นั่งได้ คุยได้ ไม่ต้องสั่งอะไรก็ได้ ดูดวงฟรี !

กระทู้สนทนา
เหตุเกิด ณ ร้านอาหารแถวโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสะพานตากสิน

เราได้เจอกับเพื่อนเก่า 2 คน สมัยเป็นเด็ก ที่ไม่ได้เจอมานานมากหลังจากจบม.ต้น (ปัจจุบันเรียนจบปริญญาตรีมาหนึ่งปี) เนื่องจากเพื่อนของพวกเราคนหนึ่งป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล

หลังจากที่ได้อยู่รวมตัวกันสามคน พวกเราก็ให้กำลังใจเพื่อนที่ป่วยด้วยการชวนคุย เเย่งกันคุย เพื่อให้กำลังใจคนป่วย จนกระทั่งญาติของคนป่วยมาพวกเราเลยขอตัวลงมาทานข้าวเพราะจะได้ให้เวลาเพื่อนได้คุยกับญาติ ตอนแรกเราจะไปร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาชื่อดังแถบนั้น (ที่ก็มีมากมายไม่รู้ร้านไหนดังจริง ลองมาหลายร้านแล้วก็ไม่ถูกใจ) แต่ในระหว่างทางเดินพวกเราเดินผ่านร้านสเต๊กร้านหนึ่งหลังโรงพยาบาล ซึ่งมีเจ้าของร้านเป็นชายไม่หนุ่มมาก หน้าใส ผิวขาวเนียน รูปร่างสัดทัด เดินและพูดอย่างมีจริต ชวนพวกเราเข้าร้าน

เจ้าของร้าน : กินสเต๊กร้านเรามั้ยครับ (พวกเราก็ไม่หยุด ยังคงเดินเม้ากัน)

เจ้าของร้าน :  นั่งได้ คุยได้ ไม่สั่งอะไรก็ได้ จะกินลูกชิ้นปิ้งที่ถือมาก็ได้ หรือดูดวงก็ได้ครับ

เรา : หยุด นิ่ง งง แล้วปรึกษากันกับเพื่อน กินมั้ยวะ กินป่ะ ... (มองไปรอบกายไม่มีใครเลย คือแบบไม่มีลูกค้าเข้าร้าน)  เออๆๆ ช่วยเค้าหน่อยละกันกินก็กิน แต่เราไม่หิวนะ เราจะนั่งเฉยๆ

เพื่อน 1: กินก็กิน เราอยากกินเฟรนฟราย

จากนั้นเราก็เดินไปนั่งที่โต๊ะ จับเมนูแล้วสั่งๆๆๆๆอาหาร ประหนึ่งว่าลืมไปแล้วว่า "ไม่หิว" ..

พออาหารมา

เพื่อน 2 : อาหารก็อร่อยนะแก ทำไมไม่มีคนเข้าวะ

เรา : นั่นสิ...

หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจ ก้มหน้ากินไป เงยหน้ามาเม้ากันไป นึกกันไปว่าเพื่อนคนนู้นนี้หน้าตาเป็นยังไง พูดถึงความหลังยังกับคนแก่อายุ 80 เพราะไม่ได้เจอกันน๊านนาน ซึ่งในระหว่างที่คุย เจ้าของร้านก็เดินมาเรื่อยๆ เดี๋ยวเอาน้ำแข็งมาเติม เดี๋ยวเอามายองเนสมาให้ เดี๋ยวก็มาถามว่าเอาน้ำสลัดมั้ยทั้งๆที่ไม่ได้สั่งสลัด และเดินมาดูเรื่อยๆ จนสงสัยในใจว่าจะเทคแคร์อะไรขนาดนี้ (ก็เค้ามีโต๊ะเดียวนี่นะ ..)

