เรียนสถาปัตย์ค่ะ หลักสูตรห้าปี ตอนนี้อยู่ปีที่สาม
เรื่งมันมีอยู่ว่า เราดรอปวิชาเรียนไปตัวหนึ่ง ซึ่งมันเป็นตัวต่อกัน 5 ตัว หน่วยกิตนับว่ามหาศาล และเราลงแก้ในเทอมนี้
ในครึ่งของเทอมแรก คะแนนเราไม่ถึง เวลาเรียนก็ไม่พอ อาจารย์แนะนำให้ดรอปเรียนไปอีกปีหนึ่ง เพื่อรักษาเกรดไม่ให้โดนรีไทน์และไม่สามารถช่วยเหลือเรื่องคะแนนหรือปล่อยผ่านไปได้ ซึ่งเรื่องนี้เราเข้าใจ เพราะมันจะไม่ยุติธรรมกับคนที่เรียนด้วยกันกับเรา
สรุปคือ สถาปัตย์เรียนห้าปี เราดรอปครั้งแรกต้องบวกอีกหนึ่งปี และครั้งล่าสุดนี้ก็บวกเข้าไปอีกหนึ่งปี กลายเป็นเราเรียนทั้งหมดเจ็ดปี
มันยิ่งกว่าเรียนพร้อมเพื่อนจบพร้อมแพทย์แล้วตอนนี้
ครั้งแรกนั้นที่เราดรอป เราตั้งใจจะดรอป เพราะตอนนั้นเราไม่ไหว แต่ครั้งนี้เราไม่อยากซื้อเวลา แต่สุดท้ายก็เพราะความบ้าบอ ไม่ได้เรื่อง ก็เลยโดนไปอีกหนึ่งดอก
เราค่อนข้างท้อกับเรื่องนี้พอสมควร ไม่ใช่แค่เรื่องที่เราไม่ได้ความนะ แต่เรื่องของครอบครัวที่รอเรารับปริญญา ค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเพิ่มในปีที่เกินทั้งๆ ที่ทางบ้านเราก็แค่ครอบครัวชาวบ้านจนๆ และที่สำคัญคือ มันมีคำถามที่ค้างคาใจเราว่า "เราอยากอยู่กับวิชาชีพนี้จริงๆ หรือเปล่า"
สถาปัตย์สำหรับเรา เรารักมันนะ เราอยากลอง อยากทำ อยากอยู่กับมัน
แต่เรารับผิดชอบไม่พอ เราช้า เราพยายามไม่พอ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าวิชาชีพนี้ต้องอาศัยความพยายามในการขับเคลื่อนอย่างมาก
มันสมควรแล้วที่เราต้องดรอปเรียนเพราะไอ้ความ "พยายามไม่พอ" ของตัวเราเอง
แต่การที่เรายืดเยื้อเวลาให้มันยาวออกไปเรื่อยๆ แบบนี้ เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเราอยู่กับมันไหวหรือเปล่า เราจะพยายามได้มากกว่านี้แค่ไหน เราไม่ได้กลัวเราเสียใจ เรากลัวคนที่รอเราเสียใจ
เราเป็นคนที่คิดมาก เราเคยคิดว่าถ้าไม่มีเรา ก็ไม่ต้องมีใครเสียใจเพราะความงี่เง่า ไม่ได้เรื่องของเรา แต่สิ่งที่มันย้ำเตือนใจเราไว้คือความทุ่มเทของครอบครัวเรา คนที่รอเราอยู่ข้างหลัง อยากเห็นเราใส่ชุดนั้น อยากให้เรามีอนาคตที่ดี สิ่งเหล่านี้มันคอยยึดเหนี่ยวเราไม่ให้ทำอะไรโง่ๆ หนีปัญหาไปชาติหน้าภาพหน้า มันคงจะทำให้คนข้างหลังเราเสียใจกว่ามาก
เราตั้งกระทู้ขึ้นมาแบบงงๆ แค่รู้สึกอยากระบาย แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าคนที่กำลังเผชิญกับมันเหมือนๆ กับเรา (ซึ่งไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า) กับคนที่ผ่านมันมาแล้วตัดสินใจอย่างไร โดยเฉพาะคนที่เรียนวิชาชีพนี้ คุณๆ เปลี่ยนสายไปเลย หรือคุณๆ พยายามกันต่อ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณตัดสินใจแบบนั้น มันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นอย่างไร คุณผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างไร เราอยากรู้ค่ะ
