ช่วงหลังๆ มานี้ ดิสนี่ย์เล่นกับประเด็น "จุมพิตแห่งรักแท้" บ่อยมาก อาจเป็นเพราะคำนี้เหมือนเป็น "สิ่งฝังใจ" สำหรับคนที่นึกถึงเทพนิยาย ไม่ว่าจะเป็นในนิทาน หรือมาเป็นภาพยนตร์ก็ตาม เรื่องราวของเจ้าหญิงต้องคำสาป จะต้องมีเจ้าชายมาจุมพิตเพื่อให้ฟื้นคืนชีพ (หลักๆ ก็เห็นแค่สองเรื่องนะ สโนว์ไวท์ กับเจ้าหญิงนิทรา)
คำถามคือ เจ้าชายจะมี "ความรักแท้" ให้กับผู้หญิงที่เพิ่งเห็นหน้าเพียงชั่วครู่เชียวหรือ? แค่เห็นหน้าก็รักเลย? ถ้าเห็นว่าสวยแล้วเกิดปิ๊ง ก็ไม่น่าเรียกว่า "รักแท้" ใช่มั้ย
ดิสนี่ย์จึงเริ่มนำประเด็นนี้มาเล่นใหม่ เท่าที่เห็นก็เริ่มจาก Enchanted ที่เริ่มมีคำถามว่า คุณเรียกคนที่เพิ่งรู้จักเพียงวันเดียวว่า "รักแท้" ได้ยังไง สุดท้ายกลายเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รักที่ผิดฝาผิดตัว รักที่ค่อยๆ ก่อตัวจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ต่อมาคือ Frozen ที่เป็นขั้นถัดไปจาก Enchanted นอกจากจะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผิดฝาผิดตัว แล้ว ยังมีคำถามอีกชั้นว่า "การแสดงออกแห่งรักแท้ต้องจุมพิตเท่านั้นหรือ?" รักแท้ของเรื่องนี้จึงเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รักแท้ที่เสียสละระหว่างพี่น้อง
มาถึงมาเลฟิเซนท์ ต้นตำรับของเทพนิยายจุมพิตแห่งแท้ ที่อาจมีคนบอกว่า ซ้ำๆ เหมือน Frozen หรือ Enchanted เลย เราว่าจริงๆ แล้ว ดิสนี่ย์ต้องการต่อยอดประเด็นนี้ในอีกรูปแบบหนึ่งมากกว่า
มาเลฟิเซนท์เคยได้รับสิ่งที่เธอคิดว่าเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จุมพิตแห่งรักแท้ จากสเตฟาน แต่ในเมื่อความจริงไม่ใช่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เธอถูกสเตฟานหักหลังทรยศด้วยการตัดปีกของเธอไปเพื่อแลกกับตำแหน่งพระราชา เธอจึงมองว่า "รักแท้ไม่มีจริง" คำสาปของเธอที่มีต่อเจ้าหญิงออโรร่า เหมือนให้โอกาสแก้ได้ด้วย "จุมพิตแห่งรักแท้" จึงเป็นการ "ไม่ให้โอกาส" ในความรู้สึกของเธอนั่นเอง
หนังไม่ได้เล่าเรื่องแบบซับซ้อนย้อนไปมา หรือหักมุมอะไรมากมาย แต่เล่าไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงๆ เลย ใครที่คาดหวังว่าหนังจะดาร์ค เนื้อเรื่องจะเข้มข้นมาก ก็คงมีผิดหวัง (ก็มีให้เห็นจริงๆ ในบางกระทู้) สำหรับเรา นี่เป็นหนังฟีลกู๊ด ที่ไม่ได้บทอ่อนอะไรเลย มีความซาบซึ้งแบบไม่ต้องพยายาม แต่เกิดได้จากการซึมซับไปในแต่ละฉาก ชื่อที่คนไทยฮิตเรียกมาเลฟิเซนท์กันตอนนี้ว่า "ขุ่นแม่มาลี" เราเพิ่งประจักษ์ตอนที่ได้ดูนี่แหละ ว่าเหมาะสมมาก เธอมีความเป็นแม่สูงมากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แม้ออโรร่าจะไม่ใช่ลูกตัวเอง แถมเป็นลูกของอดีตคนรักทรยศจนกลายเป็นคู่แค้นก็ตาม จิตใจอันบอบช้ำจนกลายเป็นความแค้น กลับเยียวยาได้ด้วยความเป็นแม่ แว้บนึงทำให้คิดถึงตัวละคร "ลี้มกโช้ว" ในมังกรหยก ที่เป็นนางมารร้าย แต่กลับเอ็นดูเด็กน้อยก๊วยเซียง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แถมผิดหวังโดนคนรักทรยศมาเหมือนกันด้วย เรื่องนี้ดูแล้วรู้สึกซาบซึ้งกับความรักของขุ่นแม่มาลี มากกว่าได้อารมณ์นางฟ้าเข้าโหมดดาร์คมาทำลายล้างอาณาจักร มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
