รักครั้งใหม่กับคนใหม่ที่เข้ากันได้ทุกอย่างแต่ต่างกันแค่อายุ

เรากำลังรู้สึกดีกับคนๆนึง มันเหมือนปัปปี้เลิฟสมัยมอปลายไงไม่รู้ น่ารักดี
เรารู้จักกับคนๆนี้มานานแล้ว แต่ก็เพิ่งมาคบกันแบบจริงจังก็ตอนนี้ค่ะ คือเค้าเด็กกว่าเรา 5 ปี กำลังเรียนอยู่ด้วย
ปีสี่แล้ว ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะสำหรับเรา

เริ่มแรกเลยคือเรากับเค้ารู้จักกันตอนเราเรียนมัธยม เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน  ตอนนั้นเราอยู่มอ 6 ได้มั้ง เค้าเพิ่งจะ ม.1 หรือ ม.2 นี่แหละค่ะ
เราอยู่หมู่บ้านเดียวกับเค้า บ้านก็ซอยเดียวกัน แต่บ้านเราอยู่สุดซอยเลย ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าน้องเค้าอยู่หมู่บ้านเดียวกัน
แถมโรงเรียนเดียวกันอีก จนตอนนั้นเรายังจำได้ดี คือวันนั้นมีสอบไฟนอลวันแรก พ่อก็ขับรถไปส่งเราปกติเหมือนทุกวัน
อยู่ๆก็มีเด็กมอต้นมาโบกรถพ่อเราให้หยุด พ่อเราเห็นก็เลยจอดถาม น้องคนนั้นก็บอกว่า
ผมขออาศัยรถคุณลุงไปหน้าหมู่บ้านหน่อยครับ เดี๋ยวผมขึ้นแท็กซี่ไปเอง  
จำได้ว่าเค้าพูดประมาณนี้อ่ะค่ะ คือนานมากแล้ว

พ่อเราเห็นที่ปกเสื้อน้อง น้องอยู่โรงเรียนเดียวกับเรา ก็เลยให้น้องขึ้นรถมา ตอนขึ้นมานั่งน้องคงไม่ได้สังเกตุว่าเรานั่งอยู่ด้วย
น้องทำหน้างงๆ มึนๆ หรือหน้าน้องมึนอยู่แล้วไม่รู้ พ่อเราก็เลยบอกว่า ไปนั่งข้างหลังเลยลูก
ตอนนั่งรถพ่อบอกว่าเดี๋ยวพ่อไปส่งเลยเพราะโรงเรียนเดียวกัน จำได้ว่าพ่อพูดเยอะมากๆ เรานั่งอึ้งเลยทีเดียว
คือเราไม่เคยเห็นพ่อพูดมากกับใครมาก่อน สงสัยพอเห็นว่าเรากับน้องอยู่ รร. เดียวกันมั้งก็เลยสนใจเป็นพิเศษ
เรานั่งเงียบเลย นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้จักกัน

เราเจอน้องบ้างใน รร. คุยบ้างตามมารยาท เริ่มรู้จักชื่อกัน ทักกันทุกครั้งที่เจอ
เคยเจอพ่อแม่น้องด้วยเพราะน้องเคยชวนเรากลับบ้านตอนพ่อเค้ามารับ
พอเริ่มสนิทกัน น้องก็มาถามการบ้านบ้าง ไรบ้างตามประสา
จนเทอมสองเราก็ไม่ค่อยเจอน้องแล้ว เพราะต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัย

เจอบ้างในโรงอาหารที่ รร. พอเอนท์ติดมหาลัย เราก็อยู่หอตลอด
เด็กชายมอต้นคนนั้นก็เริ่มหายไปจากความนึกคิด

