วิจารณ์บทความของนักวิชาการตะวันตกที่กล่าวยกย่องการรัฐประหารในไทย

กระทู้สนทนา
http://www.latimes.com/opinion/op-ed/la-oe-0529-thompson-thai-coup-20140529-story.html

วิจารณ์บทความของนาย ดับบริว สก็อต ธอมสัน
อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังในอังกฤษ
ซึ่งได้เขียนบทความนี้ลงในหนังสือพิมพ์แอลเอไทมส์ หลังการรัฐประหารแค่ไม่กี่วัน

1. ก่อนอื่นต้องขอบคุณคนที่เอาบทความนี้มาเผยแพร่ รวมทั้งได้พยายามแปลเป็นภาษาไทยให้คนอื่นได้อ่านกัน (ท้าย ๆ แปลเละนิดนึง ไม่เป็นไร) ถือว่าแฟร์ที่มีการเปิดเผยความเห็นของนักวิชาการตะวันตกฝ่ายสีเหลือง ซี่งถือว่ามีน้ำหนักไม่ใช่เล่น

2. โดยรวมเป็นบทความวิชาการที่ดีและเขียนได้อย่างสวยงามมาก ไม่มีข้อตำหนิ มีแต่ข้อชมเชยและสรรเสริญมากมาย ทั้งในด้านหลักเหตุผล ความสอดคล้อง และการยืนยันความคิดเห็น

3. โดยสรุป นายดับบริว สก็อต ธอมสัมคิดว่า ทักษิณเป็นตัวร้าย เป็นนักฉวยโอกาสทางการเมือง ที่บังเอิญได้รับความนิยมจากคนรากหญ้า และถ้าระบอบทักษิณอยู่รอด ก็จะทำให้ประชาธิปไตยวิบัติ เหมือนกับฮิตเล่อร์ของเยอรมัน หรือมุสโสลินีของอิตาลีในอดีต

4. นอกจากนี้ การที่ทหารออกมาทำรัฐประหาร ... เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง จึงเป็นโอกาสที่จะพิสุจน์ให้เห็นว่าการรัฐประหารทุกครั้งที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าจะแย่เสียทั้งหมด (So as an ambitious and capable general tries to stabilize the nation — and now with the king's public stamp of approval — it's entirely possible that he will prove that coups are not all bad.)

คำวิจารณ์

1. ต้องขอถามนายดับบริว สก็อต ธอมสัน ว่า คุณมีหลักฐานอะไรที่บอกว่าทักษิณเป็นตัวร้ายและเป็นนักฉวยโอกาส และเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยจนถึงขั้นฮิตเล่อร์หรือมุสโสลินี  

แค่อาศัย "การเชื่อมโยง" (correlate) ว่าทักษิณรวย ทักษิณซื้ออิทธิพล ทักษิณปิดกั้นสื่อ ทักษิณฆ่าผู้ค้ายาเสพติดสามพันคน แล้วสรุปว่า ทักษิณจึงเป็นตัวอันตรายต่อประชาธิปไตย แถมเลวร้ายระดับฮิตเล่อร์และมุสโสลินี  มันก็ผิดแล้ว ผิวเผินเกินไป และไม่เป็นวิชาการตรงไหน

เป็นที่น่าสนใจว่า ความคิดเห็นของนายดับบริว สก็อต ธอมสันเกี่ยวกับทักษิณ เหมือนกับความคิดเห็นของพวกเสื้อเหลืองต่อที่บทความของเขากล่าวถึงชนิดเป๊ ๆ แสดงว่าผู้เขียนไม่เป็นกลาง และบทความนี้จึงเป็นความเห็นที่ไร้ค่าในเชิงวิชาการ

2. แม้นายดับบริว สก็อต ธอมสัน ออกตัวเป็นนัยว่าไม่สนับสนุนการรัฐประหาร แต่แทนที่จะแสดงความตำหนิพวกทหารที่ทำรัฐประหารหรือตำหนิกษัตริย์ที่ให้การรับรองการรัฐประหาร เขากลับอ้างว่านี่คือสถานการณ์พิเศษ และเป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ว่าการรัฐประหารไม่ใช่ว่าจะแย่ทั่งหมด

พูดแบบนี้ก็คือจบกัน เพราะนายดับบริว สก็อต ธอมสันไม่เพียงแต่จะมีอคติต่อทักษิณอย่างแรงเท่านั้น เขายังเป็นนักวิชาการตะวันตกที่ไม่เคารพหลักประชาธิปไตยอีกด้วย

3. ที่น่าเกลียดยิ่งกว่าคือ การที่นายดับบริว สก็อต ธอมสัน กล่าวสรรเสริญ พล.อ.ประยุทธ์ว่า เป็นนายพลที่เฉลียวฉลาดและมีความสามารถมากที่สุดในรอบห้าสิบปีที่ผ่านมา โดยการหลอกให้ทุกฝ่ายมาเจรจาหาทางออก และเมื่อไม่ได้ข้อสรุปอย่างที่เขาต้องการ คือการที่รัฐบาลไม่ยอมลาออกตามรัฐธรรมนุญ ก็ทำการจับกุมทุกคนแล้วประกาศยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ อย่างนั้นหรือ

จริง ๆ ในฐานะนักรัฐศาสตร์ระดับอาจารย์ เขาควรที่จะวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ว่า การที่ทหารนำเอาอุบายระดับยุทธวิธี (หลอกให้มาโดนจับ) มาใช้กับเวทีการเมืองระดับสัตยาบัน เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และเป็นการทำลายเครื่องมือทางรัฐศาสตร์ที่สำคัญ ก็คือการเจรจา เพราะสืบไปข้างหน้า ก็จะไม่มีใครยอมไว้ใจใคร หรือยอมที่จะมาเจรจานั่งโต๊ะกันอีก

โดยสรุป  เป็นที่น่าเสียดายว่า นายดับบริว สก็อต ธอมสัน เป็นถึงนักวิชาการระดับอาจารย์และเป็นผุ้เชี่ยวชาญระดับนโยบาย แต่กลับมีความคิดเห็นต่อข้อสมมติฐานสำคัญอย่างฉาบฉวย รวมทั้งไม่มีจุดยืนที่มั่นคงในหลักการประชาธิปไตย แล้วอย่างนี้เขาจะเที่ยวไปสั่งสอนอะไรใครได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่