เราตั้งกระทู้ไม่ใช่ว่าอยากประจาน แต่แค่อยากระบายความรู้สึกเฉยๆ
เราเคยไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ จองโรงแรม4ดาวโรงแรมนึงผ่านทางเว็บอโกดา ซึ่งรีวิวโรงแรมก็ 8.2
ตอนนั้นจองห้องธรรมดา จำไม่ได้ว่าแบบไหน ในราคาประมาณ400กว่าหยวนต่อคืน ซึ่งจ่ายล่วงหน้าในเว็บเรียบร้อยแล้ว
เราเดินทางไปถึงโรงแรมประมาณห้าทุ่มครึ่ง ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง
พอไปถึงก็ยื่นพาสปอร์ตของแฟนเรา ซึ่งเป็นคนจองให้พนักงานโรงแรมดู แล้วเค้าก็ถามขอพาสปอร์ตของเรา เราก็ยื่นให้ปกติ
แต่ทีนี้เกิดปัญหาคือ พาสปอร์ตที่เราพกมาด้วยนั้นเป็นเล่มที่เราทำขึ้นใหม่และมีวีซ่าจีนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้เล่มใหม่ตอนเดินทางเข้าประเทศจีน เราใช้พาสปอร์ตเล่มเก่าในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตราประทับเวลาที่เราเดินทางเข้าประเทศจึงอยู่ในพาสปอร์ตเล่มเก่า ซึ่งเราเก็บไว้ที่หอพัก
พนักงานบอกเราว่า พาสปอร์ตมีปัญหาอย่างที่ว่ามา เราจึงถามกลับไปดีๆ ว่างั้นจะต้องทำยังไงดี
พนักงานตอบว่า เราไม่สามารถพักที่นี่ได้ ต้องไปหาที่อื่นพัก
คือ เราก็อึ้ง และก็ทำอะไรไม่ถูก ...พนักงานไม่ได้สนใจเลยว่าเราจะแก้ปัญหายังไง แค่ไล่ไปให้พ้นๆ คำพูด น้ำเสียง และท่าทีที่ปฏิบัติกับเราก็ดูไม่ให้เกียรติ (คนเซี่ยงไฮ้ขึ้นชื่อว่าชอบดูถูกคนต่างถิ่น แล้วโรงแรมนั้นคนที่มาพักส่วนใหญ่ก็เป็นนักธุรกิจ ฝรั่ง แล้วก็อาเสี่ยรวยๆ ที่มาเที่ยวผับหรูที่อยู่ข้างโรงแรม ตัวเราก็เอเชียหัวดำ ใส่ยีนกะโปโล ไม่ได้สะพายกระเป๋าแบรนเนมเดินเข้าไป พูดจีนสื่อสาร พนักงานต้อนรับที่ประตูยังไม่ช่วยขนกระเป๋าเลย)
ตอนนั้นก็เที่ยงคืนแล้ว แถมเงินก็จ่ายไปแล้ว และดูท่าว่าทางโรงแรมจะไม่คืนเงินให้ อีกอย่างถ้าไล่เราไปโรงแรมอื่น เราก็คิดว่าพาสปอร์ตของเราก็จะต้องเจอปัญหาแบบเดียวกัน
เราจึงบอกเค้าไปว่าเวลานี้จะไล่เราไปหาที่อื่นเนี่ยนะ ช่วยสอบถามให้เราหน่อยว่าจะแก้ปัญหายังไงดี เราพูดด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนสุดฤทธิ์
แล้วพนักงานก็บอกให้เราไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวคุยกับผู้จัดการให้
เรานั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ผู้จัดการก็เดินออกมาหน้าเคาน์เตอร์ แล้วส่งสายตามาที่เรา พอเรามองไปสบตาเค้า เค้าก็พยักหน้า ส่งสายตาประมาณว่า "มานี่ซิ เธอ" คือ เค้าไม่ได้ใช้คำพูดเชิญ หรือไม่ได้เดินมาหาเรา จะเปรียบเทียบยังไงดี แบบว่า เหมือนอาจารย์หรือหัวหน้าที่นั่งอยู่โต๊ะทำงาน แล้วส่งสายตาเรียกเราเข้าไปพบเพื่อที่จะด่า อารมณ์ว่าเราเป็นผู้น้อย อยู่ในสถานะที่ต่ำกว่า อะไรประมาณนั้น
พอเราเดินเข้าไปหา เค้าก็แค่บอกด้วยสีหน้าเฉยเมยว่านี่เป็นกฎหมาย ทางโรงแรมช่วยอะไรไม่ได้ จบ
เรายืนคุยกับเค้า เพื่อหาทางออกซักพัก... สุดท้ายเราก็คิดวิธีแก้ปัญหาขึ้นมาได้เอง โดยถามว่าถ้าให้เพื่อนถ่ายรูปหน้าที่มีตราประทับวันที่เดินทางเข้าประเทศส่งมาให้ทางอีเมลล์จะได้มั้ย ในที่สุดเค้าก็โอเค แล้วผู้จัดการก็ไล่ให้เราไปคุยต่อกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เอง
