสิบกว่าคนไปช่วยฝังหมุด แล้วสร้างกำแพงค่ะ เรื่องเหมือนจะจบลงด้วยดี
พอเข้าเดือนพฤษภาคม ฝนแรกเริ่มตกลงมา ปรากฏว่า นาง ร ระบายน้ำออกไม่ได้ค่ะ เพราะปกตินาง ร จะอาศัยระบายผ่านที่ของแม่เรา (ที่แม่เราติดลำห้วยค่ะ) นางไปแจ้งความเรียกมาตำรวจมาจับแม่เรา ข้อหา ขัดขวางทางน้ำไหล ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน มาช่วยกันไกล่เกลี่ย แม่เราบอกเหตุผลที่ต้องสร้างกำแพงไปตามที่ นาง ร เคยพูดไว้ นาง ร ก็เถียงมาว่าไม่เคยพูด แต่พยานหลายคนที่ได้ยินช่วยกันยืนยัน นาง ร ก็เลยเงียบไป ทางตำรวจก็เสนอมา ให้นาง ร จัดการถนนให้เหมือนเดิม แล้วให้แม่เราใส่ท่อระบายให้นาง ร แม่เราก็ตกลง แต่นาง ร ไม่ยอม จะให้แม่เราใส่ท่อนำคนเดียว ส่วนถนนไม่ซ่อมให้ ไม่ว่าใครจะเกลี้ยกล่อมยังไง ขนาดกำนันมาช่วยพูด นาง ร ก็ไม่ยอมค่ะ ตกลงกันไม่ได้ แม่เราก็เลยพูดว่า ทำไมไม่เรียกเจ้าของที่จริงๆ มาคุย เพราะชื่อเจ้าของที่ข้างเคียงเรา จริงๆ เป็นของสามีนาง ร ค่ะ แต่นางไม่ยอมเรียกให้สามีมาคุย (สามีนางคุยรู้เรื่อง ว่าง่ายกว่าเยอะค่ะ แต่ไม่กล้าหือกับเมีย) สรุปวันนั้น ไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะ
เมื่อวานแม่เราได้รับหมายเรียกจากตำรวจ ให้ไปพบวันนี้ (27 มิ.ย.) แจ้งเป็นความอาญาค่ะ ข้อหาคือ ผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำให้เสียทรัพย์ อาจจะเพราะเข้าหน้าฝน ฝนตกบ่อยขึ้น ทำให้อ้อยที่ นาง ร ปลูกไว้ตาย เพราะระบายน้ำไม่ได้ค่ะ เราโทรคุยกับแม่แล้ว แม่บอกว่า พ่อเราก็ได้หมายเรียกเหมือนกัน รวมทั้งอีกสิบกว่าคนที่ไปช่วยแม่เราทำกำแพงด้วย น่าจะข้อหาทำให้เสียทรัพย์ นอกจากนี้แม่เราบอกเพิ่มเติมด้วยค่ะ ว่าที่ดินของนาง ร มีลักษณะคล้ายกะทะ คือตรงกลางจะลุ่ม ทำให้น้ำขังอยู่ตรงกลาง มาไม่ถึงเขตที่ติดกับแม่ด้วยซ้ำ ทุกปีจะใช้วิธีเครื่องสูบน้ำ แล้วปล่อยมาที่ของเราแทน และที่ดินของเราสูงกว่าที่ของนาง ร ด้วยค่ะ
พ่อเรากับคนอื่นๆ ก็คงไปตามนัดค่ะ แต่แม่เราจะตามไปทีหลัง เพราะนัดตรวจเลือดไว้ก่อนแล้วค่ะ อยากสอบถามว่า กรณีอย่างนี้ถือว่า แม่เราได้กระทำความผิดจริงไหมคะ แล้วจะดำเนินการยังไงได้บ้าง ทุกคนเองก็ไม่ค่อยพอใจที่ต้องมาเสียเวลาทำมาหากิน เสียสุขภาพจิตกับนาง ร มาเกือบปีแล้ว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ แม่เราพยายามรอมชอมทุกทางแล้ว แต่นาง ร ไม่ยอมรับฟังเลย
ขอคำแนะนำค่ะ มีปัญหากับเจ้าของที่ข้างๆ
