ด้วยความที่ผมกับแฟนเป็นคนชอบจับตุ๊กตา
เวลาไปโตเกียวทีไร ก็ต้องแวะเวียนไปย่าน Akihabara ทริปละหลายรอบ
พอจะไปโตเกียวครั้งล่าสุด แฟนเลยเสนอให้หาโรงแรมย่าน Akihabara ไปเลยดีกว่า
ซึ่งทำให้เราพบว่า ใกล้ๆ กับมหานครของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้จับตุ๊กตา อนิเมะ และสาวเมด
มี Business Hotel หน้าตาดี ในราคาไม่แพงซ่อนตัวอยู่ด้วย
นั่นคือโรงแรม Viainn Akihabara
การเดินทาง
จากสถานี JR Akihabara ออกทาง Central Gate หรือด้านที่ใกล้ๆ กับห้าง Yodabashi
จากนั้นเลี้ยวขวาผ่านหน้าโรงแรม Remm Akihabara
ข้ามถนน แล้วเลี้ยวขวาไปนิดเดียว จะพบสะพานข้ามคลองอยู่ทางซ้ายมือใต้รางรถไฟ
ข้ามสะพานนั้นไปแล้วเลี้ยวขวาอีกหน่อย ก็จะเจอโรงแรมแล้วครับ
ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
นอกจาก JR แล้ว ในละแวกนั้นยังมีทั้งสถานี Akihabara (Tokyo Metro)
สถานี Iwamotocho (Toei Subway) และสถานีของ Tsukuba Express (นั่งไป Asakusa ได้)
จึงถือเป็นย่านที่เดินทางได้สะดวกพอสมควร
แต่มีข้อเสียคือ ถ้าจะเดินทางไป Shinjuku, Harajuku หรือ Shibuya ต้องใช้เวลานั่งรถประมาณ 30 นาที
ห้องพัก
สิ่งที่ทำให้เลือกโรงแรมนี้ ก็คือห้องพักที่ดูหน้าตาดี มีดีไซน์ และมีหน้าต่างที่มองเห็นวิว
ตอนที่จองก็แจ้งไปด้วยว่าอยากได้ห้องพักบนชั้นสูงๆ ทางโรงแรมก็จัดชั้น 22 ให้ครับ
โรงแรมนี้มีลูกเล่นอยู่ที่แต่ละชั้น จะใช้ฟอนต์ที่ต่างกันในการตกแต่ง
ช่องระเบียงตรงกลางเปิดโล่งไม่มีหลังคา จึงสามารถเปิดประตูห้องออกมาเช็คอุณหภูมิกันได้
ห้องพักของโรงแรมก็ดูดีไม่ต่างจากรูปที่เห็นในอินเทอร์เน็ตครับ
ห้องนี้เป็นห้องแบบ Single A เตียงกว้าง 140 cm นอน 2 คนได้ไม่อึดอัด
หมอนเป็นแบบยัดหลอดพลาสติก นอนสบายดี ไม่นิ่มหรือแข็งไป
มีโต๊ะเล็กๆ สำหรับซื้ออาหารมารับประทานได้ด้วย
ถึงห้องจะไม่ใหญ่ แต่ก็มีทุกอย่างที่จำเป็นครบ
ทุกอย่างที่ใส่มาในห้องมีประโยชน์ใช้สอยทั้งนั้น
คนที่ชอบสไตล์ Muji น่าจะประทับใจห้องพักของที่นี่ไม่น้อย
ส่วนไฮไลต์ของโรงแรมนี้ อยู่ที่อ่างอาบน้ำครับ
นอกจากอ่างจะกว้าง ยังมีหน้าต่างให้นั่งดูวิวเวลาแช่น้ำอีกด้วย
แนะนำว่า เวลาจอง ให้ระบุไปด้วยว่าอยากได้ห้องที่มีหน้าต่างในห้องน้ำนะครับ
เราสองคนพักอยู่ที่นี่ 9 คืน หลับสนิทดีทุกคืนครับ
อาหารเช้า
ที่ Viainn Akihabara มีอาหารเช้าฟรีตั้งแต่ 7.00 - 9.30 น.
