หลายคนเจอปัญหาทั้งหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล จนไม่รู้จะจ่ายหนี้อันไหนก่อน K-Expert มีแนวทางจัดการหนี้ 4 ข้อที่ทำได้ไม่ยากเกินความสามารถมาฝาก ดังนี้ค่ะ
1. หยุดสร้างหนี้ใหม่ การก่อหนี้ก้อนใหม่ไปเรื่อยๆ จะเป็นการเพิ่มภาระที่มีให้พอกพูนมากยิ่งขึ้น จนอาจทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้ รวมถึงพยายามควบคุมการใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด แนะนำให้มีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งช่วยให้ทบทวนการใช้จ่ายของตัวเรา จะได้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และทำให้มีเงินเหลือในแต่ละเดือนมาชำระคืนหนี้สินได้มากขึ้น
2. หาแหล่งเงินได้เพิ่ม การเพิ่มรายได้เป็นหนทางที่ช่วยให้ออกจากวิกฤตทางการเงินนี้ได้เร็วขึ้น สามารถทำได้หลายทาง เช่น ทำโอที รับจ้างสอนหนังสือเด็ก ทำขนม หรืองานฝีมือขาย แนะนำให้เลือกทำงานพิเศษหรืออาชีพเสริมตามความถนัดของตัวเอง นอกจากนี้ อาจขายทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า โทรศัพท์มือถือราคาแพง หรือของสะสมต่างๆ แล้วจะพบว่าเงินที่ได้มาจากการขายของที่ไม่จำเป็นนั้นช่วยลดภาระหนี้สินที่เรามีได้
3. สำรวจตรวจสอบภาระหนี้ที่มีอยู่ ทำตารางแจกแจงรายละเอียดหนี้สิน ยอดหนี้คงเหลือ จำนวนเงินที่ต้องจ่ายขั้นต่ำ และอัตราดอกเบี้ย โดยเรียงตามลำดับหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงสุดไปต่ำสุด
4. ปิดหนี้ดอกเบี้ยสูง เงินที่เหลือจากการทำงานและหารายได้เสริมในแต่เดือน ควรนำมาชำระคืนหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน ถ้าตามตัวอย่าง ก็คือ ชำระหนี้บัตรเครดิต A เป็นอันดับแรก ส่วนยอดหนี้อื่นก็ให้จ่ายขั้นต่ำไปก่อน เมื่อชำระหนี้ดอกเบี้ยสูงสุดอันดับแรกหมดแล้ว ก็ไล่เรียงชำระหนี้ลำดับถัดมา ถ้ามีเงินก้อน ลองดูว่าเพียงพอปิดหนี้ก้อนไหนได้บ้าง เพื่อให้ภาระหนี้ที่มีน้อยลง และมีภาระในการผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยลง
เมื่อเป็นหนี้ อย่าเพิ่งท้อหรือหมดกำลังใจ เพียงปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต ควบคุมการใช้จ่าย และมีวินัยในการชำระคืนหนี้ รับรองว่า ภาระหนี้ที่มีอยู่จะหมดได้โดยเร็ว เป็นกำลังใจให้ สู้สู้นะคะ
อ่านเพิ่มเติมเรื่องการจัดการหนี้ ได้ที่
http://k-expert.askkbank.com/Pages/Need-based03.aspx
หรือลองวางแผนปลดหนี้ ด้วยโปรแกรม K-Expert Debt Solution ได้ที่
http://k-expert.askkbank.com/DIYTools/Pages/K-ExpertDebtSolution.aspx
<คำถามฮิต K-Expert ช่วยตอบ> เป็นหนี้ท่วมตัว สะสางยังไงดี
1. หยุดสร้างหนี้ใหม่ การก่อหนี้ก้อนใหม่ไปเรื่อยๆ จะเป็นการเพิ่มภาระที่มีให้พอกพูนมากยิ่งขึ้น จนอาจทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้ รวมถึงพยายามควบคุมการใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด แนะนำให้มีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งช่วยให้ทบทวนการใช้จ่ายของตัวเรา จะได้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และทำให้มีเงินเหลือในแต่ละเดือนมาชำระคืนหนี้สินได้มากขึ้น
2. หาแหล่งเงินได้เพิ่ม การเพิ่มรายได้เป็นหนทางที่ช่วยให้ออกจากวิกฤตทางการเงินนี้ได้เร็วขึ้น สามารถทำได้หลายทาง เช่น ทำโอที รับจ้างสอนหนังสือเด็ก ทำขนม หรืองานฝีมือขาย แนะนำให้เลือกทำงานพิเศษหรืออาชีพเสริมตามความถนัดของตัวเอง นอกจากนี้ อาจขายทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า โทรศัพท์มือถือราคาแพง หรือของสะสมต่างๆ แล้วจะพบว่าเงินที่ได้มาจากการขายของที่ไม่จำเป็นนั้นช่วยลดภาระหนี้สินที่เรามีได้
3. สำรวจตรวจสอบภาระหนี้ที่มีอยู่ ทำตารางแจกแจงรายละเอียดหนี้สิน ยอดหนี้คงเหลือ จำนวนเงินที่ต้องจ่ายขั้นต่ำ และอัตราดอกเบี้ย โดยเรียงตามลำดับหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงสุดไปต่ำสุด
4. ปิดหนี้ดอกเบี้ยสูง เงินที่เหลือจากการทำงานและหารายได้เสริมในแต่เดือน ควรนำมาชำระคืนหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน ถ้าตามตัวอย่าง ก็คือ ชำระหนี้บัตรเครดิต A เป็นอันดับแรก ส่วนยอดหนี้อื่นก็ให้จ่ายขั้นต่ำไปก่อน เมื่อชำระหนี้ดอกเบี้ยสูงสุดอันดับแรกหมดแล้ว ก็ไล่เรียงชำระหนี้ลำดับถัดมา ถ้ามีเงินก้อน ลองดูว่าเพียงพอปิดหนี้ก้อนไหนได้บ้าง เพื่อให้ภาระหนี้ที่มีน้อยลง และมีภาระในการผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยลง
เมื่อเป็นหนี้ อย่าเพิ่งท้อหรือหมดกำลังใจ เพียงปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต ควบคุมการใช้จ่าย และมีวินัยในการชำระคืนหนี้ รับรองว่า ภาระหนี้ที่มีอยู่จะหมดได้โดยเร็ว เป็นกำลังใจให้ สู้สู้นะคะ
อ่านเพิ่มเติมเรื่องการจัดการหนี้ ได้ที่ http://k-expert.askkbank.com/Pages/Need-based03.aspx
หรือลองวางแผนปลดหนี้ ด้วยโปรแกรม K-Expert Debt Solution ได้ที่
http://k-expert.askkbank.com/DIYTools/Pages/K-ExpertDebtSolution.aspx