เมื่อกินเสร็จ เราก็เรียกเค้าคิดตัง เจ้าของร้านก็เดินมาคิดให้ ด้วยท่าทางที่เหมือนไม่อยากมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เดินมาบ่อยมากๆ พอจะจ่ายตัง ไม่สนเราซะงั้น

เจ้าของร้าน : อ่าทั้งหมด 222 บาท ครับ เอามา 202 บาท ก็ได้ อืม... 200 บาท ละกันครับ

พวกเราก็จ่ายตังแบบ งงๆ เพราะปกติไปร้านอาหารมีแต่ต้องให้ทิป ไม่เคยเจอที่ลดราคาโดยไม่ได้ต่อรอง

เจ้าของร้าน : เคยมากินร้านนี้มั้ย ตอนนี้เรามีโปรโมชั่น ดูดวงให้ฟรีด้วย เป็นการดูดวงแบบใช้ใบไม้นะ ดูโหวงเฮ้ง ดูลายมือ ดูได้หมดเลย ..

เพื่อน 1: ยิ้มกว้าง .. เออแกชั้นไม่เชื่อนะ ไม่เคยดูดวง ลองกันแม๊ะ

เพื่อน 2 : เอาสิแกแต่ก่อนชั้นก็ไม่เชือ แต่โตมานี่ ต้องดูไว้นิดนึง

เรา : ยิ้มเฉยๆ (เราเป็นคนกลัวหมอดู ถ้าแม่นมากจะคิดมาก)

เพื่อน 1: ต้องทำยังไงบ้างคะ ถ้าจะดู

เจ้าของร้าน : อ้ออ เดินไปเด็ดใบไม้ที่ต้นนั้นได้เลย (ชี้ไปที่กระถางต้นไม้ใกล้ๆร้าน แต่คาดว่าเป็นของบ้านคนแถวนั้น) อย่าลืมอธิษฐานกับต้นไม้ก่อนเด็ดใบไม้นะ อยากรู้อะไรก็บอกต้นไม้

เพื่อน 1: เดินไปหน้ากระถางต้นไม้ พนมมือไหว้ต้นไม้ เด็ด แล้วก็ยิ้ม หันมาถามพวกเรา แบบนี้ป๊ะ ?

จากนั้นพื่อนอีกคนก็ทำตาม ส่วนเราตัดสินใจที่จะไม่เด็ดเพราะคิดว่าถ้าแม่นค่อยเดินกลับมาเด็ดดีกว่า พอได้ของที่ต้องใช้พวกเราก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะซึ่งเจ้าของร้านเอาเก้าอี้สีชมพูสดใสมาตั้งแทรกไว้ระหว่างเก้าอี้เพื่อนเราสองคนเพื่อดูดวง

เจ้าของร้าน : ไหนๆ ใครจะดูก่อนครับ เพื่อน1 เลยดูก่อน โดยเอาใบไม้ยื่นให้เจ้าของร้าน จากนั้นแกก็เอาใบไม้ไปทัดหู แล้วเริ่มทำหน้าเหมือนเข้าถึงจิตวิญญาณของหมอดูในแบบของแก ... มองหน้าเพื่อนเรา อืม .... เป็นคนที่ไม่มีใครมาหลอกได้ใช่มั้ย รู้ทันคนนะ ร้ายอยู่นะนี่ (พูดซ้ำหลายรอบ) อืม... (ตาลอกแลก มีจริตนิดหน่อย สักพัก หลุบตาต่ำ หมุนลูกตาขึ้นลง) มีแฟน แต่พ่อแม่กีดกัน พ่อแม่ต้องการให้แต่งกับผู้ชายแถวบ้านสินะ ... อืมมมม (เพื่อนเราก็ยิ้มตลอด ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ) หมอดูก็ร่ายต่อไป เกิดมามีกรรมทำครอบครัวแตกแยก (ป๊าดดดดคั่กแท้หมอดู พูดบ่กั๊กเลย) ... แล้วก็อื่นๆอีกมากมาย