แม่เรามีปัญหากับเจ้าของที่นาติดกันค่ะ สมมติว่าชื่อ นาง ร อันที่จริงเมื่อก่อน แม่กับนาง ร เป็นเพื่อนกันมาก่อนนะคะ แต่ปีที่แล้ว นาง ร ได้ลงสมัครเป็น อบต แต่คนที่ได้เป็นญาติทางแม่ของเราค่ะ มีศักดิ์เป็นน้าเราเอง นาง ร ก็โกรธแค้นพ่อของเรา หาว่าพ่อเราไปบอกให้น้ามาสมัคร ทำให้ตัวเองไม่ได้รับเลือก เรื่องนี้เราถามพ่อแล้ว พ่อไม่ได้เป็นคนบอกเลยค่ะ ไม่รู้ว่า นาง ร ไปฟังมาจากที่ไหน แต่นาง ร โกรธครอบครัวเรามาก เที่ยวไปบอกใครต่อใครไปทั่วว่า บ้านเราไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ นินทาใส่ร้ายบ้าง จะหาทางทำให้บ้านเราเดือดร้อน เอาให้อยู่ไม่สุขบ้าง บ้านเราได้ฟังก็โกรธเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีการโต้ตอบกลับนะคะ แม่เราก้เคยพยายามอธิบายให้ฟังนะคะ ว่า พ่อเราไม่เกี่ยว แต่นางไม่ฟังเลย จริงๆ แล้ว เราไม่ค่อยชอบ นาง ร นะคะ เพราะเป็นคนปากจัด ชอบนินทา ไม่มีความเกรงใจ แถมไม่ฟังคนอื่นพูดเลย สมัยที่เป็นเพื่อนกับแม่ ยังเคยเดินเข้าบ้านมา หาของกินในตู้กับข้าวเราเฉยเลย พ่อเราก็ไม่ค่อยชอบค่ะ
ถ้าเรื่องมันจบแค่การให้ร้ายนินทาก็คงไม่มีอะไร แต่ช่วงประมาณต้นปี 2557 (จำเดือนไม่ได้ค่ะ) นาง ร ให้รถแทรกเตอร์มาขุดถนนที่ติดกับที่นาเรา คือที่นาเราเนี่ยติดกับนาง ร ซึ่งอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้านค่ะ โดยที่ดินเรา อยู่ทางซ้ายมือ และด้านหลังของนาง ร ส่วนด้านขวาเป็นที่ดินนาย ก (เดี๋ยวหาทางทำเป็นรูปให้ดูนะคะ อาจจะอ่านแล้วงงๆ) สรุปก็คือ นาง ร ตักถนนที่ติดกับที่ดิน โดยตักออกแค่บริเวณที่ติดกับแม่เท่านั้น ไม่ได้ตักออกทั้งหมด เหมือนจะกลั่นแกล้ง ไม่อยากให้แม่ใช้เส้นทางนั้นได้ แม่รู้เรื่องก็โกรธค่ะ เพราะถนนเส้นนั้นถือว่าเป็นที่สาธารณะ แม่ใช้มาตลอดตั้งแต่จำความได้ ปู่ย่าตายายเราก็ใช้ถนนเส้นมาตลอด แม่ไปขอให้หยุด นาง ร บอกว่า ให้ไปเรียกพ่อเรามาพูด จะอัดคลิปตอนเถียงกันไว้ แล้วจะทำเรื่องให้ พ่อเราออกจากราชการ (พ่อเราเป็นครูค่ะ) แต่แม่บอกว่า พ่อไม่มาเถียงด้วยหรอก อีกอย่างที่ตรงนี้เป็นชื่อแม่ แม่ก็ต้องจัดการเอง นาง ร บอกว่าถนนเส้นนั้นเป็นของตน แม่จึงไปแจ้งความให้หยุดดำเนินการขุดก่อน เพราะที่ดินตรงนั้นติดกับที่ของยาย ส ค่ะ โดยยาย ส เองก็เป็นญาติแม่เหมือนกัน แม่เข้าใจว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของยาย ส ทางที่ดินแจ้งมาว่า ต้องให้ยาย ส เป็นคนไปแจ้งที่ดินให้มารังวัดใหม่ แม่เราโทรไปขอให้ยาย ส ขึ้นมาทำเรื่องรังวัดให้ โดยจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ตอนเกิดเรื่องแกลงไปอยู่กับลูกที่กรุงเทพ จะกลับหลังจากสงกรานต์ค่ะ แม่เราก็รอ
