วันแรกที่หมอบอกว่าผมเป็นมะเร็ง

เกรินนำ
ข้อมูลพื้นฐาน

ผมเป็นชายไทยอายุสามสิบนิดๆ ทำงานเป็นยอดมนุษย์เงินเดือน แล้ววันหนึ่งก็ป่วยเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกระยะ 4b  (Nasopharyngeal carcinoma Stage 4b )
ถ้าอยากอ่าน  ฉบับเต็มเชิญที่ http://pantip.com/topic/32137686
    

เริ่มจากก่อนหน้านั้นผมมีอาการต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมขึ้นมา จึงได้ไปทำการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โดยทางคุณหมอได้ทำการผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองไปตรวจทางแลปจำนวนหนึ่งก้อน  เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร  หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็ค่อยไปฟังผล
และเมื่อถึงวันที่ต้องไปรับผลตรวจตามวันนัด
เรื่องราวก็เป็นดังที่เล่าต่อไปนี้ครับ

เช้าวันนั้นเป็นเช้าปกติมากๆวันหนึ่งแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากวันอื่นๆเลย  

ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกเหมือนเช่นทุกวันในอดีต

ลืมตามาดูนาฬิกาพร้อมบอกกับตัวเองด้วยคำพูดสุดคลาสสิคของตัวเอง

“”ขออีก 5 นาทีเถอะ!! “”
แล้วจัดแจงกดเลื่อนเวลาปลุกออกไป....และหลังจากเลื่อนไปได้ 3 รอบ (ตื่นยากมาก =,= )

แล้วจึงตัดสินใจอันแสนยากเย็นลุกขึ้นไป ทำกิจวัตรประจำวันปกติ ดังเช่น ยอดมนุษย์เงินเดือน แห่งมหานคร อันวุ่นวาย

วันนั้นไม่ได้แวะทานข้าวดังเช่นทุกวันเนื่องจากต้องออกนอก เส้นทาง กะว่า รับผลตรวจเสร็จแล้วค่อยไปทานที่ออฟฟิต (คิดผิดมาก T_T )

ณ ตอนนั้นในหัว วันนี้ คือวันธรรมดาวันหนึ่ง ที่ไม่ต้องทำงานช่วงเช้า “”””ช่างเป็นเช้าที่สุดแสนจะสบายยยยย  

วันนั้นกลัวไปไม่ทันเลยนั่งแท็กซี่ไป....และเนื่องจากเส้นที่ไปรถไม่ติดมาก.....เลยไปถึงโรงพยาบาลเร็วกว่าที่คิดไว้

โดยผมมาถึงโรงพยาบาล ก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เดินตรงไปที่ แผนก หู คอ จมูก ทันที

ยืนบัตรนัดให้ทางคุณ พยาบาล ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ตามขั้นตอนปกติ ( ผลก็ปกติทั่วๆไปไม่มีอะไรน่ากังกล)

เสร็จแล้วนั่งรอหมอเรียกเข้าห้องตรวจเพื่อแจ้งผล (ปฐมบทแห่งการเดินทางกำลังเริ่มต้น T_T )  

พอถึงคิวผม พยาบาลก็เรียกชื่อผมเข้าไปที่ห้องตรวจ ในห้องตรวจจะมี คุณหมอสูงวัยท่านหนึ่ง ที่เป็นคนผ่าต่อมน้ำเหลืองออกไปตรวจนั่งรออยู่.........คุณ

หมอแกเป็นหมอสไตร์ที่ค่อนข้างดุหน่อยๆ คำพูดแกจะสั้นและกระชับตลอด ( เคยเจอก่อนหน้านั้น 2-3 ครั้ง )

และนี้คือเหตุการณ์ในห้องตรวจวันนั้น (จำได้แม่นเลย  T_T )

หมอ : กำลังนั่งอ่านผลตรวจ....พร้อมบอก  นั่งก่อนๆ

ผม :  ยกมือไหว้ แล้ว นั่งลงบนเก้าอี้ตรวจ  (ชิลมากๆตอนนั้น อารมณ์มาฟังว่าเป็นหวัด รับยาแล้วกลับบ้านได้  )

