เรามีน้องชายที่อายุห่างกันค่อนข้างเยอะคะตอนนี้เค้าอายุ 17 ปีพอเราเรียนจบก็ทำงานส่งเงินให้ที่บ้านและช่วยเรื่องค่าเล่าเรียนของน้องที่ผ่านมาก็พยายามทำหน้าที่พี่สาวที่ดีมาตลอดน้องอยากได้อะไร อยากกินอะไรก็พาไป อ่อคือครอบครัวไม่ได้อยู่ กทม.และเราไม่ได้อยู่บ้านนะคะออกมาอยู่ข้างนอกนานแล้วเพราะก่อนหน้านี้ต้องเรียนด้วยทำงานด้วยเนื่องจากฐานะทางบ้าน้แล้วก็สอบติดเรียนมหาลัยใน กทม.พอจบก็ทำงานยาวเลยก่อนหน้านี้ปีนึงได้กลับแค่หน สองหนแต่ตอนนี้ืำงานที่ได้ดูแลเขตแถวบ้านเลยได้กลับทุกเดือน น้องชายเราต่างกับเรามากพอเราเรียนจบได้ทำงานสถานะการเงินที่บ้านก็ดีขึ้นน้องชายเลยไม่ต้องทำงานอะไร อยากได้อะไรไม่เคยต้องรอนานแค่เก็บเงินเองนิดหน่อย แล้วก็ขอพ่อ ขอแม่ขาดเท่าไหร่ก็มาขอพี่
เวลาน้องชายเราอยากขอเงินเพิ่ม อยากได้อะไร อยากไปไหน อยากกินอะไรก็รอเรากลับเนี้ยแหละเพราะรู้ว่าเราตามใจ ให้ง่ายกว่าพ่อ แม่ เวลาเราพูดหรือให้ทำไรเค้าจะค่อนข้างฟังเรา ความจริงน้องชายเราไม่ได้เป็นเด็กร้ายอะไรบอกให้ทำไรเค้าก็ทำนะ
เราก็ค่อนข้างเข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้ตึงมากก็ไม่ดีหย่อนมากก็ไม่ได้เรื่องมีแฟนไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติแฟนของน้องชายก็นิสัยดีอยู่บ้านพ่อแม่เค้าก็เข้มงวดไปไหนไม่ค่อยได้ จนมาปีนี้มีปัญหาเลิกกันไปพอโสดน้องชายเราก็ติดคุยแชทจนเจอ ผญ.คนนึงรู้สึกว่าอายุเยอะกว่า 2-3ปีเป็นเด็กมหาลัยอยู่หอพักข้างนอก
แล้วมาชวนน้องเราไปอยู่ด้วยเฉยเลย(ไม่เข้าใจเด็ก ผญ.สมัยนี้จริงๆ)น้องชายเราก็ด้วยความห้าวอยากไปอยู่ข้างนอกอยากมีอิสระก็เลยหาข้ออ้างสาระพัดรั้นจะไปให้ได้ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
ทั้งๆที่เคยให้เค้าลองออกไปอยู่หอพักข้างโรงเรียนหนนึงแล้วครั้งนั้นก็มีปัญหาเกือบต้องออกจากโรงเรียนเรากับพ่อต้องไปรับกลับบ้านทันทีทิ้งเงินมัดจำหอไปตั้งหลายพัน แล้วมาครั้งนี้อีก
บ้านเราค่อนข้างใจร้อนกันทั้งบ้านมีแม่ที่เย็นสุดพ่อเรายื่นคำขาดไปแล้วถ้ายังรั้นจะไปอีกก็ตามใจพ่อไม่สนใจและไม่ต้องมาขออะไรจากพ่ออีก น้องเราก็ไม่สนใจเพราะคิดว่ายังไงก็ยังมีแม่
แม่เรากลุ้มใจมากเลยให้เราลองคุยกับน้องตอนแรกๆเราก็คุยดี สอนดีๆทำอะไรให้คิดถึงที่บ้านบ้างสงสารพ่อ แม่ แก่แล้วแถมไม่สบายถ้าออกไปแล้วใครจะดูแลพี่ก็ต้องทำงานส่งเงินให้ที่บ้านเค้าก็แถไปเรื่อยตามประสาเด็กอยากออกไปอยู่ข้างนอก เราเลยเงียบไปเพราะรู้ตัวว่าถ้าพูดต่อได้เป็นเรื่องแน่
