*ขอคำแนะนำสำหรับการโดนบอกเลิกครั้งแรกในชีวิต*

สวัสดีค่ะ พอดีเรามีเรื่องไม่สบายใจที่มันเกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของเรากับแฟนมาเล่าให้ฟังค่ะ
เราอยากได้คำปรึกษาเหมือนกัน เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
เรื่องอาจยาวหน่อย เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะค่ะ
เราจะเริ่มโดยการเล่าในมุมมองของเราก่อนนะคะ

เรากับแฟนคบกันมาประมาณสองปีกว่าแล้วค่ะ ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ปีสาม จนตอนนี้เราเรียนจบ ทำงานแล้วเรียบร้อย (เค้าเป็นรุ่นพี่เราปีนึงค่ะ)
ทางด้านความสัมพันธ์สองคน เป็นไปด้วยดีตลอดมาค่ะ
คบกันมีทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ บ้างตามประสาคนเป็นแฟนกัน แต่ว่าไม่ได้รุนแรงอะไร
ต่างคนต่างมีโอกาสไปเจอครอบครัวของกันและกันมาแล้ว ส่วนใหญ่แฟนจะมาบ้านเรามากกว่าที่เราไปเจอบ้านแฟนค่ะ
มีมาช่วยขายของด้วย (ตอนนั้นเค้ายังไม่มีงานทำค่ะ) เข้าออกบ้านได้ตามปกติเลย
ส่วนเรา ตอนที่ต้องไปเจอบ้านแฟนเราจะเกร็งๆ ค่ะ เพราะว่า ทั้งแม่และพี่ๆ ของเค้าดูนิ่งๆ ดูดุๆ
เราไม่ค่อยกล้าชวนคุยหรอกค่ะ อย่างที่บอกว่าเกร็งๆ อีกอย่างคือ ด้วยความที่นานๆ บ้านแฟนจะรวมตัวกันทีนึง เค้าก็จะคุยกันเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวแบบนี้น่ะค่ะ
เราก็ได้แต่นั่งฟัง ถามว่าเอ็นจอยมั้ย ... แรกๆ เราตอบเลยว่าไม่เอ็นจอยค่ะ มีแสดงออกทางสีหน้าหลายครั้งเลยว่าเซ็ง
จนเค้าเองไม่พอใจที่เราเป็นแบบนี้ เราก็ให้เหตุผลไปนะ ว่าเพราะไม่รู้จะเริ่มคุยอะไรยังไง จะพูดแทรกในขณะที่ทุกคนกำลังคุยเรื่องในครอบครัวอยู่มันก็ไม่ใช่ เราเลยแสดงออกไปแบบนั้น
แล้วเราก็ขอปรับปรุงแก้ไขตัวเอง จนครั้งหลังๆ เรารู้สึกได้ว่าเราทำดีที่สุด แล้วมันก็ดีขึ้นนะ

แต่ว่า เรื่อยๆ ไป มันก็พบกับข้อแตกต่างระหว่างธรรมชาติของครอบครัวเค้ากับครอบครัวเราอีกค่ะ
บ้านเราจะเป็นแนวๆ ถ้าเห็นว่าดึกแล้ว (สองสามทุ่ม)ก็จะตามลูกกลับบ้าน ยิ่งแม่จะดุมาก ถ้าไม่กลับตามกำหนดเวลา แม่จะยิ่งโทรตามเรื่อยๆ จนบางทีทะเลาะกับแม่ตอนอยู่กับครอบครัวเค้าก็มีค่ะ
ส่วนบ้านเค้าก็จะออกแนวเรื่อยๆ ใช้ชีวิตกลางคืนกันได้ ดูหนังรอบดึกแบบสามสี่ทุ่ม กลับบ้านกันได้เที่ยงคืนตีหนึ่ง อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ
แล้วมันก็เกิดเหตุที่ว่า พอแม่ตามเราหลายๆ ครั้งเข้า แฟนเราก็ไม่เข้าใจเราอีก ว่าทำไมบ้านเราถึงเป็นแบบนี้ ก็เคยมีประเด็นกันด้วยเรื่องนี้ด้วยค่ะ แต่ครั้งหลังๆ ก็น้อยลงแล้ว

