คือตัวเราเองเป็นนักศึกษาค่ะ ไม่ค่อยได้ใช้บริการแท๊กซี่บ่อยเท่าไหร่ แต่ก็มีโอกาสได้ใช้บ้าง ปกติก็จะเจอแต่แท๊กซี่ดีค่ะ ไม่ค่อยเจอแบบแย่เท่าไหร่ ถึงจะไม่ไปแต่พูดดีๆ ก็มีเยอะค่ะ วันนี้ก็มีประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เจอมากับตัว ก็เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟังแล้วก็ขอวิธีแก้นิดนึงค่ะ
เหตุการณ์แรกคือวันนั้นไปเรียนค่ะแล้วพอดีเรามีของเยอะมากเป็นโมเดลงาน ไหนจะกระเป๋าพะรุงพะรังคือตอนนั้นเลิกเรียนแล้วจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด มีเพื่อนอีกสองคนที่จะไปทางเดียวกัน เราเห็นว่านั่งแท๊กซี่น่าจะสะดวกกว่ารถเมล์เพราะสัมภาระเยอะมากๆ ก็เลยตัดสินใจเรียกแท๊กซี่แล้วแชร์กันค่ะ ตอนแรกที่เข้าไปนั่งคือเรากับเพื่อนคนนึงนั่งเบาะหลัง ส่วนอีกคนนั่งเบาะหน้า คือเราสามคนถือกล่องใส่งานคนละใบ กระเป๋าของตัวเองอีก แล้วตอนนั้นประมาณบ่ายสามคืออากาศร้อนมาก พอขึ้นรถมาเราก็บ่นตามประสาค่ะ ประมาณว่าร้อนมาก ของก็เยอะ บ้านก็ไกล ก็คือคุยกับเพื่อนอะค่ะ (ปกติจะไม่ค่อยคุยกับแท๊กซี่ค่ะเพราะว่าเคยคุยแล้วบางทีเค้าพูดไม่ดีก็เลยเลือกที่จะไม่คุยดีกว่า) ลุงแท๊กซี่ไม่แก่มากค่ะวัยกลางคนก็ถามเราว่า
ลุง : หอบอะไรมาหรอหนู
เรา : อ๋องานค่ะลุง
ลุง : โหยลำบากแย่เลย
เพื่อน : สุดสุดอ่ะลุง มีเรียนเช้าต้องแบกขึ้นรถมา แล้วนี่ต้องแบกกลับบ้านอีก
ลุง : เหอะแค่นี้บ่นแล้วหรอ? (น้ำเสียงจริงจัง)
แล้วหลังจากประโยคนั้นคุณลุงก็ร่ายยาวเลยค่ะ ว่าเค้าทำมาหากินเหนื่อยกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่าเค้ายังไม่บ่นเลย พวกเราสบายจะตายพ่อแม่ทำงานหาเงินให้เรียน กะอีแค่ของแค่นี้ทำมาบ่นเหนื่อย นี่ยังไม่ได้เสี้ยงของชีวิต แล้วเรื่องฟงแฟน (สามคนในรถผู้หญิงหมดค่ะ) เรื่องผู้ชายนู่นนี่ บลาบลา ตบท้ายประโยตประมาณว่า ที่พูดนี่สอนนะ ไม่ได้ว่าอะไร อย่ามาเงียบอย่าโกรธ (อ้าวเงียบก็ผิด - -) คือลุงบ่นเยอะมากเรากับเพื่อนสามคนก็นั่งก้มหน้าสลดเลยค่ะ พอใกล้จะถึงลุงซึ่งเงียบไปพักนึง เราก็มองไปนอกหน้าต่างเห็นฝนตั้งเค้ากำลังจะตกก็เลยบอกเพื่อน
เรา : เหมือนฝนจะตกเลยเนอะ
ลุง : เออให้มันตกเลยตกหนักๆ สมน้ำหน้าพวกม๊อบให้มันเปียก บลาบลา (ช่วงนั้นมีม๊อบ)
คือเราแบบเห้ยลุงอะไรเนี่ย = = พอลงจากรถได้รีบจ่ายตังค์รีบเรียกเพื่อนมาถามเลยค่ะ แบบนี่เราพูดอะไรผิดกันรึเปล่า เพื่อนก็แบบทำหน้าแบบงงเออ อะไรของลุงวะ เป็นการใช้บริการแท๊กซี่ที่ขุ่นมัวและอึมครึมมากค่ะ เราก็กลับมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อก็ถามว่าเราได้ไปพูดดูถูกอะไรเค้ารึเปล่า เราก็บอกว่าเปล่าเลยก็ลุงเค้าถามเราก็ตอบ พ่อเราบอกว่าสงสัยลุงคงเหนื่อยพอเห็นเราบ่นๆ ก็เลยหงุดหงิดมั้ง
