ช่วยหน่อยค่ะ รู้สึกเหมือนหลงทาง อยากจะค้นหาว่าจริงๆแล้วชอบเรียนอะไร จะต้องแอดแล้ว

อีกไม่กี่วันจะต้องแอดมิชชั่นแล้ว คะแนนในมือมีอยู่พอสมควร พอให้เลือกได้บ้าง
ตอนนี้เหมือนกำลังย้อนกลับมาค้นพาตัวเองใหม่แต่ต้น
เอาง่ายๆแค่ จะตอบว่า แท้จริงแล้วชอบวิชาอะไร ยังหาคำตอบไม่ค่อยจะได้เลยอ่ะค่ะ
พยายามจะเอาตรงนี้ไปเป็นแนวทางในการเลือกคณะ
ไม่รู้ค่ะ ว่าที่จริงชอบเรียนวิชาอะไรกันแน่ แค่ชอบเวลาที่ทำได้ดีเฉยๆ เรียนได้เข้าใจ ก็จะมีความสุขกับคะแนน
ถ้าครูสอนสนุก สอนดี ก็จะตั้งใจเรียน
ถ้าไม่ ก็จะไม่เรียนเลย(ตอนม.ปลาย)

ตอนประถมชอบคณิตค่ะ ไม่ใช่อะไร เพราะมันเป็นวิชาที่มีโอกาสได้คะแนนเต็ม แล้วก็ทำได้ดี
มันเหมือนไม่ต้องอ่านอะไรมากนัก ผลการเรียนวิชาอื่นช่วงนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ดีมากมาตลอด
แต่โรงเรียนไม่มีการแข่งขันสูงมากนัก แล้วข้อสอบอาจจะง่ายเกินไปก็ได้

ม.ต้น การแข่งขันค่อนข้างสูงขึ้นค่ะ ข้อสอบยาก(แบบที่เรียกว่าดี)จริงๆ อย่างภาษาไทย ท็อปได้แค่ 14/20 คะแนน คณิต 16/20 อะไรแบบนี้
ยังชอบคณิตอยู่ค่ะ เพราะเหมือนเดิม ถ้าเข้าใจหลักการ เราก็จะทำมันได้ แต่ค้นพบแล้วว่าตัวเองไม่ได้โดดเด่น ถือว่ากลางๆ
สนใจภาษาอังกฤษ เพราะแม่บอกว่ามันจำเป็น มันสำคัญต่ออนาคต
ตั้งเข็มว่าจะเรียนสายวิทย์มาแต่เล็กๆค่ะ เพราะอะไรหลายๆอย่าง ที่ถูกปลูกฝังมา
แต่ตอนเรียนวิทยาศาสตร์ช่วงประถม ม.ต้น เอาจริงๆ ไม่ชอบเท่าไร มันเหมือนเรียนอะไรก็ไม่รู้ ท่องๆๆ ขึ้นมาแบบงงๆ จบแบบงงๆ
มีตอนม.2 เทอมหนึ่ง น่าสนใจหน่อย เพราะเป็นโซนเนื้อหาชีววิทยา มันดูใกล้ตัวดี
ตอนม.1 ต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เลยงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจ
ม.3ยิ่งหนัก เป็นโซนเนื้อหาฟิสิกส์ งงมากๆ แทบจะไม่เข้าใจอะไรเลย ความรู้กระจายเป็นหย่อมๆ
เกรดวิทย์ไม่ดีค่ะ ได้ 3 ตลอดเลย (ส่วนใหญ่ได้ 4 กันทั้งนั้นค่ะ ถึงบอกว่าไม่ดี)
แต่ก็มีหลายๆอย่าง ที่ยังไง เราก็ยังเลือกเรียนสายวิทย์อยู่ดี เพราะตั้งใจมาแต่แรกเริ่ม