เราก็ต้องไปยืนอธิบายทุกอย่างอีกครั้ง และต้องโทรไปขอรูมเมทให้ตื่นมาถ่ายรูปพาสปอร์ตส่งมายังอีเมลล์ของโรงแรมตอนเที่ยงคืนครึ่ง
ช่วงที่เรานั่งรอเพื่อนถ่ายรูป ส่งอีเมลล์ ประมาณ 10 นาทีนั้น เรานั่งน้ำตาคลออยู่หน้าล็อบบี้ เพราะตั้งแต่เกิดมา เราไม่เคยถูกใครดูถูกและถูกเมินขนาดนี้ เราคิดว่าเราก็เป็นแขกคนนึงของโรงแรม เสียเงินค่าห้องแล้ว ไม่ได้มาขอพักฟรีๆ ทำไมถึงไม่ใส่ใจ ไม่บริการเราด้วยมารยาทดีๆ เหมือนคนอื่นๆ
แฟนเราก็โกรธมากเหมือนกัน บอกว่าเราเดินออกไปเลยเถอะ ไม่พักแล้วโรงแรมบ้าอะไรนี่ แต่เราเสียดายเงินที่จ่ายไป ก็เลยจะทนอยู่ไป
พอดีมีพนักงานหน้าลิฟต์คนนึง ซึ่งดูตำแหน่งต่ำกว่าคนหน้าเคาน์เตอร์ คงแอบเห็นเราน้ำตาคลอ จึงเดินเข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรมั้ย จะให้ช่วยขนกระเป๋ารึป่าว เราก็บอกไม่เป็นไร ตอนนี้กำลังรอจัดการเรื่องอยู่ พอเค้าเดินออกไป เราน้ำตาไหลเป็นทางเลยทีนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ ทั้งเจ็บใจ น้อยใจ แล้วก็ดีใจที่อย่างน้อยก็มีคนเห็นหัวเรา
พอพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ได้รับอีเมลล์ เค้าก็ส่งกุญแจห้องให้ พนักงานที่เข้ามาถามเราว่าเป็นไรมั้ย ก็มาช่วยเราขนกระเป๋าไปที่ห้อง แฟนเราให้ทิปเค้าไปร้อยหยวน เพราะดูเหมือนว่าเค้าเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเราเสมือนว่าเราเป็นลูกค้า
นั่งน้ำตาซึมในที่สาธารณะเพราะพนักงานโรงแรม
เราเคยไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ จองโรงแรม4ดาวโรงแรมนึงผ่านทางเว็บอโกดา ซึ่งรีวิวโรงแรมก็ 8.2
ตอนนั้นจองห้องธรรมดา จำไม่ได้ว่าแบบไหน ในราคาประมาณ400กว่าหยวนต่อคืน ซึ่งจ่ายล่วงหน้าในเว็บเรียบร้อยแล้ว
เราเดินทางไปถึงโรงแรมประมาณห้าทุ่มครึ่ง ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง
พอไปถึงก็ยื่นพาสปอร์ตของแฟนเรา ซึ่งเป็นคนจองให้พนักงานโรงแรมดู แล้วเค้าก็ถามขอพาสปอร์ตของเรา เราก็ยื่นให้ปกติ
แต่ทีนี้เกิดปัญหาคือ พาสปอร์ตที่เราพกมาด้วยนั้นเป็นเล่มที่เราทำขึ้นใหม่และมีวีซ่าจีนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้เล่มใหม่ตอนเดินทางเข้าประเทศจีน เราใช้พาสปอร์ตเล่มเก่าในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตราประทับเวลาที่เราเดินทางเข้าประเทศจึงอยู่ในพาสปอร์ตเล่มเก่า ซึ่งเราเก็บไว้ที่หอพัก
พนักงานบอกเราว่า พาสปอร์ตมีปัญหาอย่างที่ว่ามา เราจึงถามกลับไปดีๆ ว่างั้นจะต้องทำยังไงดี
พนักงานตอบว่า เราไม่สามารถพักที่นี่ได้ ต้องไปหาที่อื่นพัก
คือ เราก็อึ้ง และก็ทำอะไรไม่ถูก ...พนักงานไม่ได้สนใจเลยว่าเราจะแก้ปัญหายังไง แค่ไล่ไปให้พ้นๆ คำพูด น้ำเสียง และท่าทีที่ปฏิบัติกับเราก็ดูไม่ให้เกียรติ (คนเซี่ยงไฮ้ขึ้นชื่อว่าชอบดูถูกคนต่างถิ่น แล้วโรงแรมนั้นคนที่มาพักส่วนใหญ่ก็เป็นนักธุรกิจ ฝรั่ง แล้วก็อาเสี่ยรวยๆ ที่มาเที่ยวผับหรูที่อยู่ข้างโรงแรม ตัวเราก็เอเชียหัวดำ ใส่ยีนกะโปโล ไม่ได้สะพายกระเป๋าแบรนเนมเดินเข้าไป พูดจีนสื่อสาร พนักงานต้อนรับที่ประตูยังไม่ช่วยขนกระเป๋าเลย)
