หนึ่งในนั้นคือ เรื่องเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคน ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนอ่าน
จึงมาเผยแพร่ให้รับรู้กัน
อ.นารี บอกผมว่า เจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนนั้น ไม่ได้มีแค่คน
สองคน หรือสิบ คน แต่มีนับไม่ถ้วน
เพราะเราเกิดมาหายภพหลายชาติมาก ย่อมก่อเวรก่อกรรมกับสรรพสัตว์
ทั้ง คน หรือสัตว์ จนทำให้
เขาเหล่านั้นเจ็บแค้นจากการกระทำของเรา จนตั้งจิตอาฆาต
จองเวรกับเราตามราวีเราเมื่อโอกาสจะอำนวย ยังผลให้เราประสบความวิบัติทั้งเรื่อง
การงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว และสุขภาพ บางคนถึงขั้นพิการ หรือจบชีวิตลงก็มี
อ.นารีบอกว่า วิธีที่จะให้เจ้ากรรมนายเวรของเรา อโหสิกรรม หรือยกโทษให้เราเลิกราวี
จองล้างจองผลาญกันนั้น หลายคนเข้าใจว่าคือการทำบุญและอุทิศบุญไปให้
เช่น หลังจากที่เราทำบุญครั้งใด เราก็มักอุทิศส่วนบุญนั้น
ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเรา และมักจะพูดกันเป็นแบบฉบัยตายตัวว่า
"ขออุทิศผลบุญนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า"
หรือ "ขออุทิศผลบุญนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทุกภพทุกชาติ"
ถามว่า คำอุทิศส่วนบุญนี้ทีเรามักพูดกัน ผลแห่งบูญนี้จะถึงเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่
อ.นารี ตอบว่า ผลบุญนั้นถึงเจ้ากรรมนายเวรแน่นอน
แต่เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรเรามากมาย และผลบุญนั้นจะกระจายกันไปสู่เจ้ากรรมนายเวร
ของเราแต่จะได้เพียงแค่อย่างละนิดละน้อยเท่านั้น
เพราะเจ้ากรรมนายเวรของเรามีมากมายนับไม่ถ้วน แต่กำลังบุญของเราที่ทำ
หากเป็นบุญทั่วไป เช่น ทำบุญถวายสังฆทานแล้วอุทิศให้
ผลบุญนั้นจะถูกกระจายไปอย่างละนิดละหน่อย
เช่น ถ้ามีเงิน 100 บาท เราให้คน 1 คน ค่าของเงิน 100 บาทกับ 1 คนนั้นย่อมมีมาก
แต่หากเรามีเงิน 100 บาท แต่ให้คน 100 คน เท่ากัย
แต่ละคนจะได้ค่าเงินน้อยมากคือได้คนละ 1 บาท
นี่คือการอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรแบบไม่เจาะจง
อ.นารี บอกว่า เจ้ากรรมนายเวรของเราแม้จะมีมากมาย
แต่จริงๆจะมาเล่นงานเราได้แค่บางตนเท่านั้นในแต่ละชาติไม่ได้มา
ทวงหนี้กรรมเราทั้งหมดทีเดียว แต่จะทยอยมาตามทวงเมื่อถึงวาระเงื่อนเวลาแห่งกรรม
ดังนั้น อ. นารีจึงแนะนำว่า หากเราจะอุทิศผลบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร
ของเราให้ได้ผลที่สุด
ก็ควรจะอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจะมาทวงหนี้กรรมจากเราก่อน
คือที่กำลังเล่นงานเราอยู่ขณะนี้
แต่คำถามคือ จะรู้ได้อย่างไรว่า เจ้ากรรมนายเวรของเราขณะนี้คือ
ใครเพราะเราเองก็ไม่มีญาณหยั่งรู้ได้
อ.นารีบอกว่า แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรของเราขณะนี้คือใครแต่เรา
สามารถอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนาวยเวรแบบเจาะจงโดยคำอุทิศดังนี้
"ขออุทิศส่วนบุญนี้ให้กับ เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังมา
ทวงหนี้กรรมกับข้าพเจ้าในขณะนี้และที่กำลังจะเข้ามาทวงหนี้กรรมกับข้าพเจ้า
ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับผลบุญนี้โดยทั่วกันเถิด"
หากเอ่ยเช่นนี้ผลบุญนั้นจะส่งไปยังเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังเล่นงาน
