กว่าจะถึงวันนี้...จากใจเด็กแอด 57

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่ากระทู้นี้เป็นเรื่องราวชีวิตจริงของเด็กที่พึ่งจบม.6คนนึง ซึ่งตอนนี้กำลังนับถอยหลังรอวันประกาศผล"แอดมิชชั่น"อยู่ ช่วงนี้เลยว่างมากๆ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตอนม.6ให้น้องๆที่กำลังอยู่ม.6หรือบุคคลที่สนใจได้ฟังกัน จะเป็นประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียน การเตรียมตัวสอบ เพื่อนมันธยมปลาย การอยู่หอ การสอบเข้า แล้วก็ความรักในช่วงม.6
   ถ้ากระทู้นี้มีคนสนใจเพิ่มขึ้น เราจะแนะนำหนังสือที่เราอ่านตอนสอบเข้าแล้วคิดว่าดีให้น้องม.6 หรือน้องๆม.ปลายได้ไปหาซื้อกัน (บอกก่อนว่า เราจะแนะนำแต่ ไทย สังคม อังกฤษ นะ เพราะเราจะสอบเข้าพวกศิลปศาสตร์ อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ พวกนี้ โดยเฉพาะหนังสืออังกฤษจะแนะนำเยอะเป็นพิเศษนะคะ)

ขอเริ่มเลยดีกว่า... (ขออนุญาตแทนตัวเองว่า เรา นะคะ)
   เราอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต คือโรงเรียนนี้กดเกรดมากๆ เราไม่รู้ว่าเค้ากดเกรดหรือว่าให้ตามความจริงนะ แต่ตอนม.4ที่เข้ามาใหม่ๆ เราย้ายมาจากกระบี่ไง แล้วโรงเรียนที่เราเรียนที่กระบี่คือแบบปล่อยเกรดสุดๆ เรียนๆเล่นๆได้3.5 คือได้เกรดง่ายมาก พอมาเรยนที่ภูเก็ตเรียนๆเล่นๆ ม.4เทอม1เลยเแาไปเลย "2.71" เห็นเกรดตัวเองแล้วช็อคซินิม่าสตั้นไป3วิ ในหัวก้คิดว่า โอ้ววว นี่เกรดเราเหรอเนี่ย พอยื่นให้พ่อดู พ่อก็ไม่ว่าอะไรแต่เราก็รู้นะว่าเค้าคงไม่ปลื้มเท่าไหร่หรอกกับเกรด(หรือเศษเลข)แบบนี้ เราก็เลยตั้งใจฮึดใหม่ว่า "เทอมสอง ฉันต้องได้เกรด3ขึ้นไป!!" ...
   -  ม.4เทอม2 เราก็ขยันเรียนมากขึ้น อ่านหนังสือมากกะจะได้เกรดงามๆสามอัพไปเชยชม แต่พอวันเกรดออก ผ่างงงงง!! "2.98" เห็นเกรดแล้วแบบ คุณพระ ทำไมคุณครูใจร้ายแบบนี้อีกแค่0.02เอง ฮือออ เศร้าใจ วิชาอังกฤษที่คิดว่าจะได้4กลับได้3 คณิตยิ่งไม่ต้องพูดไม่ติด0ก็บุญเท่าไหร่แล้ว แต่เราก็ยังไม่ท้อนะ ยังคิดว่าตอนม.5เทอม1 "ฉันต้องได้3.20อัพ ให้ได้!!!" ...
   - ม.5เทอม1มาถึง เราก็ตั้งใจเรียนมากขึ้นกว่าเดิมนะ แบบพยายามทำงานให้เรียบร้อย ส่งงานให้ครบ คณิตก็เอาบ้างถึงจะไม่ชอบก็ตาม เกรดออกมาคือ... "3.16"เห็นเกรดถามว่าดีใจไหม ก็ดีใจนะ แต่ก็ยังไม่ถึงเป้าซะที ม.5เทอม2เลยเลิกหวังล่ะ คิดแค่ว่าเรียนให้เต็มที่ก็พอ ...
  -  ม.5เทอม2 มาถึง เราก็ขยันนะ อ่านหนังสือเยอะ ทำให้เครียด พอเครียดก็กินเยอะ ช่วงนี้คือช่วงพีคของน้ำหนักเลยอะ คือเราเครียด เราอยู่หอด้วย(มาอยู่กับเมทอีก1คน) เลยทำให้คิดถึงบ้าน เวลาเครียดสิ่งที่เรากับเมททำคือ "กิน" กินมันให้ทุกอย่าง ตอนเย็นทุกๆวันเราจะไปกินแมคโดนอล ตามด้วย เค้ก โดนัท และไอติม ปิดท้ายด้วยข้าวไก่ซุปเปอร์ตอน2ทุ่ม เป็นแบบนี้บ่อยมากๆ ยิ่งเสาร์อาทิตย์ยิ่งกินเยอะ เป็นอย่างนี้ติดกัน3เดือน ผลที่ได้มาคือ น้ำหนักจาก49ขึ้นมาถึง58 !!! ขึ้นมา 8 กิโล!! ตอนนั้นปิดเทอมพอดี กลับมาบ้านเราตกใจมาก ถามแม่ว่าอ้วนขึ้นไหม แม่บอกนิดนึง(คิดในใจ ไม่นิดล่ะแม่555) เราเลยคิดการrevolutionตัวเองขึ้นมา นั่นคือ ลดน้ำหนัก และ ติวgat !!
  - ช่วงปิดเทอมม.5ขึ้นม.6 เราก็พยายามลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายปกติ แล้วก็เตรียมตัวอ่านแกท โดยการไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ กับติวแกทเชื่อมโยงด้วยตัวเอง ครั้งแรกของการติวแกทเชื่อมโยงคือ ให้เพื่อนที่ทำเป็นสอนให้ เราก็เข้าใจนะ แต่ไม่เคลียร์100% เลยไปค้นดูเว็บที่สอนจนเจอเพจๆนึง เป็นเพจในเฟสบุ๊ค "Aj KLUI" อ.เค้าจะสอนแกทเชื่อมโยง มีโจทย์ให้ทำ มีคลิปให้ดู คือดีเก๋กู้ด แนะนำน้องๆม.6ที่จะสอบgat นะคะ ของฟรีและดียังมีอยู่ในโลกค่ะ (ดีจริงๆได้แกทเชื่อมโยง150เต็มทั้งสองรอบ เพราะเพจอาจารย์ขลุ่ย ขอบคุณมากค่ะ-/\-) คราวนี้วิชาภาษาอังกฤษจะเน้นทำโจทย์เยอะๆ แกรมม่าอ่านไม่กี่รอบ แต่ทำโจทย์ทำเป็นหลายร้อยข้อทำให้มากที่สุดก่อนจะเปิดเทอม เจอศึกหนักตอนม.6 ...

