เรื่องมันมีอยู่ว่า...เรากับแฟนคบกันมากว่า 2 ปีแล้วค่ะ เรายอมรับว่าเรารู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้มากๆ เพราะมีความสุขเวลาอยู่กับครอบครัวของเค้า และเพื่อนๆของเค้า เค้าเคยเป็นผู้ชายเจ้าชู้มากๆ แต่เค้าดีขึ้นนะตั้งแต่คบกับเรา บอกเลยเราเป็นผู้หญิงที่รับไม่ได้กับการนอกใจของผู้ชาย และเคยตกลงกับเค้าตั้งแต่คบกับใหม่ๆว่า เรายอมได้ทุกอย่าง เหนื่อยแค่ไหนเราก็ทนได้ ขออย่างเดียวอย่ามีคนอื่นเพราะเรารับไม่ได้จริงๆ อันที่จริงเราเคยมีแฟนที่นอกใจเรานะ เราจับได้ เลิกเลย ตัดสินใจง่าย
แต่ครั้งนี้...มันยากกว่าทุกครั้ง เพราะไม่เชิงว่าจับได้ แต่อึดอัดมาก ก่อนหน้าจะคบกับเรา เค้าเคยกิ๊กกับเพื่อนผู้หญิงคนนึง ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง (เค้าบอก) แต่หลังจากที่คบเราใหม่ ผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเค้าบ่อยๆ เคยมีครั้งนึง ผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกับแฟนใหม่ ก็มาหาแฟนเรา(เรานั่งอยู่ด้วย) ผู้หญิงคนนั้นบอกเรา “เนี่ยถ้าเลิกกันเมื่อไหรบอกนะ จะได้คบต่อ” “แฟนเราเป็นคนดีนะ ถ้าให้เลิกกะแฟน(ที่กำลังทะเลาะกัน)เพื่อคบแฟนเรา ยอมเลย” “ อ้าว..นึกว่าแฟน จะสูงกว่านี้ ตัวเล็กจัง” (เราตัวเล็กนะ ผู้หญิงคนนั้นเค้าสูง) หลังจากแฟนเรามาส่งเราที่บ้าน เราบอกแฟนเลยว่า “ถ้าผู้หญิงคนนี้ไปอีก ไม่ต้องพาเราไป” แต่หลังจากนั้น บางคืนดึกๆ เที่ยงคืน ตี1 ตี2 ผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาคุยกันนานๆ เราเห็น แล้วระอา แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้านะ
เคสที่ 2 แฟนเก่าของแฟนเรา โทรมาหาเรา บอกขอสายคุณ.........หน่อยค่ะ เราเป็นเลขาให้แฟนนะคะ เราก็บอกว่า “ผู้จัดการไม่อยู่ค่ะ” เค้าบอก “ อ่อ งั้นไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยว.......(ชื่อเล่นผู้หญิงคนนั้น)โทรไปเบอร์มือถือเค้าเองก็ได้ค่ะ” เหมือนตั้งใจจะให้รู้ว่าคุยโทรศัพท์กัน เราโทรไปมือถือแฟนขึ้นสายซ้อน เค้าโทรกลับก็บอกว่าคุยงานอยู่ ไม่ว่าง ตกตอนเย็นเรากับแฟนทะเลาะกันอย่างหนัก กว่าเค้าจะยอมรับ พอยอมรับแล้ว เค้าอ้างว่า ติดต่อเรื่องงาน ไม่มีอะไรส่วนตัว แต่เราแค่..ไม่ชอบ เพราะเค้าก็ไม่ชอบให้เราคุยกับแฟนเก่าเหมือนกัน เลยตกลงกันก่อนแล้วว่าต่างก็จะไม่คุยกับแฟนเก่า
เคสที่ 3 แฟนเราไปกินเหล้ากินเบียร์กับเพื่อนบ่อยๆ บางครั้งก็พาเราไปนั่งด้วย ส่วนตัวเรามีความสุขเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนเค้านะ แต่ วันนี้ เราได้รู้ความลับบางอย่าง คือ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เราไปเที่ยวกับครอบครัวของเค้า จู่ๆก็มีไลน์จากผู้หญิงคนนึงทักมาตอนเที่ยงคืน ถามว่าสงกรานต์นี้ไปเที่ยวสตูลไหม (เรากับแฟนตั้งใจว่าจะไปเที่ยวสตูล