จนวันนึงก่อนเราจะกลับ กทม. เราขับรถพาแม่กะน้องไปหาไรทานข้างนอกน้องชายหลุดปากพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเราโมโหมากเราเลยพูดขึ้นมาว่าถ้ารักสนุกเห็นแก่ตัวแบบนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกันแล้วตัดกันไปเลยยังไม่รู้ตัวอีกว่าที่ทุกคนเคี่ยวเขนก็เพราะอยากให้ตัวแกประสบความสำเร็จนั้นแหละ น้องเถียงมาว่าแค่จะออกไปอยู่ข้างนอกต้องถึงตัดพี่ตัดน้องกันเลยเหรอ เราบอกใช่ฉันไม่อยากได้น้องเห็นแก่ตัวไม่รักดีแบบนี้แล้วสถานะการณ์ในรถก็เงียบไปตลอดทาง
พอวันที่เรากลับเราขับรถออกบ้านเช้ามากน้องยังไม่ตื่นก็เลย ไม่ได้คุยไรกันอีกจนวันเสาร์ที่ผ่านมาแฟนเก่าน้องชายส่งข้อความมาถามเราว่ารู้เรื่องที่น้องเอา ผญ.มาอยู่ด้วยหรือยังเราโมโหมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จะโทรถามพ่อ แม่ก็ไม่ติดไม่อยากโทรหาน้องเพราะรู้ตัวว่าถ้าโทรคุยต้องด่ากันยกใหญ่แน่อีกออย่างอยู่ในรถกับเพื่อนด้วยไม่อยากให้เค้ารู้เรื่องในบ้านเราเลยส่งข้อความไปว่าเค้าในเฟสบุ๊ค เห็นเค้าอ่านแล้วแต่ก็ไม่ตอบอะไร
เราเครียดมากเลยอยากจะปลงไม่ใส่ใจเรื่องน้องแต่สงสารพ่อแม่มากเลยคะโดยเฉพาะแม่เราเพราะเป็นคนคิดมากคิดเยอะอยู่แล้วแถมมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจด้วยหมอห้ามเครียด ไม่รู้จะทำไงแล้วคะ
เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ทพไมเลี้ยงยากจัง ขอปรึกษาคะ
เวลาน้องชายเราอยากขอเงินเพิ่ม อยากได้อะไร อยากไปไหน อยากกินอะไรก็รอเรากลับเนี้ยแหละเพราะรู้ว่าเราตามใจ ให้ง่ายกว่าพ่อ แม่ เวลาเราพูดหรือให้ทำไรเค้าจะค่อนข้างฟังเรา ความจริงน้องชายเราไม่ได้เป็นเด็กร้ายอะไรบอกให้ทำไรเค้าก็ทำนะ
เราก็ค่อนข้างเข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้ตึงมากก็ไม่ดีหย่อนมากก็ไม่ได้เรื่องมีแฟนไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติแฟนของน้องชายก็นิสัยดีอยู่บ้านพ่อแม่เค้าก็เข้มงวดไปไหนไม่ค่อยได้ จนมาปีนี้มีปัญหาเลิกกันไปพอโสดน้องชายเราก็ติดคุยแชทจนเจอ ผญ.คนนึงรู้สึกว่าอายุเยอะกว่า 2-3ปีเป็นเด็กมหาลัยอยู่หอพักข้างนอก