เราอยู่และกำลังจะมาเล่นงานเรา
อ.นารี บอกว่าเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เราทุกข์เดือดร้อน คือ
เจ้ากรรมนายเวรเฉพาะที่กำลังมาทวงหนี้กรรมเราอยู่เท่านั้น
ส่วนเจ้ากรรมนายเราอื่นๆของเรา เขายังไม่ถีงเวลามาทวงก็เข้ามาทำอะไรเรายังไม่ได้
ดังนั้นเราควรอุทิศให้กับเจ้าหนี้แห่งกรรมเฉพาะหน้านี้ไปก่อน
เหมือนเราเป็นลูกหนี้เงินกู้ และมีเจ้าหนี้ 10 คน เรากู้เงินเขามาคนละ 100
มีเจ้าหนี้ 2 คนกำลังมาตามทวงเราถึงที่บ้าน และเรามีเงิน 220
เราก็ต้องชำระหนี้คืน 2 คนนี้ไปก่อน
อีก 8 คนยังไม่มาทวงก็ค้างไว้ก่อนได้
แต่หากเรามีเงิน 220 แล้วไปคืนให้ ทั้ง 10 คนเลย
พวกเขาจะได้คนละ 22 ซึ่งไม่พอกับที่เขาต้องการโดยเฉพาะ 2 คนที่ถึงเวลามาทวง
เรา เขาจะเอาให้ได้ครบตามที่เราเป็นหนี้เขา เขาก็จะตามทวงอยู่เช่นนั้น
ดังนั้นเราควรจะให้ชำระให้ 2 คนนี้ไปก่อน
และมีคำถามอีกว่า สิ่งของปัจจัยต่างๆที่เราทำบุญแล้วอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวร
เขาจะต้องการหรือไม่ เช่น เราทำบุญข้าวสารแล้วอุทิศไปให้ เขาจะพอใจหรือไม่
อ.นารีบอกว่า เปรียบว่า เจ้ากรรมนายเวรเราชอบขนกเค้ก
และอยากให้เราอุทิศขนกเค้กไปให้
แต่เราไม่รู้เพราะสื่อกับเขาไม่ได้ เราก็ไปทำบุญเป็นคุ๊กกี้ไปให้ เขาก็ได้รับคุ๊กกี้
แม้เขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็กำลังหิวแม้จะไม่ชอบคุ๊กกี้แต่ก็ทำให้เขาอิ่มท้องได้เช่นกัน
นี่คือวิธีการอุทิศผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวรที่ถูกต้อง หรือเพื่อความสบายใจเราก็อุทิศให้แบบ
เจาะจงตัวหรือแบบไม่เจาะจงก็ได้ครับ
***ปล.พอดีอ่านเจอเลยไม่มีที่มา มันเป็นไฟล์ pdf***
วิธีรับมือกับเจ้ากรรมนายเวรของเราที่กำลังมาทวงหนี้กรรม
จึงมาเผยแพร่ให้รับรู้กัน
อ.นารี บอกผมว่า เจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนนั้น ไม่ได้มีแค่คน
สองคน หรือสิบ คน แต่มีนับไม่ถ้วน
เพราะเราเกิดมาหายภพหลายชาติมาก ย่อมก่อเวรก่อกรรมกับสรรพสัตว์
ทั้ง คน หรือสัตว์ จนทำให้
เขาเหล่านั้นเจ็บแค้นจากการกระทำของเรา จนตั้งจิตอาฆาต
จองเวรกับเราตามราวีเราเมื่อโอกาสจะอำนวย ยังผลให้เราประสบความวิบัติทั้งเรื่อง
การงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว และสุขภาพ บางคนถึงขั้นพิการ หรือจบชีวิตลงก็มี
อ.นารีบอกว่า วิธีที่จะให้เจ้ากรรมนายเวรของเรา อโหสิกรรม หรือยกโทษให้เราเลิกราวี
จองล้างจองผลาญกันนั้น หลายคนเข้าใจว่าคือการทำบุญและอุทิศบุญไปให้
เช่น หลังจากที่เราทำบุญครั้งใด เราก็มักอุทิศส่วนบุญนั้น
ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเรา และมักจะพูดกันเป็นแบบฉบัยตายตัวว่า
"ขออุทิศผลบุญนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า"
หรือ "ขออุทิศผลบุญนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทุกภพทุกชาติ"
ถามว่า คำอุทิศส่วนบุญนี้ทีเรามักพูดกัน ผลแห่งบูญนี้จะถึงเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่
อ.นารี ตอบว่า ผลบุญนั้นถึงเจ้ากรรมนายเวรแน่นอน
แต่เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรเรามากมาย และผลบุญนั้นจะกระจายกันไปสู่เจ้ากรรมนายเวร
ของเราแต่จะได้เพียงแค่อย่างละนิดละน้อยเท่านั้น
เพราะเจ้ากรรมนายเวรของเรามีมากมายนับไม่ถ้วน แต่กำลังบุญของเราที่ทำ
