สวัสดีครับ วันนี้ ผมจะมารีวิวประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์จาก Biotherm เนื่องจากผมได้เข้ารวมกิจกรรมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้กับ Biotherm ก็คือ Life Plankton Essence ที่กำลังโด่งดังนั่นเอง ผมขอเป็นหนูทดลองใช้ให้ก่อน เผื่อใครกำลังหาข้อมูลสำหรับการตัดสินใจหามาครอบครอง
ตามข้อมูลที่ได้ทราบมานะครับ เจ้าตัว Life Plankton เนี่ย เป็นแพลงก์ตอนแบคทีเรียแกรมลบชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า
Vitreoscilla filiformis อาศัยอยู่ทั่วไปในน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแต่ทาง Biotherm ได้นำเจ้าแบคทีเรียตัวนี้มาจากน้ำพุร้อนบนเทือกเขา Pyrenees ในประเทศฝรั่งเศสมาเพาะเลี้ยง ผ่านการหมักชีวภาพ สกัดออกมา จนมาเป็น Life Plankton ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Biotherm แต่เพียงผู้ด้วยซึ่งน้ำพุร้อนก็พอทราบสรรพคุณกันอยู่ แต่แบคทีเรียในน้ำพุร้อนเนี่ยสิ
ฟังดูแล้วก็ฉงนใช่ไหมครับ ว่าอยู่ๆจะเอาแบคทีเรียมาทาหน้าเนี่ยนะ!!! จะไม่เป็นไรเหรอ? สิวจะไม่ขึ้นเหรอ?เพราะเราเคยได้ยินได้ฟังมาตลอดว่าแบคทีเรียมันคือเชื้อโรค เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวแต่เพื่อความยุติธรรม ธรรมชาติได้รังสรรค์ทั้งสิ่งที่ดีกับไม่ดีมาคู่กันครับ แบคทีเรียเองก็เช่นกันซึ่งเจ้าแบคทีเรียตัวนี้เป็นแบคทีเรียที่ดีมีประโยชน์ เหมือนแบคทีเรียในโยเกิร์ตที่เราทานกันนั่นแหละครับ แต่แค่เป็นคนละตัวกัน
โดยปกติแล้วผลิตภัณฑ์ของ Biotherm แทบทุกตัวจะใส่เจ้า Life Plankton มาด้วยในปริมาณที่น้อยมากครับ แต่ Life Plankton Essence ใส่มาถึง 5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดที่ทางแบรนด์เคยใช้มา ซึ่ง 5% จากการศึกษาของ Biotherm พบว่าสามารถบำบัดอาการอักเสบ และผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้
(แต่เดี๋ยวก่อน!!! ทำไมตามแผ่นพับ โฆษณาของ Biotherm ไม่เห็นบอกว่าเป็นแบคทีเรียเลยล่ะ?เขาบอกว่ามันคือ จุลินทรีย์บ้าง แพลงก์ตอนบ้าง)...คำว่า จุลินทรีย์ กินความหมายครอบคลุมกว้าง หมายถึง สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ รา ไวรัส รวมไปถึงแพลงก์ตอนด้วยนั่นเองครับ ส่วนเจ้า
Vitreoscilla filiformis เป็นทั้งแพลงก์ตอนด้วยและแบคทีเรียด้วย งงใช่ไหมครับ ผมก็งง 555 ความรู้สึกผมคิดว่า คำว่าแบคทีเรียมันอาจจะฟังดูให้ความรู้สึกในแง่ลบ ก็เลยใช้คำอื่นก็เป็นได้ครับ
เอาล่ะครับ พล่ามมาซะยาว เรามาเข้าเรื่องรีวิวกันดีกว่า ตามคำเคลมที่ว่า ผิวอ่อนเยาว์ลงร่วม 3 ปี ใน 8 วัน จะเป็นอย่างไร...
เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์
เนื้อจะเป็นน้ำเหลวๆหนืดและขุ่นเล็กน้อย เกลี่ยง่ายมาก ซึ่งเมื่อทาลงไปบนผิว เนื้อEssenceจะไม่ซึมหายไปหมดนะครับ จะเคลือบผิวและหนืดผิวเล็กน้อย ซึ่งทำหน้าที่เป็น Skin Barrier กักเก็บความชุ่มชึ้นเอาไว้ครับ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบ คิดว่าน่าจะใส่มาเพื่อกลบกลิ่น เจ้า Life Planktonโดยส่วนตัวคิดว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปครับ สำหรับการเป็นสกินแคร์ หากเป็นไปได้อยากให้กลิ่นเจือจางกว่านี้ครับหรือไม่ใส่เลยจะดีที่สุด เพื่อตัดปัญหาการระคายเคืองหรือคนที่แพ้น้ำหอม
วิธีการใช้
หลังปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์หรือโลชั่นน้ำแล้ว หรือใครไม่ได้ใช้ ก็ใช้ตัวนี้เป็นตัวแรกได้เลยครับให้เขย่าขวดก่อนใช้นะครับ ก่อนเขย่าให้ลองสังเกตดูครับจะมีตะกอนอยู่ที่ก้นขวดซึ่งน่าจะเป็นเจ้าตัว Life Plankton นี่แหละครับนอนแอ้งแม้งอยู่การใช้ก็เหมือนน้ำตบๆของแบรนด์อื่นครับ ตามที่เอกสารแนะนำ ใช้ประมาณ 6 หยด บวกลบตามสภาพผิวหน้าครับ เผื่อใครหน้าเล็กหน้าใหญ่ หน้ามันหน้าแห้งตบเบาๆให้ทั่วใบหน้า จากนั้นก็เอามือ2ข้างถูกัน วอร์มมือให้อุ่นแล้วประคบให้ทั่วใบหน้าครับจากนั้นก็ใช้เซรั่ม โลชั่น หรือครีมบำรุงตามปกติ ให้เรียงลำดับจาก เหลวสุดไปข้นสุดครับ
ความรู้สึกหลังใช้มา 8 วันช่วง 1-2 วันแรกหลังใช้ รู้สึกผดเม็ดเล็กๆจะขึ้นทั่วใบหน้าครับ ซึ่งจะเกิดขึ้นบ้างเวลาเปลี่ยนผลิตภัณฑ์อะไร แล้วใช้ครั้งแรก แต่สักพักอาการก็จะหายไปจนเข้าวันที่ 4-5 ผิวโดยรวมดูดีขึ้น เปล่งปลั่งขึ้นจริงๆ โดยส่วนตัวสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด เป็นเรื่องของการลดอาการอักเสบของผิวครับ ผิวระคายเคืองเป็นผื่นคันตรงไหนเอาไปทาสักพักอาการดีขึ้นอย่างมากครับใช้เสริมเพื่อรักษาการระคายเคืองจากพวกยารักษาสิว หรือพวกกรดวิตามินเอ BHA AHA ได้ดีทีเดียวเชียวครับ
คะแนนตามประสบการณ์การใช้และความรู้สึกหลังใช้8วัน ตามคำเคลมนะครับ
ความเปล่งปลั่ง 9/10
สีผิวสม่ำเสมอขึ้น 7/10
ริ้วรอยตื้นๆลดเลือน 7/10
ความเรียบเนียน 8/10
ความชุ่มชื้น 10/10
ปลอบประโลม 10/10
ยืดหยุ่นขึ้น 8/10
นุ่มขึ้น 9/10
Ingredients : Aqua, Glycerin, Maris Aqua, Butylene Glycol, Propylene Glycol, PPG-6-Decyltetradeceth-30, Sodium Chloride, Sodium Hyaluronate, Sodium Hydroxide, Vitis Vinefera Extract, Cellulose Acetate Butyrate, p-Asnic Acid, Adenosine, Ammonium Polyacryldimethyltauramide, Disodium EDTA, Caprylyl Glycol, Vitreoscilla Ferment, Xanthan Gum, Polyphosphorylcholine Glycol Acrylate, Polyvinyl Alcohol, Phenoxyethanol, Linalool, Geraniol, Limonene, Citronellol, Butylphenyl Methylpropional, Benzyl Alcohol, Benzyl Benzoate, Parfum
