ช่วงนี้เรื่องแต่งในห้องสยามระบาดมากก ก็เลยต้องระวังตัวไม่ให้อินมากสำหรับเรื่องแต่งเพราะไม่อยากเงิบทีหลัง
ตัวผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบอ่านเรื่องเล่าในพันทิพ เรื่องจริงบ้าง เรื่องแต่งบ้างแรกๆก็อ่านไป อิน อินมาก บางเรื่องนี่โกรธแทน จขกท. อยากไปด่าแทนเค้าเลยทีเดียว แต่พออ่านเยอะๆเข้าก็พอจับทางได้ว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องแต่ง
หลักๆคือมันเป็นเซ้นอ่ะ คือบางเรื่องไม่เหมือนเรื่องแต่งเลยนะแต่อ่านแล้วไม่เชื่ออ่ะว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ผมมีหลักนิดหน่อยในการดูว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องแต่ง คือผมมั่วเอง ไม่ชัวร์นะครับ 555
1.เรื่องจริงส่วนใหญ่เค้าไม่เล่าเรื่องในอดีตที่มันนานมากๆแล้วหรอกครับ อารมณ์แบบปีที่แล้ว สองปีที่แล้ว คนจริงๆ อาจจะจำได้แค่ว่าวันนั้นมีเรื่องอะไรเกิดนั้นแบบสำคัญๆ แค่นั้น แต่จำไม่ได้หรอกว่า รายละเอียดมันมีอะไรบ้าง เช่น ตัวละครแต่งตัวยังไง เค้าพูดคำว่าอะไรบ้าง
2.ถ้าพอมีคนสงสัยว่า เอ๊ะนี่เรื่องแต่งหรือป่าว ถ้าเป็นเรื่องแต่ง จขกท.จะรีบแก้ตัวทันทีครับ อารมณ์กินปูนร้อนท้องขึ้นมากลัวคนอื่นจับได้ หรือบางรายถึงขนาดไปเมคหลักฐานขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อน
จุดนี้ขอฝากถึงบรรดานักแต่งนะครับ เห็นตกม้าตายมาหลายรายละการที่คุณรีบร้อนแก้ตัวหรือสร้างหลักฐานมันยิ่งกลายเป็นจุดอ่อนให้คุณถูกจับได้เพราะการที่คุณรีบร้อนโกหกเพื่อแก้ตัว ทำให้มีโอกาศผิดพลาดหรือคำพูดของคุณจะไปขัดแย้งกับเรื่องที่คุณแต่งมาก่อนหน้ามากขึ้น สู้ตีมึนฉันไม่รู้ ไม่สนใจเวิคกว่าครับ แนะนำเลย
3.อันนี้ต้องใช้วิจารณยานนิดนึง คือชีวิตจริงมันไม่เว่อร์แบบในหนัง แบบหักมุม ซ้ายหักขวา โอ้ขวาหักซ้าย หรอกครับ ส่วนใหญ่ก็มนุษย์เงินเดือนตื่น 6 โมง เข้างาน 8 โมง 4 โมงกลับบ้านนอนทั้งนั้น จะเอาเวลาที่ไหนมาดราม่า คือถึงจะมีบางคนดราม่าบ้างมันก็ส่วนน้อยครับ อีกอย่างไม่มีใครอยากเอาชีวิตเน่าๆของตัวเองมาเล่าให้คนอื่นฟังหรอก เกิดมีเพื่อนร่วมงานจำได้ ที่บ้านรู้เรื่องที่ปิดเอาไว้ ซวยอีก
4.สุดท้าย เซ้น ล้วนๆครับ บางทีแต่งเหมือนเรื่องจริงมากแต่ปรากฎเรื่องแต่งซะงั้น เงิบกันไปตามระเบียบ
ปล.ใครอยากเพิ่มข้อควรระวังก็เชิญเลยนะครับ
ปล.ฝากถึงนักแต่งทั้งหลาย พยายามอย่าให้ถูกจับได้ช่วงกลางเรื่องเลย สงสารขาฟินมั่งเหอะ ฟินกันมาจนจะจบ สุดท้ายบอกเรื่องแต่ง สรุปตอนจบก็ไม่รู้ แถมเหมือนโดนหลอกฟันอีก