ขึ้นม.ปลาย
คณิตที่รักกลายเป็นยาขมสุดๆค่ะ เรียนไม่รู้เรื่องเลย ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ขมแบบขมขื่นมากๆ
มีมาตอนม.6 อ.สอนดี ใส่ใจ ก็ทำให้ทำการบ้านได้ ทำข้อสอบในรร.ได้พอประมาณ
แต่พออ.เอาข้อสอบเข้ามหาลัยมาให้ทำ พวก PAT1 ที่เป็นเรื่องม.6
ก็ พังทลายค่ะ ฐานมันไม่มีอยู่แล้ว มีแต่พังกับพัง เลยทิ้งเลขมาตลอดเลย ไม่เคยกลับไปสนใจอ่าน
จนกระทั่งตอนจะซิ่วน่ะค่ะ กลับไปลงคอร์สปรับพื้นฐานent ลงคอร์สent
ความรู้สึกเดิมๆก็เลยกลับมา โอเคชั้นเรียนเข้าใจแล้วนะ เข้าใจแล้ว ทำโจทย์ได้ ทำข้อสอบได้แล้ว
ยกเว้นบางเรื่องที่ต้องฟังหลายรอบมาก เช่น ความน่าจะเป็น สมการตรีโกณมิติ เวกเตอร์ >> จนตอนนี้ก็ยัง งงอยู่
แต่ว่า บางทีเวลาทำโจทย์ก็รู้สึกทรมาน ทำไม่ได้แล้วปวดหัว อึดอัด อาจจะเพราะเครียด

ฟิสิกส์ ก็พังแต่ต้นเหมือนกันค่ะ ไม่เข้าใจตั้งแต่ตอนปรับพื้นฐาน วงกลมหนึ่งหน่วยงงมาก พาให้ทุกอย่างพัง
อารมณ์เหมือนเรียนวิทย์ม.ต้นเลย ความรู้กระจายเป็นหย่อมๆ แต่น้อยมากๆ
ตอนนั้นเป็นพวกขี้แพ้น่ะค่ะ ถ้าเรียนไม่เข้าใจ เพื่อนสอนไม่ขึ้น ไปหาหนังสือห้องสมุดก็ แหม จะรักเรียนกันไปไหน
เฝ้ามันทุกพักก็หาหนังสือไม่ได้ ไม่ใช่ไม่มีนะคะ แต่หนังสือฮอตมาก หาตัวจับยาก
มาตั้งต้นใหม่ตอนจะซิ่วค่ะ ซื้อหนังสือมาอ่านเองหมดเลย
พยายามเชื่อมั่น สะกดจิตตัวเองว่าทำได้ อย่าไปกลัว อย่าไปกลัว
ก็ทำได้เป็นเรื่องๆไปน่ะค่ะ ไม่รู้สึกทรมานมากนัก ถ้าอ่านเข้าใจ ไม่เข้าใจก็ถามเพื่อนไป
คิดว่ามันเหมือนเป็นอะไรที่มีหลักการ มีกฎของมัน ใช้ความรู้คณิตศาสตร์เข้ามาทำ
ทำโจทย์แยกบท คะแนนจะอยู่ที่ 60-70เปอร์เซ็นต์ ตลอด ถ้าเรื่องนั้นอ่านจบและเข้าใจนะ ถ้าไม่เข้าใจ เราก็ทิ้ง (เป็นนิสัยเสีย ทำให้ไม่ติดเลย)

เคมี โชคดีเจออ.สอนดี ตอนม.4 ได้รู้ว่ามีอะไรมากกว่าตารางธาตุ (ที่เด็กม.ต้นร่ำลือ ว่า ไม่อยากเรียนสายวิทย์ไม่อยากท่องตารางธาตุ)
จำได้ว่า ทึ่งตารางธาตุมาก เค้าคิดมาได้ยังไง สุดยอดมาก สัมพันธ์กับสมบัติและอะไรๆ (ทึ่งมากเพราะไม่ได้เรียนความเป็นมาของตารางธาตุ ตารางธาตุยุคก่อนๆ เพราะเวลาไม่พอ แต่ไปหามาอ่านเองนะคะ 555) รู้สึกมันเป็นเหตุเป็นผลดี แล้วการทดลองก็สนุกดี คะแนนดีด้วยค่ะ
ประกอบกับ ดิ้นรนไปเรียนพิเศษกับอ.อุ๊ได้ เหมือนเปิดโลกขึ้นไปอีก
เรียนได้เข้าใจและครบทุกเรื่อง(ม.4 ครบแต่เหมือนไม่ครบ เนื่องจากอาจารย์ติดงานราชการบ่อยๆ) แม้ว่าฐานไม่ดีเท่าเพื่อนร่วมห้อง
ทำให้ต้องพยายามหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ และจากนั้นมาก็เลยค่อนข้างโดดเด่นในวิชาเคมี
เราตอบทุกคนว่า ชอบเรียนเคมี มาตั้งแต่นั้น เพราะมันเด่นที่สุดแล้ว ยกเว้นไฟฟ้าเคมี
เพราะตอนเรียนคอร์ส ent เรียนไม่รู้เรื่องอ่ะค่ะ ทั้งๆที่อาจารย์อุ๊บอกว่ามันง่าย
เหมือนเราจับหลักไม่ได้ซะที แต่ถามว่าทึ่งมั้ย ทึ่งมาก ทึ่งลิเทียมแบตเตอรี่มากๆ การทำนาเกลืออะไรๆ ก็น่าทึ่ง