ท้ายสุด รีวิวนี้ถึงจะเป็นของที่ได้รับมาจากการร่วมกิจกรรม แต่ผมได้พยายามรีวิวให้ตรงตามความจริง ตามความรู้สึกมากที่สุดครับ เพื่อเป็นประโยชน์จริงๆกับผู้บริโภคที่กำลังหาข้อมูลก่อนซื้อ หรือหาสกินแคร์ดีๆสักตัว ส่วนเรื่องการแพ้ ไม่แพ้เป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ สำหรับผมแรกๆเหมือนจะมีอาการแพ้ แต่คิดว่าผิวน่าจะกำลังตกใจและปรับสภาพ จึงลองใช้ต่อและก็ได้รับผลรับที่ดี แต่อาจจะไม่เป็นแบบนี้กันทุกคน ท่านอื่นๆสภาพผิวอาจไม่เหมือนผม อยากให้ลองหาตัวทดลองก่อนซื้อจะเป็นการดีที่สุดครับ
จากที่ผมได้ลองใช้ขนาดทดลอง แล้วติดใจไปสอยขนาดจริงที่เคาน์เตอร์มาแล้วครับ ฮ่าๆ 2,300 บาท ได้ลดอีก 10%
ขอบคุณ Cr. PuPe_so_Sweet สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการรีวิว Biotherm ที่ให้ได้ร่วมกิจกรรมดีๆ และคุณผู้อ่านที่อ่านจนมาถึงตรงนี้นะครับ
[SR] รีวิว Biotherm : Life Plankton Essence
ตามข้อมูลที่ได้ทราบมานะครับ เจ้าตัว Life Plankton เนี่ย เป็นแพลงก์ตอนแบคทีเรียแกรมลบชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Vitreoscilla filiformis อาศัยอยู่ทั่วไปในน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแต่ทาง Biotherm ได้นำเจ้าแบคทีเรียตัวนี้มาจากน้ำพุร้อนบนเทือกเขา Pyrenees ในประเทศฝรั่งเศสมาเพาะเลี้ยง ผ่านการหมักชีวภาพ สกัดออกมา จนมาเป็น Life Plankton ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Biotherm แต่เพียงผู้ด้วยซึ่งน้ำพุร้อนก็พอทราบสรรพคุณกันอยู่ แต่แบคทีเรียในน้ำพุร้อนเนี่ยสิ
ฟังดูแล้วก็ฉงนใช่ไหมครับ ว่าอยู่ๆจะเอาแบคทีเรียมาทาหน้าเนี่ยนะ!!! จะไม่เป็นไรเหรอ? สิวจะไม่ขึ้นเหรอ?เพราะเราเคยได้ยินได้ฟังมาตลอดว่าแบคทีเรียมันคือเชื้อโรค เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวแต่เพื่อความยุติธรรม ธรรมชาติได้รังสรรค์ทั้งสิ่งที่ดีกับไม่ดีมาคู่กันครับ แบคทีเรียเองก็เช่นกันซึ่งเจ้าแบคทีเรียตัวนี้เป็นแบคทีเรียที่ดีมีประโยชน์ เหมือนแบคทีเรียในโยเกิร์ตที่เราทานกันนั่นแหละครับ แต่แค่เป็นคนละตัวกัน
โดยปกติแล้วผลิตภัณฑ์ของ Biotherm แทบทุกตัวจะใส่เจ้า Life Plankton มาด้วยในปริมาณที่น้อยมากครับ แต่ Life Plankton Essence ใส่มาถึง 5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดที่ทางแบรนด์เคยใช้มา ซึ่ง 5% จากการศึกษาของ Biotherm พบว่าสามารถบำบัดอาการอักเสบ และผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้
(แต่เดี๋ยวก่อน!!! ทำไมตามแผ่นพับ โฆษณาของ Biotherm ไม่เห็นบอกว่าเป็นแบคทีเรียเลยล่ะ?เขาบอกว่ามันคือ จุลินทรีย์บ้าง แพลงก์ตอนบ้าง)...คำว่า จุลินทรีย์ กินความหมายครอบคลุมกว้าง หมายถึง สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ รา ไวรัส รวมไปถึงแพลงก์ตอนด้วยนั่นเองครับ ส่วนเจ้า Vitreoscilla filiformis เป็นทั้งแพลงก์ตอนด้วยและแบคทีเรียด้วย งงใช่ไหมครับ ผมก็งง 555 ความรู้สึกผมคิดว่า คำว่าแบคทีเรียมันอาจจะฟังดูให้ความรู้สึกในแง่ลบ ก็เลยใช้คำอื่นก็เป็นได้ครับ
เอาล่ะครับ พล่ามมาซะยาว เรามาเข้าเรื่องรีวิวกันดีกว่า ตามคำเคลมที่ว่า ผิวอ่อนเยาว์ลงร่วม 3 ปี ใน 8 วัน จะเป็นอย่างไร...
เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์
เนื้อจะเป็นน้ำเหลวๆหนืดและขุ่นเล็กน้อย เกลี่ยง่ายมาก ซึ่งเมื่อทาลงไปบนผิว เนื้อEssenceจะไม่ซึมหายไปหมดนะครับ จะเคลือบผิวและหนืดผิวเล็กน้อย ซึ่งทำหน้าที่เป็น Skin Barrier กักเก็บความชุ่มชึ้นเอาไว้ครับ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบ คิดว่าน่าจะใส่มาเพื่อกลบกลิ่น เจ้า Life Planktonโดยส่วนตัวคิดว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปครับ สำหรับการเป็นสกินแคร์ หากเป็นไปได้อยากให้กลิ่นเจือจางกว่านี้ครับหรือไม่ใส่เลยจะดีที่สุด เพื่อตัดปัญหาการระคายเคืองหรือคนที่แพ้น้ำหอม
วิธีการใช้
หลังปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์หรือโลชั่นน้ำแล้ว หรือใครไม่ได้ใช้ ก็ใช้ตัวนี้เป็นตัวแรกได้เลยครับให้เขย่าขวดก่อนใช้นะครับ ก่อนเขย่าให้ลองสังเกตดูครับจะมีตะกอนอยู่ที่ก้นขวดซึ่งน่าจะเป็นเจ้าตัว Life Plankton นี่แหละครับนอนแอ้งแม้งอยู่การใช้ก็เหมือนน้ำตบๆของแบรนด์อื่นครับ ตามที่เอกสารแนะนำ ใช้ประมาณ 6 หยด บวกลบตามสภาพผิวหน้าครับ เผื่อใครหน้าเล็กหน้าใหญ่ หน้ามันหน้าแห้งตบเบาๆให้ทั่วใบหน้า จากนั้นก็เอามือ2ข้างถูกัน วอร์มมือให้อุ่นแล้วประคบให้ทั่วใบหน้าครับจากนั้นก็ใช้เซรั่ม โลชั่น หรือครีมบำรุงตามปกติ ให้เรียงลำดับจาก เหลวสุดไปข้นสุดครับ
ความรู้สึกหลังใช้มา 8 วันช่วง 1-2 วันแรกหลังใช้ รู้สึกผดเม็ดเล็กๆจะขึ้นทั่วใบหน้าครับ ซึ่งจะเกิดขึ้นบ้างเวลาเปลี่ยนผลิตภัณฑ์อะไร แล้วใช้ครั้งแรก แต่สักพักอาการก็จะหายไปจนเข้าวันที่ 4-5 ผิวโดยรวมดูดีขึ้น เปล่งปลั่งขึ้นจริงๆ โดยส่วนตัวสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด เป็นเรื่องของการลดอาการอักเสบของผิวครับ ผิวระคายเคืองเป็นผื่นคันตรงไหนเอาไปทาสักพักอาการดีขึ้นอย่างมากครับใช้เสริมเพื่อรักษาการระคายเคืองจากพวกยารักษาสิว หรือพวกกรดวิตามินเอ BHA AHA ได้ดีทีเดียวเชียวครับ
คะแนนตามประสบการณ์การใช้และความรู้สึกหลังใช้8วัน ตามคำเคลมนะครับ
ความเปล่งปลั่ง 9/10
สีผิวสม่ำเสมอขึ้น 7/10
ริ้วรอยตื้นๆลดเลือน 7/10
ความเรียบเนียน 8/10
ความชุ่มชื้น 10/10
ปลอบประโลม 10/10
ยืดหยุ่นขึ้น 8/10
นุ่มขึ้น 9/10
Ingredients : Aqua, Glycerin, Maris Aqua, Butylene Glycol, Propylene Glycol, PPG-6-Decyltetradeceth-30, Sodium Chloride, Sodium Hyaluronate, Sodium Hydroxide, Vitis Vinefera Extract, Cellulose Acetate Butyrate, p-Asnic Acid, Adenosine, Ammonium Polyacryldimethyltauramide, Disodium EDTA, Caprylyl Glycol, Vitreoscilla Ferment, Xanthan Gum, Polyphosphorylcholine Glycol Acrylate, Polyvinyl Alcohol, Phenoxyethanol, Linalool, Geraniol, Limonene, Citronellol, Butylphenyl Methylpropional, Benzyl Alcohol, Benzyl Benzoate, Parfum
ท้ายสุด รีวิวนี้ถึงจะเป็นของที่ได้รับมาจากการร่วมกิจกรรม แต่ผมได้พยายามรีวิวให้ตรงตามความจริง ตามความรู้สึกมากที่สุดครับ เพื่อเป็นประโยชน์จริงๆกับผู้บริโภคที่กำลังหาข้อมูลก่อนซื้อ หรือหาสกินแคร์ดีๆสักตัว ส่วนเรื่องการแพ้ ไม่แพ้เป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ สำหรับผมแรกๆเหมือนจะมีอาการแพ้ แต่คิดว่าผิวน่าจะกำลังตกใจและปรับสภาพ จึงลองใช้ต่อและก็ได้รับผลรับที่ดี แต่อาจจะไม่เป็นแบบนี้กันทุกคน ท่านอื่นๆสภาพผิวอาจไม่เหมือนผม อยากให้ลองหาตัวทดลองก่อนซื้อจะเป็นการดีที่สุดครับ
จากที่ผมได้ลองใช้ขนาดทดลอง แล้วติดใจไปสอยขนาดจริงที่เคาน์เตอร์มาแล้วครับ ฮ่าๆ 2,300 บาท ได้ลดอีก 10%
ขอบคุณ Cr. PuPe_so_Sweet สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการรีวิว Biotherm ที่ให้ได้ร่วมกิจกรรมดีๆ และคุณผู้อ่านที่อ่านจนมาถึงตรงนี้นะครับ