หากเป็นบุญทั่วไป เช่น ทำบุญถวายสังฆทานแล้วอุทิศให้
ผลบุญนั้นจะถูกกระจายไปอย่างละนิดละหน่อย
เช่น ถ้ามีเงิน 100 บาท เราให้คน 1 คน ค่าของเงิน 100 บาทกับ 1 คนนั้นย่อมมีมาก
แต่หากเรามีเงิน 100 บาท แต่ให้คน 100 คน เท่ากัย
แต่ละคนจะได้ค่าเงินน้อยมากคือได้คนละ 1 บาท
นี่คือการอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรแบบไม่เจาะจง
อ.นารี บอกว่า เจ้ากรรมนายเวรของเราแม้จะมีมากมาย
แต่จริงๆจะมาเล่นงานเราได้แค่บางตนเท่านั้นในแต่ละชาติไม่ได้มา
ทวงหนี้กรรมเราทั้งหมดทีเดียว แต่จะทยอยมาตามทวงเมื่อถึงวาระเงื่อนเวลาแห่งกรรม
ดังนั้น อ. นารีจึงแนะนำว่า หากเราจะอุทิศผลบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร
ของเราให้ได้ผลที่สุด
ก็ควรจะอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจะมาทวงหนี้กรรมจากเราก่อน
คือที่กำลังเล่นงานเราอยู่ขณะนี้
แต่คำถามคือ จะรู้ได้อย่างไรว่า เจ้ากรรมนายเวรของเราขณะนี้คือ
ใครเพราะเราเองก็ไม่มีญาณหยั่งรู้ได้
อ.นารีบอกว่า แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรของเราขณะนี้คือใครแต่เรา
สามารถอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนาวยเวรแบบเจาะจงโดยคำอุทิศดังนี้
"ขออุทิศส่วนบุญนี้ให้กับ เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังมา
ทวงหนี้กรรมกับข้าพเจ้าในขณะนี้และที่กำลังจะเข้ามาทวงหนี้กรรมกับข้าพเจ้า
ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับผลบุญนี้โดยทั่วกันเถิด"
หากเอ่ยเช่นนี้ผลบุญนั้นจะส่งไปยังเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังเล่นงาน
เราอยู่และกำลังจะมาเล่นงานเรา
อ.นารี บอกว่าเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เราทุกข์เดือดร้อน คือ
เจ้ากรรมนายเวรเฉพาะที่กำลังมาทวงหนี้กรรมเราอยู่เท่านั้น
ส่วนเจ้ากรรมนายเราอื่นๆของเรา เขายังไม่ถีงเวลามาทวงก็เข้ามาทำอะไรเรายังไม่ได้
ดังนั้นเราควรอุทิศให้กับเจ้าหนี้แห่งกรรมเฉพาะหน้านี้ไปก่อน
เหมือนเราเป็นลูกหนี้เงินกู้ และมีเจ้าหนี้ 10 คน เรากู้เงินเขามาคนละ 100
มีเจ้าหนี้ 2 คนกำลังมาตามทวงเราถึงที่บ้าน และเรามีเงิน 220
เราก็ต้องชำระหนี้คืน 2 คนนี้ไปก่อน
อีก 8 คนยังไม่มาทวงก็ค้างไว้ก่อนได้
แต่หากเรามีเงิน 220 แล้วไปคืนให้ ทั้ง 10 คนเลย
พวกเขาจะได้คนละ 22 ซึ่งไม่พอกับที่เขาต้องการโดยเฉพาะ 2 คนที่ถึงเวลามาทวง
เรา เขาจะเอาให้ได้ครบตามที่เราเป็นหนี้เขา เขาก็จะตามทวงอยู่เช่นนั้น
ดังนั้นเราควรจะให้ชำระให้ 2 คนนี้ไปก่อน
และมีคำถามอีกว่า สิ่งของปัจจัยต่างๆที่เราทำบุญแล้วอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวร
เขาจะต้องการหรือไม่ เช่น เราทำบุญข้าวสารแล้วอุทิศไปให้ เขาจะพอใจหรือไม่
อ.นารีบอกว่า เปรียบว่า เจ้ากรรมนายเวรเราชอบขนกเค้ก
และอยากให้เราอุทิศขนกเค้กไปให้
แต่เราไม่รู้เพราะสื่อกับเขาไม่ได้ เราก็ไปทำบุญเป็นคุ๊กกี้ไปให้ เขาก็ได้รับคุ๊กกี้
แม้เขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็กำลังหิวแม้จะไม่ชอบคุ๊กกี้แต่ก็ทำให้เขาอิ่มท้องได้เช่นกัน
นี่คือวิธีการอุทิศผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวรที่ถูกต้อง หรือเพื่อความสบายใจเราก็อุทิศให้แบบ
เจาะจงตัวหรือแบบไม่เจาะจงก็ได้ครับ
***ปล.พอดีอ่านเจอเลยไม่มีที่มา มันเป็นไฟล์ pdf***