                                                                                     *** ม.6 ***
  ผลสรุปจากการลดน้ำหนักในตอนปิดเทอมคือจาก 58 เหลือ 54 (ก็ยังตันเพราะเราสูงแค่163 T_T) แต่เรื่องการอ่านหนังสือ ถือว่าคุ้มมากๆที่อ่านมาก่อนเพราะ รู้สึกว่าทักษะในการทำReading จะดีขึ้น ปกติจะทำช้าแล้วก็ทำผิดเยอะมาก แต่พอฝึกทำโจทย์บ่อยๆเราจะรู้เทคนิคในการอ่าน คือ ต้องอ่านช้อยส์ก่อนแล้วค่อยอ่าเนื้อหา ดูก่อนว่าช้อยส์ถามอะไรบ้างแล้วค่อยมาหาคำตอบในเนื้อหาเป็นข้อๆไป แต่ที่ได้จากกการอ่านในครั้งนี้มากที่สุดคือ Error เมื่อก่อนเป็นคนไม่เก่งerrorมากๆๆ ไม่ชอบด้วย แต่พอทำโจทย์ไปมา "เออ ก็ทำได้นิหว่า ไม่ได้ยากเกินความสามารถฉันนิ" (หลงตัวเองเล็กน้อย อิอิ)

ถึงตรงนี้จะขอเล่าชีวิตตอนม.6ให้ฟังเลยนะคะว่าจะเป็นยังไง...
   - ม.6เทอม1 เป็นช่วงที่ยังโอเคนะ กลางวันเรียน ตอนเย็นเรียนพิเศษ กลางคืนอ่านหนังสือ นี่คงเป็นกิจวัตรของเด็กม.6หลายๆคน ที่อยากจะไปถึงคณะและมหาลัยในฝันของตัวเอง คือช่วงนี้ถามว่าการบ้านเยอะมั้ย ตอบเลยว่ามาก โรงเรียนอื่นเราไม่รู้ แต่โรงเรียนเรามากเสมอต้นเสมอปลาย ยิ่งช่วงใกล้สอบงานจะมาถี่ๆแบบกะว่าจะไม่ให้เด็กอ่านหนังสือสอบกันเลยT_T ถ้างานเยอะๆแบบนี้ส่วนใหญ่เราก็ไม่ทำนะ อ่านหนังสือติวก่อนงานไว้ว่ากันตอนใกล้วันกำหนดส่ง 5555 ช่วงนี้มีกีฬาสีด้วย โรงเรียนเราม.6ต้องเป็นตัวแม่ในการจัดกีฬาสี ซึ่งเราว่ามันเหนื่อยว่ะ ไหนจะการบ้าน อ่านหนังสือ นี่ต้องจัดกิจกรรมอีก แล้วที่สำคัญกีฬาสีปีเราฝนตกด้วย โอ้ววววT^T เป็นอะไรที่แฉะชิ้น มากๆ แต่ถามว่าสนุกมั้ย สนุกนะ อย่างน้อยกีฬาสีก็ทำให้รู้จริงๆเลยว่า "นิสัยของเพื่อนเราแต่ละคน จริงๆแล้วเป็นแบบไหน" ... สรุปคือเทอมนี้ ยังคงโอเค หนังสืออ่านเรื่อยๆ เที่ยวห้างบ้าง การบ้านเยอะ ลันล้ากับเพื่อนตอนเย็นได้บ้างแต่ก็ต้องมีขอบเขต...
       มาถึงเรื่อง "ความรัก" ในช่วงม.6บ้างล่ะ คือช่วงนี้เราก็ค่อนข้างชิวๆนะ มีคนเข้ามาคุยๆบ้างแต่ก็ไม่มาก แต่มีคนหนึ่งแบบเป็นพิเศษอะ คุยด้วยก็รู้สึกดีนะ เพราะเค้านิสัยดีมากๆๆๆๆๆๆ เราก็รู้สึกดีอะแหละเวลาคุยกับเค้า แต่เค้าเป็นคนยิ้มไม่เก่งซึ่งเราเป็นคนที่ชอบคนยิ้มเก่ง เค้าเลยไม่ตรงสเป็คเราเลยยกเว้นนิสัย คือนิสัยดีจริงๆ พอเราเจอเค้าที่โรงเรียนเราก้ยิ้มทักทายตามประสา แต่เชื่อป่ะ บางทีเค้าไม่ยิ้มกลับอะ 55555 