ชีววิทยา ตอนแรกคะแนนไม่ดีค่ะ แต่ใจบอกว่าชอบ ที่จริงไม่ได้ชอบหรอก อาจจะเพราะยึดติดว่าจะเป็นหมอ
เรียนไม่รู้เรื่องเลย อะไรก็ไม่รู้ มีแต่บรรยายมางงๆไปหมด อาจารย์ก็สอนแบบร้อยสไลด์ต่อสองชั่วโมง ใครจะฟังทัน
จนได้ไปเรียนพิเศษ โอ้โห ฟินมากค่ะ
ไอ อะไรก็ไม่รู้นี่ ถ้าเราจับหลักการได้ คิดอย่างเป็นระบบ ท่องให้เป็นระบบ มันจะง่ายและน่าสนใจมากๆ
แน่นอนค่ะ คะแนนดีทันที และโดดเด่นขึ้นมาเลย เฉพาะเรื่องที่เรียนพิเศษมานะ ถ้าไม่ ทรมานพอสมควร จับหลักเองไม่ได้
พอเรียนพิเศษครบ ก็เตรียมตัวสอบ อ่านๆๆๆ อ่านอยู่เกือบสองเดือน วนๆมันทุกวัน
พยายามท่อง พยายามเชื่อว่าจำได้ ทำได้ เรียนได้แน่นอน เวลาอ่านจะรู้สึกกระหาย อยากจะอ่านต่อไป
อยากจะอ่านให้ถึงเล่มถัดไปไวๆ อยากจะรู้ทุกเรื่องไวๆ จะได้เชื่อมโยงทุกเรื่องเข้าด้วยกัน หมายถึงนึกภาพรวมน่ะ
อ่านถึงขนาดว่า พอจะบอกได้รางๆเลย ว่าหน้านี้อยู่ประมาณหน้าไหน

ภาษาอังกฤษ ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน แต่ไม่ชอบวิธีการเรียนในโรงเรียนแน่ละ เพราะมันไมไ่ด้อะไรจากการเรียนเลย
เรายังสนใจอยู่ค่ะ เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือแปล อยากไปเมืองนอก อะไรพวกนั้น ก็พยายามเรียนพิเศษเอง
พัฒนาตัวเองเท่าที่จะทำได้ คิดว่า คะแนนอยู่ในระดับดี แต่ภาษาอังกฤษไม่ดีหรอกค่ะ คะแนนมันฝึกกันให้ได้เยอะๆได้

สังคมศึกษา ตอนประถม สนุกดี ตอนม.ต้น ก็ยังทึ่งๆมันอยู่ แต่คะแนนแย่มาก รู้สึกว่าข้อสอบยากมากๆ
ม.ปลาย ไม่ได้ใส่ใจเลย ไม่ชอบวิธีเรียนแบบนั้น เหมือนจับฉ่าย เรียนอะไรไม่รู้
ยกเว้นมีอยู่เทอมนึง อาจารย์ฝึกสอนมาสอน เรื่องเศรษฐศาสตร์ เค้าสอนดีมาก ทำให้น่าสนใจมากๆ
แม้แต่ศาสนา ที่ค่อนข้างยาก แล้วก็ไม่น่าสนใจในสายตาเรา มันยังฟังดูน่าทึ่ง น่าทึ่งสุดๆ
แต่คะแนนไม่ดีนะคะ แหะๆ การสอบใดๆ ถ้าไม่เตรียมตัว คะแนนย่อมแย่แน่นอน
เคยไปเรียนพิเศษ คอร์สเร่งรัดสองวันค่ะ กับดูคลิปติวรายการสอนศาสตร์ของทรู
ครูที่สอนสอนดีมากนะคะ ไม่เชิงสนุก เค้าไม่ได้ขำน่ะ แต่มันน่าสนใจมากๆ รู้สึกว่า เค้าพยายามทำให้มันเป็นระบบ
มีดูมีหลักการ มีเหตุมีผล ไปหมดทุกเรื่อง แล้วก็ดูใกล้ตัวเราด้วย ชอบมากจนต้องตามไปเรียนคอร์สเร่งรัดเลย
ก็ช่วยได้ประมาณนึง ช่วยขุดเด็กที่ไม่มีความรู้ เพราะไม่เคยใส่ใจเรียนเลย ให้ได้ คะแนนครึ่งนึง -0-

