"อินสตาแกรมช่วยเราเป็นครั้งที่สองแล้ว" ขอความเห็นค่ะว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้เราควรทำอย่างไรดี

ข้อมูลของผู้ตั้งกระทู้ : เป็นพนักงานประจำและมีอาชีพเสริม เสาร์ - อาทิตย์คือ ทำเครปเค้กส่งร้านกาแฟใกล้บ้านค่ะ

     เหตุการณ์ ที่ 1

     เริ่มต้นคือ เมื่อปี 2556 ได้ลองเอาเครปเค้กที่ฝึกทำส่งร้านกาแฟของพี่ที่รู้จักใช้เวลาประมาณเดือนกว่าๆก็เริ่มติดตลาด เนื่องจากเป็นคนชอบเล่นอินสตาแกรมอยู่แล้วก็จะมีอัพรูปต่างๆ รวมไปถึงรูปเครปเค้กเวลาลองทำรสใหม่ๆ เพื่อนๆก็จะทราบจากช่องทางนี้

    ส่งอยู่ 2 - 3 ร้านจำกัดแค่นี้เพราะต้องทำงานประจำด้วยค่ะ ช่วงกลางปี 2556 มีเพื่อนติดต่อขอให้ส่งเครปเค้กให้ที่ร้าน(เพื่อนให้คนเช่าร้านอีกที) ส่งได้ระยะหนึ่งปรากฎว่าขายดีมากค่ะ มีลูกค้าประจำแต่ก็มีส่งช้าบ้างเพราะบางช่วงงานยุ่ง แต่ที่ร้านนี้ก็มีเค้กแบบอื่นขายด้วยแต่เครปเค้กจะขายได้เร็วกว่า

   ที่บอกว่าชอบเล่นอินสตาแกรมข้อดีคือเราสามารถเห็นเวลาลูกค้าอัพรูปขนมของเราปลื้มมาก ผ่านไป 4-5 เดือน ยอดสั่งเครปเค้กเงียบผิดปกติ อย่างน้อยพอถึงเวลาที่เค้กหมดอายุเราก็ต้องสอบถาม แต่เราให้เวลาผ่านไปถึง 2 อาทิตย์ จนต้องติดต่อกลับไป ร้านก็บอกว่า "เครปเค้กขายหมดไม่มีเหลือ กำลังจะสั่งพอดีเลย"

    ทีนี้พอเข้าไปดูรูปที่ลูกค้าอัพว่าไปทานเครปเค้กที่ร้านปรากฎว่าไม่ใช่เครปเค้กที่เราทำ ยังไงเราก็จำได้......

    

        1.  ถ้าทางร้านทำเครปเค้กมาขายระหว่างที่รอเราไปส่งเค้ก อย่างน้อยก็น่าจะบอกเราว่าเค้กหมดแล้วนะ เดี๋ยวเราทำเสริมไปก่อนระหว่างรอ อันนี้ยังพอเข้าใจได้  แต่แบบเงียบไปเลยหลายอาทิตย์ แล้วค่าเค้กเราเค้าก็ยังไม่ได้จ่าย (ปกติจะส่งแล้วเก็บเงินทีหลังเผื่อมีเค้กเสีย ไม่ได้ขายขาดค่ะ แฟร์ๆ )
        2. ถ้าทางร้านสามารถทำเครปเค้กขายเองได้แต่ไม่รู้จะบอกว่าไม่รับเครปเค้กเราแล้ว (ซึ่งตอนแรกทางร้านบอกเราว่า เครปเค้กการทำยุ่งยากทางร้านจะสั่งกับเรานี่แหละ) บางอาทิตย์ที่ขายดีมากๆจนทางร้านเกรงใจที่จะเร่งให้เรารีบไปส่ง เรายังบอกเลยว่า "เราสอนให้ได้นะเราไม่หวงสูตร" เพราะเราก็เกรงใจบางทีเราไปส่งช้าข้ามวันเพราะงานยุ่ง
        3. สิ่งที่กลัวที่สุดคือ รสชาติของเครปเค้ก เราไม่ได้คิดว่าของเราอร่อยมากแต่สิ่งที่ลูกค้ารับรู้มาตลอดคือ รสชาติแบบนี้ที่ลูกค้าติดใจกลับมาทานอีก ซึ่งทางร้านอาจทำอร่อยกว่าเรามันก็เป็นไปได้  ทางร้านใช้ความเชื่อใจของลูกค้ามาทำแบบนี้ซึ่งไม่ได้บอกลูกค้าว่าเป็นของทางร้านทำเอง เราว่ามันไม่ค่อยแฟร์ค่ะ
        4. เราเลยตัดสินใจบอกทางร้านว่าถ้าที่ร้านมีเครปเค้กแล้วเราจะไม่ส่งซ้อนกันค่ะ เผื่อทางร้านก็อาจลำบากใจที่จะบอกเราว่าเราไม่ต้องส่งแล้ว
        5. หลังจากที่เราเลิกส่งเครปเค้กให้ทางร้านประมาณ 3- 4 เดือน ร้านก็ปิดตัวลงค่ะ เรามาทราบจากเพื่อนเราที่ให้เช่าร้านว่า ช่วงหลังๆไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าร้าน ลูกค้าประจำก็หายไปเยอะ เพราะเวลาที่ลูกค้าสั่งเมนูเครื่องดื่มหรือของกินเล่น ทางร้านจะบอกว่าของหมด ผลไม้ในเมนูปั่นก็มีน้อยลงเพราะไม่มีเวลาเตรียมของ เพื่อนเราบอกว่าสงสัยเอาเวลาไปทำเครปเค้กขาย แหงมๆ