คือแบบมีครั้งนึงเคยยิ้มให้ แล้วเค้าไม่ยิ้มกลับ เราแป้กมาก อยากจะมุดดินไปเลยด้วยความที่หน้าแตก 5555 เค้าก็ขอโทษในไลน์ที่ไม่ยิ้มไรงี้ เราก็โอเค เดี๋ยวพอรู้จัก สนิทกันมากขึ้นเค้าคงยิ้มเยอะขึ้นเอง เพราะเราเห็นเวลาเค้าอยู่กับเพื่อนเค้าก็พูดมาก+ยิ้มเยอะนะ แต่พอเวลาเค้าเจอเราแบบต่อหน้าอะ เค้าจะไม่ค่อยยิ้มเลยอะ ไม่ค่อยทักด้วย คือถ้าเพื่อนเราไม่มาบอกว่าเค้าชอบเราอยู่ เราคงนึกว่าไม่ชอบขี้หน้าเราอะ 5555 แต่ก็เข้าใจแหละคนมันอาย แต่นี่อายมากไปป่ะ เป็นผู้ชายนะคะ -[]-" เราก็ยังคุยกับเค้าเรื่อยๆนะ จนถึงวันเปิดเทอมแรกของม.6เทอม2 "เค้าบอกชอบเรา" บอกตรงๆตอนนั้นเราไม่ได้ชอบเค้าเชิงชู้สาวเลยนะ แค่รู้สึกดีแบบเพื่อนเพราะเค้านิสัยดี แต่เราก็ตอบคบไป เพราะคิดว่าคนดีๆแบบนี้เดี๋ยวซักวันเราคงรักเค้าได้เอง ซึ่งความจริงมันไม่เป็นแบบนั้น ...
       เราคบกับเค้าไปเรื่อยๆ เค้าก็ยังเหมือนเดิมคือตัวจริงไม่ค่อยคุยไม่ค่อยยิ้ม ผิดกับเวลาที่เค้าอยู่กับเพื่อนเค้ามากอะ ตอนอยู่กับเพื่อนนี่พูดเยอะยิ้มเยอะ กับเราพูดน้อยง่ะ คือแบบ เห้อออ นี่กะจะให้ชวนคุยฝ่ายเดียวเหรอ กะจะไม่ยิ้มให้กันเลยอ่อ? เราก็คิดงี้นะ แต่ถ้าตัดเรื่องนี้ออกไปเรื่องอื่นเค้าก็ดีแหละ แบบไปกินข้าว ถือของให้ ไม่เจ้าชู้ คือข้อดีมีเยอะจนกลบข้อเสียไปหมด แต่นั่นแหละ ด้วยความที่เราเป็นคนชอบคนยิ้มเก่ง เค้าดีกับเรายังไงเราก็เลยทำใจให้ชอบเค้าไม่ได้จริงๆ T^T ...
       เราเลยคิดจะเลิก เราอยากบอกให้เร็วที่สุดเพราะถ้าบอกช้าเดี๋ยวอะไรๆมันจะมากกว่านี้ บอกตอนนี้เจ็บตอนนี้ ถ้าปล่อยให้นานกว่านี้ก้จะเจ็บมากกว่านี้ อารมณ์ประมานว่า"เจ็บแต่จบ" นี่คือสิ่งที่เราคิดเราเลยบอกไป คือตอนบอกรู้สึกผิดมากๆเสียใจด้วยทำอะไรไม่คิด ไม่ชอบแล้วไปคบกับเค้าตั้งแต่แรกทำไม หลังจากบอกเค้าก็ชอบโพสต์เพลง โพสต์สเตตัสเพ้อๆ เราก็สงสารนะ แต่พอผ่านไปนานๆ เค้าก็ยังโพสต์อยู่ คือเราก็เริ่มรำคานอะ โพสต์อยู่ได้ เรารู้สึกผิดจะตายล่ะ แล้วเราก็คิดนะ ว่าถ้าเค้าอยากให้เรากลับไปจริงๆ ทำไมไม่เอาเวลาที่โพสต์สเตตัสโพสต์เพลงบลาๆ มาง้อเราล่ะ ?? -0- แต่ชั่งเหอะๆ เราผิดเองตั้งแต่แรก ผิดที่ไปคบทั้งๆที่ไม่มีใจให้ ผิดที่คิดว่าเราจะรักคนดีได้ แต่มันไม่ใช่เลย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คนดี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เรารักเสมอไป " ...