แต่เปลี่ยนแผนมากับครอบครัวเค้าแทน) แฟนเราแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ว่า ผู้หญิงคนนี้ เป็นกิ๊กเก่าสมัยอยู่กรุงเทพ เพื่อนที่กรุงเทพพามาสตูลด้วย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดว่าอดีตก็คืออดีต พอกลับจากทริปสงกรานต์ เพื่อนแฟนเค้าบอกเราว่า มีช่วงนึงที่เค้าไม่ได้พาเราไปนั่งกินกับเพื่อนๆเค้า แล้วเค้าได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึง แต่แฟนเราไม่เล่นด้วย ไม่ยุ่งเลย บอกให้เราไม่ต้องคิดมาก เพราะแฟนเราให้เกียรติเรามาก เราก็เอารูปไลน์ผู้หญิงคนนั้นให้ดู เพื่อนแฟนเราบอกว่า คนนี้แหละ!! เราปรี๊ดแตกเลย เพราะเค้าโกหกเราว่าผู้หญิงคนนี้เป็นกิ๊กที่กรุงเทพ ไม่เจอกันนานแล้ว แต่จริงๆ กลับกลายเป็นว่า ผู้หญิงคนนี้มานั่งกับเพื่อนๆเค้า ตอนเราไม่อยู่ เราก็ถามแฟนเราเลย เค้าก็บอกว่า ยืนกรานเสียงแข็งว่า เค้าไม่ได้ยุ่ง!!! แต่วันนี้ เราได้รู้ความจริงว่า ผู้หญิงคนนี้เคยนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน และเค้าบอกกับเราว่า “เธอจะทำไม แค่นั่งซ้อนท้ายเฉยๆ”
เราควรทำไงดี?!!! เหนื่อยกับการต้องมารู้ความจริงทีหลัง ทะเลาะกัน เค้าไม่เคยยอมแพ้สักครั้ง เราต้องเป็นฝ่ายง้อทุกครั้ง สุดท้ายก็ดีกัน แต่ครั้งนี้เราอึดอัดมากจริงๆ เราไม่รู้ว่า แค่นั่งซ้อนท้ายจริงๆหรือเปล่า แล้วทำไมเพื่อนๆเค้าถึงต้องเชียร์ให้นั่งซ้อนท้ายกัน ไม่รู้สึกสงสารเราบ้างหรอ เพื่อนๆรับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่มีใครปริปากบอกเลย เราเสียใจมากๆ เรารักเค้ามากนะ คาดหวังด้วย หรือเราต้อง “อดทนเหมือนอูฐ ไม่พูดเหมือนปลา ซื่อสัตย์เหมือนหมา แกล้งโง่เหมือนควาย”
เมื่อเป็นแบบนี้ ควร “เจ็บ” หรือ “จบ”
แต่ครั้งนี้...มันยากกว่าทุกครั้ง เพราะไม่เชิงว่าจับได้ แต่อึดอัดมาก ก่อนหน้าจะคบกับเรา เค้าเคยกิ๊กกับเพื่อนผู้หญิงคนนึง ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง (เค้าบอก) แต่หลังจากที่คบเราใหม่ ผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเค้าบ่อยๆ เคยมีครั้งนึง ผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกับแฟนใหม่ ก็มาหาแฟนเรา(เรานั่งอยู่ด้วย) ผู้หญิงคนนั้นบอกเรา “เนี่ยถ้าเลิกกันเมื่อไหรบอกนะ จะได้คบต่อ” “แฟนเราเป็นคนดีนะ ถ้าให้เลิกกะแฟน(ที่กำลังทะเลาะกัน)เพื่อคบแฟนเรา ยอมเลย” “ อ้าว..นึกว่าแฟน จะสูงกว่านี้ ตัวเล็กจัง” (เราตัวเล็กนะ ผู้หญิงคนนั้นเค้าสูง) หลังจากแฟนเรามาส่งเราที่บ้าน เราบอกแฟนเลยว่า “ถ้าผู้หญิงคนนี้ไปอีก ไม่ต้องพาเราไป” แต่หลังจากนั้น บางคืนดึกๆ เที่ยงคืน ตี1 ตี2 ผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาคุยกันนานๆ เราเห็น แล้วระอา แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้านะ