ข้อควรระวัง !! สำหรับคนนิยมอ่านเรื่องเล่าในพันทิพ
ตัวผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบอ่านเรื่องเล่าในพันทิพ เรื่องจริงบ้าง เรื่องแต่งบ้างแรกๆก็อ่านไป อิน อินมาก บางเรื่องนี่โกรธแทน จขกท. อยากไปด่าแทนเค้าเลยทีเดียว แต่พออ่านเยอะๆเข้าก็พอจับทางได้ว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องแต่ง
หลักๆคือมันเป็นเซ้นอ่ะ คือบางเรื่องไม่เหมือนเรื่องแต่งเลยนะแต่อ่านแล้วไม่เชื่ออ่ะว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ผมมีหลักนิดหน่อยในการดูว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องแต่ง คือผมมั่วเอง ไม่ชัวร์นะครับ 555
1.เรื่องจริงส่วนใหญ่เค้าไม่เล่าเรื่องในอดีตที่มันนานมากๆแล้วหรอกครับ อารมณ์แบบปีที่แล้ว สองปีที่แล้ว คนจริงๆ อาจจะจำได้แค่ว่าวันนั้นมีเรื่องอะไรเกิดนั้นแบบสำคัญๆ แค่นั้น แต่จำไม่ได้หรอกว่า รายละเอียดมันมีอะไรบ้าง เช่น ตัวละครแต่งตัวยังไง เค้าพูดคำว่าอะไรบ้าง
2.ถ้าพอมีคนสงสัยว่า เอ๊ะนี่เรื่องแต่งหรือป่าว ถ้าเป็นเรื่องแต่ง จขกท.จะรีบแก้ตัวทันทีครับ อารมณ์กินปูนร้อนท้องขึ้นมากลัวคนอื่นจับได้ หรือบางรายถึงขนาดไปเมคหลักฐานขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อน
จุดนี้ขอฝากถึงบรรดานักแต่งนะครับ เห็นตกม้าตายมาหลายรายละการที่คุณรีบร้อนแก้ตัวหรือสร้างหลักฐานมันยิ่งกลายเป็นจุดอ่อนให้คุณถูกจับได้เพราะการที่คุณรีบร้อนโกหกเพื่อแก้ตัว ทำให้มีโอกาศผิดพลาดหรือคำพูดของคุณจะไปขัดแย้งกับเรื่องที่คุณแต่งมาก่อนหน้ามากขึ้น สู้ตีมึนฉันไม่รู้ ไม่สนใจเวิคกว่าครับ แนะนำเลย
3.อันนี้ต้องใช้วิจารณยานนิดนึง คือชีวิตจริงมันไม่เว่อร์แบบในหนัง แบบหักมุม ซ้ายหักขวา โอ้ขวาหักซ้าย หรอกครับ ส่วนใหญ่ก็มนุษย์เงินเดือนตื่น 6 โมง เข้างาน 8 โมง 4 โมงกลับบ้านนอนทั้งนั้น จะเอาเวลาที่ไหนมาดราม่า คือถึงจะมีบางคนดราม่าบ้างมันก็ส่วนน้อยครับ อีกอย่างไม่มีใครอยากเอาชีวิตเน่าๆของตัวเองมาเล่าให้คนอื่นฟังหรอก เกิดมีเพื่อนร่วมงานจำได้ ที่บ้านรู้เรื่องที่ปิดเอาไว้ ซวยอีก
4.สุดท้าย เซ้น ล้วนๆครับ บางทีแต่งเหมือนเรื่องจริงมากแต่ปรากฎเรื่องแต่งซะงั้น เงิบกันไปตามระเบียบ
ปล.ใครอยากเพิ่มข้อควรระวังก็เชิญเลยนะครับ
ปล.ฝากถึงนักแต่งทั้งหลาย พยายามอย่าให้ถูกจับได้ช่วงกลางเรื่องเลย สงสารขาฟินมั่งเหอะ ฟินกันมาจนจะจบ สุดท้ายบอกเรื่องแต่ง สรุปตอนจบก็ไม่รู้ แถมเหมือนโดนหลอกฟันอีก