ตอนนั้นก็เที่ยงคืนแล้ว แถมเงินก็จ่ายไปแล้ว และดูท่าว่าทางโรงแรมจะไม่คืนเงินให้ อีกอย่างถ้าไล่เราไปโรงแรมอื่น เราก็คิดว่าพาสปอร์ตของเราก็จะต้องเจอปัญหาแบบเดียวกัน
เราจึงบอกเค้าไปว่าเวลานี้จะไล่เราไปหาที่อื่นเนี่ยนะ ช่วยสอบถามให้เราหน่อยว่าจะแก้ปัญหายังไงดี เราพูดด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนสุดฤทธิ์
แล้วพนักงานก็บอกให้เราไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวคุยกับผู้จัดการให้
เรานั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ผู้จัดการก็เดินออกมาหน้าเคาน์เตอร์ แล้วส่งสายตามาที่เรา พอเรามองไปสบตาเค้า เค้าก็พยักหน้า ส่งสายตาประมาณว่า "มานี่ซิ เธอ" คือ เค้าไม่ได้ใช้คำพูดเชิญ หรือไม่ได้เดินมาหาเรา จะเปรียบเทียบยังไงดี แบบว่า เหมือนอาจารย์หรือหัวหน้าที่นั่งอยู่โต๊ะทำงาน แล้วส่งสายตาเรียกเราเข้าไปพบเพื่อที่จะด่า อารมณ์ว่าเราเป็นผู้น้อย อยู่ในสถานะที่ต่ำกว่า อะไรประมาณนั้น
พอเราเดินเข้าไปหา เค้าก็แค่บอกด้วยสีหน้าเฉยเมยว่านี่เป็นกฎหมาย ทางโรงแรมช่วยอะไรไม่ได้ จบ
เรายืนคุยกับเค้า เพื่อหาทางออกซักพัก... สุดท้ายเราก็คิดวิธีแก้ปัญหาขึ้นมาได้เอง โดยถามว่าถ้าให้เพื่อนถ่ายรูปหน้าที่มีตราประทับวันที่เดินทางเข้าประเทศส่งมาให้ทางอีเมลล์จะได้มั้ย ในที่สุดเค้าก็โอเค แล้วผู้จัดการก็ไล่ให้เราไปคุยต่อกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เอง
เราก็ต้องไปยืนอธิบายทุกอย่างอีกครั้ง และต้องโทรไปขอรูมเมทให้ตื่นมาถ่ายรูปพาสปอร์ตส่งมายังอีเมลล์ของโรงแรมตอนเที่ยงคืนครึ่ง
ช่วงที่เรานั่งรอเพื่อนถ่ายรูป ส่งอีเมลล์ ประมาณ 10 นาทีนั้น เรานั่งน้ำตาคลออยู่หน้าล็อบบี้ เพราะตั้งแต่เกิดมา เราไม่เคยถูกใครดูถูกและถูกเมินขนาดนี้ เราคิดว่าเราก็เป็นแขกคนนึงของโรงแรม เสียเงินค่าห้องแล้ว ไม่ได้มาขอพักฟรีๆ ทำไมถึงไม่ใส่ใจ ไม่บริการเราด้วยมารยาทดีๆ เหมือนคนอื่นๆ
แฟนเราก็โกรธมากเหมือนกัน บอกว่าเราเดินออกไปเลยเถอะ ไม่พักแล้วโรงแรมบ้าอะไรนี่ แต่เราเสียดายเงินที่จ่ายไป ก็เลยจะทนอยู่ไป
พอดีมีพนักงานหน้าลิฟต์คนนึง ซึ่งดูตำแหน่งต่ำกว่าคนหน้าเคาน์เตอร์ คงแอบเห็นเราน้ำตาคลอ จึงเดินเข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรมั้ย จะให้ช่วยขนกระเป๋ารึป่าว เราก็บอกไม่เป็นไร ตอนนี้กำลังรอจัดการเรื่องอยู่ พอเค้าเดินออกไป เราน้ำตาไหลเป็นทางเลยทีนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ ทั้งเจ็บใจ น้อยใจ แล้วก็ดีใจที่อย่างน้อยก็มีคนเห็นหัวเรา
พอพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ได้รับอีเมลล์ เค้าก็ส่งกุญแจห้องให้ พนักงานที่เข้ามาถามเราว่าเป็นไรมั้ย ก็มาช่วยเราขนกระเป๋าไปที่ห้อง แฟนเราให้ทิปเค้าไปร้อยหยวน เพราะดูเหมือนว่าเค้าเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเราเสมือนว่าเราเป็นลูกค้า