ท่านที่เคารพรักครับ หากเปรียบโลกนี้คือโรงละครแห่งความฝันใบใหญ่ ท่านทั้งหลายรวมทั้งข้าพเจ้าก็เป็นทั้งผู้แสดงและผู้ชม
คำว่าโลกนี้คือละคร เคยมีผู้อธิบายความหมายคำนี้ด้วยบทเพลงไว้อย่างลึกซึ้งกินใจยิ่งนัก
ที่สำคัญท่านผู้นี้ขับร้องด้วยสุ่มเสียง ที่ว่ากันว่า เป็นเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์ ท่านร้องไว้ดังนี้ครับว่า .....
...โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร
ถึงบทเมื่อตอนเร้าใจ
บทบาทลีลาแตกต่างกันไป
ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไปเหมือนกัน
เกิดมาต้องตายร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง
คิดยิ่งระวังไหวหวั่น
ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน
ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยามกันเหลือเกิน....
..................................
คงจะเพราะเห็นซึ้งถึงความไม่แน่นอน จึงเคยมีผู้เตือนสตินักแสดงละครทั้งหลายว่า เวลาสมหวังก็อย่าโห่ร้องไชโยออกนอกหน้า
หรือเวลาผิดหวังก็อย่าร่ำไห้คร่ำครวญ เพราะทุกอย่างคือละคร ละครชีวิต
โรงละครย่อมมีความสัมพันธ์กันเป็นสังคม ที่แน่ๆมีเพื่อน มีสตรี
เพื่อนอาจจะในความหมายของแดนนี่กับผองเพื่อนใน " โลกียชน " ของจอห์น สไตเบค
หรือ จอร์จ มิลตัน กับ เลนนี่ สมอลล์ ในเรื่อง " เพื่อนยาก " ที่จอห์น สไตเบคเขียน
หรือ เหล่าประดาเฮ้งต๋ง ก๊วยไต้โล้ว อี้ฉิก ลิ้มไท้เพ้ง ในเรื่อง" วีรบุรุษสำราญ "ของท่านโกวเล้ง
คำว่าเพื่อนตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด ระหว่างเพื่อนมีความยุติธรรมเสมอๆ เพื่อนมีสุรา เราก็มีมิกเซอร์และกับแกล้มให้
สำหรับเพื่อนบางคน ในบางค่ำคืน มีเพลงเบาๆ เหล้าบางๆ เรียกนางมาคลอเคลีย แล้วเมียเพื่อนมาตาม ( ฮา )
บางคนมีเพื่อนมากมายรายล้อมรอบคอยเติมเต็มให้กับชีวิต แต่บางคนมีเพื่อนเพียงคนสองคนก็ถือว่าเพียงพอในคุณภาพแล้ว
หากพูดตามสำนวนท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า " มีสุขร่วมเสพ มีภัยร่วมต้าน " นี่คือเพื่อน
คนที่เคยอ่านโลกียชน เพื่อนยาก วีรบุรุษสำราญ จบหน้าสุดท้ายลงแล้ว คงถอยกลับออกมามองตัวเองและสังคมที่แวดล้อม
ในยุคสมัยที่คนแบ่งชั้นวรรณะกันอย่างชัดเจน ในยุคสมัยที่คนมีอำนาจกอบโกยทรัพย์สมบัติบนความทุกข์ยากของประชาชน
เหล่ามนุษย์ผู้ติดอยู่ในร่างแหแห่งความโสมมหยาบช้านี้ เขาใฝ่ฝันถึงสิ่งใด?
การทำร้ายผู้อื่นด้วยความรักมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ? อย่างจอร์จในเรื่องเพื่อนยาก
หรือมีเพียงอาวุธที่ใช้ด้วยความโลภโมโทสัน กระหายในสิ่งสมมติ มายาอันหลอกลวง และสิ่งซึ่งไม่ใช่ของตน ?
ยิ่งลักษณ์ ยิ้มเย้ยยุทธจักร ตอน โลกนี้คือละคร
คำว่าโลกนี้คือละคร เคยมีผู้อธิบายความหมายคำนี้ด้วยบทเพลงไว้อย่างลึกซึ้งกินใจยิ่งนัก
ที่สำคัญท่านผู้นี้ขับร้องด้วยสุ่มเสียง ที่ว่ากันว่า เป็นเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์ ท่านร้องไว้ดังนี้ครับว่า .....
...โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร
ถึงบทเมื่อตอนเร้าใจ
บทบาทลีลาแตกต่างกันไป
ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไปเหมือนกัน
เกิดมาต้องตายร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง
คิดยิ่งระวังไหวหวั่น
ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน
ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยามกันเหลือเกิน....
..................................
คงจะเพราะเห็นซึ้งถึงความไม่แน่นอน จึงเคยมีผู้เตือนสตินักแสดงละครทั้งหลายว่า เวลาสมหวังก็อย่าโห่ร้องไชโยออกนอกหน้า
หรือเวลาผิดหวังก็อย่าร่ำไห้คร่ำครวญ เพราะทุกอย่างคือละคร ละครชีวิต
โรงละครย่อมมีความสัมพันธ์กันเป็นสังคม ที่แน่ๆมีเพื่อน มีสตรี
เพื่อนอาจจะในความหมายของแดนนี่กับผองเพื่อนใน " โลกียชน " ของจอห์น สไตเบค
หรือ จอร์จ มิลตัน กับ เลนนี่ สมอลล์ ในเรื่อง " เพื่อนยาก " ที่จอห์น สไตเบคเขียน
หรือ เหล่าประดาเฮ้งต๋ง ก๊วยไต้โล้ว อี้ฉิก ลิ้มไท้เพ้ง ในเรื่อง" วีรบุรุษสำราญ "ของท่านโกวเล้ง
คำว่าเพื่อนตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด ระหว่างเพื่อนมีความยุติธรรมเสมอๆ เพื่อนมีสุรา เราก็มีมิกเซอร์และกับแกล้มให้
สำหรับเพื่อนบางคน ในบางค่ำคืน มีเพลงเบาๆ เหล้าบางๆ เรียกนางมาคลอเคลีย แล้วเมียเพื่อนมาตาม ( ฮา )
บางคนมีเพื่อนมากมายรายล้อมรอบคอยเติมเต็มให้กับชีวิต แต่บางคนมีเพื่อนเพียงคนสองคนก็ถือว่าเพียงพอในคุณภาพแล้ว
หากพูดตามสำนวนท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า " มีสุขร่วมเสพ มีภัยร่วมต้าน " นี่คือเพื่อน
คนที่เคยอ่านโลกียชน เพื่อนยาก วีรบุรุษสำราญ จบหน้าสุดท้ายลงแล้ว คงถอยกลับออกมามองตัวเองและสังคมที่แวดล้อม
ในยุคสมัยที่คนแบ่งชั้นวรรณะกันอย่างชัดเจน ในยุคสมัยที่คนมีอำนาจกอบโกยทรัพย์สมบัติบนความทุกข์ยากของประชาชน
เหล่ามนุษย์ผู้ติดอยู่ในร่างแหแห่งความโสมมหยาบช้านี้ เขาใฝ่ฝันถึงสิ่งใด?
การทำร้ายผู้อื่นด้วยความรักมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ? อย่างจอร์จในเรื่องเพื่อนยาก
หรือมีเพียงอาวุธที่ใช้ด้วยความโลภโมโทสัน กระหายในสิ่งสมมติ มายาอันหลอกลวง และสิ่งซึ่งไม่ใช่ของตน ?