ทำอย่างไรกับพวกขายตรง

กระทู้คำถาม
สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้ที่มาโพสต์เนี่ย อยากรู้เพื่อนๆเป็นเหมือนเรามั้ย อึดอัด เราควรทำอย่างไรต่อไปดี????
           เรื่องมีอยู่ว่า เรามีเพื่อนที่สนิทกันมากตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย พอจบ ต่างคน ต่างมีงานทำ และแยกย้ายกันไป แต่ยังแชทคุยกันเรื่อยๆ แต่มาช่วงหลังไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารกันเท่าไหร่ แต่วันนึงเพื่อนโทรมาหา บอกว่าอยากเจอ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว แต่ช่วงนั้นเรามีปัญหาชีวิตนิดหน่อย ไม่สะดวกไปหา เลยบอกว่า เดี๋ยวเราว่าง เราโทรหา นัดวันกันใหม่นะ เพื่อนก็โอเค แต่ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อนโทรมาหาเราอีก บอกเราว่าเห็นเราโพสต์ว่าอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วถามว่าเป็นอะไร เราบอกว่า พอดีผิวมันลอก เลยมาหาหมอ เพื่อนก็บอกว่า ดีแล้วไม่เป็นไร แล้วที่นั้นมีร้านให้นั่งคุยบ้างมั้ย เดี๋ยวเค้าจะมาหา พอดีเค้ากับเพื่อนอีกคนกำลังทำธุรกิจตัวนึงอยู่ แล้วได้ผลดี จึงอยากบอกต่อเพื่อน เราก็แบบว่ายังไม่ได้หาหมอเลย กลัวเพื่อนเสียเวลามารอ เลยถามไปว่า ทำอะไรเหรอ เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวจะมาอธิบายให้ฟัง คุยแบบนี้ เข้าใจยาก เสร็จทันบ่ายโมงมั้ย พอดี บ่ายโมงจะมีงาน ไปฟังที่งานเลยก็ได้ เราก็แบบเกรงใจ เลยบอกว่า ไม่รู้เสร็จกี่โมง ไม่อยากให้รอ ไว้คุยกันต่อก็ได้ (แต่ในใจ คิดอยู่ ธุรกิจอะไรวะ)
          หลังจากนั้นก็โทรมายิกๆเลยนะ แต่พอดีช่วงนั้นเรามีงานเสริม เราเลยไม่ว่าง ก็แบบเหวี่ยงนิดๆว่า "ก็นี่งัย เรากำลังจะแนะนำเรื่องดีให้เพื่อน เพื่อนไม่ต้องมาเหนื่อยกับงาน จนไม่มีเวลาเจอใครเลย" เราแอบอึ้งไปนิด แล้วก็คิดตามว่า เลิกงาน 5 โมง นั่งทำโอทีต่อ อีก 2 ชม. แต่ก้ไม่ได้เหนื่อยมาก แต่ได้ตังค์ กลับถึงบ้านก็เอางานพิเศษมาทำ ทำไป ดูทีวีไป วันเสาร์ อาทิตย์ ก็เหมือนกัน ทำไป ดูทีวี ง่วงก็นอนพัก เราทำแบบนี้ เราก็โอเคนะ ไม่ได้เหนื่อยมากมาย แต่ก็ได้ตังค์ด้วย แต่บังเอิญช่วงที่เพื่อนโทรมา ช่วงนั้นงานมันเร่ง เราเลยอยากเคลียร์งานก่อน แต่พอเจอแบบนี้ เราเลยไปไม่เป็นเลยทีเดียว เลยบอกไปว่า เคลียร์งานแล้วจะโทรหาแล้วกัน