จากตอนนั้นถึงตอนนี้ผ่านมา 9 ปี ผ่านอะไรมาเยอะแยะ เจอความรักที่ทำให้สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ก็เพิ่งรู้ว่ามันรู้สึกอย่างงี้
เคยคิดว่าไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว แต่วันนึงเมื่อหลายเดือนก่อน กลับมาที่บ้าน
มาหาที่พักใจกับพ่อแม่ เพราะตั้งแต่ทำงานมาก็อยู่คอนโดมาตลอด
ตอนขับรถกลับบ้าน เราเห็นผู้หญิง เอ๊ะหรือผู้ชาย หรือทอมวะ
ผมยาวๆ ดูเซอร์ๆคนนึงเดินออกมาทิ้งขยะ ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในซอยบ้านเรา
ซึ่งรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเดจาวูเลย ทำให้นึกถึงตอนเด็กมอต้นคนนึงมาโบกรถพ่อ เมื่อหลายปีที่แล้ว

ใช่ว่าเราไม่เคยกลับบ้านนะ เรากลับบ้านบ่อยเลย แต่เหมือนลืมๆบรรยากาศตอนเด็กๆไปนานแล้ว
แต่พอเห็นผู้ชาย เอ๊ะหรือผู้หญิง หรือทอมกันแน่หว่า คนนั้นแล้วมันติดใจ
นึกไปถึงตอนเด็ก จำได้ว่าเคยรู้จักคนบ้านนั้นเหมือนกันนี่หว่า
ตอนนั้นสนิทด้วยซ้ำ แต่มาห่างๆกันตอนไหนก็ไม่รู้

ถึงบ้านก็รีบกลับไปถามแม่ถึงคนบ้านนั้นทันที มันคิดถึงไงไม่รู้
แม่บอกว่าน้องเค้าโตแล้ว เรียนเก่งด้วย
อ้าวแม่ แม่รู้ได้ไงว่าหนูถามถึงน้อง หนูถามถึงคนบ้านนั้นต่างหาก
หมายถึงทั้งบ้านอ่ะ แม่ตอบไม่ตรงประเด็น

พอแม่พูดถึงน้อง ก็เลยถามแม่ไปว่า น้องโตมาเป็นไงบ้าง
แม่บอกเราว่า น้องก็เรียนอยู่ไง โตแล้ว เป็นหนุ่มแล้ว
อีกแล้วอ่ะแม่ ตอบไม่ตรงคำถาม

เราก็เลยถามไปว่า น้องอ่ะ โตมาเป็นไงบ้าง หน้าตาเป็นไง
แม่ยิ้มๆบอกว่า อ่อ อยากรู้แต่เรื่องผู้ชายว่างั้น!!
อ้าวแม่ หาว่าหนู แ_ดล่ะสิ!!

จากวันนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นไงบ้าง หมายถึงหน้าตาเป็นไง จริงๆเราก็แ_ดอย่างที่แม่ว่าแหละ 555
เราก็ลืมๆไป คือตอนนั้นว่างงานด้วย เพิ่งลาออก กำลังหางานใหม่ อยู่แต่บ้านเกือบเดือน

จนวันนึงเค้าก็โทรมาเรียกสัมภาษณ์ เราได้งานเสร็จสรรพ ตั้งใจว่าจะไปอยู่คอนโดเหมือนเดิม เพราะใกล้ที่ทำงาน
ทั้งที่ใจจริงอยากอยู่บ้านมากกว่า เราตัดสินใจไปอยู่คอนโดได้สองอาทิตย์ แม่ก็โทรมาบอกว่า
อาทิตย์หน้าพี่...แต่งงานน่ะ จำได้มั้ย พี่สาวน้อง (เด็กมอต้นคนนั้น) ไง ไปงานแต่งพี่เค้ากับแม่นะ

เราก็เออออไปเรียบร้อย จำไม่ได้ว่าพี่คนไหน น้องคนไหน อะไรของแม่หรอก แม่ชวนไปก็ไป จะไปกินของฟรีด้วย เหอะๆ
จนถึงวันงาน เราก็ไปกับแม่ พ่อไม่ได้ไปติดธุระ พาน้องชายตัวแสบมาด้วย
ตอนขับรถก็เลยถามแม่ว่า ไปงานแต่งใครนะแม่ ลูกท่านหลานเธอหรือเปล่า
แม่บอกว่า เอ้า ไอ้นี่ ก็ลูกป้า...พี่สาวน้อง (เด็กมอต้นหัวเกรียนคนนั้น) ไง เค้าแต่งกะฝรั่งอ่ะ แกจำได้มั้ย พี่...น่ะ