       เดี๋ยวมาต่อจ้าา



เหตุการณ์ ที่ 2

         หลังจากร้านที่เพื่อนให้เช่าปิดไปประมาณเกือบๆ 2 เดือน (มีนา 2557) ก็กลับมาเปิดอีกครั้ง โดยครั้งนี้ครอบครัวของแฟนเพื่อนมาเป็นเจ้าของร้านเองมีเมนูอาหารเครื่องดื่มและของทานเล่นเยอะกว่าเดิมมาก พอถึงวันที่ร้านใกล้จะเปิด เพื่อนคนเดิมก็ขอให้ทำเครปเค้กมาส่งที่ร้านเพราะไม่อยากให้ตู้ที่ร้านโล่ง (ตู้เป็นตู้แช่ค่ะ ไม่ได้เป็นตู้เค้กโดยตรง) รอบนี้เราบอกเพื่อนว่าเราจะตัดเป็นชิ้นๆไม่แพคกล่องแบบเก่านะ ถ้าลูกค้าทานที่ร้านจะได้ไม่เปลืองกล่องพลาสติกแต่ถ้าลูกค้าซื้อกลับเรามีกล่องกระดาษให้ สะดวกทั้งสองฝ่าย

        ผ่านไปประมาณเกือบๆเดือนเริ่มมีลูกค้าถามหาเครปเค้กมากขึ้น และมีสั่งแบบก้อนใหญ่สำหรับวันเกิดด้วย ทุกอย่างไปได้สวยทีเดียวเพราะครั้งนี้เราเห็นว่าเป็นครอบครัวของแฟนเพื่อนเราก็รู้จักกับแฟนเพื่อนอยู่แล้ว เวลาเรามีไอเดียอะไรเกี่ยวกับการจัดวางเค้กเราก็จะเอามาแชร์ เราไปเจอขนมเค้กแบบอื่นที่น่าจะเอามาวางขายที่ร้านได้เราก็เสนอไอเดีย เคยคุยกันว่าอยากได้กล่องโชว์เค้กแบบสี่เหลี่ยมจะได้เห็นด้านข้างของเค้ก  พอเราไปเจอที่ร้านเบเกอรี่เราก็ถามว่าพี่สนป่าว เอางี้เราจะซื้อไปวางเค้กเองถ้าเวิร์คค่อยขายกล่องนี้ต่อให้เป็นของร้านไปเลย

        ระหว่างนั้นเราก็อัพอินสตาแกรมและเฟสบุคช่วยกันโปรโมทร้านด้วย พอขายดีขึ้นเรื่อยๆร้านเริ่มเข้าที่เพราะที่ร้านจะมีการคิดเมนูอาหารจานเดียวและเมนูทานเล่นแปลกๆอยู่ตลอด เค้กขายดีมีส่งเลทบ้างเพราะก็บอกไว้ก่อนแล้วว่าว่าเราไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลัก แต่ที่ร้านก็โอเคเพราะมีเมนูเยอะ และยังถามตลอดว่าทำชั้นบางๆแบบนี้ได้ไงอ่ะ พี่เคยลองทำกินเองรู้เลยว่ารายละเอียดมันเยอะ  ซึ่งเหมือนเดิมเราก็บอกเลยว่า "เกรงใจเหมือนกันบางทีปล่อยให้ตู้ว่าง สอนทำได้นะไม่หวง "  ที่ร้านก็ตอบว่าทำเครื่องดื่มกับอาหารขายก็จะไม่ทันอยู่แล้วล่ะ ให้เราทำมาส่งนี่แหละดีแล้วลูกค้าติดแล้ว......


