จาก กระทู้....
http://pantip.com/topic/32136198
มาอัฟเดทครับ...วันนี้ผมโดยแจ้งความจับ ข้อหาขโมยของ ซึ่งผมนั้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว..
ซึงพระรูปนั้นได้โทรมาขมขู่ผมให้ยอมรับว่าเป็นขโมยให้ โดยบอกว่าถ้าไม่ยอมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ผมก็ตกใจสิครับผม...เลยบอกกับทางบ้าน ทางบ้านตกใจมากเลย นี้มันใช้คดีอาญาหรือป่าว
อีกอย่างผมต้องลางานมาเพื่อพูดคุยกะพระรูปนั้น ว่าทำมั้ยพูดอย่างนั้น
แต่ตัวพระกับไม่ยอมตอบอะไร....จากนั้นผมก็ขับรถกลับ แต่แล้วก็มีโทรศัพท์โทรมาอีก
โดยโทรมาว่า "ให้เราเข้าไปลงประวัติถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐาน...
ผมก็เลยตอบไปว่า...ผมยังไม่ไปนะครับขอปรึกษากับที่บ้านก่อนว่าต้องทำไง"...
จากนั้นเค้าก็วางไป...
แล้วที่นี้ผมก็มาเจอกับพระที่เป็นเพื่อนกับเจ้าของโทรศัพท์ ก็ได้คุยกันสักพัก ผมถามว่าตอนที่ท่านโทรมานั้นท่านพูดไรบ้าง
ท่านก็ตอบไม่ตรงกับที่ผมได้ยิน...แล้วก็บอกว่าไม่ได้พูดถึงคนชื่อ"ต้อม"เลยแม้แต่น้อย...(อย่างนี้คือ...)...
จากนั้นท่านก็บอกให้ไปคุยกันที่กุฐิพระที่เป็นคนแจ้งความ...
พอไปคุยผมก็คุยกันปกติเพื่อที่จะหาข้อสรุป แต่พระที่แจ้งความหรือที่โทรมาข่มขู่ผมกับไปไม่พูดอะไรสักคำ...
ผมก็เลยถามว่าท่านมีอะไรติดใจอีกมั้ยครับ ท่านก็ตอบว่าไม่มีแล้ว ถ้าไม่มีธุระอะไรก็กลับไปได้แล้ว
จากนั้นไม่ถึง 30 นาที ก็มีตำรวจโทรมาให้ไปไกลเกี่ยที่ สน. ผมเลยบอกว่านี้ผมลางานมาแล้วพรุ่งคงลาไปอีกไม่ได้แล้วอีกอย่างถ้าจะให้ผมลาต้องมีหมายมาผมถึงลาได้....ผมเลยรอหมายศาลครับ...ถึงจะไป...
เก็บมือถือ แล้วเอาไปคืนโดนด่าว่าเป็น ขโมย มาอัฟเดท
มาอัฟเดทครับ...วันนี้ผมโดยแจ้งความจับ ข้อหาขโมยของ ซึ่งผมนั้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว..
ซึงพระรูปนั้นได้โทรมาขมขู่ผมให้ยอมรับว่าเป็นขโมยให้ โดยบอกว่าถ้าไม่ยอมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ผมก็ตกใจสิครับผม...เลยบอกกับทางบ้าน ทางบ้านตกใจมากเลย นี้มันใช้คดีอาญาหรือป่าว
อีกอย่างผมต้องลางานมาเพื่อพูดคุยกะพระรูปนั้น ว่าทำมั้ยพูดอย่างนั้น
แต่ตัวพระกับไม่ยอมตอบอะไร....จากนั้นผมก็ขับรถกลับ แต่แล้วก็มีโทรศัพท์โทรมาอีก
โดยโทรมาว่า "ให้เราเข้าไปลงประวัติถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐาน...
ผมก็เลยตอบไปว่า...ผมยังไม่ไปนะครับขอปรึกษากับที่บ้านก่อนว่าต้องทำไง"...
จากนั้นเค้าก็วางไป...
แล้วที่นี้ผมก็มาเจอกับพระที่เป็นเพื่อนกับเจ้าของโทรศัพท์ ก็ได้คุยกันสักพัก ผมถามว่าตอนที่ท่านโทรมานั้นท่านพูดไรบ้าง
ท่านก็ตอบไม่ตรงกับที่ผมได้ยิน...แล้วก็บอกว่าไม่ได้พูดถึงคนชื่อ"ต้อม"เลยแม้แต่น้อย...(อย่างนี้คือ...)...
จากนั้นท่านก็บอกให้ไปคุยกันที่กุฐิพระที่เป็นคนแจ้งความ...
พอไปคุยผมก็คุยกันปกติเพื่อที่จะหาข้อสรุป แต่พระที่แจ้งความหรือที่โทรมาข่มขู่ผมกับไปไม่พูดอะไรสักคำ...
ผมก็เลยถามว่าท่านมีอะไรติดใจอีกมั้ยครับ ท่านก็ตอบว่าไม่มีแล้ว ถ้าไม่มีธุระอะไรก็กลับไปได้แล้ว
จากนั้นไม่ถึง 30 นาที ก็มีตำรวจโทรมาให้ไปไกลเกี่ยที่ สน. ผมเลยบอกว่านี้ผมลางานมาแล้วพรุ่งคงลาไปอีกไม่ได้แล้วอีกอย่างถ้าจะให้ผมลาต้องมีหมายมาผมถึงลาได้....ผมเลยรอหมายศาลครับ...ถึงจะไป...