ในระหว่างที่หมอกำลังดูเพื่อนเรา เราก็เอามือถือมาเปิด google พร้อมกับจ้องหน้าหมอดู จากนั้นก็พิมพ์คำว่า "หมอดูใบไม้แถว รพ ..." เผื่อถ้าแกตังน่าจะมีคนมารีวิวไว้ (อยากรู้ว่าควรกลับไปเด็ดใบไม้ตีมั้ย) ปรากฏว่า ไม่มี มีแต่ ..โศกนาฏกรรมรัก ณ กรุงปารีส (มาได้ไง) ... ก็คิดในใจ หรือแกจะเพิ่งย้ายมา เพราะนั่งมานานละก็ยังไม่มีลูกค้าเข้า ถ้าแกตังจริงแม่นจริงก็น่าจะมีลูกค้ามาเยอะ มากินแล้วก็รอดูดวง

สักพัก ฝนตก แต่แกก็ไม่หยุดดูดวงให้เพื่อนเรา

เรา : เห้ยๆ ฝนตก กลับไปหาเพื่อน(ป่วย)กันมะ

เพื่อน 2 : ป่ะๆไปดิ

เพื่อน 1 : ดูเสร็จรึยังคะ ขอแบบรวบรัดได้มั้ยคะ

เจ้าของร้าน : ยังไม่ได้ดูอีกคนเลย (ทำหน้าเศร้า และ หันไปบอกเพื่อน 2) วันนี้คงได้ดูคนเดียวนะ ส่วนเพื่อน1 เพิ่งดูแค่เรื่องครอบครัวเองนะ ยังไม่จบเลย (ทำหน้าเสียใจมากที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่จบ)

ในใจเรา : คืออออออ ฝนมันตกป๊ะ !! ลมก็แร๊งแรง

หน้าเพื่อน1 อารมณ์แบบ ยิ้ม แล้วอาจจะคิดว่า ปล่อยชั้นไปเถ๊อะๆๆๆๆๆๆ จนสุดท้ายเสียงนางคงไปถึงเบื้องบน นางสามารถสลัดหมอดูออกมาได้และพวกเราก็รีบเดินออกมาจากร้านสเต๊กร้านนั้น

เรา : เป็นไงแกแม่นมั้ย

เพื่อน 1: แม่นบ้าอะไรล่ะ มั่วตั้งแต่เริ่ม จนครอบครัวชั้นแตกแยก .. บ้านชั้นพ่อแม่รักกันดีจะตาย และชั้นก็ไม่ได้ถูกบังคับแต่งงาน มั่วๆๆๆๆ (พูดไปขำไป)

เพือน 2 : เพราะงี้มั้งแกคนเลยไม่ค่อยเข้าร้าน เจ้าของร้านก็งงๆ มีดูหมอให้ด้วย

เรา : เราว่าเค้าไม่เต็มว่ะ ... ปกติหมอดูถ้าเค้าไม่แม่นเค้าก็น่าจะมีจิตวิทยาหลอกถามนู้นนี้แล้วเอามาคิดแถต่อนะแก นี่ไม่ใช่ละ พูดแต่เรื่องทำร้ายจิต ตั้งแต่เกิดมาพร้อมกรรม ทำครอบครัวแตกแยก ฮ่าๆ

เพื่อน 2: หรือเค้าล้นอ่ะแก .. ? (ล้นกับไม่เต็ม ต่างกันยังไงเราก็ไม่รู้)

พวกเรา : หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน พร้อมคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ว่า หรือที่ไม่มีคนเข้าร้าน มันเป็นเพราะเจ้าของร้านเทคแคร์เกินไป เหมือนคำที่ว่า "เธอดีเกินไป" ... แล้วคนมักจะไม่ชอบคนแบบนี้รึเปล่านะ ?

สุดท้ายก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราถึงแวะร้านนั้น แถมยังนั่งดูหมอต่อทั้งๆที่รู้สึกแปลกๆตลอดเวลา แต่อย่างน้อยที่สุดเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ทำให้เพื่อนเราที่ป่วยหนักยิ้มได้หลังจากที่เรากลับขึ้นไปแย่งกันเล่าเรื่องเจ้าของร้านสเต๊กกับอาชีพเสริมของแกให้ฟัง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วว่ามั้ยคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่