อ้ออออ ถึงบางอ้อซะที เกือบโดนแม่ตบกบาล พี่สาวไอ้เด็กหัวเกรียนนี่เอง
เอ แล้วหน้าตาจะเป็นไงน้าาา อยากเห็นหน้าน้องมากๆเลยตอนนั้น
ไปถึงงานแต่งเค้าปุ๊ป แม่เราก็ปรี่เข้าหาเจ้าสาว ปล่อยให้เรากับน้องชายยืนเอ๋ออยู่
เราก็เลยจูงมือน้องชายเดินตามแม่ไปแบบงงๆ
จำได้ว่าเจ้าสาวสวยมากกกกก และเจ้าบ่าวก็ตัวใหญ่สมเป็นหนุ่มตาน้ำข้าวจริง ก็เหมาะสมกันดี

จำพี่เค้าไม่ได้เลย สวยขึ้นมากกกก คุยกันเป็นพิธีก็รีบไปหาของกินเพราะหิวแล้ว
กินอยู่ดีๆนึกขึ้นได้ว่า เออ เรายังไม่เจอไอ้เด็กหัวเกรียนเลยนี่หว่า อยู่ไหนเนี่ยยย
เดินไปถามแม่ แม่ไหนน้องอ่ะ แม่เรางง บอกว่า ก็เมื่อกี๊ยืนอยู่ข้างๆแม่เค้าไง ไม่เห็นเหรอ

เรางงยิ่งกว่า คนไหน อะไรยังไง แม่นะแม่มัวแต่เม้าท์ แม่ก็เลยลากเราไปเจอน้อง
น้องยืนอยู่ข้างแม่เค้าจริงๆ ผู้ชายหน้าหวานเกือบสวยเลยอ่ะ
ขาวมากกกกก คนที่ทำให้เรางงวันนั้นแหละ
ที่เราบอกว่า คนนี้มันเป็นชาย หญิง หรือทอมกันอ่ะ คนนั้นแหละ

สรุปแล้วมันคือผู้ชาย เค้าคือเด็กหัวเกรียนมอต้นคนนั้นแหละ บอกได้คำเดียวว่าอึ้ง โตมางี้หล่อ (หรือสวยดีหว่า)
คงเพราะผมยาวด้วยมั้ง ก็เลยดูหน้าหวาน น้องยิ้มให้และทักเราก่อนว่าเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย นู่นนี่นั่น ตามประสา

น้องพูดเยอะมาก เราเอ๋อกินไปเลย มารู้ตัวอีกทีน้องบอกว่า ขอไอดีไลน์หน่อยพี่ เราก็งงๆ ให้เค้าไป
ตอนกลับจากงาน น้องไลน์มาหาเราทั้งคืน นอนเกือบตีสี่อ่ะ อยากบอกเหลือเกินว่าทำไมไม่โทรคุยให้รู้แล้ว
รู้รอดไปเลยเนี่ยยย

ช่วงนั้นเรียกได้ว่าเราสนิทกันมากกว่าเดิมอีกครั้ง เราเริ่มติดต่อกัน จนกลายเป็นความรู้สึกดีๆกับเค้า ตอนไปกินข้าวด้วยกัน
เราถามว่าทำไมไว้ผมซะฮาร์ดคอ แบบนี้ล่ะ เค้าถามว่าอยากให้ตัดเหรอ เราไม่ได้อยากให้เค้าตัดหรอก เป็นอย่างนี้ก็ดีอยู่
แต่ตัดก็ดีไง คือเข้าใจแหละว่าเค้าเรียนถาปัด การที่ไว้ผมยาวมันก็ปกติของเด็กคณะนี้
แต่พอเค้าไว้ผมยาวแล้วมันดูสวยมากกว่าเซอร์นะ แหะๆ