มาเหตุการณ์ที่สองค่ะ คราวนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมลุงแท๊กซี่ขี้บ่นรวมเราก็สี่คนค่ะ ครั้งนี้คือเราจะไปมหาลัยกับเพื่อน มากันเก้าคน ก็มาเรียกแท๊กซี่ตรงสยาม เราแบ่งกันไปสองคัน ก็ยืนโบกสามสี่คันก็ไม่รับเพราะเห็นคนเยอะ เราก็เลยแยกกลุ่มกันโบก สุดท้ายก็มีคนรับกลุ่มเราก่อนสี่คน พอขึ้นมาแล้วเพื่อนอีกห้าคนที่โบกอยู่ก็โบกมือบ๊ายบายพวกเราตอนรถแท๊กซี่ค่อยๆ ผ่านไป เรากับเพื่อนก็ขำๆ กันแล้วก็คุยกัน
เรา : ดูดิพวกนั้นโบกรถดิ แท๊กซี่เค้าคงไม่กล้าจอดรับ

เหมือนคนบ้า
เพื่อนคนอื่นก็ขำปกติ อยู่ดีดีลุงคนขับ(คนนี้ดูสูงอายุค่ะ)ก็พูดขึ้นมา
ลุง : ก็เพราะทำท่าบ้าบออย่างนั้นไงถึงไม่มีใครรับเพื่อนเธอ พวกเธอเห็นแท๊กซี่เป็นเพื่อนเล่นรึไง ทำเป็นเล่นอยู่ได้ แท๊กซี่บางคนเค้าแก่กว่าพ่อพวกเธออีก รู้ไว้ซะ โดนโบกแล้วไม่ขึ้นน่ะมันไม่ตลก
เอ่อ - - คือไม่ใช่ค่ะ คือเพื่อนเราโบกแต่แท๊กซี่ไม่ไปเอง แล้วที่โบกเมื่อกี๊คือเพื่อนโบกมือบ๊ายบายเรา ไม่ได้โบกรถ = = เราก็แบบเงียบทุกคนค่ะ ก้มลงกดไลน์กรุ้ป เพื่อนเรากลุ่มนั้นได้ขึ้นรถแล้ว แล้วเหมือนลุงแท๊กซี่คันของเราอารมณ์เสียมาก ลุงขับปาดซ้ายปาดขวาแล้วสบถคำหยาบใส่รถหลายคันแบบอารมณ์เสียมาก คือเรากับเพื่อนนี้ตัวแข็งเลยค่ะ นั่งเงียบจนลงจากรถแบบว่าโอ๊ยอะไรโดนอีกแล้ว - - ลงจากรถมาคือทุกคนอารมณ์เสียมาก
จากเหตุการณ์ที่เล่านะคะ คือเราไม่ได้มีอคติกับแท๊กซี่เพราะแท๊กซี่ใจดีมีเยอะมาก และลุงเราก็เป็นคนแท๊กซี่ เราเข้าใจคุณคนขับแท๊กซี่นะว่า รถติดอากาศร้อน มันทำให้อารมณ์เสีย แต่อยากให้ใจเย็นๆ นิดนึงนะคะ บางทีพวกเราที่ขึ้นมาใหม่ก็ไม่รู้เรื่องว่าคุณโมโหอะไรมา หรือเราพูดจาไม่ถูกหู ก็อยากให้ใจเย็นหน่อยนะคะ บางทีผู้โดยสารบางคนเค้าก็อาจเจอสถานการณ์ตึงเครียดมาก่อนเหมือนกัน ถ้าคุณไปพูดไม่ดีกับเค้ามันก็ยิ่งแย่ ใจเขาใจเราหน่อยนะคะ = =
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ แล้วใครเคยเจอแบบไหนลองแชร์ประสบการณ์ดูนะคะ เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนอื่นเคยเจอกันมั้ย พอเราเจอหลายๆ ครั้งเข้าก็แอบเอือมนิดนึงค่ะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ขึ้นแท๊กซี่เลยกลัวโดนบ่นใส่อีก -w- พอดีเป็นคนจิตตกง่ายอะค่ะ แล้วควรรับมือยังไงดี คือที่เจอมีมากกว่านี้แต่เล่าแค่สองเหตุการณ์ที่ไปต่อไม่ถูกจริงๆ ค่ะ
จะรับมือยังไงถ้าได้เจอกับ 'แท๊กซี่ขี้บ่น' ?