แต่ละวันจะมีขนมปัง 6-8 อย่าง เช่น ครัวซองส์ แดนิช ขนมปังแฮมชีส ฯลฯ
โอนิงิริ 2-3 อย่าง / สลัดผัก / ไส้กรอก / ซุปมิโสะ
ชา / กาแฟ / น้ำส้ม / นม / คอนเฟลก
อาจดูไม่เยอะ แต่ก็รสชาติดีเกือบทุกอย่าง
โดยเฉพาะครัวซองส์กับไส้กรอก ต้องหยิบใส่ถาดเป็นประจำทุกวันเลยครับ
(ภาพห้องอาหารจาก www.rakuten.co.jp)
ไวไฟ
โรงแรมมีไวไฟฟรีบริเวณล็อบบี และห้องอาหารที่ชั้น 2
ส่วนบนห้อง ทางโรงแรมมีอุปกรณ์ให้เอาไปเสียบกับสายแลนในห้องเพื่อให้ใช้ไวไฟได้
แต่ทางพนักงานบอกว่า มักจะใช้งานกับมือถือของต่างชาติไม่ได้
ผมลองแล้วก็ใช้งานไม่ได้จริงๆ ครับ T_T
ราคา
ทริปนี้พัก 9 คืน ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
ในราคา 82,700 เยน เฉลี่ยแล้วคืนละประมาณ 2,900 บาท
ส่วนการจองก็ไม่วุ่นวายครับ แฟนผมจองผ่านเว็บของโรงแรมโดยตรง
https://www.rj-win.jp/USER_e/plan/list/?group_id=29&hotel_id=122
แค่กรอกข้อมูลทั่วไป ไม่ต้องใช้เลขบัตรเครดิตก็จองได้เลย
แล้วเอาเมลคอนเฟิร์มการจองไปแสดงตอนเช็คอิน
สรุป
เคยนอนโรงแรมที่ญี่ปุ่นมา 4 แห่ง นี่เป็นโรงแรมที่ชอบที่สุดเลยครับ
ทั้งทำเล และความสะดวกสบาย ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาดีครับ
[CR] [CR] อยู่ดี กินดี มีสไตล์ ที่โรงแรม Viainn Akihabara
เวลาไปโตเกียวทีไร ก็ต้องแวะเวียนไปย่าน Akihabara ทริปละหลายรอบ
พอจะไปโตเกียวครั้งล่าสุด แฟนเลยเสนอให้หาโรงแรมย่าน Akihabara ไปเลยดีกว่า
ซึ่งทำให้เราพบว่า ใกล้ๆ กับมหานครของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้จับตุ๊กตา อนิเมะ และสาวเมด
มี Business Hotel หน้าตาดี ในราคาไม่แพงซ่อนตัวอยู่ด้วย
นั่นคือโรงแรม Viainn Akihabara
การเดินทาง
จากสถานี JR Akihabara ออกทาง Central Gate หรือด้านที่ใกล้ๆ กับห้าง Yodabashi
จากนั้นเลี้ยวขวาผ่านหน้าโรงแรม Remm Akihabara
ข้ามถนน แล้วเลี้ยวขวาไปนิดเดียว จะพบสะพานข้ามคลองอยู่ทางซ้ายมือใต้รางรถไฟ
ข้ามสะพานนั้นไปแล้วเลี้ยวขวาอีกหน่อย ก็จะเจอโรงแรมแล้วครับ
ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
นอกจาก JR แล้ว ในละแวกนั้นยังมีทั้งสถานี Akihabara (Tokyo Metro)
สถานี Iwamotocho (Toei Subway) และสถานีของ Tsukuba Express (นั่งไป Asakusa ได้)
จึงถือเป็นย่านที่เดินทางได้สะดวกพอสมควร
แต่มีข้อเสียคือ ถ้าจะเดินทางไป Shinjuku, Harajuku หรือ Shibuya ต้องใช้เวลานั่งรถประมาณ 30 นาที
ห้องพัก