         ค้าขายกันมาเรื่อยๆจนมาถึงเมื่อต้นเดือน (วันที่ 4 มิถุนา 2557 ) ที่ผ่านมาก็เป็นรอบส่งเค้กตามปกติ เรากำหนดวันหมดอายุไว้ที่ 5-7 วันค่ะ   ผ่านไปใกล้จะสองอาทิตย์แล้วทุกอย่างยังเงียบอยู่ซึ่งนานเกินไป  เริ่มตะหงิดๆ จนเมื่อวันพุธที่  18 มิถุนา ซึ่งครบสองอาทิตย์  ลองเข้าไปดูว่ามีใครอัพรูปเครปเค้กเราบ้าง........เฮ้ย!! โป๊ะอีกแล้ว  เป็นรูปเครปเค้กซึ่งเพิ่งอัพเมื่อวานนี้และเป็นแบบธรรมดา ของเราส่งล่าสุดเป็นเครปเค้กเรนโบว์และชานม  และที่แน่ๆเลยจำได้อีกนั่นแหละว่าหน้าตาแบบนี้ไม่ใช่ของเรา


        เหมือนเดิมเลยเราก็ไลน์ไปถามพี่ที่อยู่ร้านว่า เฮ้ยพี่เค้กหนูหมดอายุแล้วนะมีเหลือรึปล่าว  คำตอบก็คือ "หมดแล้วไม่มีเหลือ กำลังจะสั่งเลย" (ประโยคนี้คุ้นๆ) ครั้งนี้เรามีแซวด้วยนะว่า "เฮ้ยพี่เครปเค้กที่ร้านทำหน้าตาดีนะเนี่ย" พี่เค้าก็คงอึ้งๆไปนิดนึง แล้วเค้าก็สั่งเครปเค้กเราตาม       
ปกติค่ะ  แต่ตอนนี้เราคิดวนไปถึงเหตุการณ์เดิมเมื่อปีที่แล้ว ส่วนตัวเราว่าเราจะถอยค่ะไม่ส่งต่อแล้วดีกว่าอ้างอิงเหตุผลที่เราให้ไว้ในเหตุการณ์ ที่ 1  (เราไม่ได้ งก นะคะแต่ลองคิดดูว่าถ้าที่ร้านบอกว่ากล่องเค้กแบบซื้อกลับบ้านหมดให้เราเอามาเพิ่มให้ด้วย เราก็กลัวว่าจะไม่ได้ใส่ให้แค่เค้กของเราอ่ะ 5555 )  ที่สำคัญเลยกล่องโชว์เค้กที่เราไปหาซื้อเพื่อเอาไปใส่โชว์เค้กที่ร้านที่เล่าไปในตอนแรก  เราจะถามเค้าว่าเราจะขายต่อให้พี่สนใจไหม ??  

        ส่วนหนึ่งเราเกรงใจเพื่อนเราค่ะไม่อยากให้เสียความรู้สึกกันเพราะเพื่อนเป็นคนให้เราช่วยเอาเครปเค้กมาส่งตั้งแต่แรก แต่ร้านนี้เพื่อนเราไม่ได้มาดูนะคะเพื่อนเราไปอยู่กับแม่ที่ต่างประเทศแล้ว ไม่น่าจะทราบเรื่องนี้.....  ยาวจัง  ขอบคุณที่ติดตามนะคะ กระทู้แรกเลย >.<

        ขอมุมมองแบบคนที่เปิดร้านกาแฟเพื่อนๆจะทำยังไงกันบ้างคะ ??
        และมุมมองของคนที่ส่งขนมแบบเรา ควรทำยังไงดีคะ ??
                    

        ท้ายสุดค่ะ แถมสูตรเครปเค้กของเราเอง อิอิ :





  





แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่