ไม่ชอบศิลปะ อันนี้ชัดเจนมาก ตัวเองฝีมือห่วย ไล่สียังไม่เป็นเลยค่ะ

เนื่องจากเหลวไหล ทำให้ซิ่วไม่ติดหมอ
ตอนนี้พยายามหาคณะเรียนอยู่ อยากรู้ว่า ควรเรียนอะไรแน่ แต่ก่อนหน้านั้น อยากรู้ว่าชอบเรียนวิชาไหนแน่ก่อน
บอกไม่ถูกน่ะค่ะ
ถ้าเรียนแล้วเข้าใจ ถ้าครูสอนดี คือ ในการเรียนมหาวิทยาลัย ไม่มีตัวช่วยอย่างการเรียนพิเศษ
ถ้าความจริงไม่ได้ชอบ ไม่ได้ถนัด แล้วเรียนไม่รู้เรื่อง ก็ตายใช่มั้ยคะ

เรามีแนวคิดรางๆว่า หรือความจริงอาจจะชอบเลข แต่เรียนไม่รู้เรื่องตอนม.ปลาย ก็เลยคะแนนดร็อปลง
แต่ไอความรู้สึก ทรมานตอนทำโจทย์ent มันก็ขึ้นมาหลอน
พอคิดจะไปเรียนจริงๆ ตอนนี้หนึ่งในตัวเลือกคือ คณิตประกันภัย
มองเห็นว่า มันน่าจะเป็นเหตุเป็นผล ได้คิดวิเคราะห์และมีหลักการ อาจจะเรียนได้มั้ง แต่ก็กลัว ถ้าเรียนไม่ได้ล่ะ แย่แน่ๆ
หรือจะไปเรียนเภสัช แต่ไม่ชอบการทำงานของเภสัชน่ะค่ะ -0-
หรือจะไปเรียนอักษร เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือมากๆ เป็นหนอนหนังสือเลยก็ว่าได้ คิดว่าอักษรก็น่าสนใจ
ถ้าเรียนแล้วงานแฮปปี้ เงินดีกว่าอันอื่น ก็น่าเลือกอยู่ แต่ก็เสียดายที่เคยเรียนมา
อีกอย่างบอกแล้วว่า ภาษาอังกฤษไม่ดี อักษรเป็นคณะที่มั่นใจมากค่ะ ว่าพอเข้าไปแล้วเรารั้งท้ายแน่นอน
ไม่รู้ว่า จะสามารถดึงตัวเองไปทัดเทียมเพื่อนได้มั้ย แล้วถ้าเราอยู่ในระดับแย่ของคณะล่ะ ยังจะมีอนาคตดีๆรออยู่รึเปล่า
สัตวแพทย์ ก็ดูน่าสนใจ ชอบดูสำรวจโลก ดิสคัฟเวอรี่ตอนเด็กๆ ก่อนบ้านจะไม่มีเงินจ่ายค่าทรูวิชั่น
ชอบฟาร์มวัวนม และรูปแบบการเรียน ตอนอ่านหนังสือ born to be สัตวแพทย์ ก็น่าสนใจ แต่ว่า กลัวไก่มากค่ะ ไม่กล้าจับเลย
ถามกี่คนๆ ก็ตอบเหมือนกัน ตีความได้ว่า เลี่ยงไม่ได้ แค่จินตนาการว่าจะต้องเรียนก็แย่แล้ว นอนฝันร้ายเลย
แถมเรามีความจำเป็นค่ะ ต้องการอาชีพที่มีความก้าวหน้า
จริงๆแล้ว รู้สึกเหมือนไฟดับหมด ในใจมีเกณฑ์กว้างๆแค่ ขอให้ก้าวหน้าเงินดี ไม่เกลียด ก็พอ แม้พอลงรายละเอียดแล้วดูเรื่องมากก็เถอะ
ต้องเลือกให้ดี เพื่อครอบครัวน่ะค่ะ เมื่อเรียนจบจะต้องเป็นเสาหลัก จนกว่าเสารองทั้งหลายจะจบตาม



เพิ่งตั้งกระทู้ที่สอง ไม่ค่อยมั่นใจว่าติดแท็กถูกมั้ย
เดาเอาว่า แท็กวิชา น่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่เรียนวิชานั้น หรือเชี่ยวชาญด้านนั้นๆ
อยากให้พูดอะไรให้ฟังหน่อยน่ะค่ะ อะไรก็ได้ ที่ช่วยในการตัดสินใจ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่