หมอ : อืมๆ  (พร้อมสีหน้าไม่สู้ดีนัก)  หลังจากนั้นเอื้อม มือสองข้างมาจับ ต่อมน้ำเหลือง ใต้คางทั้งสองข้าง

ผม : ผลเป็นไงมั่งครับคุณหมอ ( ยังไม่ รู้ชะตากรรม T_T )

หมอ : อ้า ปากกว้างๆแล้วแลบลิ้น

ผม : ทำตามหมอบอก ( เริ่มสงสัยทำไมยังไม่บอกผล )

หมอ : เปิดไฟที่หน้าผาก อีกมือจับลิ้นผม เอากระจกคล้ายของหมอฟัน สอดเข้าไปทางช่องปาก พร้อมบอกให้ร้อง  อี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผม : อี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ      (นานมากกกกกกกกกกกกกก)

หมอ :  อืมๆ ก็ดูปกตินะ แล้วเอาเครื่องมือออก

ผม : อี้ๆๆๆ  ....... ผลแลปเป็นไงมั่งครับหมอ

หมอ :  เป็นเนื้องอก

ผม : เนื้องอก ????   ( ยังไม่รู้ว่ามันคือมะเร็ง )

หมอ : อืมมมม  ชนิดร้าย

ผม : เนื้องอกชนิดร้าย !!!!    ( มันมีแบบพระเอกด้วยหรือไงฟร่ะ)

หมอ : อืมมม.... ผลมันว่าอย่างนั้น    ( หมอ อืมทั้งวัน  )

ผม :  ทำท่าเหมือนจะขอดูด้วย    (อยากรู้อ่ะ)

หมอ : จะดูเหรอ พร้อมยื่นผลแลป เป็นกระดาษ มาให้

ผม : หยิบมา ก้มลงอ่าน  นิ่งไปซักแป๊ป แล้วส่งคืนหมอ

หมอ : อืม..... รับผลคืน

ผม : แปลไม่ออกครับ !!!  (น้ำตาจะไหล ศัพท์หมอทั้งนั้น T_T )

หมอ : ผลมันว่ากระจายมาจาก ส่วน Nasopharynx  ( อะไรคือ Nasopharynx  ฟร่ะ!!  เกิดมาภาษาอังกฤษแปลกสุดที่เคยได้ยินก็แค่ McDonald   )

ผม : เนื้องอกชนิดร้าย !!! นี้คือ มะเร็งหรือเปล่าครับ ????  ( เริ่มคุยคนละทางล่ะ .....)

หมอ : ก็แล้วแต่จะเรียก  (    งั้นเรียกเจ้าขุนทองได้ไหมครับ T_T.....  เวลาเพื่อนถามว่าป่วยเป็นอะไร จะได้บอกไป...........เป็นเจ้าขุนทองว่ะ !! ……… มันดูไม่รุนแรงดี  T_T   )

ผม : แล้วต้องยังไงต่อครับ  

หมอ : ต้องส่งตรวจพิเศษเพิ่ม จะได้รู้ว่า primary มาจากไหน    ( ตอนนั้นยังไม่รู้ต้นกำเนิดมากจากไหน ทำให้บอกชนิดของมะเร็งที่เป็นไม่ได้ รู้แต่เพียงเชื้อที่ตรวจเจอมาจากส่วนอื่น ......)

ผม :  ครับ ...นานมั้ยครับ  ( เริ่มเร่ง )

หมอ :  ประมาณอาทิตย์หนึ่ง ..... (นิ่งมาก T_T )

ผม : แล้วเนื้องอกชนิดร้ายนี้รักษายังไงครับ  (  ตอนนั้นก็ใช้เนื้องอกชนิดร้ายตามหมอเนอะ =,= )

หมอ : เดี๋ยวรอผมตรวจพิเศษเพิ่มแล้วมาว่ากัน.....