แล้วมาชวนน้องเราไปอยู่ด้วยเฉยเลย(ไม่เข้าใจเด็ก ผญ.สมัยนี้จริงๆ)น้องชายเราก็ด้วยความห้าวอยากไปอยู่ข้างนอกอยากมีอิสระก็เลยหาข้ออ้างสาระพัดรั้นจะไปให้ได้ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
ทั้งๆที่เคยให้เค้าลองออกไปอยู่หอพักข้างโรงเรียนหนนึงแล้วครั้งนั้นก็มีปัญหาเกือบต้องออกจากโรงเรียนเรากับพ่อต้องไปรับกลับบ้านทันทีทิ้งเงินมัดจำหอไปตั้งหลายพัน แล้วมาครั้งนี้อีก
บ้านเราค่อนข้างใจร้อนกันทั้งบ้านมีแม่ที่เย็นสุดพ่อเรายื่นคำขาดไปแล้วถ้ายังรั้นจะไปอีกก็ตามใจพ่อไม่สนใจและไม่ต้องมาขออะไรจากพ่ออีก น้องเราก็ไม่สนใจเพราะคิดว่ายังไงก็ยังมีแม่
แม่เรากลุ้มใจมากเลยให้เราลองคุยกับน้องตอนแรกๆเราก็คุยดี สอนดีๆทำอะไรให้คิดถึงที่บ้านบ้างสงสารพ่อ แม่ แก่แล้วแถมไม่สบายถ้าออกไปแล้วใครจะดูแลพี่ก็ต้องทำงานส่งเงินให้ที่บ้านเค้าก็แถไปเรื่อยตามประสาเด็กอยากออกไปอยู่ข้างนอก เราเลยเงียบไปเพราะรู้ตัวว่าถ้าพูดต่อได้เป็นเรื่องแน่
จนวันนึงก่อนเราจะกลับ กทม. เราขับรถพาแม่กะน้องไปหาไรทานข้างนอกน้องชายหลุดปากพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเราโมโหมากเราเลยพูดขึ้นมาว่าถ้ารักสนุกเห็นแก่ตัวแบบนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกันแล้วตัดกันไปเลยยังไม่รู้ตัวอีกว่าที่ทุกคนเคี่ยวเขนก็เพราะอยากให้ตัวแกประสบความสำเร็จนั้นแหละ น้องเถียงมาว่าแค่จะออกไปอยู่ข้างนอกต้องถึงตัดพี่ตัดน้องกันเลยเหรอ เราบอกใช่ฉันไม่อยากได้น้องเห็นแก่ตัวไม่รักดีแบบนี้แล้วสถานะการณ์ในรถก็เงียบไปตลอดทาง
พอวันที่เรากลับเราขับรถออกบ้านเช้ามากน้องยังไม่ตื่นก็เลย ไม่ได้คุยไรกันอีกจนวันเสาร์ที่ผ่านมาแฟนเก่าน้องชายส่งข้อความมาถามเราว่ารู้เรื่องที่น้องเอา ผญ.มาอยู่ด้วยหรือยังเราโมโหมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จะโทรถามพ่อ แม่ก็ไม่ติดไม่อยากโทรหาน้องเพราะรู้ตัวว่าถ้าโทรคุยต้องด่ากันยกใหญ่แน่อีกออย่างอยู่ในรถกับเพื่อนด้วยไม่อยากให้เค้ารู้เรื่องในบ้านเราเลยส่งข้อความไปว่าเค้าในเฟสบุ๊ค เห็นเค้าอ่านแล้วแต่ก็ไม่ตอบอะไร
เราเครียดมากเลยอยากจะปลงไม่ใส่ใจเรื่องน้องแต่สงสารพ่อแม่มากเลยคะโดยเฉพาะแม่เราเพราะเป็นคนคิดมากคิดเยอะอยู่แล้วแถมมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจด้วยหมอห้ามเครียด ไม่รู้จะทำไงแล้วคะ