เหตุการณ์แรกคือวันนั้นไปเรียนค่ะแล้วพอดีเรามีของเยอะมากเป็นโมเดลงาน ไหนจะกระเป๋าพะรุงพะรังคือตอนนั้นเลิกเรียนแล้วจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด มีเพื่อนอีกสองคนที่จะไปทางเดียวกัน เราเห็นว่านั่งแท๊กซี่น่าจะสะดวกกว่ารถเมล์เพราะสัมภาระเยอะมากๆ ก็เลยตัดสินใจเรียกแท๊กซี่แล้วแชร์กันค่ะ ตอนแรกที่เข้าไปนั่งคือเรากับเพื่อนคนนึงนั่งเบาะหลัง ส่วนอีกคนนั่งเบาะหน้า คือเราสามคนถือกล่องใส่งานคนละใบ กระเป๋าของตัวเองอีก แล้วตอนนั้นประมาณบ่ายสามคืออากาศร้อนมาก พอขึ้นรถมาเราก็บ่นตามประสาค่ะ ประมาณว่าร้อนมาก ของก็เยอะ บ้านก็ไกล ก็คือคุยกับเพื่อนอะค่ะ (ปกติจะไม่ค่อยคุยกับแท๊กซี่ค่ะเพราะว่าเคยคุยแล้วบางทีเค้าพูดไม่ดีก็เลยเลือกที่จะไม่คุยดีกว่า) ลุงแท๊กซี่ไม่แก่มากค่ะวัยกลางคนก็ถามเราว่า
ลุง : หอบอะไรมาหรอหนู
เรา : อ๋องานค่ะลุง
ลุง : โหยลำบากแย่เลย
เพื่อน : สุดสุดอ่ะลุง มีเรียนเช้าต้องแบกขึ้นรถมา แล้วนี่ต้องแบกกลับบ้านอีก
ลุง : เหอะแค่นี้บ่นแล้วหรอ? (น้ำเสียงจริงจัง)
แล้วหลังจากประโยคนั้นคุณลุงก็ร่ายยาวเลยค่ะ ว่าเค้าทำมาหากินเหนื่อยกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่าเค้ายังไม่บ่นเลย พวกเราสบายจะตายพ่อแม่ทำงานหาเงินให้เรียน กะอีแค่ของแค่นี้ทำมาบ่นเหนื่อย นี่ยังไม่ได้เสี้ยงของชีวิต แล้วเรื่องฟงแฟน (สามคนในรถผู้หญิงหมดค่ะ) เรื่องผู้ชายนู่นนี่ บลาบลา ตบท้ายประโยตประมาณว่า ที่พูดนี่สอนนะ ไม่ได้ว่าอะไร อย่ามาเงียบอย่าโกรธ (อ้าวเงียบก็ผิด - -) คือลุงบ่นเยอะมากเรากับเพื่อนสามคนก็นั่งก้มหน้าสลดเลยค่ะ พอใกล้จะถึงลุงซึ่งเงียบไปพักนึง เราก็มองไปนอกหน้าต่างเห็นฝนตั้งเค้ากำลังจะตกก็เลยบอกเพื่อน
เรา : เหมือนฝนจะตกเลยเนอะ
ลุง : เออให้มันตกเลยตกหนักๆ สมน้ำหน้าพวกม๊อบให้มันเปียก บลาบลา (ช่วงนั้นมีม๊อบ)
คือเราแบบเห้ยลุงอะไรเนี่ย = = พอลงจากรถได้รีบจ่ายตังค์รีบเรียกเพื่อนมาถามเลยค่ะ แบบนี่เราพูดอะไรผิดกันรึเปล่า เพื่อนก็แบบทำหน้าแบบงงเออ อะไรของลุงวะ เป็นการใช้บริการแท๊กซี่ที่ขุ่นมัวและอึมครึมมากค่ะ เราก็กลับมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อก็ถามว่าเราได้ไปพูดดูถูกอะไรเค้ารึเปล่า เราก็บอกว่าเปล่าเลยก็ลุงเค้าถามเราก็ตอบ พ่อเราบอกว่าสงสัยลุงคงเหนื่อยพอเห็นเราบ่นๆ ก็เลยหงุดหงิดมั้ง
