สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
คุณเข้าใจผิดแล้วครับ
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ อุณหภูมิเท่าไร แค่นั้น ตราบเท่าที่คนเล่นบอลยังเป็นมนุษย์สิ่งสำคัญคือการปรับตัว
ผมมีเวลาพิมพ์ไม่มาก (ก่อนไปธุระ) เลยขอเขียนแค่ 2 เรื่องหลัก
1. อุณหภูมิ เป็นตัวบอกสภาพอากาศที่สำคัญจริงครับ แต่ไม่ได้บอกลักษณะภูมิอากาศทั้งหมด เช่น ความชื้น (มีผลกับการขับเหงื่อ) ความแรงลม ระดับความสูงจากน้ำทะเล ฯลฯ ที่จะส่งผลให้ พื้นที่ ๆ อุณหภูมิเท่ากัน แต่มีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกัน รวมถึงส่งผลให้มนุษย์มีความความเคยชินกับสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
2. จากสภาพที่แตกต่างกันของภูมิอากาศ สิ่งสำคัญ คือ การปรับตัว ยกตัวอย่าง ยุโรป บางประเทศ วันที่ออกเดินทางไปบราซิล อุณหภิในประเทศ ต่ำกว่า 20 เดินทางข้ามประเทศไปโผล่ บราซิลที่ อุณหภูมิ 30 แม้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายอาจไม่มีปัญหา แต่การเล่นบอลที่ต้องรีดพละกำลังถึงขีดสุดมาใช้ ไม่มีทางทำได้แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงลักษณะภูมิอากาศที่ไม่คุ้นเคย ความชื้น (ร้อนชื้นกับร้อนแห้งต่างกันมาก) ความกดอากาศ ผมว่าแทบเป้นไปไม่ได้เลย ที่จะสามารถเล่นบอลด้วยฟอร์มปกติ
3. เรื่องนี้ผมว่าไม่น่าเอามาถกกันแล้วนะครับ เอาง่าย ๆ แค่ซิโก้ ลีซอ ไปเจออากาศหนาวที่อังกฤษ ร้องกลับบ้านแทบไม่ทัน ทั้งทีบางปี ไทยก็เคยหนาวเท่าที่ฮัดเดิ้ลฟิลด์ หรือ อย่างฝรั่ง ข้าวสาร ไม่ต้องไปวิ่งเล่นบอลหรอก เดินเฉยๆ เห็นถอดเสื้อบ่น hot hot hot เพราะร้อนชื้นแบบไทยกับร้อนแห้งของเขามันไม่เหมือนกัน บอลโลกที่เยอรมันก็ร้อนครับ 30 กว่า ผมเดินเหงื่อไม่ออกซักหยด ลอง 30 ในไทย บิดน้ำได้เป็นบี๊บครับ
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ อุณหภูมิเท่าไร แค่นั้น ตราบเท่าที่คนเล่นบอลยังเป็นมนุษย์สิ่งสำคัญคือการปรับตัว
ผมมีเวลาพิมพ์ไม่มาก (ก่อนไปธุระ) เลยขอเขียนแค่ 2 เรื่องหลัก
1. อุณหภูมิ เป็นตัวบอกสภาพอากาศที่สำคัญจริงครับ แต่ไม่ได้บอกลักษณะภูมิอากาศทั้งหมด เช่น ความชื้น (มีผลกับการขับเหงื่อ) ความแรงลม ระดับความสูงจากน้ำทะเล ฯลฯ ที่จะส่งผลให้ พื้นที่ ๆ อุณหภูมิเท่ากัน แต่มีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกัน รวมถึงส่งผลให้มนุษย์มีความความเคยชินกับสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
2. จากสภาพที่แตกต่างกันของภูมิอากาศ สิ่งสำคัญ คือ การปรับตัว ยกตัวอย่าง ยุโรป บางประเทศ วันที่ออกเดินทางไปบราซิล อุณหภิในประเทศ ต่ำกว่า 20 เดินทางข้ามประเทศไปโผล่ บราซิลที่ อุณหภูมิ 30 แม้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายอาจไม่มีปัญหา แต่การเล่นบอลที่ต้องรีดพละกำลังถึงขีดสุดมาใช้ ไม่มีทางทำได้แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงลักษณะภูมิอากาศที่ไม่คุ้นเคย ความชื้น (ร้อนชื้นกับร้อนแห้งต่างกันมาก) ความกดอากาศ ผมว่าแทบเป้นไปไม่ได้เลย ที่จะสามารถเล่นบอลด้วยฟอร์มปกติ