          จากนั้น ก็โทรมาบอกว่า ตอนนี้มีหนังสืออยากให้เราอ่าน เพื่อจะได้เข้าใจวิธีการใช้ชีวิตเบื้องต้นว่า เราอยากได้ชีวิตแบบไหน ควรวางแผนชีวิตแบบใด เพราะเห็นเราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เค้าบอกเราว่าเล่มละ 100 กว่าเอง ที่จริงเค้าซื้อให้เพื่อนได้นะ แต่กลัวเพื่อนไม่สนใจ เพราะว่าได้มาฟรีๆ เค้าเลยอยากให้เราเป็นคนซื้อเอง เราก็แบบ อืม ก็ได้ (อารมณ์ประมาณ เบื่อแล้ว 100 กว่าบาท ช่างมัน จะได้จบๆ) เลยบอกไปว่า งั้นส่งมาแล้วกัน เดี๋ยวโอนเงินให้  แต่ยังไม่วาย โทรมาอีก เราก็เลยเริ่มรู้สึกว่า เฮ้ย!!โทรมาแต่ละครั้งเนี่ย พูดแต่เรื่องธุรกิจๆๆๆๆๆๆ จนเราแน่ใจแล้วว่า อืม!!!เพื่อนเราเป็นประเภทขายตรงแน่ๆ ที่จริงก็ แปลกๆตั้งแต่บอกว่าให้เข้าฟังอบรบ จะรู้รายละเอียดมากขึ้น เข้ามั้ย ถ้าเข้าเพื่อนจะได้จองที่ให้ เพราะว่า อบรมแต่ละครั้ง คนเยอะมากๆ กลัวไม่มีที่ว่าง เราเป็นคนไม่ชอบคนเยอะ เลยแอบปฏิเสธไปบ่อยๆ
          จากนั้น ก็พยายามโทรมาเรื่อยๆ แต่เวลาไม่ตรงกัน เพื่อนว่าง เราไม่ว่าง เราว่าง เพื่อนไม่ว่าง เป็นแบบนี้เกือบปีเลยนะ เราเลยตั้งใจว่า เอาวะ ลองเลื่อนนัดสักครั้ง เพื่อไปเจอเพื่อน สุดท้าย เพื่อนโทรมาก่อนว่า เย็นนี้ว่างมั้ย เลิกงานกี่โมง เดี๋ยวเพื่อนมาหาเอง ตอนนี้เพื่อนออกจากงานแล้ว อิสระ สามารถไปไหนมาไหนได้ตลอด เราก็เลยบอกว่า ได้ๆ งั้นมาหาเราที่นี่นะ ถึงเวลาเพื่อนก็มาแถมเอาเพื่อนอีกคนมาด้วย เราก็ดีใจนะ ไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้ตั้งแต่จบเลย แต่ทุกคนรู้มั้ย พอเราหาโต๊ะกินข้าวได้ เท่านั้นแหละ เพื่อนหยิบกระดาษมาหนึ่งแผ่น แล้วก็ถามเราว่ารู้จักธุรกิจเครือข่ายมั้ย บลาๆๆๆๆๆๆ แล้วสุดท้ายก็วกกลับมาถามเราว่า เราคิดยังงัยกับธุรกิจนี้ ขอบขายของมั้ย เราเลยบอกไปว่าขายได้ แต่ถ้าเค้าไม่ซื้อเราก็ไม่คะยั้นคะยอ เพื่อนเลยบอกว่าธุรกิจนี้ไม่เน้นขาย เน้นแบบใช้เอง ประมาณ ใช้ดี บอกต่อ นู่น นี่ นั่น ไปเรื่อย ตอนนั้นเรารู้สึกว่า เราไม่น่าจะทำได้ เพราะเราเป็นคนขี้เกรงใจ ถ้าเค้าไม่ เราก็ไม่ต่อ ประมาณนั้น เราเลยบอกไปว่า เราไม่สนใจนะ พูดกันแบบเพื่อนเลย เราไม่ชอบ แต่เชื่อมั้ยเพื่อนทั้งสองคนก็คะยั้นคะยอ พอเราบอกว่าไม่ สุดท้ายเลยบอกว่างั้นลองซื้อไปใช้ดูเองก็ดีมั้ย เราว่าของเค้าดี เรากลัวเพื่อนสุขภาพแย่ บลาๆๆๆๆ จนสุดท้ายเรารำคาญ บวกกับว่า ไหนบอกว่าดี ก็เลย ลองซื้อ บางตัว แต่ๆๆๆๆๆ เพื่อนกลับบอกว่า สมัครสมาชิกมั้ยจะได้ซื้อในราคาสมาชิก บลาๆๆๆๆ เราก็แบบว่า เออๆๆๆก็ได้ (เพราะเป็นเพื่อนกันนะ เลยยอม แต่ในใจก็แบบว่า ครั้งนี้ครั้งเดียว จอด) พอเสร็จทุกอย่าง เพื่อนก็รีบกลับทันที บอกว่า มีนัดกับอีกคน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เอาของมาให้