แต่การที่เรามาตั้งกระทู้นี้เราไม่ได้อยากเปลี่ยนสายนะคะ เรารักมันมาก เราตั้งเป้าหมายไว้ว่า "ถ้าไม่ตายจะไม่เลิก"
ใจหนึ่งเราแค่คิดอย่างคนขลาดเขลา ไม่อยากรู้สึกว่ากำลังเผชิญปัญหาแบบนี้เพียงลำพัง จะมีใครเป็นเหมือนเราบ้าง เราเคว้งคว้างมากเลย ภายนอกเราได้แต่ยิ้มหัวเราะ พอมาอยู่คนเดียวก็ได้แต่น้ำตาร่วง ระบายอยู่หลังคีย์บอร์ด ขอกำลังใจจากคนในโลกออนไลน์ ไม่อยากร้องไห้ให้ทางบ้านเห็น ได้แต่บอกเล่า และทำเหมือนว่าเราไม่เป็นไรเพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นห่วง
อีกใจหนึ่งคือเราอยากจะเข้มแข็งแบบนั้น แบบคนที่เป็นแบบเดียวกับเราและผ่านมันไปแล้ว เราจะเข้มแข็งค่ะ เราจะเข้มแข็งให้ได้
พอกลับไปอ่านที่ตัวเองพิมพ์ไปแล้วรู้สึกว่ามันละครจังเลย ซีนอารมณ์ล้วนๆ ฮ่าาา
ลำดับเนื้อหาอาจจะงงหน่อยนะคะ มีแต่บ่นกับบ่น เราตั้งกระทู้แบบอึนๆ แหละค่ะ
แท็กผิดๆ ถูกๆ ด้วยไม่รู้ว่ามันจะไปโผล่แถวไหนบ้าง ฮืออ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ และขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ล่วงหน้านะคะ

***แท็กสถาปัตยกรรมนะคะ เชื่อว่าพี่ๆ สถาปนิกน่าจะเยอะ เรียนสายนี้น่ะค่ะ
***ระบายและขอกำลังใจ*** เรียนพร้อมเพื่อน จบช้ากว่าแพทย์อีกแน่ะ
เรื่งมันมีอยู่ว่า เราดรอปวิชาเรียนไปตัวหนึ่ง ซึ่งมันเป็นตัวต่อกัน 5 ตัว หน่วยกิตนับว่ามหาศาล และเราลงแก้ในเทอมนี้
ในครึ่งของเทอมแรก คะแนนเราไม่ถึง เวลาเรียนก็ไม่พอ อาจารย์แนะนำให้ดรอปเรียนไปอีกปีหนึ่ง เพื่อรักษาเกรดไม่ให้โดนรีไทน์และไม่สามารถช่วยเหลือเรื่องคะแนนหรือปล่อยผ่านไปได้ ซึ่งเรื่องนี้เราเข้าใจ เพราะมันจะไม่ยุติธรรมกับคนที่เรียนด้วยกันกับเรา
สรุปคือ สถาปัตย์เรียนห้าปี เราดรอปครั้งแรกต้องบวกอีกหนึ่งปี และครั้งล่าสุดนี้ก็บวกเข้าไปอีกหนึ่งปี กลายเป็นเราเรียนทั้งหมดเจ็ดปี
มันยิ่งกว่าเรียนพร้อมเพื่อนจบพร้อมแพทย์แล้วตอนนี้
ครั้งแรกนั้นที่เราดรอป เราตั้งใจจะดรอป เพราะตอนนั้นเราไม่ไหว แต่ครั้งนี้เราไม่อยากซื้อเวลา แต่สุดท้ายก็เพราะความบ้าบอ ไม่ได้เรื่อง ก็เลยโดนไปอีกหนึ่งดอก
เราค่อนข้างท้อกับเรื่องนี้พอสมควร ไม่ใช่แค่เรื่องที่เราไม่ได้ความนะ แต่เรื่องของครอบครัวที่รอเรารับปริญญา ค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเพิ่มในปีที่เกินทั้งๆ ที่ทางบ้านเราก็แค่ครอบครัวชาวบ้านจนๆ และที่สำคัญคือ มันมีคำถามที่ค้างคาใจเราว่า "เราอยากอยู่กับวิชาชีพนี้จริงๆ หรือเปล่า"
สถาปัตย์สำหรับเรา เรารักมันนะ เราอยากลอง อยากทำ อยากอยู่กับมัน