รู้มั้ยพอเราพูดไปอย่างนั้น เค้าอุตส่าห์ลงทุนไปตัดผมมาซะเรียบร้อย ตอนนี้เค้าผมสั้นแล้ว ดูแปลกตาไป ดูสะอาดสะอ้าน
ดูหน้าตาแมนขึ้นมานิสสนุง ดูหล่อหวานๆอ่ะค่ะ เรามาเจออีกทีเล่นซะงงเลย อะไรจะตัดใจเร็วได้ขนาดนั้น
เห็นว่าอุตส่าห์เลี้ยงผมมาตั้งนาน แต่ก็ดีค่ะ ดูเรียบร้อยดี

อึ้งกับคำตอบที่เค้าบอกมากกว่าว่า เพื่อพี่(ชื่อเรา) เค้ายอมตัดให้ก็ได้อ่ะ กลัวว่าจะอายถ้าเดินด้วยกัน
แหม่ๆๆ เรียกเราว่าพี่ซะแก่เลย (ตอนนี้ก็ยังเรียก)
เค้าเข้ากะเราได้ทุกอย่าง และดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเรา และมากกว่าผู้ชายบางคน เค้าเป็นคนกล้าๆ เค้านิ่งๆนะ
แต่พูดอะไรออกมานี่ทำเราอึ้งเหมือนกัน บางครั้งดูกวนๆ ปากเสียน่าดูเลย

เคยถามเค้าว่าไม่มีแฟนจริงเหรอ เค้าบอกว่า โสดจริง ถ้าไม่จีบก่อน ผู้หญิงเค้าจะคิดว่าเค้าเป็นตุ๊ดทุกที เพราะหน้าหวาน ก็เลยโสด
ไม่รู้ว่านั่นคือคำโกหกหรือเปล่า แต่เค้าพูดมาแล้วเราอยากเชื่ออ่ะ พูดแล้วรู้สึกดี  

แค่สองเดือนที่คบกัน ไม่รู้มันเร็วไปหรือเปล่า ที่จะเรียกว่าแฟน แต่เรารู้สึกดีกับเค้า จะติดอยู่ก็ที่อายุและสังคมมั้งที่ทำให้เราคิดมาก
คือวันนั้นเราไปรับเค้าที่บาร์แห่งนึง แล้วตอนนั้นเค้าอยู่กับแก๊งค์เพื่อนเค้า เราก็เข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนเค้าพอประมาณ
แล้วเหมือนเราจะได้ยินเพื่อนเค้าพูดกับเค้าว่า สวยกว่านางงามตู้กระจกของเมริงจริงๆว่ะ

ท่าทางเพื่อนเค้าจะเมา เลยพูดเแบบนั้น เราทำหน้าไม่ถูกเลย เค้าก็ดูตกใจนะ ก็เลยผลักหัวเพื่อนเค้าไปแรงๆทีนึง
แล้วก็ชวนเรากลับ เราไม่ได้รู้สึกติดใจกับคำนี้นะ แต่เรากลัวว่าเราจะเป็นเหมือนอย่างก่อน
ที่โดนหลอก โดนหยามสารพัด เพราะไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี นั่นคือเหตุให้ต้องลาออกมาหางานใหม่

บางทีก็คิดไปว่าอาจจะเป็นธรรมดาของผู้ชายมั้ง เราถามย้ำเค้าอยู่ตลอดว่า เราเป็นแฟนกันใช่มั้ย เค้าก็บอกว่า เราเป็นแฟนกัน
ผมเป็นคนรักของพี่นะ พี่เป็นแฟนผมจริงๆแล้วนะ

เราก็ดีใจนะที่เค้าพูดแบบนั้น เราโอเคกับความรักครั้งนี้ แต่ด้วยความที่เค้าเด็กกว่าเรา ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้ต้องมาคบเด็ก
ห่างตั้งห้าปี ดูน่าเกลียดไปมั้ยคะ อีกไม่กี่ปีเราก็จะ 30 แล้ว แต่เค้ายังเป็นวัยรุ่นตอนปลายเลย เหมือนเค้าเพิ่งจะโตด้วยซ้ำอ่ะ
แม่ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้หรอก รู้แล้วจะเป็นไงหนอ เหมือนจะดีนะแต่ก็เศร้าจัง...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่