หลังจากนั้นมา ผ่านมาถึงช่วงประมาณกลางปี 2013 ที่บ้านเค้ามีปัญหา และต้องการให้แฟนพี่สาวเราช่วยเหลือ ช่วยขึ้นศาลเป็นพยานให้หน่อย
คือสำหรับเรื่องนี้ ที่บ้านเราก็พอจะรับรู้เรื่องราวความเป็นมาว่ามันเป็นยังไง แต่ว่า ด้วยความที่มันยืดยาวมาเกือบปี แล้วเราอยากจบๆ ปัญหาไป เราไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเลยค่ะ
เราคิดแค่ว่า แล้วถ้าเราไปช่วย บ้านเราจะมีผลกระทบอะไรมั้ย เพราะเห็นว่า ทางอีกฝ่ายมีเส้นสายเยอะเหลือเกิน นักเลง กร่างด้วย (เท่าที่แฟนเรามาเล่าให้ฟังนะคะ)
เราเลยตัดสินใจบอกเค้าไปเลย ว่าเราจะไม่ช่วยเค้านะ เค้าก็ไม่พอใจค่ะ มีตั้งสเตตัสเฟสบุคที่พี่เราเข้าไปอ่านแล้วรู้สึกไม่พอใจแฟนเราเหมือนกัน
เพราะเรื่องนี้เลยทำให้เราสองคนห่างๆ กันไปค่ะ

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา แฟนเราโทรมาบอกว่า ญาติผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพในบ้านของเขาเสียแล้ว เราพูดอะไรไม่ออก ได้แต่บอกเค้าว่าเสียใจด้วยนะ
แล้ววันต่อมาเราก็ไปที่งานค่ะ บอกตรงๆ ว่าเราเข้าหน้าที่บ้านเค้าไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าเค้าเกลียดเราไปแล้วรึเปล่าที่เราไม่ช่วยเค้าในเรื่องนั้น
แต่เราไปงาน เราก็พยายามทำอะไรที่เราทำได้ ช่วยเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟข้าว แต่ก็รู้สึกว่าเราเป็นส่วนเกินมากๆ อยู่ดี
แล้วเราก็ไปช่วยอีกทีในวันสวดอีกวันนึงค่ะ เราก็ทำเท่าที่ทำได้เหมือนวันแรกค่ะ

แต่ต่อมา ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันกลับแย่ลงค่ะ เค้านัดเราไปเจอ เพื่อไปคุยกัน เค้าระบายความอึดอัดใจของเค้า ทั้งสองเรื่องให้เราฟัง
เรื่องแรก เรื่องที่เราปฏิเสธความช่วยเหลือเค้า เค้ามีถามเรากลับว่า ถ้าบ้านเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเค้า ที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ บ้านเราจะทำยังไง?
เรื่องที่สอง เรื่องงานศพญาติผู้ใหญ่ของเค้า เค้าตั้งคำถามว่า ทำไมครอบครัวเราไม่มีใครไปงานเลย รู้มั้ยว่าญาติผู้ใหญ่ท่านนั้นเป็นที่เคารพของบ้านเค้ามากขนาดไหน
เราให้เหตุผลไปว่า บ้านเราสองคนเพิ่งเกิดเรื่องกันก่อนหน้านั้น คงไม่มีใครทำใจไปเจอหน้ากันได้ อีกอย่างคือที่บ้านเราไม่ว่างไปกันด้วยค่ะ ในมุมมองของเราคือ เราเป็นตัวแทนไปแล้วก็น่าจะโอเคแล้ว
แต่คุยกันนานก็ไม่ทำให้เค้าสบายใจขึ้นค่ะ
จนเค้าขอเลิกกับเราเลย เราตกใจ เสียใจ งงด้วย ว่าทำไมเค้าตัดสินใจแบบนี้ เราร้องไห้หนักมากค่ะ อ้อนวอนขอให้เค้าทบทวนใหม่
เราบอกเค้าว่า ถ้ายังรักกัน จะเลิกกันทำไม และนั่นเองที่ทำให้เค้าตัดสินใจกลับมาคบกับเราต่อค่ะ