แต่เรารับผิดชอบไม่พอ เราช้า เราพยายามไม่พอ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าวิชาชีพนี้ต้องอาศัยความพยายามในการขับเคลื่อนอย่างมาก
มันสมควรแล้วที่เราต้องดรอปเรียนเพราะไอ้ความ "พยายามไม่พอ" ของตัวเราเอง
แต่การที่เรายืดเยื้อเวลาให้มันยาวออกไปเรื่อยๆ แบบนี้ เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเราอยู่กับมันไหวหรือเปล่า เราจะพยายามได้มากกว่านี้แค่ไหน เราไม่ได้กลัวเราเสียใจ เรากลัวคนที่รอเราเสียใจ
เราเป็นคนที่คิดมาก เราเคยคิดว่าถ้าไม่มีเรา ก็ไม่ต้องมีใครเสียใจเพราะความงี่เง่า ไม่ได้เรื่องของเรา แต่สิ่งที่มันย้ำเตือนใจเราไว้คือความทุ่มเทของครอบครัวเรา คนที่รอเราอยู่ข้างหลัง อยากเห็นเราใส่ชุดนั้น อยากให้เรามีอนาคตที่ดี สิ่งเหล่านี้มันคอยยึดเหนี่ยวเราไม่ให้ทำอะไรโง่ๆ หนีปัญหาไปชาติหน้าภาพหน้า มันคงจะทำให้คนข้างหลังเราเสียใจกว่ามาก
เราตั้งกระทู้ขึ้นมาแบบงงๆ แค่รู้สึกอยากระบาย แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าคนที่กำลังเผชิญกับมันเหมือนๆ กับเรา (ซึ่งไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า) กับคนที่ผ่านมันมาแล้วตัดสินใจอย่างไร โดยเฉพาะคนที่เรียนวิชาชีพนี้ คุณๆ เปลี่ยนสายไปเลย หรือคุณๆ พยายามกันต่อ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณตัดสินใจแบบนั้น มันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นอย่างไร คุณผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างไร เราอยากรู้ค่ะ
แต่การที่เรามาตั้งกระทู้นี้เราไม่ได้อยากเปลี่ยนสายนะคะ เรารักมันมาก เราตั้งเป้าหมายไว้ว่า "ถ้าไม่ตายจะไม่เลิก"
ใจหนึ่งเราแค่คิดอย่างคนขลาดเขลา ไม่อยากรู้สึกว่ากำลังเผชิญปัญหาแบบนี้เพียงลำพัง จะมีใครเป็นเหมือนเราบ้าง เราเคว้งคว้างมากเลย ภายนอกเราได้แต่ยิ้มหัวเราะ พอมาอยู่คนเดียวก็ได้แต่น้ำตาร่วง ระบายอยู่หลังคีย์บอร์ด ขอกำลังใจจากคนในโลกออนไลน์ ไม่อยากร้องไห้ให้ทางบ้านเห็น ได้แต่บอกเล่า และทำเหมือนว่าเราไม่เป็นไรเพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นห่วง
อีกใจหนึ่งคือเราอยากจะเข้มแข็งแบบนั้น แบบคนที่เป็นแบบเดียวกับเราและผ่านมันไปแล้ว เราจะเข้มแข็งค่ะ เราจะเข้มแข็งให้ได้
พอกลับไปอ่านที่ตัวเองพิมพ์ไปแล้วรู้สึกว่ามันละครจังเลย ซีนอารมณ์ล้วนๆ ฮ่าาา
ลำดับเนื้อหาอาจจะงงหน่อยนะคะ มีแต่บ่นกับบ่น เราตั้งกระทู้แบบอึนๆ แหละค่ะ
แท็กผิดๆ ถูกๆ ด้วยไม่รู้ว่ามันจะไปโผล่แถวไหนบ้าง ฮืออ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ และขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ล่วงหน้านะคะ
***แท็กสถาปัตยกรรมนะคะ เชื่อว่าพี่ๆ สถาปนิกน่าจะเยอะ เรียนสายนี้น่ะค่ะ