ผม : ครับ (เสียงอ่อยๆ.....อันนี้เริ่มเศร้าจริง T_T )

หมอ : เนี้ยเหมือนที่ผมเคยวินิจฉัยไว้ .......ชี้ไปมุมล่างซ้ายมีเขียน R/O lymphoma    

ผม : ครับ.......  (แต่ที่ตรวจครั้งก่อนหมอบอกว่าไม่น่าจะเป็นมะเร็งนะครับ ผมยังบอกที่บ้านอยู่เลยว่าไม่มีอะไรหรอก ….  ผมจำได้  T_T  )

หมอ : เดี๋ยวออกไปนั่งรอใบนัดข้างนอกก่อนนะ

ผม : ครับ.....เดินงงๆออกมาจากห้อง  ( เพลงเศร้าสไตร์เกาหลีลอยเข้ามาในหัวเบาๆ  T_T )

เสร็จแล้วก็นั่งรอ รับบัตรนัด มีเรื่องกับการใช้สิทธิประกันสังคมเล็กน้อย.....แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของวันนี้ขอข้ามไปก่อน

หลังจากออกมาจากโรงบาลต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับไปทำงานต่อช่วงบ่าย (พนักงานดีเด่นจริงๆ  หัวเราะ )

ระหว่างทางบนรถไฟฟ้าอารมณ์ตอนนั้นนี้ ประมาณ พระเอกต้องหนีนางเอกไปแต่งงานกับคนอื่นเพื่อปกป้องหมู่บ้านอะไรแบบนั้นเลยครับ T_T  ....... มองคนบนรถไฟฟ้าแล้วแบบ น่าอิจฉาอ่ะ ดูเป็นคนปกติกัน ( อารมณ์แบกโลกมาเต็ม คิดว่าจบกันแล้วชีวิตนี้ )

พอมาถึงตึกสวนกับคนที่ออฟฟิตพอดี เขาเลยถามว่าจะไปกินข้าวด้วยกันไหม  .....ก็บอกปฎิเสธไป....คือ ไม่ไหวอารมณ์ตอนนั้นขออยู่คนเดียวซักแป๊ป  ( สติยังไม่เข้าที )  

เดินใจลอยๆไปแคนทีนใต้ตึก แลกคูปอง และแน่นอน อาหารก็หนีไม่พ้น
                
"แกงจืด กับผัดผัก !!!!"

( เหมือนมีคนมากรอกหูย้ำๆ   เจ เจ เจ เจ เจ เจ เจ เจ เจ เจ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ     ผัก ผัก ผักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ห้ามกินเนื้อสัตว์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   เป็นระบบอัตโนมัติมาก )

กินไปได้นิดนึงก็ไม่ไหวกินไม่ค่อยลงจริงๆ คือก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้านะ แต่มันแน่นๆ ชาๆ ยังไงบอกไม่ถูก เลยขึ้นไปออฟฟิต
พอถึงโต๊ะที่ออฟฟิต ด้วยความที่เป็นคนรับผิดชอบงานมาก สิ่งแรกที่ทำเลย
เข้ากูเกิล พิมพ์คำว่า  

  Lymphoma ”   ทันที!!!! .....


มันคืออะไรรรรรรรร เจ้า Lymphoma  เนี้ย!!!!!!   (คืออึดอัดมาตลอดทาง อยากรู้ จะถามหมอก็คนไข้เยอะอีก บร๊ะ!!! )

( คือตอนนั้นใจจดจ่อแต่ Lymphoma  ที่หมอชี้ตอนท้ายอย่างเดียว  ไม่ได้สนใจเจ้า  Nasopharynx  เท่าไร)
ทำให้วันนั้นทั้งวันผมคิดว่าผมเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนะทั้งที่จริงๆเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก คนละตัวกัน รักษาไม่เหมือนกัน

นั่งหาข้อมูลอยู่ซักพักก็จบหลักสูตร หมอกูเกิ้ล ขั้นหนึ่งทันที ( เริ่ม มโน และกังวลเกินจริง 555 ) ทุกอย่างมันดูแย่มาก ตรูต้องตายชัวร์ๆๆๆๆๆๆ  (แค่ชนิดยิ้มก็ผิดตัวแล้ว ยิ้มจะรอดได้อย่างไร 555 )


(มีต่อๆ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่