เรื่องนี้สำหรับคนที่ประทับใจกับ Sleeping Beauty ฉบับการ์ตูน น่าจะดูแล้วอินกว่า (ไม่ก็เกลียดเลย ถ้ายึดตามของเดิม และเปรียบเทียบทุกอย่าง) ส่วนตัวเราชอบเรื่อง Sleeping Beauty เพราะตัวละครมาเลฟิเซนท์ มากกว่าเจ้าหญิงออโรร่า เป็นติ่งขุ่นแม่มาลีมาแต่ต้น เลยอินกับเรื่องนี้มาก ดีใจที่มีคนเห็นความดีในตัวนางบ้าง
[CR] Maleficent ความรักอันยิ่งใหญ่ของขุ่นแม่มาลี ฟีลกู๊ดสไตล์ดิสนี่ย์ (สปอยล์เล็กน้อย)
คำถามคือ เจ้าชายจะมี "ความรักแท้" ให้กับผู้หญิงที่เพิ่งเห็นหน้าเพียงชั่วครู่เชียวหรือ? แค่เห็นหน้าก็รักเลย? ถ้าเห็นว่าสวยแล้วเกิดปิ๊ง ก็ไม่น่าเรียกว่า "รักแท้" ใช่มั้ย
ดิสนี่ย์จึงเริ่มนำประเด็นนี้มาเล่นใหม่ เท่าที่เห็นก็เริ่มจาก Enchanted ที่เริ่มมีคำถามว่า คุณเรียกคนที่เพิ่งรู้จักเพียงวันเดียวว่า "รักแท้" ได้ยังไง สุดท้ายกลายเป็น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต่อมาคือ Frozen ที่เป็นขั้นถัดไปจาก Enchanted นอกจากจะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้ว ยังมีคำถามอีกชั้นว่า "การแสดงออกแห่งรักแท้ต้องจุมพิตเท่านั้นหรือ?" รักแท้ของเรื่องนี้จึงเป็น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาถึงมาเลฟิเซนท์ ต้นตำรับของเทพนิยายจุมพิตแห่งแท้ ที่อาจมีคนบอกว่า ซ้ำๆ เหมือน Frozen หรือ Enchanted เลย เราว่าจริงๆ แล้ว ดิสนี่ย์ต้องการต่อยอดประเด็นนี้ในอีกรูปแบบหนึ่งมากกว่า
มาเลฟิเซนท์เคยได้รับสิ่งที่เธอคิดว่าเป็น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ในเมื่อความจริงไม่ใช่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เธอจึงมองว่า "รักแท้ไม่มีจริง" คำสาปของเธอที่มีต่อเจ้าหญิงออโรร่า เหมือนให้โอกาสแก้ได้ด้วย "จุมพิตแห่งรักแท้" จึงเป็นการ "ไม่ให้โอกาส" ในความรู้สึกของเธอนั่นเอง
หนังไม่ได้เล่าเรื่องแบบซับซ้อนย้อนไปมา หรือหักมุมอะไรมากมาย แต่เล่าไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงๆ เลย ใครที่คาดหวังว่าหนังจะดาร์ค เนื้อเรื่องจะเข้มข้นมาก ก็คงมีผิดหวัง (ก็มีให้เห็นจริงๆ ในบางกระทู้) สำหรับเรา นี่เป็นหนังฟีลกู๊ด ที่ไม่ได้บทอ่อนอะไรเลย มีความซาบซึ้งแบบไม่ต้องพยายาม แต่เกิดได้จากการซึมซับไปในแต่ละฉาก ชื่อที่คนไทยฮิตเรียกมาเลฟิเซนท์กันตอนนี้ว่า "ขุ่นแม่มาลี" เราเพิ่งประจักษ์ตอนที่ได้ดูนี่แหละ ว่าเหมาะสมมาก เธอมีความเป็นแม่สูงมากๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จิตใจอันบอบช้ำจนกลายเป็นความแค้น กลับเยียวยาได้ด้วยความเป็นแม่ แว้บนึงทำให้คิดถึงตัวละคร "ลี้มกโช้ว" ในมังกรหยก ที่เป็นนางมารร้าย แต่กลับเอ็นดูเด็กน้อยก๊วยเซียง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เรื่องนี้ดูแล้วรู้สึกซาบซึ้งกับความรักของขุ่นแม่มาลี มากกว่าได้อารมณ์นางฟ้าเข้าโหมดดาร์คมาทำลายล้างอาณาจักร มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
เรื่องนี้สำหรับคนที่ประทับใจกับ Sleeping Beauty ฉบับการ์ตูน น่าจะดูแล้วอินกว่า (ไม่ก็เกลียดเลย ถ้ายึดตามของเดิม และเปรียบเทียบทุกอย่าง) ส่วนตัวเราชอบเรื่อง Sleeping Beauty เพราะตัวละครมาเลฟิเซนท์ มากกว่าเจ้าหญิงออโรร่า เป็นติ่งขุ่นแม่มาลีมาแต่ต้น เลยอินกับเรื่องนี้มาก ดีใจที่มีคนเห็นความดีในตัวนางบ้าง