สิ่งที่ทำให้เลือกโรงแรมนี้ ก็คือห้องพักที่ดูหน้าตาดี มีดีไซน์ และมีหน้าต่างที่มองเห็นวิว
ตอนที่จองก็แจ้งไปด้วยว่าอยากได้ห้องพักบนชั้นสูงๆ ทางโรงแรมก็จัดชั้น 22 ให้ครับ
โรงแรมนี้มีลูกเล่นอยู่ที่แต่ละชั้น จะใช้ฟอนต์ที่ต่างกันในการตกแต่ง
ช่องระเบียงตรงกลางเปิดโล่งไม่มีหลังคา จึงสามารถเปิดประตูห้องออกมาเช็คอุณหภูมิกันได้
ห้องพักของโรงแรมก็ดูดีไม่ต่างจากรูปที่เห็นในอินเทอร์เน็ตครับ
ห้องนี้เป็นห้องแบบ Single A เตียงกว้าง 140 cm นอน 2 คนได้ไม่อึดอัด
หมอนเป็นแบบยัดหลอดพลาสติก นอนสบายดี ไม่นิ่มหรือแข็งไป
มีโต๊ะเล็กๆ สำหรับซื้ออาหารมารับประทานได้ด้วย
ถึงห้องจะไม่ใหญ่ แต่ก็มีทุกอย่างที่จำเป็นครบ
ทุกอย่างที่ใส่มาในห้องมีประโยชน์ใช้สอยทั้งนั้น
คนที่ชอบสไตล์ Muji น่าจะประทับใจห้องพักของที่นี่ไม่น้อย
ส่วนไฮไลต์ของโรงแรมนี้ อยู่ที่อ่างอาบน้ำครับ
นอกจากอ่างจะกว้าง ยังมีหน้าต่างให้นั่งดูวิวเวลาแช่น้ำอีกด้วย
แนะนำว่า เวลาจอง ให้ระบุไปด้วยว่าอยากได้ห้องที่มีหน้าต่างในห้องน้ำนะครับ
เราสองคนพักอยู่ที่นี่ 9 คืน หลับสนิทดีทุกคืนครับ
อาหารเช้า
ที่ Viainn Akihabara มีอาหารเช้าฟรีตั้งแต่ 7.00 - 9.30 น.
แต่ละวันจะมีขนมปัง 6-8 อย่าง เช่น ครัวซองส์ แดนิช ขนมปังแฮมชีส ฯลฯ
โอนิงิริ 2-3 อย่าง / สลัดผัก / ไส้กรอก / ซุปมิโสะ
ชา / กาแฟ / น้ำส้ม / นม / คอนเฟลก
อาจดูไม่เยอะ แต่ก็รสชาติดีเกือบทุกอย่าง
โดยเฉพาะครัวซองส์กับไส้กรอก ต้องหยิบใส่ถาดเป็นประจำทุกวันเลยครับ
(ภาพห้องอาหารจาก www.rakuten.co.jp)
ไวไฟ
โรงแรมมีไวไฟฟรีบริเวณล็อบบี และห้องอาหารที่ชั้น 2
ส่วนบนห้อง ทางโรงแรมมีอุปกรณ์ให้เอาไปเสียบกับสายแลนในห้องเพื่อให้ใช้ไวไฟได้
แต่ทางพนักงานบอกว่า มักจะใช้งานกับมือถือของต่างชาติไม่ได้
ผมลองแล้วก็ใช้งานไม่ได้จริงๆ ครับ T_T
ราคา
ทริปนี้พัก 9 คืน ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
ในราคา 82,700 เยน เฉลี่ยแล้วคืนละประมาณ 2,900 บาท
ส่วนการจองก็ไม่วุ่นวายครับ แฟนผมจองผ่านเว็บของโรงแรมโดยตรง
https://www.rj-win.jp/USER_e/plan/list/?group_id=29&hotel_id=122
แค่กรอกข้อมูลทั่วไป ไม่ต้องใช้เลขบัตรเครดิตก็จองได้เลย
แล้วเอาเมลคอนเฟิร์มการจองไปแสดงตอนเช็คอิน
สรุป
เคยนอนโรงแรมที่ญี่ปุ่นมา 4 แห่ง นี่เป็นโรงแรมที่ชอบที่สุดเลยครับ
ทั้งทำเล และความสะดวกสบาย ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาดีครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น