การหักค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตที่ผูกกับบัญชีเพื่อเป็นATM

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้มีเรื่องการหักค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตที่ผูกกับบัญชีเพื่อเป็นATM มาเล่าให้เพื่อนได้รับรู้หรือใครที่มีประสบการณ์ก็มาแชร์กันครับ
เริ่มจากที่ผมมีบัตรเครดิตของธ.กสิกรไทย และสามารถผูกกับบัญชีออมทรัพย์เพื่อเป็นATM ได้ เดิมยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปีแต่อย่างใด
พอมาไม่กี่เดือนมี จม.มาแจ้งว่าจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมปีละ200บ.เริ่ม มิย.57นี้ ผมก็เห็นว่าไม่เป็นไรไม่ว่ากัน
พอมาวันที่19มิย นี้ผมได้เข้าไปตรวจสอบบัญชีที่ผูกไว้ พบว่ามีการหักค่าธรรมเนียมวันที่ 16 มิย จำนวน200บ. 2ครั้งรวมเป็น400บ.
ผมเลยโทรไปถามที่สาขาบางซ่อนเจ้าของบัญชี เจ้าหน้าที่ก็ช่วยหาข้อมูลให้ได้ความว่าเป็นการหักจากบัตรเครดิตปัจจุบัน200บ. และหักจากบัตรเครดิตเดิมที่ได้ยกเลิกไปแล้วอีก200บ. (ซึ่งบัตรเดิมชำรุด จึงได้มีการออกบัตรให้ใหม่ และมีการยกเลิกบัตรเดิมไปเรียบร้อย) เจ้าหน้าที่บอกว่าควรเรียกเก็บเพียง200บ.เท่านั้นถึงจะถูกต้อง แต่ไม่สามารถทำให้ได้ต้องให้ติดต่อที่ศูนย์บัตรเครดิตเอง
ผมจึงติดต่อที่call center บัตรเครดิตให้ตรวจสอบอีกครั้ง ก็ได้คำตอบเช่นเดียวกันว่าควรหักเพียง200บ.สำหรับบัตรปัจจุบันเท่านั้น บัตรเดิมได้ยกเลิกไปแล้ว คุณอลิสาจึงรับเรื่องไว้เพื่อยกเลิกการเรียกเก็บบัตรเดิมและคืนเงินให้200บ.ภายใน5วัน
หลังจากวันนั้น ผมได้นำบัตรเครดิตไปกดเงินที่ตู้ATM แล้วได้ดูสลิปที่ออกมา สลิปแปลกไปจากเดิม จึงลองตรวจสอบยอดบัญชีพบว่าจำนวนที่ได้กดมานั้นไม่ได้ถูกหักจากบัญชีที่ผูกไว้
ดังนั้นผมจึงโทรถามที่call center คุณปัทมารับสาย ได้รับคำตอบว่าเป็นการถอนจากบัญชีบัตรเครดิตเนื่องจากบัตรเครดิตได้ถูกยกเลิกการผู้กับบัญชีไปแล้ว เพราะการที่คุณอลิสาทำเรื่องยกเลิกไปนั้น เป็นการยกเลิกทั้งบัตรเดิมและบัตรใหม่ ซึ่งบัตรใหม่จะต้องถูกยกเลิกการผูกบัญชีไปด้วย ถ้าจะผูกใหม่ผมต้องไปที่สาขาเพื่อขอผูกบัญชีใหม่เอง และเงินที่ถูกถอนออกมานั้นจะต้องโดนค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยไปด้วย จึงแนะนำให้คืนเงินจำนวนดังกล่าวภายในวันเพื่อจะได้ไม่มีค่าธรรมเนียม
ก็เลยฝากเตือนเพื่อนๆไว้ครับว่า หากท่านใดที่มีการออกบัตรทดแทนไป แม้จะถูกยกเลิกไปแล้วจะต้องถูกหักค่าธรรมเนียมไปด้วย ไม่สามารถยกเลิกเฉพาะบัตรที่ไม่ active ได้ โดย common sense แล้วควรเก็บเฉพาะบัตรปัจจุบันเท่านั้น บัตรที่ได้ถูกยกเลิกไปแล้วก็ไม่ควรจะมาเรียกเก็บอีก และมักจะอ้างว่าเป็นที่ระบบ ซึ่งระบบเหล่านี้คนเรานี่แหละเป็นคนทำขึ้นมาไม่ควรไปโทษระบบ ผมว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ของธนาคารเองทุกคนก็ต้องคิดแบบลูกค้า แต่ที่ทำไม่ได้เพราะระบบ
ก็ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไว้ผมกลับมาจากต่างประเทศก่อนค่อยคิดกระทำเรื่องต่างๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะยกเลิกบัตรเครดิตไปเลย เกรงว่าพอไปทำผูกอีกจะแน่ใจได้อย่างไรว่าบัตรเก่าจะไม่ถูกผูกเข้าไปอีกเหมือนเดิม ก็ไว้เป็นอุทาหรณ์เพื่อนๆนะครับ แม้ใครจะว่าเป็นเงินเล็กน้อย แต่อยู่ที่ว่าถูกต้องหรือไม่น่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่