3. เรื่องนี้ผมว่าไม่น่าเอามาถกกันแล้วนะครับ เอาง่าย ๆ แค่ซิโก้ ลีซอ ไปเจออากาศหนาวที่อังกฤษ ร้องกลับบ้านแทบไม่ทัน ทั้งทีบางปี ไทยก็เคยหนาวเท่าที่ฮัดเดิ้ลฟิลด์ หรือ อย่างฝรั่ง ข้าวสาร ไม่ต้องไปวิ่งเล่นบอลหรอก เดินเฉยๆ เห็นถอดเสื้อบ่น hot hot hot เพราะร้อนชื้นแบบไทยกับร้อนแห้งของเขามันไม่เหมือนกัน บอลโลกที่เยอรมันก็ร้อนครับ 30 กว่า ผมเดินเหงื่อไม่ออกซักหยด ลอง 30 ในไทย บิดน้ำได้เป็นบี๊บครับ
แสดงความคิดเห็น
อย่าอ้างเรื่องอากาศร้อนทำให้ทีมในยุโรปโชว์ฟอร์มไม่ออกในบอลโลกฉบับบราซิลเลย มาทำความเข้าใจเรื่องอากาศของบราซิลกันดีกว่า !
ลองสังเกตุฟุตบอลยูโร กับฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นทุกๆ 4 ปีซิ่ ถ้าสนใจเรื่องสภาพภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศหน่อย คุณจะเข้าใจใหม่ได้ว่า ยุโรปไม่ได้หนาวเย็นตลอดปี ตลอดชาติ แต่อากาศเค้ามีความหลากหลายแตกต่างกันอย่างมากกกกกกกกกกกก ช่วงเดือนธันวาถึงกุมภา เป็นฤดูหนาว หิมะตก อากาศติดลบ ช่วงเดือนมีนาถึงพฤษภาเป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบายราว 10 องศาต้นๆ พอมาช่วงเดือนที่จัดบอลโลก และบอลยูโร ก็คือช่วงเดือน มิถุนายนถึงสิงหาคม จะเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิของยุโรปจะร้อนขึ้นถึง 30 กว่าองศา (มอสโกว์ รัสเซียที่ว่าหนาวๆกันยังเคยสูงถึง 40 องศามาแล้ว)
เพราะฉะนั้นการที่แฟนบอลของทีมจากยุโรป จะมาอ้างว่าเพราะอากาศร้อน ทำให้เล่นฟุตบอลไม่ออก โชว์ฟอร์มไม่ดี ขอบอกเลยครับว่ามันเป็นแค่ "ข้ออ้าง" ของฟอร์มห่วยๆของตัวเองมากกว่า (ยิ่งเป็นสเปน อิตาลี และโปรตุเกสที่เป็นยุโรปใต้ ยิ่งอ้างเข้าไปใหญ่เพราะประเทศเหล่านี้ หน้าร้อนนี่ร้อนกว่าไทยและบราซิลตอนนี้อีก) เพราะ ทีมชาติในยุโรปหลายๆทีมก็เคยเตะในช่วงที่มีอุณหภูมิสูงถึง 30 - 35 องศามาแล้ว ทั้งในบอลยูโรที่เตะกันหน้าร้อนมาตลอด (อุณหภูมิในหลายๆแมตช์ในฟุตบอลยูโร สูงถึง 35 องศาเป็นประจำ) และบอลโลกที่จัดในยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ก็จัดในช่วงหน้าร้อนซึ่งอุณหภูมิสูงถึง 30-35 องศามาแล้ว ตอนบอลโลกจัดที่เยอรมัน ฝรั่งเศส ไม่สังเกตุอุณหภูมิก่อนแข่งกันเหรอครับว่ากี่องศา บอกเลยว่าหลายๆนัดเตะกันในอุณหภูมิสูงถึง 35 องศากันมาแล้ว แต่ทีมจากยุโรปก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดี และคว้าแชมป์โลกมาแล้วไม่ใช่น้อย (โดยเฉพาะเวลาเตะในทวีปตัวเองก็ได้แชมป์เป็นประจำทั้งๆที่ช่วงเตะก็ร้อนไม่ต่างจากอเมริกาใต้ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา)