หลังจากสงกรานต์ ยาย ส ก็มาดำเนินการ พอคนจากที่ดินมารังวัด ก็กลายเป็นที่ของนาง ร ค่ะ เพราะประมาณปี 2540 กว่า (มั้ง) เค้ารังวัดที่ดินกันใหม่ โดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม ทำให้มันคลาดเคลื่อนไป แม่เราก็โอเคงั้นไม่ใช้เส้นทางนั้น เลยขอใช้เส้นทางผ่านบ้านของยาย ส แทน จากนั้นแม่เราก็ก่อกำแพงอิฐกั้นที่ดินเราที่ติดกับนาง ร เพราะนาง ร ประกาศไว้ว่า ถ้ามีแม้แต่ดินก้อนนึงจากที่เราตกลงไปในที่ดินของนาง ร นางจะแจ้งความจับ โดยตอนที่แม่สร้างกำแพง แม่ให้ที่ดินมารังวัดที่ใหม่ รวมทั้งสอบถามทางตำรวจกับที่ดินแล้วว่าทำได้ ก็ดำเนินการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านสิบกว่าคนไปช่วยฝังหมุด แล้วสร้างกำแพงค่ะ เรื่องเหมือนจะจบลงด้วยดี
พอเข้าเดือนพฤษภาคม ฝนแรกเริ่มตกลงมา ปรากฏว่า นาง ร ระบายน้ำออกไม่ได้ค่ะ เพราะปกตินาง ร จะอาศัยระบายผ่านที่ของแม่เรา (ที่แม่เราติดลำห้วยค่ะ) นางไปแจ้งความเรียกมาตำรวจมาจับแม่เรา ข้อหา ขัดขวางทางน้ำไหล ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน มาช่วยกันไกล่เกลี่ย แม่เราบอกเหตุผลที่ต้องสร้างกำแพงไปตามที่ นาง ร เคยพูดไว้ นาง ร ก็เถียงมาว่าไม่เคยพูด แต่พยานหลายคนที่ได้ยินช่วยกันยืนยัน นาง ร ก็เลยเงียบไป ทางตำรวจก็เสนอมา ให้นาง ร จัดการถนนให้เหมือนเดิม แล้วให้แม่เราใส่ท่อระบายให้นาง ร แม่เราก็ตกลง แต่นาง ร ไม่ยอม จะให้แม่เราใส่ท่อนำคนเดียว ส่วนถนนไม่ซ่อมให้ ไม่ว่าใครจะเกลี้ยกล่อมยังไง ขนาดกำนันมาช่วยพูด นาง ร ก็ไม่ยอมค่ะ ตกลงกันไม่ได้ แม่เราก็เลยพูดว่า ทำไมไม่เรียกเจ้าของที่จริงๆ มาคุย เพราะชื่อเจ้าของที่ข้างเคียงเรา จริงๆ เป็นของสามีนาง ร ค่ะ แต่นางไม่ยอมเรียกให้สามีมาคุย (สามีนางคุยรู้เรื่อง ว่าง่ายกว่าเยอะค่ะ แต่ไม่กล้าหือกับเมีย) สรุปวันนั้น ไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะ
เมื่อวานแม่เราได้รับหมายเรียกจากตำรวจ ให้ไปพบวันนี้ (27 มิ.ย.) แจ้งเป็นความอาญาค่ะ ข้อหาคือ ผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำให้เสียทรัพย์ อาจจะเพราะเข้าหน้าฝน ฝนตกบ่อยขึ้น ทำให้อ้อยที่ นาง ร ปลูกไว้ตาย เพราะระบายน้ำไม่ได้ค่ะ เราโทรคุยกับแม่แล้ว แม่บอกว่า พ่อเราก็ได้หมายเรียกเหมือนกัน รวมทั้งอีกสิบกว่าคนที่ไปช่วยแม่เราทำกำแพงด้วย น่าจะข้อหาทำให้เสียทรัพย์ นอกจากนี้แม่เราบอกเพิ่มเติมด้วยค่ะ ว่าที่ดินของนาง ร มีลักษณะคล้ายกะทะ คือตรงกลางจะลุ่ม ทำให้น้ำขังอยู่ตรงกลาง มาไม่ถึงเขตที่ติดกับแม่ด้วยซ้ำ ทุกปีจะใช้วิธีเครื่องสูบน้ำ แล้วปล่อยมาที่ของเราแทน และที่ดินของเราสูงกว่าที่ของนาง ร ด้วยค่ะ
พ่อเรากับคนอื่นๆ ก็คงไปตามนัดค่ะ แต่แม่เราจะตามไปทีหลัง เพราะนัดตรวจเลือดไว้ก่อนแล้วค่ะ อยากสอบถามว่า กรณีอย่างนี้ถือว่า แม่เราได้กระทำความผิดจริงไหมคะ แล้วจะดำเนินการยังไงได้บ้าง ทุกคนเองก็ไม่ค่อยพอใจที่ต้องมาเสียเวลาทำมาหากิน เสียสุขภาพจิตกับนาง ร มาเกือบปีแล้ว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ แม่เราพยายามรอมชอมทุกทางแล้ว แต่นาง ร ไม่ยอมรับฟังเลย