ขอคำปรึกษา เรื่อง ครอบครัวค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นเรื่องยาวนิดนึงนะคะ หวังว่าคงไม่ว่ากันค่ะ

เริ่มจาก พื้นฐานครอบครัวถูกปลูกฝังมาว่า ผู้ใหญ่มีสิทธิเด็ดขาดในการตัดสินใจ ผู้ใหญ่ถูกเสมอ แม้ว่าจะผิดก็ตาม ส่วนเด็กก็อยู่ส่วนเด็กไปห้ามยุ่ง เด็กในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เด็กน้อยนะคะแต่ หมายรวมถึงบุคคลในบ้านที่อายุน้อยกว่าผู้ใหญ่ทั้งหลายแหล่ค่ะ

ที่บ้าน ตอนนี้พ่ออายุ 78 ปี ส่วนแม่ อายุ 68 ปีค่ะ สุขภาพแข็งแรง เน้นว่าทางด้านร่างกายนะคะ ส่วนตัวเราแต่งงานออกมาอยู่บ้านแฟนได้ 7 ปีแล้วค่ะ ขณะนี้อายุ 28 ปีค่ะ มีลูก 2 คน คนโต 7 ขวบ คนเล็ก 1 ขวบ 3 เดือนค่ะ

เข้าเรื่องเลยค่ะ เมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน พ่อเคยไปหาหมอที่ศิริราช ด้วยการตรวจสุขภาพทั่วไป และบังเอิญพ่อเป็นคนชอบพูดจา กวน กวนอยู่แล้ว  ไม่ทราบว่าหมอเห็นอะไรในตัวของพ่อ เลยขอ ให้ไปทำ MRI ราคาประมาณ 20,000 กว่าบาท ที่บ้านเลยไปดูที่ 30 บาทว่า สามารถทำได้ไหม หรือขอส่งตัวได้รึเปล่า แต่ทาง 30 บาท ปฏิเสธมา เลยยกเลิกไป ทีนี้ทำไมหมอถึงอยากให้ตรวจ เพราะ หมอถามพ่อเรื่องนึง แต่พ่อตอบอีกเรื่องนึง ซึ่งทางหมอที่ศิริราชก็สงสัยกันว่า จะเป็นระยะแรกเริ่มของ โรคอัลไซเมอร์รึเปล่า พ่อกับแม่ เค้าบอกว่า ไม่เป็นหรอกจะเป็นได้ยังไง ไม่มีทางเป็นไปได้ และตั้งแต่วันนั้นมาพ่อก็ไม่ไปหาหมอที่ศิริราชอีกเลยตราบจนวันนี้

เรื่องมันไม่จบแค่นั้นค่ะ ในปีค่อ ๆ มา อาการมันเริ่มออกชัดขึ้น จากเดิมเป็นคน กวน กวน อยู่แล้ว เลยดูไม่ค่อยออกเรื่องอาการ ต่อมาเริ่มมี ว่า ทุกครั้งที่เรากลับบ้านซึ่งช่วงนั้นกลับบ่อย เดือนนึงกลับบ้าน 3-4 ครั้งได้ ครั้งละหลาย ๆ วัน เพราะเลี้ยงลูกอย่างเดียวแฟนทำงานคนเดียว เลยมีเวลา ทุกครั้งที่กลับ จะมีคำถามว่า เราอายุเท่าไหร่ ซึ่ง 5 นาที ถามที แบบว่าเบื่อตอบเลยอ่ะ บอกว่าลูกของเราคือหลานเรา ถามแม่ว่าเราคือใคร ถามเราว่าแฟนเราคือใคร ถามแม่ว่าลูกของเราน่ะเด็กที่ไหน เวลาลูกเราไปกดออดหน้าบ้านเค้าลงมาดู แล้วขึ้นไปบอกแม่ว่าเด็กที่ไหนไม่รู้มากดออดเล่นหน้าบ้าน นั่งอยู่ในบ้านโบกมือให้คนนู้นคนนี้ ที่เดินผ่านหน้าบ้าน พอเค้าเดินมาคุย ก็บอกเค้าว่าข้างบ้านเราเนี่ยขายยาบ้า เวลาออกไปข้างนอกบ้าน ก็ยกมือไหว้ใครก็ไม่รู้ โบกมือให้ใครก็ไม่รู้ แล้วพอเราถามว่าทำไปทำไม เค้าบอกว่ารู้จักกัน ซึ่งความจริงคือไม่รู้จัก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้จิ๊บ ๆ