มาเหตุการณ์ที่สองค่ะ คราวนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมลุงแท๊กซี่ขี้บ่นรวมเราก็สี่คนค่ะ ครั้งนี้คือเราจะไปมหาลัยกับเพื่อน มากันเก้าคน ก็มาเรียกแท๊กซี่ตรงสยาม เราแบ่งกันไปสองคัน ก็ยืนโบกสามสี่คันก็ไม่รับเพราะเห็นคนเยอะ เราก็เลยแยกกลุ่มกันโบก สุดท้ายก็มีคนรับกลุ่มเราก่อนสี่คน พอขึ้นมาแล้วเพื่อนอีกห้าคนที่โบกอยู่ก็โบกมือบ๊ายบายพวกเราตอนรถแท๊กซี่ค่อยๆ ผ่านไป เรากับเพื่อนก็ขำๆ กันแล้วก็คุยกัน
เรา : ดูดิพวกนั้นโบกรถดิ แท๊กซี่เค้าคงไม่กล้าจอดรับ
เพื่อนคนอื่นก็ขำปกติ อยู่ดีดีลุงคนขับ(คนนี้ดูสูงอายุค่ะ)ก็พูดขึ้นมา
ลุง : ก็เพราะทำท่าบ้าบออย่างนั้นไงถึงไม่มีใครรับเพื่อนเธอ พวกเธอเห็นแท๊กซี่เป็นเพื่อนเล่นรึไง ทำเป็นเล่นอยู่ได้ แท๊กซี่บางคนเค้าแก่กว่าพ่อพวกเธออีก รู้ไว้ซะ โดนโบกแล้วไม่ขึ้นน่ะมันไม่ตลก
เอ่อ - - คือไม่ใช่ค่ะ คือเพื่อนเราโบกแต่แท๊กซี่ไม่ไปเอง แล้วที่โบกเมื่อกี๊คือเพื่อนโบกมือบ๊ายบายเรา ไม่ได้โบกรถ = = เราก็แบบเงียบทุกคนค่ะ ก้มลงกดไลน์กรุ้ป เพื่อนเรากลุ่มนั้นได้ขึ้นรถแล้ว แล้วเหมือนลุงแท๊กซี่คันของเราอารมณ์เสียมาก ลุงขับปาดซ้ายปาดขวาแล้วสบถคำหยาบใส่รถหลายคันแบบอารมณ์เสียมาก คือเรากับเพื่อนนี้ตัวแข็งเลยค่ะ นั่งเงียบจนลงจากรถแบบว่าโอ๊ยอะไรโดนอีกแล้ว - - ลงจากรถมาคือทุกคนอารมณ์เสียมาก
จากเหตุการณ์ที่เล่านะคะ คือเราไม่ได้มีอคติกับแท๊กซี่เพราะแท๊กซี่ใจดีมีเยอะมาก และลุงเราก็เป็นคนแท๊กซี่ เราเข้าใจคุณคนขับแท๊กซี่นะว่า รถติดอากาศร้อน มันทำให้อารมณ์เสีย แต่อยากให้ใจเย็นๆ นิดนึงนะคะ บางทีพวกเราที่ขึ้นมาใหม่ก็ไม่รู้เรื่องว่าคุณโมโหอะไรมา หรือเราพูดจาไม่ถูกหู ก็อยากให้ใจเย็นหน่อยนะคะ บางทีผู้โดยสารบางคนเค้าก็อาจเจอสถานการณ์ตึงเครียดมาก่อนเหมือนกัน ถ้าคุณไปพูดไม่ดีกับเค้ามันก็ยิ่งแย่ ใจเขาใจเราหน่อยนะคะ = =
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ แล้วใครเคยเจอแบบไหนลองแชร์ประสบการณ์ดูนะคะ เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนอื่นเคยเจอกันมั้ย พอเราเจอหลายๆ ครั้งเข้าก็แอบเอือมนิดนึงค่ะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ขึ้นแท๊กซี่เลยกลัวโดนบ่นใส่อีก -w- พอดีเป็นคนจิตตกง่ายอะค่ะ แล้วควรรับมือยังไงดี คือที่เจอมีมากกว่านี้แต่เล่าแค่สองเหตุการณ์ที่ไปต่อไม่ถูกจริงๆ ค่ะ