หลังจากวันนั้น เค้าก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปค่ะ ไม่โทรคุยเหมือนเดิม ไม่บอกรัก ไม่บอกคิดถึง เดินไปไหนไม่ค่อยจับมือเหมือนที่เคยทำ
เราคุยกันแค่ในเรื่องที่จำเป็น แทบจะไม่มีความหวานอะไรเลย
เราสังเกตุได้ว่าเค้าเปลี่ยนไป แต่เราให้กำลังใจตัวเองว่า เค้าคงเหนื่อยจากการทำงาน จะให้โทรคุยแบบเด็กๆ ก็คงไม่ใช่ แต่ไม่เป็นไร เราจะพยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น
จนเมื่อต้นเมษาที่ผ่านมา เราไปต่างจังหวัดด้วยกัน เราหวังจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นค่ะ แล้วเราก็รู้สึกด้วยนะ ว่าเค้ากลับมาหวานเหมือนที่เคยแล้วด้วย
เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันดีขึ้น ถึงจะไม่มากมายอะไร แต่มันมีสัญญาณมาแล้ว ว่ามันต้องดีขึ้นกว่านี้แน่นอน

จนกลับมาถึงกรุงเทพฯ ค่ะ ก็ยังปกติ ไม่มีอะไรมาก แต่ระยะหลังๆ ตอนที่ไปเดินเที่ยวด้วยกัน เราสังเกตุได้ว่ามีคนทักแชทไลน์ (Line) เค้ามาตลอด เค้าก็จะคอบพิมพ์โต้ตอบตลอด
จนเราเซ็งค่ะ ว่าไปเดินกับเรา แต่ไม่เห็นสนใจเราเลย มัวแต่พิมพ์ เราก็งอนๆ ตึงๆ ไปแหละ
พอกลับบ้าน เค้าบอกเราว่า น่าจะมาถึงทางตันแล้วล่ะ เราก็งงอีกค่ะว่าเป็นอะไรอีก เราคิดว่าเค้าแค่ท้อใจ หรืออาจจะเห็นเรานอยบ่อยๆ เลยเบื่อรึเปล่า
แต่สุดท้ายแล้ว เค้าบอกกับเราว่า เรื่องของเราสองคนมันคงต้องหยุดเอาไว้เท่านี้ดีกว่า ว่าเค้าไม่สามารถรักเราได้เหมือนเดิมแล้ว
เพราะเรื่องที่เราไม่ช่วยเค้า และเรื่องงานศพญาติผู้ใหญ่ของเค้ามันยังฝังใจเค้าอยู่ บวกกับครอบครัวเค้า (แม่+พี่) ไม่โอเคกับเราและครอบครัวเราแล้วด้วย
เค้าบอกเราว่า เค้าพยายามแล้ว ที่จะมารักเราเหมือนเดิม แต่เค้าทำไม่ได้ พยายามมาตลอดแปดเดือนแล้ว แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
เค้าบอกว่า เหมือนเราพยายามอยู่คนเดียวเลย เราไม่เหนื่อยหรอที่เห็นเค้าเฉยชาแบบนี้ เค้าบอกว่าเค้าก็ไม่อยากเลิกกับเราหรอก (แล้วบอกเลิกทำไม?)
เราพยายามถามเค้านะคะ ว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย เราจะทำ เราไม่อยากเสียเค้าไป เพราะเรารักเค้ามาก แล้วเราสองคนเคยวางอนาคตไว้ด้วยกันแล้วด้วย
แต่เค้าก็บอกว่า ไม่รู้จะทำยังไงให้ดีขึ้น
เราอ้อนวอนให้เค้าลองทบทวนดูอีกครั้งนึง ลองให้โอกาสเราอีกครั้งได้มั้ย แต่เค้าก็ปฏิเสธตลอดค่ะ
สรุปสุดท้ายคือ เค้าบอกว่า ให้เราสองคนค่อยๆ ห่างกันไปก็แล้วกัน เราเสียใจมาก ที่โดนบอกเลิกเป็นครั้งที่สอง ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมาเราพยายามมากแล้ว พยายามทุกอย่าง
เราคิดว่ามันจะดีขึ้น แต่มันไม่ดีขึ้นเลย