เพราะช่วงหลังไม่เกิน 2-3 ปี จนถึงช่วงปัจจุบันนี้ เวลาเรากลับบ้านหรือเวลาเราโทรศัพท์ คุยกับแม่ จะเป็นแบบว่า พ่อเดินมาบอกแม่ว่า พ่อปวดอึ พ่อปวดฉี่ ไปอึก่อนนะ ไปฉี่ก่อนนะ  แล้วแม่จะบอกว่า ขึ้นไปข้างบน เดินขึ้นบันไดไปเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปสุดทางห้องน้ำอยู่ซ้ายมือ เห้ย ! พอเราได้ยิน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะ ยิ่งไปกว่านั้น แม่วาง ขวดซันไลท์ไว้ตรงโต๊ะกินข้าวเพราะจะเอาขึ้นมาชั้นบนไว้ล้างแก้วในห้องน้ำข้างบน พ่อเอาไปจิบกิน ดีที่จิบ ไม่ซัดไปทั้งขวด มันยังไม่พอแค่นั้น พ่อเปิดตู้เย็น ไม่เจอขวดแชมพูสมุนไพรที่แม่แช่เย็นไว้ ( จะแช่ไว้ทำไมก็ไม่รู้ ) พ่อเอามาจิบอีกแล้ว เวลาอาบน้ำเสร็จ แม่ต้องบอกพ่อว่า (พ่อชอบใส่กางเกงเลนะคะ ) กาง กางเกงออก เอาฝั่งเชือกที่ผูกไว้ด้านหลัง แล้วเอาขาสอดเข้าไปตรงช่องเหลี่ยม ๆ กลม ๆ นั่น สองข้าง แล้วเอาเชือกมาผูกข้างหน้า !!!!!!!!!!!!

ทุกครั้งที่กลับบ้านหรือโทรคุยกัน แม่จะอารมณ์เสียทุกครั้งเวลาพ่อเป็นแบบนี้ แล้วพ่อเป็นแบบนี้ทั้งวัน เคยคุยกับแม่แล้วหลายครั้งแต่ไม่ได้คุยติด ๆ กันนะคะ คือเว้นระยะไว้ สักประมาณนึงค่อยหยิบเรื่องนี้มาพูดว่า แม่พาพ่อไปหาหมอเถอะ เผื่อว่าหมอเค้าจะมียามีอะไรรักษาไม่อย่างงั้นก็หลง ๆ ลืม ๆ แบบนี้ตลอด แล้วเราจะทำอะไรไม่ได้ไปไหนไม่ได้ เพราะแม่อยู่บ้านกับพ่อ 2 คน แล้วเวลาแม่หงุดหงิดพ่อเดี๋ยวความดันขึ้นอีก อันตราย

คำตอบที่ได้กลับมาทุกครั้ง มันทำให้เราหยุดถาม คือจบ ไม่ต้องเซ้าซี้ถามอีกเพราะอาจจะทะเลาะกันได้ คือ แม่เค้าตอบว่า ไปหาทำไมหมอ เดี๋ยวก็ให้ยามากิน กินยาหมอมาก ๆ ก็ลงไต เดี๋ยวเป็นโรคไตอีก กินน้ำมันรำข้าว ดีเจโจ้นี่แหละดีแล้ว บำรุงสมอง บำรุงทุกอย่าง เรื่องความดันมันก็ไม่ค่อยขึ้นแล้วกินยาคุมไว้อยู่ พ่อก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขี้ลืม พูดจากวน ๆ เป็นมาแต่สมัยหนุ่ม ๆ แล้ว แต่ช่วงนี้เป็นมากขึ้นเท่านั้นเอง

โอเค เข้าทางแม่ไม่ได้ เลยเข้าทางญาติ ๆ แทน เนื่องจากญาติทางฝั่งพ่อเค้ามีปัญหากันมา เลยไม่ค่อยได้ติดต่อนอกจากมีข่าวสำคัญคือมีการตายเกิดขึ้นถึงจะคุยกัน เลยคุยกับญาติทางฝั่งแม่ เพราะสนิทกันมากกว่า ผู้ที่แม่พอจะฟัง ก็ต้องเป็นคนที่อายุมากกว่าเค้า ก็คือพี่สาวฝาแฝดของเค้านั่นเอง เลยไปหาอี๊คุยปัญหาให้ฟัง ซึ่งอี๊เค้าก็ เอาไปลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามดู ว่าพ่อเป็นไงบ้างสบายดีไหม แม่ตอบกลับมาว่า หนุ่ม ๆ น่ะดี อี๊ถามว่า ไม่เอาหนุ่ม ๆ สิ เอาเดี๋ยวนี้ แม่ก็ตอบว่าก็มีหลง ๆ ลืม ๆ ตามประสาคนแก่

เราจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเลยก็ไม่ได้ เพราะต้องขายของ ดูแลลูก เลยอาศัยว่าว่าง เมื่อไหร่ก็ต้องไป หรือโทรคุยกันบ่อย ๆ อีกอย่างแม่แฟนเค้าเป็นเบาหวาน  ตัดนิ้วเท้าไปเดินไม่ค่อยสะดวกเราก็ต้องดูแล เรารู้สึกว่า เราทำตัวไม่ถูก ถ้าแยกร่างได้เราอยากแยกร่างเลย อยากกลับไปดูพ่อกับแม่ แต่ภาระเราก็มี จะทิ้งแฟนให้ขายของคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะเราถือว่าอยู่ด้วยกันแล้วช่วงนี้ขายของแย่ตอนลำบากจะทิ้งเค้าไว้ให้เค้าหาเงิน แล้วเรารอใช้เงิน เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ ไหนจะลูกอีก คนเล็กไม่เท่าไหร่เพราะยังไม่เข้า โรงเรียน แต่คนโตเข้าโรงเรียนแล้วถึงจะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่เราก็ยังต้องคอยดูแล ไหนจะแม่แฟนอีก ถ้าเราไม่ดูคนนึงก็ไม่มีใครดู แฟนเป็นผู้ชายจะเช็ดจะอะไรก็ไม่ค่อยสะดวก โอ๊ย !!! หัวจะระเบิด ไม่รู้จะเลือกยังไง เรารู้ว่าทางแม่เราเค้ายังดูแลกันได้ เลยปล่อยไว้ แต่เคยพูดแล้ว กับแฟนว่า ถ้าบ้านเราเกิดการเปลี่ยนแปลง ขึ้นมา เรากลับบ้านนะ ซึ่งเค้าก็โอเค

ทีนี้ ที่เราอยากปรึกษาคือ ช่วงนี้แม่เราติดน้ำมันรำข้าว ดีเจโจ้มาก อะไร ๆ ก็น้ำมันรำข้าวดีอย่างนู้นดีอย่างนี้ ซื้อมาจะท่วมบ้านแล้วหมดไปหลักหมื่นหลักแสนแล้วกับไอ้น้ำมันรำข้าวเนี่ย ในความรู้สึกเรามันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยสักอย่าง แต่สำหรับแม่เค้าว่าดี เราเลยไม่อยากพูดอะไร

อีกเรื่องจะทำยังไงกับพ่อดี อาการเค้าเป็นมากขึ้นทุกวัน ๆ อยากพาเค้าไปรักษาแต่แม่ไม่ยอม หมดปัญญาจริง ๆ บางทีคิดยอมรับเลยว่าบาปมากที่คิดแบบนี้ คือต้องรอให้แม่ตายก่อนใช่ไหม พ่อถึงได้ไปหาหมอ

ลองคุยกับญาติ ๆ ปรึกษาเรื่องนี้แล้ว คำตอบที่ได้กลับมาคือ ทำใจ ต้องดูเค้าไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนกว่าแม่เค้าจะยอมรับความจริงได้เอง และเป็นคนยอมพาพ่อไปเอง

ที่แม่เป็นแบบนี้เพราะเค้ารับไม่ได้รึเปล่าว่าพ่อเป็น อัลไซเมอร์ หรือยังไง ทำไมเค้าไม่ยอมรับความจริง แฟนจะเข้าไปคุยตรง ๆ แต่เราห้ามไว้เพราะกลัวทะเลาะกัน แม่เป็นคนที่ถ้าตัวเองเชื่ออะไรแล้วจะหัวปักหัวปำเชื่อ ถ้าใครไปพูดจะไม่ชอบเลย ถือตัว ไม่ฟังความเห็นของคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อายุน้อยกว่า และไม่มีอิทธิพลกับตัวเค้ามากพอ ส่วนแฟนเป็นคนตรง พูดจาตรง ไม่อ้อม รักษาน้ำใจคนไม่เป็น ง่าย ๆ เลยพูดไม่เป็น เจอยังไงพูดอย่างงั้น คิดยังไงพูดอย่างงั้น ไม่แอ๊บ ไม่สตรอ

ยาวไปมาก แต่รบกวนขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ หมดปัญญาจริง ๆ อยากขอฟังความเห็นของหลาย ๆ คน นอกครอบครัวว่า ถ้าคุณประสบปัญหาเดียวกับเรา คุณ จะทำแบบไหน ถ้าไม่เคลียร์ตรงไหนถามได้เลยค่ะ จะบอกหมดเปลือกไม่กั๊กเลย อยากฟังจากหลาย ๆ คนจริง ๆ ถ้าบางความเห็น โอเค จะลองเอาไปใช้ดู แต่ถ้ามันไม่โอขอเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำคงไม่ว่ากันนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่