เคสที่ 2 แฟนเก่าของแฟนเรา โทรมาหาเรา บอกขอสายคุณ.........หน่อยค่ะ เราเป็นเลขาให้แฟนนะคะ เราก็บอกว่า “ผู้จัดการไม่อยู่ค่ะ” เค้าบอก “ อ่อ งั้นไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยว.......(ชื่อเล่นผู้หญิงคนนั้น)โทรไปเบอร์มือถือเค้าเองก็ได้ค่ะ” เหมือนตั้งใจจะให้รู้ว่าคุยโทรศัพท์กัน เราโทรไปมือถือแฟนขึ้นสายซ้อน เค้าโทรกลับก็บอกว่าคุยงานอยู่ ไม่ว่าง ตกตอนเย็นเรากับแฟนทะเลาะกันอย่างหนัก กว่าเค้าจะยอมรับ พอยอมรับแล้ว เค้าอ้างว่า ติดต่อเรื่องงาน ไม่มีอะไรส่วนตัว แต่เราแค่..ไม่ชอบ เพราะเค้าก็ไม่ชอบให้เราคุยกับแฟนเก่าเหมือนกัน เลยตกลงกันก่อนแล้วว่าต่างก็จะไม่คุยกับแฟนเก่า
เคสที่ 3 แฟนเราไปกินเหล้ากินเบียร์กับเพื่อนบ่อยๆ บางครั้งก็พาเราไปนั่งด้วย ส่วนตัวเรามีความสุขเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนเค้านะ แต่ วันนี้ เราได้รู้ความลับบางอย่าง คือ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เราไปเที่ยวกับครอบครัวของเค้า จู่ๆก็มีไลน์จากผู้หญิงคนนึงทักมาตอนเที่ยงคืน ถามว่าสงกรานต์นี้ไปเที่ยวสตูลไหม (เรากับแฟนตั้งใจว่าจะไปเที่ยวสตูล แต่เปลี่ยนแผนมากับครอบครัวเค้าแทน) แฟนเราแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ว่า ผู้หญิงคนนี้ เป็นกิ๊กเก่าสมัยอยู่กรุงเทพ เพื่อนที่กรุงเทพพามาสตูลด้วย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดว่าอดีตก็คืออดีต พอกลับจากทริปสงกรานต์ เพื่อนแฟนเค้าบอกเราว่า มีช่วงนึงที่เค้าไม่ได้พาเราไปนั่งกินกับเพื่อนๆเค้า แล้วเค้าได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึง แต่แฟนเราไม่เล่นด้วย ไม่ยุ่งเลย บอกให้เราไม่ต้องคิดมาก เพราะแฟนเราให้เกียรติเรามาก เราก็เอารูปไลน์ผู้หญิงคนนั้นให้ดู เพื่อนแฟนเราบอกว่า คนนี้แหละ!! เราปรี๊ดแตกเลย เพราะเค้าโกหกเราว่าผู้หญิงคนนี้เป็นกิ๊กที่กรุงเทพ ไม่เจอกันนานแล้ว แต่จริงๆ กลับกลายเป็นว่า ผู้หญิงคนนี้มานั่งกับเพื่อนๆเค้า ตอนเราไม่อยู่ เราก็ถามแฟนเราเลย เค้าก็บอกว่า ยืนกรานเสียงแข็งว่า เค้าไม่ได้ยุ่ง!!! แต่วันนี้ เราได้รู้ความจริงว่า ผู้หญิงคนนี้เคยนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน และเค้าบอกกับเราว่า “เธอจะทำไม แค่นั่งซ้อนท้ายเฉยๆ”
เราควรทำไงดี?!!! เหนื่อยกับการต้องมารู้ความจริงทีหลัง ทะเลาะกัน เค้าไม่เคยยอมแพ้สักครั้ง เราต้องเป็นฝ่ายง้อทุกครั้ง สุดท้ายก็ดีกัน แต่ครั้งนี้เราอึดอัดมากจริงๆ เราไม่รู้ว่า แค่นั่งซ้อนท้ายจริงๆหรือเปล่า แล้วทำไมเพื่อนๆเค้าถึงต้องเชียร์ให้นั่งซ้อนท้ายกัน ไม่รู้สึกสงสารเราบ้างหรอ เพื่อนๆรับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่มีใครปริปากบอกเลย เราเสียใจมากๆ เรารักเค้ามากนะ คาดหวังด้วย หรือเราต้อง “อดทนเหมือนอูฐ ไม่พูดเหมือนปลา ซื่อสัตย์เหมือนหมา แกล้งโง่เหมือนควาย”