                                                                   * จบเรื่องรัก เข้าเรื่องเรียนกันบ้างนะคะ *
ม.6 เทอม 2
- ช่วงนี้คือช่วงแห่งการสอบ มหาวิทยาลัยที่เปิดให้สอบมหาวิทยาลัยแรกก็คือ มศว นั่นเอง จะบอกว่าเด็กไปสอบเยอะมาก เพราะเป็นมหาลัยแรกที่เปิดสอบ เด็กนักเรียนมาจากทั่วสารทิศแดนไทย เหนือ ใต้ ออก ตก มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ใครอยากได้ มศว รับตรง แนะนำว่าให้ฟิตอ่านตั้งแต่ม.5 แต่ถ้าอยากเข้าทันตะให้อ่านตั้งแต่ม.4 เพราะคู่แข่งรอบรับตรงที่นี่เยอะจริงๆ หลังจาก มศว ก็มาถึงการสอบ "7วิชาสามัญ"
- 7 วิชาสามัญ : จะสอบ7วืชา คือ ไทย สังคม อังกฤษ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ขีวะ แต่ละวิชาข้อสอบหินมากๆ เราสอบแค่ ไทย สังคม อังกฤษ
คะแนนที่ได้ออกมา คือ ไทย 78/100 สังคม46/100 อังกฤษ 53.75/100 เห็นคะแนนแล้วช็อคซินิม่า นี่คะแนนหรือเศษเลข !! Y___Y
จากนั้นเราก็นำคะแนนอันน้อยนิดไปยื่นรับตรง มนุษยศาสตร์ เกษตร และ ศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์ รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ติดแต่ก็ขอลองเสี่ยงดู (ตาลุกโชนเป็นไฟภาวนาให้ติด) แต่พอผลประกาศออกมา คือ... "เสียใจด้วย คุณไม่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์" (ถ้าทายหวยแม่นเหมือนอย่างนี้คงจะดี T^T) แต่เราก็ทำใจไว้ล่ะ ไม่เป็นไร เอาใหม่ เตรียมพร้อมกับดารสอบgat patครั้งที่1ที่กลังจะมาถึงในเดือนธันวาคม ... หัวเราะ

           *** ใครอ่านถึงตรงนี้ขอบคุณมากๆนะคะที่ติดตาม ถ้ามีคนสนใจอยากให้เขียนต่อ ตอนหน้าจะเป็นตอนเกี่ยวกับการสอบ onet ที่สอบได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต และ gat patครั้งที่1และครั้งที่2 พร้อมคะแนน(หรือเศษเลข) ที่ได้รับมา ขอบคุณทุกๆความคิดเห็น ติชมได้ค่ะ ถ้าพิมพ์ผิดยังไงขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^____^ ***

  ปล.ขอโทษนะคะที่ผิดบอร์ด หนูจะตั้งอีกบอร์ดนึงแต่ตั้งไม่ได้ ไมรู้ทำไมTT"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่