          แล้ววันถัดไปก็เอาของมาให้เรา แต่ไม่ได้คุยนาน เพราะเรามีนัดต่อ เพื่อนหายไปสักประมาณ 1 สัปดาห์ก็โทรมาถามว่าเป็นงัยบ้าง เราเลยบอกว่า เราไม่ได้กินแล้ว เพราะถ่ายท้อง เพื่อนบอกว่านั่นแหละที่บอกว่าดี เป็นการล้างลำไส้ เราก็ยอมรับนะว่าของเค้าดี แต่เราใช้เราก็ไม่ปลื้มเท่าไหร่ เราเลยหยุด เชื่อมั้ย เพื่อนตอบมาว่า เรากลัวเธอเป็นไขมันอุดตันอะ ถ้าเธอไม่กินพวกนี้ เธอเสี่ยงนะ ไม่เป็นไร เธอไม่กินก็ให้คนอื่นลองแล้วกัน จากนั้นก็วางสายไป เราก็อึ้งดิ เฮ้ย!! ซื้อให้ก็แล้วนะ แต่พอไม่กินก็มาแอบเหวี่ยงใส่ อะไรวะ
            จากนั้นก็มีไลน์มาถาม ขอเบอร์คนนั้น คนนี้ เราก็หวังดีให้ไป นึกว่าเพื่อนมีปัญหา ที่ไหนได้ คนอื่นก็โดนเหมือนกัน แถมบอกว่าเราก็ทำธุรกิจด้วย เพื่อนคนอื่นสงสัย เลยไลน์มาถามส่วนตัว เราเลยเล่าให้ฟังจนหมด สุดท้ายคนอื่นๆโดนหมด จนไม่มีใครกล้ารับสายเพื่อนคนนี้เลย แล้วเพื่อนคนอื่นก็บอกว่า เคยแอบได้ยินเพื่อนคนนี้พูดว่าทำไงดี หนังสือเหลืออีกตั้งเยอะ จะขายใครต่อดี เราเลยอึ้งอีกแล้ว ไหนเคยบอกว่าซื้อให้เพื่อนได้ แต่กลัวเพื่อนไม่สนใจ ที่ไหนได้ต้องขายนี่เอง เราเลยแบบว่า เอางัยดีวะ ถ้าเพื่อนโทรมาอีก คิดไปต่างๆนาๆ สุดท้ายเพื่อนก็ไลน์มาจริงๆถามว่า น้องเรากินเป็นงัยบ้าง (เราเคยบอกไปว่าส่งไปให้น้องลอง) เราเลยบอกว่าไม่รู้สิ ไม่เคยถาม เพื่อนๆรู้มั้ย เพื่อนเราไลน์กลับมาว่า งั้นเอาเบอร์น้องเรามา เดี๋ยวเพื่อนตามเรื่องต่อเอง พระเจ้า!!!!!อะไรกันนี่ นี่เค้ายังไม่รู้สึกเลยเหรอว่าที่เราปฏิเสธไปต่างๆนาๆ นี่เพราะเราไม่อยากคุยแล้ว ยังไม่วายจะโทรหาน้องเราอีก เราจะทำยังงัยดี ขนาดพูดไปแล้วว่าไม่สน ก็ตื๊อจนเราซื้อก็แล้ว นี่ยังตามจิกอีก เราเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เพื่อนเราอะ เป็นเหมือนใครก็ไม่รู้  เหมือนคนติดหนี้ แล้วมาทางหนี้ประมาณนั้นอะ เรารู้สึกว่าเหมือนเน้นธุรกิจเกินไปแล้ว ถ้าหวังดีกับเพื่อนจริงๆ คงบอกแล้วแหละว่าตัวเองลงทุนเท่าไหร่ ทำแบบไหน ทำอย่างไร แต่นี่มาเป็นสเต็บเดียวกันหมด เหมือนเราเป็นคนอื่น อันนี้ก็เข้าใจได้นะ ว่าไม่สามารถเผยอะไรมากมายได้ แต่ถ้าเพื่อนไม่โอ ควรจบป่ะ เราไม่รู้จะทำงัยดีแล้ว  
        ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านนะ อาจยาวไปหน่อย เพื่อนอาจรำคาญ แต่เราก็ไม่รู้หาทางออกยังงัยดี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่