จนเลิกกันไปได้สองวัน เราชวนเค้าไปกินข้าว เค้าก็ไปนะคะแต่ก็กดโทรศัพท์ตลอดเวลาเหมือนกัน เค้าให้เหตุผลว่า เค้าทำตัวไม่ถูก อาจจะทำให้เราอึดอัด แต่เราบอกน่าจะเป็นเราที่ทำให้เค้าอึดอัดมากกว่า
หลังจากนั้นเราก็ทักเค้าก่อน ชวนเค้าคุยก่อนตลอดค่ะ แต่รู้ว่าสถานะมันไม่ใช่แบบเดิมแล้ว ก็เลยได้แต่คอยดูอยู่ห่างๆ
มีวันนึง เราตั้งสเตตัสว่าอยากกิน... ตั้งแบบไม่ได้คิดอะไร อยู่ๆ เค้าก็ทักเรามา แล้วชวนเราไปกิน เราแปลกใจ เลยถามเค้าว่า ทำไมถึงชวนกิน? เค้าบอกว่าก็เห็นเราบอกว่าเราอยากกินเลยชวน
แล้วก็มีไปดูหนังด้วยกันมาเรื่องนึงด้วยนะคะ เราแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเค้าอาจจะกำลังทบทวนอยู่ก็ได้ ว่าจะกลับมาคบกันดีมั้ย แต่ก็นั่นแหละค่ะ ที่สังเกตได้จากการไปกินข้าว ไปดูหนังด้วยกันคือ
จะมีคนทักไลน์เค้ามาตลอดเวลา เค้าก็จะคอยพิมพ์ตอบเรื่อยๆ เลย แล้วก็ดูไม่ค่อยมีอะไรจะพูดกับเรา บางทีคุยจริง แต่ไม่สบตา เบี่ยงไปทางอื่นตลอด แล้วมันก็ทำให้เราลังเลค่ะ
สุดท้ายแล้ว เราเลยถามเค้าไปตรงๆ ว่า ทำไมถึงยังยอมเจอ ยอมคุยด้วย ยอมไปไหนมาไหนด้วยอีก
เค้าตอบว่า เค้าอยากจบกับเราดีๆ อยากให้เป็นเพื่อนกันได้ ยังคุยกันได้ เรารู้สึกแย่มากเลยค่ะ เราไม่คิดว่าเค้าจะพูดง่ายๆ แบบนี้เลย
คนที่ค่อยๆ หมดไปแล้วตั้งเกือบปี กับคนที่ยังรักเหมือนเดิมทุกอย่าง มันยากนะ ที่จะเลิกรักคนๆ นึงได้ทันที
เค้าไม่มีการบอกอะไรเราเลย ไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจ เราไม่รู้เลยค่ะว่าที่ผ่านมาเค้าคิดอะไร รู้สึกอะไรอยู่ ถามทีไรเค้าจะตอบแค่ช่างเหอะ ตลอดเลย
พอเรามารู้ทีเดียวแบบนี้ มันทำให้เรารับไม่ได้เลย เราไม่รู้จะทำยังไงดี มันเหมือนฝันร้ายทุกคืนเลย เราได้แต่พร่ำเพ้อในเฟสบุคของเราว่าเรารู้สึกแย่ เราเสียใจ
แต่ตรงข้าม เค้าไม่แสดงออกว่าเค้าเสียใจเลยแม้แต่น้อย
แล้วตอนนี้เค้าก็มีคนคุยคนใหม่แล้วด้วยค่ะ แต่เค้าบอกเราว่าไม่ได้คิดอะไรด้วย แค่คุยกันเฉยๆ (แต่เริ่มคุยกัน ก็ต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นแล้วป้ะ?)
เลิกกันมาสามอาทิตย์แล้ว แต่เรายังเสียใจมากอยู่เลยค่ะ ทุกคืนจะนอนไม่หลับ เหมือนอยู่ในฝันร้ายตลอดเวลา คิดถึงแต่เค้าตลอดเวลา

เราอยากรู้ ถ้าเป็นคุณ อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเรา คุณจะทำยังไงคะ
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ เราเพิ่งจะอกหักและเสียใจที่สุดครั้งแรกในชีวิต

*ถ้าตั้งกระทู้ผิดพลาดก็ขอโทษด้วยนะคะ เราเพิ่งเคยตั้งไม่กี่ครั้งค่ะ*

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่