ดังนั้นเรื่องอากาศร้อนจึงเป็นแค่ข้ออ้างครับ แล้วอุณหภูมิที่บราซิลช่วงนี้เย็นสบายกว่ายุโรปอีกด้วยซ้ำ เพราะเริ่มจะเข้าฤดูหนาวกันแล้ว (อเมริกาใต้ฤดูกาลจะสลับกับยุโรป) ตอนบนของประเทศอาจจะร้อนหน่อย เพราะอากาศจะคล้ายกับไทยเราที่เป็นเขตป่าฝนร้อนชื้น แต่ทางตอนใต้ของประเทศอากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย เพราะเป็นเขตอบอุ่นเหมือนฮ่องกง อุณหภูมิบางนัด อาจจะอยู่ที่ 10 องศาต้นๆด้วยซ้ำ อย่างตอนนี้ เซาเปาโล อุณหภูมิ 15 องศา เย็นสบายมาก
ขอแถมเรื่องสภาพภูมิอากาศบราซิลหน่อย บราซิลมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้นเกือบทั้งประเทศ ยกเว้นทางตอนใต้อากาศเย็น มีฤดูหนาวระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม ซึ่งตรงกับช่วงบอลโลกพอดี อากาศตอนบนประเทศจะเย็นเหมือนไทยช่วงธันวาถึงกุมภาที่ผ่านมา ส่วนตอนล่างจะหนาวเย็นกว่า และหนาวยาวนานกว่า (10 องศาต้นๆ บางทีก็เลขตัวเดียว) พื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำอเมซอน และชายฝั่งมหาสมุทรมีความชื้นสูง มีฤดูฝนระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม
เขียนมานานแล้ว ก็อยากให้เข้าใจเสียใหม่เรื่องอากาศ เพราะต่อให้เตะที่ยุโรป ถ้าเตะเดือนมิถุนาถึงกรกฎาซึ่งบอลโลก บอลยูโรก็เตะกันช่วงเดือนนี้ตลอด อุณหภูมิร้อนกว่าเตะที่บราซิลตอนนี้เสียด้วยซ้ำ
ขอยกตัวอย่างอุณหภูมิของยุโรปบางเมืองมาเทียบกับบราซิลบางเมืองวันนี้
Europe (เอาเฉพาะเมืองของทีมที่ฟอร์มบู้)
Rome Italy 20-30 C
Lisbon Portugal 17-25 C (วันนี้มีฝนตกเลยไม่ร้อนมาก)
Madrid Spain 16-27 C
London 16-28 C
Brazil (เอาเมืองที่จัดการแข่งขันบอลโลก)
São Paulo 13-24 C
Porto Alegre 15-19 C
Rio de Janeiro 19-29 C
Curitiba 11-21 C
ที่ยกตัวอย่างมาจะเห็นได้ว่าอากาศบราซิลกับยุโรปตอนนี้แทบไม่ต่างกันเลย หลายๆเมืองในบราซิลยังมีอากาศเย็นกว่าหลายๆเมืองในยุโรปเสียด้วยซ้ำ ก็หวังว่าจะเข้าใจเรื่องนี้ใหม่น่ะครับ ใครที่ทราบอยู่แล้วก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
P.S. 1. เรื่องพักเบรคอากาศร้อน ผมคิดว่าหลังจากนี้จะมีตลอด ต่อให้เตะที่รัสเซียอีก 4 ปีข้างหน้าก็เถอะ เพราะช่วงนั้นรัสเซียก็เข้าสู่หน้าร้อน ร้อนไม่ต่างจากบราซิลตอนนี้แน่ ดีไม่ดี ร้อนกว่าด้วย
2. ที่สงสัยว่าเมื่อคืนมีพักเบรคร้อน เพราะเตะกันที่เมือง Manaus เป็นเมืองกลางป่าอเมซอน เป็นเมืองที่อยู่ตอนบนสุดของเมืองที่จัดบอลโลกในครั้งนี้ ซึ่งมีสภาพอากาศที่ร้อนชื้นคล้ายกับประเทศไทยเรา และเป็นเมืองที่ร้อนที่สุดในบอลโลกครั้งนี้ ผิดกับเมืองทางตอนล่างของประเทศที่มีอากาศอบอุ่น ดูในแผนที่ข้างล่างได้ครับ
3. ถ้าจะอ้าง อ้างความชื้นดีกว่า อย่าอ้างความร้อน อายเค้า